พ่ายพรหมลิขิต ตอนที่ 18
18 ใบหน้าสั่นไหวเมื่อมือบางขยับแปรงขึ้นลงซ้าย ขวา โดยไม่สนใจสายตาของคนที่นั่งอยู่บนโขดหินอีกก้อนฟองฟ่อนเต็มปากเกิดจากการเสียดสีของแปรงสีฟันกับฟันซี่สวยปกติผู้หญิงมักทำอะไรเชื่องช้าหรือเหนียมอายยามเมื่อทำธุระส่วนตัวมากๆอย่างเช่นอาบน้ำในที่สาธารณะหรือแม้แต่แปรงฟันแต่ภรรยาจำเป็นของธนดลเหมือนจะไม่ใส่ใจหรือรู้จักอาการเหนียมอายปล่อยให้เกิดเสียงแปรงเสียดสีกับซี่ฟันดังแกรกๆดังลั่น หนาวเป็นบ้าเลยรีบๆ อาบน้ำเถอะคุณจะได้รีบกลับคุณไม่หนาวบ้างหรือไงพลับพลึงพึมพำกับคนบนโขดหินทั้งๆที่ฟองสีขาวขุ่นยังเต็มปากก่อนจะหันหน้าไปบ้วนทิ้งเมื่อบ้วนปากเรียบร้อยก็หันมาสนทนาต่อแต่จะว่าไปอาบน้ำแบบนี้ก็ดีนะคุณการได้อยู่กับธรรมชาติจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและสดชื่น ธนดลเอาแต่นั่งมองแล้วส่ายหน้ากับพฤติกรรมของเธอเกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นผู้หญิงที่ทำตัวสบายๆได้เพียงนี้ ผมถามจริงๆเถอะ คุณไม่เขินบ้างหรือไง เขินโอ้ย...ฉันสะกดคำนั้นไม่เป็นหรอกตั้งแต่สมัยเรียนจนทำงานเพื่อนส่วนมากของฉันก็เป็นผู้ชายอีกอย่างเวลามาทำงานต่างจังหวัดแบบนี้การนุ่งผ้าถุงมาอาบน้ำที่ลำธารเป็นเรื่องปกติมากแต่ก็ไม่เคยอาบน้ำสองต่อสองกับผู้ชายอ่ะนะแต่ถึงไม่เคยฉันก็ไม่เขินหรอกเพราะฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณอย่าบอกนะว่าคุณเขิน พลับพลึงหรี่ตามองแล้วยิ้มทะเล้นก็ไม่เคยเห็นธนดลสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียวเหมือนกันก็แอบคิดไม่ได้ว่าชายหนุ่มคงจะเขินเธอนะสิแต่อีกฝ่ายกลับไม่เล่นด้วยแถมยังย้อนถามต่ออีก แล้วคุณไม่กลัวหรือ กลัวอะไรกลัวถูกคุณปล้ำนะหรือ ไม่หรอกฉันรู้ว่าคุณไม่ใช่ผู้ชายมักง่ายแล้วฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนหวานหรือจะมีรูปร่างยั่วยวนใครได้คงทำให้คุณเกิดอารมณ์ยาก ธนดลยิ้มเยาะเพราะเขาขอเถียงผิวขาวนวลอมเหลืองแม้รูปร่างจะบางไปนิดแต่เขาก็ว่าน่ามองถ้ามีจริตซักหน่อยเชื่อเถอะว่าจะไม่มีหนุ่มคนไหนกล้าละสายตายกเว้นผมซอยสั้นนั่นที่ดูอย่างไรก็ขัดกับใบหน้าหวานอ่อนเยาว์ นี่คุณผมถามอะไรหน่อยสิ พลับพลึงหันไปมองอีกครั้งหลังจากหันมาให้ความสนใจน้ำบริเวณที่จะหย่อนขาลงไป ฉันชื่อพลับพลึงคุณจะเรียกฉันว่าพลับก็ได้นะ คุณพลับผมถามจริงๆเถอะ คุณรู้เรื่องหนี้สินของลุงกับป้าคุณแล้วไม่โกรธผมบ้างหรือ โกรธหรืออืม...แรกๆก็โกรธนะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะพลับพลึงก้มลงใช้มือกวักน้ำในลำธารเล่นจริงๆ แล้วจะโทษคุณก็ไม่ถูกอ่ะนะเพราะลุงฉันก็เป็นหนี้คุณจริงๆแล้วพิมพ์ก็ตกลงจะแต่งงานกับคุณจริงไม่ได้ถูกบังคับซักหน่อยจะว่าไปคุณก็เป็นผู้เสียหายคนหนึ่งฉันในฐานะหลานก็ต้องชดใช้แทนไม่แน่ว่า ถ้าฉันไม่ยอมแต่งงานกับคุณลุงกับป้าฉันก็อาจจะลำบากมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้อีกอย่าง การแต่งงานกับคุณก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนักฉันไม่ได้เสียหายอะไรซักหน่อยพลับพลึงยิ้มขื่นรับกับโชคชะตา ใครว่าคุณไม่เสียธนดลย้อนอย่างเห็นใจ อ๋อถ้าคุณหมายถึงคำนำหน้าไม่ต้องคิดมากแทนฉันหรอกฉันไม่ซีเรียสซักนิดก็แค่คำนำหน้าคุณไม่เคยได้ยินหรือไงกระดังรนไฟพวกแม่ม่าย แม่ร้างน่ะเนื้อหอมจะตายไม่แน่นะพอถึงเวลาเลิกกับคุณฉันอาจจะมีผู้ชายต่อแถวเข้ามาจีบเป็นพรวนผู้ชายบางคนก็แปลกนะคุณสาวๆ ซิงๆ ไม่ค่อยสนใจหรอกฉันก็อาจจะอยู่ในข่ายนั้นก็ได้ ธนดลสะบัดเสียงหัวเราะสถาปนิกสาวคนนี้ท่าจะเพี้ยนแต่ถ้าเธอไม่เพี้ยนก็ต้องขอบอกว่าเธอคิดบวกมากๆดูสิ พูดไปยิ้มไปหัวเราะไปราวกับเป็นเรื่องตลกขบขัน แล้วคุณคิดไว้หรือยังว่าหลังจากหย่าคุณจะทำยังไง ธนดลจ้องมองหญิงสาวที่ก้มหน้าเอามือวิดน้ำเล่นอย่างต้องการคำตอบที่แท้จริงแต่พอได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่หัวใจของเขาก็รู้สึกแปลกๆ ยังไม่ได้คิดฉันไม่อยากคิดอะไรตอนนี้ปล่อยให้เวลาเป็นตัวตัดสินดีกว่าว่าควรจะทำยังไง ผมขอโทษนะที่ทำให้คุณเดือดร้อน คุณน่าจะคิดได้ก่อนหน้านี้นะเธอประชดและมันก็มากพอที่จะทำให้ธนดลหน้าชาอย่าพูดเรื่องนี้อีกเลยคุณมันไม่ทำให้อะไรๆ ดีขึ้นหรอกนอกจากว่าคุณจะเห็นใจฉันจริงๆแล้วยอมหย่ากับฉันวันนี้พรุ่งนี้แต่ฉันก็รู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้เพราะฉันรู้ว่าคงมีอะไรบางอย่างที่คุณต้องการจะได้จากการแต่งงานครั้งนี้จริงมั้ย ธนดลยิ้มขื่นกับภาษาจริงใจใสซื่อของสถาปนิกสาวเธอพูดถูกทุกอย่างจนทำให้เขาพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว จู่ๆผู้หญิงอีกคนก็ผุดขึ้นมาในหัวผู้หญิงสองคนนี้ต่างกับลิบลับราวกับอยู่กันคนละโลกคนหนึ่งหรูหราชีวิตไม่เคยก้มลงมองดินอีกคนเหมือนจะไม่เคยเงยหน้ามองฟ้าสองเท้าเหยียบย่างตามพื้นหญ้าอยู่ตลอดเวลาแต่เขากลับรู้สึกว่าการได้เหยียบย่างอยู่บนหญ้ารู้สึกชุ่มชื้นฝ่าเท้าและได้รับไอดินมาหล่อเลี้ยงฝ่าเท้าให้รู้สึกถึงชีวิตชีวาดีกว่าจะลอยอยู่บนฟ้าและฝ่าเท้าไร้ความรู้สึก นี่คุณดลคุณจะดูดีและหล่อมากเลยนะถ้าคุณจะยิ้มบ้าง ธนดลเลิกคิ้วที่จู่ๆก็ได้ยินอย่างนั้น ลองดูสิไม่ยากหรอก อย่าขรึมนักเลยเห็นแล้วเหนื่อยแทน ผมดูเคร่งขรึมขนาดนั้นเชียว ใครว่าล่ะเข้าขั้นดุเลยแหละฉันงี้ยอมรับเลยนะว่าไม่ชอบขี้หน้าคุณเอาซะเล้ยผู้ชายอะไรขี้เก๊กเป็นบ้าแล้วต้องยกมือขึ้นปิดปากเมื่อนึกได้ว่านินทาระยะเผาขนจนต้อเอ่ยอ้อนเสียงอ่อนอ่อยฉัน...ขอโทษสนุกปากไปหน่อย ไม่เป็นไรผมไม่ถือที่คุณพูดมาก็อาจจะจริงผมคงทำตัวอย่างนั้นจริงๆอืม...แล้วผมต้องทำไงดีล่ะ ธนดลถือโอกาสเอ่ยถามความคิดเห็นเขาจ้องเพื่อรอลุ้นคำตอบราวกับเด็กที่กำลังรอของขวัญในวันสำคัญ ก็ไม่เห็นต้องทำไงก็เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละแต่อืม...ไหนๆเราก็ต้องอยู่ร่วมบ้านกันอีกตั้ง...พลับพลึงหยุดนึกคิดอ้อ สิบเอ็ดเดือนฉันว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันดีกว่าคุณว่ามั้ย ธนดลเบ้ปากก็เป็นข้อเสนอที่ไม่เลว แล้วเพื่อนต้องทำยังไง พลับพลึงกลอกตาดูท่าพ่อรูปหล่อคนนี้จะไม่เคยมีเพื่อน ก็ทำตัวสบายๆมีอะไรก็คุยกัน ปรึกษากันได้อ้อ...ยกเว้น...พลับพลึงยกนิ้วชี้ขึ้นแล้วแกว่งไปมาเพื่อนจะไม่ล่วงเกินเพื่อนจะต้องให้เกียรติเพื่อน โอ.เคผมเข้าใจ เขาหัวเราะขัน ตอนแรกบอกไม่กลัวเขาปล้ำไปๆ มาๆ กลับเผยไต๋ออกมาซะหมด ก็แหงล่ะยังไงซะ ฉันก็เป็นผู้หญิงก็ต้องระวังตัวกันหน่อยล่ะ ตกลงเราจะเป็นเพื่อนกัน ธนดลรับปากแล้วยื่นมือไปออกเพื่อทำสัญญาระหว่างกันซึ่งพลับพลึงก็ไม่ปฏิเสธมิตรภาพที่ก่อตัวอย่างน้อยอีกสิบเอ็ดเดือนข้างหน้านี้เธอก็จะได้อยู่ร่วมบ้านกับเขาอย่างโล่งใจ อาบน้ำเถอะคุณหนาวจะแย่แล้วเนี่ย พลับพลึงชวนเมื่อดึงมือกลับแล้วกวักน้ำลูบหน้าเพื่อล้างหน้าล้างตาแต่ก็ต้องเบ้หน้าเมื่อรู้สึกเจ็บที่หน้าผาก อู้ย...เธอครางเรียกสายตาธนดลให้หันไปมองเห็นรอยปูดที่หน้าผากค่อนข้างชัด ทายาบ้างหรือเปล่านั่นทำไมมันยังโตเป็นลูกมะนาวอยู่ล่ะ ก็ทาเดี๋ยวก็คงยุบแหละเมื่อกี้ฉันลืมตัวเลยลูบซะแรง ธนดลหัวเราะขำจนเห็นฟันขาวสะอาดเมื่อเห็นสีหน้าบิดเบี้ยวของหญิงสาวในชุดกระโจมอก หัวเราะอะไรมิทราบเพราะใครล่ะทำฉันเจ็บอย่างนี้ คุณก็แก้แค้นผมแล้วไงเมื่อคืนผมก็ท้องเสียตั้งหลายรอบ อ้าว..พลับพลึงร้องขึ้น ก็มันจริงนี่มีอย่างที่ไหนคุณเอาน้ำพริกที่หมดอายุแล้วมาให้ผมกิน หมดอายุ?พลับพลึงเลิกคิ้วถาม ก็ใช่นะสิเมื่อเช้าผมไปดูที่ข้างกระปุกน้ำพริกปรากฏว่ามันหมดอายุมาสองวันแล้ว พลับพลึงย่นคิ้วเมื่อวานเธอก็กินน้ำพริกเหมือนกันแต่ไม่ยักเป็นอะไรก่อนจะสันนิษฐานไปเองว่าอาจจะเพราะธาตุแข็งแรงกว่าใช่ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่อาจจะเพราะชายหนุ่มไม่ค่อยได้กินของแสลงเลยไม่มีภูมิต้านทาน อ่ะถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอโทษด้วยแล้วกันที่ไม่ได้ดูให้ละเอียดก็ใครจะไปนึกล่ะว่ามันจะหมดอายุก็เห็นเก็บไว้ในตู้กับข้าวนี่นะพลับพลึงยังบ่นอุบอิบแก้ตัวถ้างั้นก็หายกันแล้วกัน เมื่อเคลียร์ปัญหาข้องใจเรียบร้อยพลับพลึงก็ย่องลงไปในน้ำซึ่งเย็นยะเยือกอย่าบอกใครแต่แสงแดดที่สาดส่องผ่านกิ่งไว้ลงมายังลำธารก็ยังพอช่วยให้ความหนาวเหน็บคลายตัวลงได้บ้าง ดูคุณจะคุ้นเคยกับลำธารนะธนดลเปรยขึ้นเมื่อเห็นเธอหยิบโน่นหยิบนี่เตรียมตัวจะอาบน้ำ ไม่เห็นแปลกตรงไหนฉันกับพวกพี่ๆสถาปนิกก็อาบกันแบบนี้ทุกวันตอนที่อยู่ไซด์งานเวลาไปดูงานก่อสร้างตามที่ต่างๆด้วย แต่กลับเป็นสิ่งขัดหูมากสำหรับธนดลเพราะเหมือนหญิงสาวจะปล่อยตัวมากเกินไป อย่าได้คิดอกุศลนะคุณใช่ ฉันอาบน้ำในลำธารแบบนี้บ่อยก็จริงแต่ส่วนมากก็อาบกับคนงานผู้หญิงส่วนพวกผู้ชายแม้จะอาบพร้อมๆกันก็อยู่ห่างๆ โน่นคุณเป็นคนแรกที่ฉันมาอาบน้ำด้วยสองต่อสอง ธนดลอมยิ้มอย่างพอใจแล้วถามต่อ แล้วเวลาอาบน้ำในลำธารแบบนี้พวกคุณทำอะไรกันมั่ง ก็อาบน้ำไงคุณคุณนี่ถามแปลกๆพลับพลึงเสียงแหลมอย่างรำคาญ เออ...ก็จริงของคุณนะก็ต้องอาบน้ำสิธนดลแค่นหัวเราะกลบเกลื่อนจู่ๆ ใบหน้าก็ร้อนผ่าวๆขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอ้าว...หายไปไหน ธนดลพึมพำเพียงแค่เบือนหน้าหนีไปทางอื่นแป๊บเดียวหญิงสาวกลับหายไปแต่ก็สงสัยไม่นานเธอก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้วว่ายเข้าไปที่โขดหินหยิบแชมพูมาละเลงศีรษะไม่ถึงสองนาทีเธอก็มุดลงไปใต้น้ำอีกครั้งโผล่ขึ้นมาอีกทีฟองขาวๆบนศีรษะก็หายไปหมด ทำไมไม่อาบละคุณพลับพลึงร้องทักเมื่อชายหนุ่มยังนั่งเอาเท้าแช่น้ำอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เอาขันมาผมว่าจะสระผมเสียหน่อย ความลับของธนดลอย่างหนึ่งที่พลับพลึงยังไม่รู้นั่นคือ ชายหนุ่มไม่เคยอาบน้ำในลำธารมาก่อน... โธ่...คุณอาบน้ำในลำธารใครเค้าเอาขันมากันถ้าจะสระผมก็ทำแบบฉันนี่ง่ายดีออก พลับพลึงทำหน้าหงุดหงิดเมื่อเห็นท่าทางอึกอักของอีกฝ่าย เรื่องมากนะคุณเนี่ยดูท่าจะไม่เคย เอางี้เดี๋ยวฉันช่วยแล้วกันแต่ขอเปลี่ยนผ้าก่อนนะ พลับพลึงรีบขึ้นจากน้ำโดยมีสายตาคมกริบมองตามเธอต้องขยิบตาดุเพื่อให้เขารู้ตัวหันหน้าไปทางอื่นขณะที่เธอหอบเสื้อผ้าหายเข้าไปหลังโขดหินไม่นานก็ออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ มานี่สิคุณเดี๋ยวฉันสระผมให้ ฮะธนดลเบิกตาโพลง คิดมากทำไมเล่าไหนว่าเพื่อนกันไง อ้อหรือจะคิดว่านี่เป็นการไถ่โทษที่ฉันทำคุณท้องเสียก็ได้เร็วๆ เถอะคุณฉันอยากกลับบ้านแล้วหนาว หรือคุณถือ ผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ค่อยให้ใครจับศีรษะหากไม่ใช่คนสนิทแต่นี่ถือเป็นบททดสอบความจริงใจของชายหนุ่มว่าอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอจริงๆหรือเปล่าด้วยส่วนหนึ่งธนดลกระโดดจากโขดหินที่นั่งอยู่มาอีกก้อนซึ่งหญิงสาวยืนรออยู่แล้วก็ตอบ ไม่ผมไม่ถือ ตรงนี้แหละเอ้า ก้มหน้าลง แชมพูจะได้ไม่เข้าตา ธนดลทำตามอย่างเก้ๆกังๆ พลับพลึงวิดน้ำใส่กลุ่มผมสั้นนั้นอย่างรวดเร็วแล้วละเลงแชมพูลงไป ลูบๆเกาๆ อยู่พักหนึ่งก็แกล้งผลักคนโก้งโค้งเต็มแรงน้ำกระซ่านเซ็นกระจายเต็มพื้นที่พร้อมๆกับร่างสูงที่ม้วนตัวลงไปจมอยู่ในลำธารฟองฟ่อนจากแชมพูลอยละล่องเต็มพื้นที่ก่อนจะลอยตามสายน้ำที่ไหลเอื่อยนั้นออกไป คุณทำอะไรเนี่ย! ธนดลยกมือขึ้นลูบหน้าเอาน้ำออกตะเบ็งเต็มเสียงด้วยความโมโหเขาสะบัดศีรษะสองสามทีเหมือนไอ้ตูบที่เพิ่งขึ้นจากน้ำพลับพลึงกลั้นหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดงเมื่อเขาลืมตาขึ้นแล้วเห็นตาแดงๆคงเพราะเกิดจากแชมพูไหลลงเข้าตา ก็ช่วยคุณสระผมไงเห็นมั้ยล่ะ คุณก็มุดน้ำได้ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คุณมุดลงไปอีกสองสามทีแชมพูก็ออกหมดแล้วล่ะเร็วเข้า เดี๋ยวก็หนาวตายหรอก พลับพลึงเร่งแล้วกวักมือไวๆธนดลรีบล้างเนื้อล้างตัวแล้วขึ้นจากลำธารเขารับผ้าขนหนูที่แม่สาวจอมเจ้าเล่ห์หยิบยื่นให้อย่างเคืองๆรีบเช็ดผมให้แห้งก่อนจะหามุมเปลี่ยนเสื้อผ้า คุณนี่ร้ายมากเลยนะ เขาต่อว่าเมื่อเดินออกมาจากโขดหินยิ่งเห็นหญิงสาวยิ้มกระหยิ่มกับความสำเร็จของตัวเองก็ยิ่งฮึดฮัดแต่อีกใจก็รู้สึกดีเพราะไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้นานมากแล้วจู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมาเสียอย่างนั้น พลับพลึงหันไปมองอย่างแปลกใจคนหน้าขรึมทั้งวี่ทั้งวันจู่ๆก็หัวเราะออกมาเฉยเลย คุณหัวเราะ ธนดลจ้องหน้าใบหน้าของเขายังคงเปื้อนยิ้มอยู่ไม่คลาย ทำไมผมหัวเราะนี่มันแปลกมากหรือไง ใช่แปลกมาก เพราะตั้งแต่ฉันรู้จักคุณมานี่ก็...พลับพลึงทำท่านึกคิดจะสองเดือนแล้ว คุณไม่เคยหัวเราะเลย งั้นหรือธนดลเบ้ปากนิดหนึ่ง นึกคิดตามจริงๆ ไม่ใช่แค่สองเดือนหรอกที่เขาไม่ได้หัวเราะแต่มันนานกว่านั้นต่อไปคุณคงจะได้เห็นบ่อยๆ พลับพลึงเบิ่งตาวันนี้พูดมากกว่าทุกวันด้วยแต่ก็ไม่ได้คิดจะสนใจอะไรมากนักเธอยักไหล่แล้วนั่งลงที่โขดหินใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่ยังเปียกชุ่ม มะผมช่วย พลับพลผงะเมื่อธนดลเข้ามาถึงตัวเขารวดเร็วจนเธอตั้งตัวไม่ทันรีบดึงผ้าขนหนูไว้เมื่อเขากำลังจะดึงไปจากมือ ไม่เป็นไรฉันเช็ดเองได้ ไม่ได้ทีคุณยังช่วยสระผมให้เลย ก็นั่นคุณทำเองไม่ถนัดไง แต่ธนดลก็ไม่ฟังเขายังคงดึงผ้าขนหนูต่อไปและเป็นเขาที่ได้ผ้าขนหนูผืนนั้นมาแล้วนั่งช้อนหลังเช็ดผมให้เธอ คุณไม่คิดจะไว้ผมยาวบ้างหรือไง พลับพลึงที่นั่งตัวเกร็งเอี้ยวหน้าไปมองนิดหนึ่งแล้วสะบัดหน้ากลับมาตามเดิมทำไมทุกคนชอบมาวุ่นวายกับผมของเธอจังวุฒิชัยก็คนหนึ่งล่ะที่ขอร้องให้เธอไว้ผมยาวเหมือนตอนอยู่ปีหนึ่งพี่ๆ ที่ทำงานก็บอกว่าอยากเห็นเธอเปลี่ยนลุคเป็นสาวหวานบ้างแล้วการไว้ผมซอยสั้นมันทำให้หน้าขมขื่นตรงไหน คุณรู้มั้ยว่าคุณไม่ใช่คนแรกที่ถามคำถามนี้พลับพลึงเลื่อนตัวออกทั้งๆที่ผมของเธอยังไม่แห้งดีกลับขึ้นบ้านกันเถอะค่ะ ธนดลมองตามจับอารมณ์ได้อย่างหนึ่งว่าหญิงสาวไม่ชอบคำถามนี้เอามากๆ ผมขอโทษที่ถามแบบนั้นผมไม่รู้ว่าคุณจะไม่ชอบให้ถามแบบนี้ธนดลรีบเดินให้ทันแล้วเอ่ยในสิ่งที่ทำให้เธอโกรธ เปล่าหรอกฉันไม่ได้โกรธอะไรหรอกเพียงแต่รำคาญมากกว่าฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพวกผู้ชายถึงได้ชอบให้ผู้หญิงไว้ผมยาวกันนักทำไมอ่ะ ผมสั้นมันน่าเกลียดมากหรือไง ก็ไม่ก็แค่ดูแมนเกินไปเท่านั้นแหละผู้ชายส่วนมากชอบผู้หญิงอ่อนหวานแล้วการที่ไว้ผมยาวก็จะทำให้ผู้หญิงเป็นแบบนั้นธนดลตอบตามความรู้สึกนึกคิด โอ้โห...คุณนี่น่าทึ่งจริงๆแต่คงยากอ่ะนะที่จะเปลี่ยนฉันเป็นสาวหวานเพราะฉันคงเป็นไม่ได้หรอกอีกอย่าง ฉันก็ไม่อยากให้ใครมามองด้วยอยู่คนเดียวแบบไม่มีใครสนใจสบายกว่าเยอะ เพราะเคยเห็นความวุ่นวายของหญิงสาวสวยมามากก็ไม่ใช่อื่นไกลเพื่อนสมัยเรียนนั่นเองเช้า เที่ยง เย็น มีหนุ่มๆแวะเวียนมาขายขนมจีบไม่ต่ำกว่าสามสี่รายแล้วก็เกิดศึกชิงนางขึ้นบ่อยๆพลอยทำให้เบื่อหน่ายความเป็นคนเจ้าเสน่ห์จนต้องไม่อยากทำตัวโดดเด่นให้ใครสนใจแม้หลายๆ คนจะบอกว่าเธอเองก็เป็นหนึ่งในตองอูเหมือนกันก็เพราะคำว่าหนึ่งในตองอูนี่แหละทำให้เธอตัดสินใจตัดผมสั้นมาโดยตลอดเพราะไม่อยากให้ใครมองว่าเป็นผู้หญิงอ่อนหวานและสะดุดตาใครต่อใครจนเกินไปนักบอกตามตรงว่าค่อนข้างรำคาญกับถ้อยคำหวานหวามชวนขนลุกและสายตากระลิ้มกระเหลี่ยที่แทบจะแทรกลูกตาเข้าไปใต้ร่มผ้า คุณนี่แปลกคนผู้หญิงส่วนมากมักจะชอบให้มีคนเอาใจอยากมีผู้ชายดีๆเหมือนในนิยายมาอยู่ข้างๆ คุณนี่เพ้อเจ้อผู้ชายดีๆ ก็มีแต่ในนิยายนั่นแหละไม่มีหลุดลอดออกมาข้างนอกหรอก ธนดลหยุดเดินปล่อยให้แม่สาวผมสั้นผู้มาดมั่นเดินขึ้นบ้านไปเพียงลำพังส่วนเขานั้นขอยืนอมยิ้มกับถ้อยคำประหลาดผิดแผกจากผู้หญิงอื่นซักหน่อยก่อนจะเดินตามหลังเธอขึ้นบ้านไป
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 15:22:43 น. |
|
4 comments
|
Counter : 992 Pageviews. |
|
|