Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
25 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
พ่ายพรหมลิขิต ตอนที่ 8

8

กรี๊ด!!!!

พลับพลึงกรีดร้องขึ้นสุดเสียงใส่คนที่นอนตะแคงชิดข้างหูจนได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอแถมขาของเขายังพาดอยู่ที่หน้าท้องของเธอจนหายใจลำบาก

“คนบ้า!เอาขาออกไป

พลับพลึงลุกขึ้นนั่งจับขาของคนที่ถือวิสาสะก่ายเธอนั้นออกไปแล้วหันขึ้นมาจะทุบไหล่คนที่ยังไม่ยอมตื่น

“คิดจะฉวยโอกาสหรือไงปากก็บอกว่าไม่ชอบ คนบ้าคนผีทะเล คนไว้ใจไม่ได้...”

และอีกหลายประโยคที่พลับพลึงสบถก่นด่าคนที่ยังสะลึมสะลืองัวเงียธนดลยกมือขึ้นปัดป้องตามสัญชาตญาณที่ถูกมือเล็กหากแต่หนักหน่วงเหลือเกินนั้นฟาดเข้าตามใบหน้าและลำตัวแบบไม่ยั้ง

“โอ้ย!โอ้ย! อะไรเนี่ย”

ธนดลสะดุ้งตื่นลุกขึ้นนั่งคู้ตัวยกแขนตั้งกาดปิดบังใบหน้าจากกำปั้นที่รัวใส่ราวกับมือทศกัณฑ์จนเมื่อตั้งสติได้ถึงได้รวบมือบางนั้นไว้แล้วยืดตัวไปเปิดไฟที่หัวเตียงและนั่นทำให้เขาได้เห็นใบหน้าบูดบึ้งของภรรยาหมาดๆ

“คุณทำบ้าอะไรเนี่ยผมเจ็บนะเขาร้องห้ามคนกำลังหลับสบายกลับถูกชกถูกตีเสียนี่แต่หญิงสาวก็โต้ตอบเสียงเข้มเขียว

“ฉันต่างหากที่จะต้องถามคุณว่าทำบ้าอะไรทำไมต้องมามุดใต้ผ้าห่มฉันด้วยแล้วยัง...”

พลับพลึงกลืนน้ำลายเมื่อใบหน้าร้อนผะผ่าวขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อนึกถึงใบหน้าคร้ามคมนั้นอยู่ห่างใบหน้าของเธอแค่ลมหายใจรินรดแถมแข้งขาของเขายังเกเรพาดมาอยู่บนตัวของเธออีกด้วย

“ยังอะไร ถ้าคุณไม่มีเหตุผลล่ะก็คืนนี้ไม่ต้องนอนกันล่ะ”ธนดลเองก็หัวเสียที่ถูกปลุกกลางดึกคนกำลังหลับสบายเพิ่งรู้สึกอุ่นได้ไม่นานนี้เองหลังจากถูกแย่งผ้าห่มไปจากตัว“ว่าไง”

“ก็คุณกินที่”

ธนดลสะบัดมือปล่อยตัวหญิงสาวให้เป็นอิสระแล้วหันมองรอบๆ ตัวเขานี่นะนอนกินที่จะเป็นไปได้อย่างไรชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมเพราะตอนนี้เขานั่งอยู่เกือบจะตกเตียงด้านที่เขานอนอยู่แล้วเขาถอนหายใจอย่างเอือมระอากับคนขี้โวยวายใครกันแน่ที่กินที่

“คุณแหกตาดูหน่อยสิครับคุณผู้หญิง”ธนดลประชดเสียงเข้มเขียว

พลับพลึงที่ถูกสะกิดอย่างนั้นก็รีบมองตามสายตาของชายหนุ่มอาการเกรี้ยวโกรธค่อยๆสงบลงจนหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าเธอเลยพื้นที่กึ่งกลางของเตียงมาจนเกือบสุดขอบเตียงอีกด้าน

“ก็...”

พลับพลึงจะแก้ตัวแต่เมื่อนึกย้อนหลังก็ต้องเป็นเธอที่หลับตาปี๋ก้มหน้าเบือนหนีด้วยความอับอายเพราะแท้ที่จริงแล้วน่าจะเป็นเธอมากกว่าที่เบียดเข้าไปหาเขาพอรู้ตัวเองอยู่ว่าเป็นคนนอนดิ้นปกติเวลานอนพลับพลึงจะใช้พื้นที่เตียงเต็มพื้นที่และผ้าห่มอีกล่ะที่ม้วนจนหนอนเรียกพี่แม้ในยามตื่นยังต้องเสียเวลาแกะผ้าห่มอยู่เป็นนานกว่าจะออกจากรังผ้าห่มได้ยิ่งนึกก็ยิ่งอายจนไม่กล้าสู้หน้าเพราะเพียงแค่เงยหน้าขึ้นสบตาดวงตาคมปลาบคู่นั้นก็เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อแน่ล่ะการถูกรบกวนในเวลาหลับใหลไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์เลย

“ผมไม่อยากคิดอกุศลหรอกนะว่าคุณคิดอะไรอยู่แต่ขอร้อง ช่วยถอยออกไปจากพื้นที่ของผมด้วยอีกอย่าง หวังว่าจะไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของผมอีกคุณไม่รู้หรือไงว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว”

ธนดลเหลือบตามองไปดูนาฬิกาเพื่อเตือนสติคนโวยวายตีสามเข้าไปแล้วเขายกมือขึ้นเสยผมแล้วถอนหายใจนี่เขาคิดถูกหรือผิดที่เอาหญิงสาวกระโกลกกะลามานั่งตำแหน่งภรรยา

พลับพลึงถอยกลับมานั่งฮึดฮัดอยู่ในพื้นที่ของตัวเองทันทีเมื่อสิ้นเสียงโกรธขึ้งของอีกฝ่ายแม้จะเป็นเธอที่ล้ำเส้นแต่อย่างไรความเสียหายก็ตกอยู่กับเธอมากกว่าอยู่ดีจริงๆ แล้วชายหนุ่มไม่น่าแสดงอาการหัวเสียแบบนี้ด้วยซ้ำมันช่างเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเหลือเกิน

“ก็ได้ ครั้งนี้ฉันไม่มีหลักฐานแต่หวังว่าคุณจะควบคุมตัวเองให้มากหน่อยจะได้ไม่ละเมอมารบกวนฉัน”

พลับพลึงยังคงไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดอยู่เช่นเดิมเธอกลับเชิดหน้าทั้งๆที่ใบหน้าร้อนผ่าวๆ ด้วยความอับอายแล้วก็ดึงผ้าห่มที่ร่นลงไปเกือบจะตกปลายเตียงขึ้นมาทำท่าจะคลุมโปง

“นั่นคุณจะทำอะไร”

พลับพลึงหันมองแล้วก้มลงมองผ้าห่มที่เธอกำลังครอบครอง

“ก็จะนอนไง” เธอตอบ

“แล้วไม่คิดจะแบ่งผ้าห่มให้ผมบ้างหรือไง”

พลับพลึงหน้าตูมถ้าแบ่งก็ต้องเกิดปัญหาแบบเมื่อกี้นี้อีกนะสิแต่ถ้าไม่แบ่งดวงตาคมปราบคู่นั้นก็ตงจะหาเรื่องเคืองเธอสุดท้ายก็ต้องตัดสินใจยกผ้าห่มให้เขาไปทั้งผืนส่วนตัวเองก็คว้าหมอนข้างมากอดแทน

“ฉันยกให้คุณหมดเลย”

“ทำไม”

“ทำไมอะไรอีกล่ะ”พลับพลึงเสียงแหลมอย่างรำคาญใจ

“อากาศเย็นเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”

“ไม่หนาวคุณไม่เห็นหรือไงฉันใส่เสื้อผ้ามิดชิดขนาดนี้อากาศแค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”

ธนดลมองที่เสื้อผ้าของอีกฝ่ายเห็นจะจริงอย่างที่หญิงสาวว่าชุดนอนของเธอไม่ต่างจากชุดวอร์มคงต่างเพียงเนื้อผ้าที่ทอจากผ้าฝ้ายแขนยาวขายาวแถมยังสวมถุงเท้าอีกต่างหากเมื่อเห็นอย่างนั้นก็พยักหน้าตามใจแล้วรับผ้าห่มมาครอบครองล้มตัวลงนอนตะแคงข้างหนีโดยไม่มีโอกาสรับรู้เลยว่าคนที่นั่งกอดหมอนข้างอยู่นั้นกำลังทำปากขมุบขมิบล้อเลียนประโยคที่เขาเอ่ยมาก่อนหน้านี้แถมท้ายด้วยต่อว่าในลำคออีกหลายคำก่อนจะล้มตัวลงนอนตะแคงข้างหนีเช่นกันพลับพลึงใช้ขาคาบหมอนข้างกอดมันไว้แน่นเพื่อรับความอบอุ่นแม้เสื้อผ้าจะหนากว่าชุดนอนธรรมดาแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอบอุ่นเท่ากับผ้าห่มยิ่งบริเวณใบหน้าที่แตะต้องอากาศก็ทำให้รู้สึกสะท้านได้เช่นกันแต่ก็ยังต้องข่มตาหลับให้ได้เพราะตอนนี้ก็ปาเข้าไปตีสามแล้ว

อืม...อุ่นจัง...

คนที่หลับตาพริ้มยิ้มกับความฝันที่เธอนอนมุดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอบอุ่นบรรยากาศรอบกายเต็มไปด้วยไอหมอกและกลุ่มเมฆที่อบอวลด้วยความอบอุ่นของแสงแรกของดวงอาทิตย์ก่อนจะสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงดังแว่วมา

ฮ้า...เสียงปิดประตูนั่นเอง

พลับพลึงที่ปรือตาขึ้นมองตามเสียงดังแว่วๆนั้นแล้วก็หลับตาลงอีกครั้งก่อนจะเบิกตากว้างหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเวลานี้เธอไม่ควรจะยังนอนอยู่บนเตียงแล้วรีบพลิกตัวกลับไปยังฝั่งตรงข้าม

เขาไม่อยู่แล้ว!

ธนดลไม่อยู่แล้วแสดงว่าคนที่เดินออกจากห้องเมื่อกี้นี้คือเขานั่งเองพลับพลึงรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งและต้องตกตะลึงเมื่อผ้าห่มที่ถูกยึดไปเมื่อคืนนี้กลับมาห่มอยู่บนตัวของเธอมิน่าล่ะเมื่อกี้ถึงได้ฝันว่านอนอยู่บนก้อนเมฆที่อบอุ่นเธอเลิกคิ้วแล้วมองไปที่ประตูนับว่าธนดลก็เป็นผู้ชายที่ใช้ได้คนหนึ่งเหมือนกันแฮะพลับพลึงรีบลุกจากเตียงจัดการพับผ้าห่มจัดที่นอนให้เรียบร้อยถึงแม้ว่าฝีมือทำอาหารของเธอจะไม่ได้เรื่องแต่เรื่องความเป็นระเบียบก็ไม่เป็นรองใครแล้วหยิบผ้าขนหนูวันนี้เธอไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำด้วยเพราะไม่ไว้ใจชายหนุ่มที่อาจจะโผล่เข้ามาตอนไหนอีกก็ไม่รู้ได้

“ว้าว...”

ทุกอย่างในห้องน้ำเป็นระเบียบเรียบร้อยมากเมื่อคืนพลับพลึงยังไม่ทันสังเกตเท่าไหร่แต่วันนี้พอมีเวลาจึงได้สำรวจของใช้ของชายหนุ่มเต็มตาแปรงสีฟัน มีดโกนหนวดผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้วรวมถึงครีมบำรุงชนิดต่างๆสำหรับผู้ชายทุกอย่างจัดวางอย่างเป็นระเบียบเธอเม้มปากเมื่อของใช้ส่วนตัวของธนดลมีมากกว่าของเธอซึ่งเป็นผู้หญิงเสียอีก

“ต๊าย...ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าด้วย”

พลับพลึงจับขึ้นมาดูเบิ่งตากว้างเพราะเป็นครีมยี่ห้อดังที่คนธรรมดาเงินเดือนหมื่นสองหมื่นบาทคงไม่กล้าซื้อมาใช้แล้ววางมันลงที่เดิมละสายตาจากมุมนั้นเพราะไม่อยากตกใจไปมากกว่านี้คาดว่าของใช้ชิ้นอื่นๆของเขาราคาก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่รสนิยมของธนดลไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

“โชคดีนะที่รวยไม่อย่างนั้นคงหมดตัวกับค่าของใช้เหล่านี้แน่”

คนอิจฉานิดๆเบ้ปากกับสิ่งของพวกนั้นแล้วหันมาจัดการกับตัวเองเพราะกว่าจะไปถึงที่ทำงานก็คงจะสายกว่าทุกวันใช่ตั้งแต่มาทำงานให้ลูกค้าที่เชียงใหม่เธอยังไม่เคยไปสายเลยซักวัน

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จคุณผู้หญิงของบ้านก็เดินออกมายังระเบียงสายตามองไปรอบๆก่อนจะหยุดที่สามีจำเป็นซึ่งนั่งจิบกาแฟอยู่ริมระเบียงอากาศยามเช้าของบ้านพักบนดอยช่างเหมาะนักกับกาแฟหอมอุ่นๆจิบกาแฟไปพลาง อ่านหนังสือไปพลางอาบหมอกที่ลอยผ่านมาเรื่อยๆเอื่อยๆ ไปพลาง มองแสงแดดที่แผ่เป็นม่านบางๆลอดผ่านมาลงกระทบพื้นหญ้าและต้นไม้มันเป็นบรรยากาศของผู้คนที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริงแต่นั่นไม่ใช่สำหรับคนที่กำลังจะเริ่มต้นทำงานอย่างพลับพลึงเธอไม่มีเวลามาเอ้อระเหยกับบรรยากาศงดงามอย่างนี้เพราะที่สำนักงานยังมีงานอีกเป็นกระบุงรอให้กลับไปสะสางพลับพลึงเดินเข้าไปหาคนที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าในม่านหมอกสลับแสงแดดอ่อนๆ

“ขอบคุณนะคะสำหรับผ้าห่ม”เธอเอ่ยอย่างเก้อเขิน

“ไม่เป็นไร ก็แค่ผมไม่ได้ใช้แล้ว”

ธนดลยังไม่ละสายตาจากหนังสือพิมพ์ที่กางอยู่ระดับสายตาเขาเลี่ยงที่จะตอบตามสิ่งที่เห็นเพราะไม่อยากให้หญิงสาวรู้สึกได้ว่าเขาห่วงใยทั้งๆที่เมื่อคืนนี้หลังจากที่หญิงสาวล้มตัวลงนอนได้ไม่นานเธอก็หลับไปเขาแอบหันตัวกลับมาก็เห็นว่าหญิงสาวนอนคุ้ดคู้อยู่กับหมอนข้างทำคอย่นตัวสั่นเทาจึงได้แบ่งปันผ้าห่มให้ใช้ร่วมกันก่อนที่ผ้าห่มผืนนั้นจะเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวเมื่อตอนเช้ามืดเขายังเห็นใบหน้ายิ้มเพลาอย่างมีความสุขของคนที่ยังอยู่ในนิทรารมย์เลยยังอดยิ้มกับแก้มขาวนวลไร้ซึ่งเครื่องสำอางแต่งแต้มนั้นไม่ได้ก่อนจะละสายตาจากเธอออกมาได้ก็ต้องใช้ความพยายามพอสมควร

“งั้นหรือคะ” พลับพลึงตัดพ้อเล็กๆแล้วเบือนหน้าหนีเสียเพราะไม่อยากอับอายกับถ้อยคำของเขาไปมากกว่านั้น“วันนี้ฉันจะไปทำงานนะคะ”เธอบอกและไม่ได้รับคำสั่งห้ามแต่อย่างใดแถมธนดลยังเอื้อเฟื้อแม้น้ำเสียงจะราบเรียบจนน่าหมั่นไส้ก็ตามที

“เอารถที่บ้านไปก็ได้”

เพราะที่บ้านมีรถหลายคันอีกอย่างหลายวันนี้เขาคงยังไม่คิดจะออกไปไหน

“ฉันอาจจะขอใช้รถคุณแค่วันนี้ก็พอค่ะเพราะบริษัทมีรถให้ใช้เหมือนกัน”

“ไม่เห็นต้องยุ่งยากก็ใช้รถที่บ้านนี่แหละ”

ธนดลลดหนังสือพิมพ์ที่กำลังอ่านลงเงยหน้าขึ้นมองภรรยาหมาดๆอย่างไม่ชอบใจ ทำไมต้องมีปัญหาด้วย

“ไม่ต้องหรอกค่ะ”

พลับพลึงยังปฏิเสธเธอเองก็ไม่ชอบน้ำเสียงบังคับของชายหนุ่มเช่นกันนี่แค่แต่งงานหลอกๆเธอจึงไม่อยากใช้ของอะไรที่เป็นของเขาเพื่อจะให้เขาใช้เป็นข้ออ้างมาว่าเธอได้ในภายหลังเปล่าๆ

“คุณนี่ยังไงจะยอมผมซักเรื่องไม่ได้หรือไงหากใครรู้เข้าว่าสุทธิการปล่อยให้ลูกสะใภ้ใช้รถโกโรโกโสของบริษัทรู้ถึงไหนได้อายถึงนั่น”

พลับพลึงอ้าปากจะประท้วงเพราะรถประจำตำแหน่งที่เธอใช้อยู่แม้จะไม่ใช่รถหรูราคาแพงลิ่วหรือรถใหม่ที่เพิ่งแล่นออกจากโชว์รูมแต่มันก็ไม่ได้เก่าถึงขึ้นจะเรียกว่าโกโรโกโสอีกอย่างชายหนุ่มยังไม่ทันเห็นรถที่เธอใช้อยู่ก็นึกมโนภาพต่อว่าเสียแล้วแต่ก็ค้านจะเถียง จึงหุบปากลงเสีย

“ก็ได้ค่ะ แล้วนี่คุณทานข้าวหรือยังคะ”

ธนดลมองหญิงสาวตรงหน้าแล้วยิ้มอย่างน้อยก็ยังมีน้ำใจเอ่ยถามแต่หากจะให้เขาทดลองเมนูบะหมี่ซองเหมือนที่เธอทำให้เขาทานเมื่อวานเห็นทีจะไม่ไหว

“อาหารเช้าคงใกล้เสร็จแล้วนั่งลงสิ จะได้ทานด้วยกัน”

พลับพลึงทำหน้างงธนดลจึงบอกกล่าว

“น้อยมาถึงเมื่อเช้ามืดผมหมายถึงแม่บ้านน่ะ”

“อ้อ” พลับพลึงพยักหน้ารับรู้

“มาพอดี”ธนดลเปรยขึ้นแล้วรอจนสาวใช้วางถ้วยข้าวต้มสองถ้วยลงเรียบร้อยเขาถึงเอ่ยแนะนำ“นี่น้อย เป็นแม่บ้านคอยดูแลที่นี่ที่นี่มีคนงานสองคนบนเรือนเป็นหน้าที่ของน้อยส่วนนายส่วยสามีของน้อยอยู่ข้างล่างรับผิดชอบสวนแล้วนี่ คุณพลับพลึงภรรยาฉัน”ธนดลเอ่ยแนะนำเสียงเรียบพลับพลึงพยักหน้าทักทายแม่บ้านแต่อีกฝ่ายสิตกตลึงตาค้างตั้งแต่ชายหนุ่มแนะนำว่าหญิงสาวคนนี้เป็นภรรยาเพราะจำได้ว่าเมื่อครึ่งปีก่อนหญิงสาวที่เจ้านายพามาค้างที่นี่นั้นไม่ใช่หญิงสาวคนนี้

“แล้วคุณ...”น้อยตั้งท่าจะถามตามประสาคนสอดรู้

“มีอะไรก็ไปทำไป อ้อบอกนายส่วยให้เตรียมรถให้คุณพลับพลึงด้วย”

“ค่ะ”

น้อยจำใจรับคำสั่ง ทั้งๆที่ยังความสงสัยอยู่เต็มอกคำถามที่คิดจะถามถึงหญิงสาวสวยอีกคนที่หล่อนหมายมั่นว่าจะได้เป็นคนสนิทนั้นหายไป

“ทานสิ”ธนดลสั่งเมื่อพลับพลึงปั้นหน้าสงสัยกับคำถามค้างๆคาๆ ของแม่บ้าน

“ถ้าเป็นไปได้ช่วงเวลานี้ผมก็ไม่อยากให้คุณออกไปทำงานหรอก”ธนดลเปรยขึ้นขณะตักข้าวต้มหมูเข้าปากแล้วเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามเมื่อเธอโพล่งขึ้น

“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันมีงานค้างอยู่อีกมาก”

ใช่ เธอมีงานค้างอยู่อีกมากทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนออกแบบและแก้ไขในบางส่วนจะให้หยุดงานได้อย่างไรเพราะเท่าที่ผ่านมาก็ผิดแผนมามากแล้วจริงๆ แล้วเธอจะต้องกลับไปทำงานตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วป่านนี้ทุกคนคงกำลังวุ่นรอแบบจากเธออยู่

“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นผมก็แค่แสดงความคิดเห็นถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรก็แค่จะบอกคุณว่าจะทำอะไรก็ให้คิดถึงผมบ้างเพราะตอนนี้คุณไม่ใช่นางสาวพลับพลึงอีกต่อไปแล้ว”

พลับพลึงวางช้อนลงกับถ้วยข้าวต้มทันทีรู้สึกอิ่มตื้อขึ้นมาอย่างกะทันหันกับถ้อยคำเตือนสติของชายหนุ่มใช่เธอยอมรับว่าบางครั้งก็ยังไม่ชินและลืมไปว่าเธอนั้นได้จดทะเบียนกับเขาไปแล้ว

“ไม่ต้องห่วงค่ะ รับรองว่าภายในระยะเวลาที่ฉันเป็นภรรยาคุณฉันจะไม่ทำอะไรให้คุณขายหน้าแน่นอนแต่คุณก็อย่าลืมก็แล้วกันว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไรและฉันยังต้องการวันที่จะมีอิสรภาพอีกครั้งหลังจากที่คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วอ้อ อีกเรื่อง เรื่องแบบบ้านของคุณฉันจะพยายามเร่งให้เต็มที่ค่ะ”

พลับพลึงเดินออกไปจากโต๊ะอาหารค่อนข้างฮึดฮัดเธอไม่สนใจมารยาทใดๆซึ่งอาการของเธอก็ไม่ได้ต่างจากธนดลที่นั่งถอนหายใจส่ายหน้าเอือมระอาและนั่นก็เป็นสาเหตุทำให้ธนดลเลิกทานข้าวต้มเช่นกัน




Create Date : 25 ธันวาคม 2556
Last Update : 25 ธันวาคม 2556 9:51:59 น. 2 comments
Counter : 1360 Pageviews.

 
ทั้งบ้านไม่มีผ้าห่มสำรองเลยหรอ ต้องแย่งกันอยู่ได้ อิอิ


โดย: sakeena IP: 124.120.216.24 วันที่: 26 ธันวาคม 2556 เวลา:9:04:34 น.  

 
ก็เขาอยากจะแย่งผ้ากันน่ะตัว อิอิ


โดย: พี่หมูน้อย IP: 49.49.39.177 วันที่: 29 ธันวาคม 2556 เวลา:3:21:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ใยไหมเจ้าค่ะ
Location :
เลย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




โลกแห่งนิยายมีทุกอย่างให้นึกคิด เป็นอีกคนที่ชอบจินตนาการไปพร้อมๆ กับบทประพันธ์ ใยไหม...คือนามปากกาที่ได้มาจากสิ่งที่เห็น รังไหมสีเหลืองทองรูปร่างเรียวรีสะดุดตาเข้าเต็มเปา...
เจ้าขนปุย...คืออีกหนึ่งความรักที่มาจากใจ

 งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี (นี่ไม่ใช่คำเตือน แต่...ขอร้อง...)


Google
Friends' blogs
[Add ใยไหมเจ้าค่ะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.