Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
22 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
โรงหนังสมัยนี้

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมได้ไปดูหนังตามงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 2006 ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ทั้งแบบดูฟรี และเสียเงิน ก็เลยรู้สึกตกใจกับโรงหนังที่ตอนนี้ราคาปรกติของโรงภาพยนตร์ที่นั่น ก็เพิ่มขึ้นไปอีกเป็น 140 บาท...เล่นเอาเกรงๆ ว่าต่อไปราคาบัตรชมภาพยนตร์จะขยับตัวขึ้นอีกรอบนึงเหมือนกัน
หากลองเปิดหนังสือพิมพ์ดูโฆษณาภาพยนตร์จะพบว่าหนังที่เข้าแต่ละสัปดาห์นั้นมีเยอะเหลือเกิน แต่เอาเข้าจริง มีหนังไม่กี่เรื่องที่เปิดทุกรอบ โดยเฉพาะที่ผู้จัดจำหน่ายกะเกณฑ์ไว้แล้วจะทำเงิน นอกนั้นถูกฉายจำกัดโรงในกรุงเทพฯ บางเรื่องนั้นถึงขั้นเป็นโฆษณาที่นำมาประชาสัมพันธ์วีซีดี - หนังแผ่น เสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ขึ้นโฆษณาคล้ายกับหนังที่ฉายตามโรงภาพยนตร์ว่า "ฉายแล้วทุกโรงวันนี้" ต้นปีนี้ค่อนข้างเห็นได้ชัดว่า หนังเริ่มถูกจำกัดโรงมากขึ้น แม้จะมีโรงหนังมัลติเพล็กซ์ที่มีโรงหนังต่อที่นับสิบโรง

อาจจะด้วยแผนวิเคราะห์การตลาดที่รัดกุมของผู้จัดจำหน่าย หรือการวิเคราะห์ของเจ้าของโรงภาพยนตร์ก็ตามแต่ ผลที่ได้คือ หนังชีวิต, หนังรัก-โรแมนติค, หนังเอเชีย ซึ่งหากไม่ดัง หรือฟอร์มใหญ่จริงๆ เป็นได้ฉายไม่กี่โรง เจอโรคเลื่อน เลื่อนแล้วเลื่อนอีก เพราะหาแผนการตลาดให้ทำเงินไม่ได้ หาเหตุผลที่จะฉายหนังเหล่านี้ไม่เจอ

ล่าสุดกับการประกาศผลรางวัลออสการ์ หนังที่เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ 5 เรื่อง ซึ่งปรกติคงได้เตรียมดูในช่วงประกาศผล แต่กลายเป็นว่าปีนี้ มีหนังเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ได้ฉายแบบปรกติคือ Munich ขณะที่หนังที่สร้างความฮือฮาอย่าง Brokeback Mountain ก็ยังได้ฉายไม่กี่โรง, Crash ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปีล่าสุดได้กลับมาฉายอีกครั้งไม่ถึง 10 โรง(จากเดิมที่ฉายแบบจำกัดโรงเช่นกัน), Capote ฉายเพียงโรงเดียว และ Good Night and Good Luck นั้นจนบัดนี้ยังหาโรงฉายไม่ได้เลย

อาจเพราะนี่เป็นปีที่หนังนอกกระแส หรือหนังทุนต่ำ เข้าชิงเยอะเป็นประวัติการณ์ อาจจะด้วยแผนการตลาดที่ว่า แต่มันก็ทำให้ผมอดนึกถึงสมัยก่อนไม่ได้

ย้อนไปเกิน 10 ปี สมัยอยู่ต่างจังหวัด ผมยังมีโอกาสได้ชม Forrest Gump, Pulp Fiction และ Four Wedding and a Funeral ซึ่งได้เข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี 1994 ในโรงภาพยนตร์

แน่ล่ะ ว่ารางวัลนี้คงไม่ได้ถึงขนาดเป็นมาตรฐานที่จะบอกถึงคุณค่าทางศิลปะในระดับสูงสุด แต่อย่างน้อยมันก็เป็นหมุดที่ปักให้เราพอมองหาหนังที่มีคุณภาพได้ในระดับหนึ่ง

แต่ทุกวันนี้ กลับแทบไม่มีโรงหนังฉายหนังที่ว่านี้

หรือคนดูหนังน้อยลง ?
อยากดูหนังเพื่อความบันเทิงมากขึ้น เพราะชีวิตมันเครียดพอแล้ว ?
หนังเริ่มถูกมองเป็นความบันเทิงที่ฟุ่มเฟือยตามราคาบัตรที่แสนแพงชนิดไม่กล้าแตะ ?
รอซื้อ วีซีดี - ดีวีดี คุ้มค่ากว่า ?
ก็แล้วแต่จะพินิจพิเคราะห์

แต่หากเป็นอย่างนี้ต่อไป เราคงได้ดูหนังดีๆ น้อยลง เสน่ห์ของการดูหนังก็คงจะลดน้อยถอยลงตามไปด้วย...เศรษฐกิจหรือความเป็นอยู่จะดีได้อย่างไร ถ้าคนมีความบันเทิง ยังหาทางเลือกให้บันเทิงไม่ได้จริงๆ



Create Date : 22 เมษายน 2549
Last Update : 22 เมษายน 2549 13:36:06 น. 5 comments
Counter : 618 Pageviews.

 
ร้อยสี่สิบเลยเหรอคะ...

อย่างนี้ก็ต้องคิดก่อนเข้าไปดูเหมือนกันนะเนี่ย

แต่ถ้าเค้าขึ้นมากเข้ามากเข้า
คนดูก็จะน้อยลงๆอ่ะดิ่เนี่ย


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:20:41:07 น.  

 
ราคาตั๋วแพงขึ้นตามราคาน้ำมันเลยครับ ทุกวันนี้ผมยอมเดินทางหน่อยไปเจาะจงดูที่เครือ Apex หนังได้ใจกว่าหลายๆ เครือ และราคาถูกกว่าเสมอ


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:21:28:01 น.  

 
ทนายหนุ่มแจ้งจับรปภ.ตาถั่ว

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 มี.ค. พ.ต.ท.ทรงยศ แปลกทองดี สารวัตรเวรสภ.ต.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ รับแจ้งจากนายพีรพันธ์ เกียรติกมลวงค์ อายุ 29 ปี อาชีพทนายความ ขอให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รปภ.มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ข้อหาดูหมิ่นทำให้เสียศักดิ์ศรีกลางที่สาธารณชน

โดยนายพีรพันธ์กล่าวว่า เมื่อเช้าวันเดียวกันขณะเข้าห้องน้ำของอาจารย์ผู้ชายในมหาวิทยาลัยดังกล่าว ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในห้องน้ำหลายคน จากนั้นมีเสียงจากวิทยุมือถือดังว่าผู้ต้องสงสัยอยู่ตรงนี้ เมื่อตนออกมาจากห้องน้ำ พบชายแต่งกายคล้ายทหารเข้ามาล็อกแขน บอกว่าตามหาตัวมาหลายสัปดาห์แล้ว ชอบทำให้สถาบันเกิดความเสื่อมเสียและฉุดลากตนออกมาที่ระเบียงหน้าตึกโดยมีกลุ่มรปภ. และอาจารย์อีกหลายคนยืนอยู่ กล่าวหาว่าค้ายาและทำอนาจาร ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี

พ.ต.ท.ทรงยศกล่าวว่า สำหรับคดีดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทในที่สาธารณะครั้งนี้เป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้ โดยได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะได้เรียกตัวรปภ.ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำ หากพบว่าผิดก็จะดำเนินคดีต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ข่าวสดหน้า 15 วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5593


ปล.ทนายหนุ่มได้แสดงน้ำใจด้วยการไม่เอาเรื่อง รปภ.กลุ่มด้งกล่าว โดนไม่เรียกค่าเสียหาย แม้แต่แดงเดียว แต่ทาง มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่ กลับแสดงท่าทีเมินเฉย ไม่ยอมรับรู้เรื่องนี้แต่อย่างใด ขอวอนเพื่อนๆ ที่ได้อ่าน บอก-ส่ง ต่อเรื่องนี้ ต่อๆ กันไปด้วยคะ ช่วยให้ความยุติธรรมกับเพื่อนหนูด้วยคะ

Chiang Mai Rajabhat University
202 ถนนช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50300
โทรศัพท์ :: 0-5341-2544
โทรสาร :: 0-5341-2307



โดย: bad IP: 203.154.50.22 วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:13:05:54 น.  

 
เอ่อ คุณข้างบนครับ ผิดที่หรือเปล่าครับ


โดย: yuttipung IP: 124.120.165.63 วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:15:06:19 น.  

 
ถ้าหนังเข้าฉายในเครือเอเพกซ์ ก็คงไม่ดูที่พารากอนอ่ะค่ะ แพงกว่ากันตั้ง 40 บาท 2เรื่องก็80 3เรื่องก็ ร้อยยี่สิบ อะโห แตกต่างกันมาก อันนี้เป็นการแก้ปัญหาส่วนตัวค่ะ แต่โดยรวมแล้ว ตั๋วหนังแพงขึ้นก็คงเพราะเอาเงินไปลงทุนโถงทางเดินให้มันโอ่อ่าหรูหรามโหราน ลงทุนปูพรมให้เท้าไม่แตะดิน ลงทุนเก้าอี้แสนสบายโคตร เอาเหอะนะ ค่าที่ดินมันสูงปรี๊ดค่าสถานที่มันโหด ค่าตั๋วหนังมันก็เลยโหดตามเป็นเงา


โดย: octavio วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:53:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yuttipung
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนไม่เป็นโล้เป็นพายคนหนึ่งที่ติดอินเตอรเน็ต จนได้งานพอประทังเลี้ยงชีพ Blog นี้มอบให้แก่หญิงสาวที่ให้กำลังใจสำหรับความฝันอันริบหรี่ของผมมาตลอด ปัจจุบันเรียนโทจบแล้ว ทำงานหลายที่ หลักๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเป็น Webmaster นิตยสารแห่งหนึ่ง ส่วนงานพิเศษคือลงข่าว และข้อมูลหนัง ดูแลเว็บให้กับ Popcornmag กับ เครือข่ายคนดูหนัง และเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ให้กับ Filmax

Friends' blogs
[Add yuttipung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.