Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
29 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
พ่ายพรหมลิขิต ตอนที่ 12

12

ธนดลมองลงไปหน้าบ้านเขาย่นคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นรถที่ยกให้ภรรยาใช้แล่นเข้ามาจอดในโรงรถเร็วกว่าเมื่อวานเมื่อวานกลับซะดึกวันนี้กลับกลับแต่หัววันเขาลุกจากโต๊ะทำงานซึ่งมีกองเอกสารกองเต็มโต๊ะเดินออกไปนอกชานหัวคิ้วคนช่างสังเกตย่นเข้าหากันมากกว่าเดิมเมื่อเห็นใบหน้าอ่อนเยาว์บึ้งตึงงอง้ำยิ่งกว่าม้าหมากรุกเขามองตามจากนอกชานจนพลับพลึงเดินเข้าห้องไปถึงได้กลับไปที่โต๊ะทำงานแต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำงานต่อแม่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับโทรศัพท์บ้านไร้สาย

“คุณดลคะโทรศัพท์ค่ะ”

“ใคร”

“คุณนายค่ะ”

ธนดลถอนหายใจแรงก่อนรับโทรศัพท์จากแม่บ้านแล้วพยักหน้าให้ออกไป

“ครับแม่”

“ดลหรือลูกเป็นไงบ้าง”

ชายหนุ่มแค่นยิ้มเป็นไงบ้างของแม่คงอยากรู้ว่าเขาได้เข้าหอกับภรรยาหรือยัง

“ก็ดีครับได้งาน นี่ผมก็ว่าจะเข้าไปดูสาขาที่เชียงใหม่เหมือนกัน”

“งั้นหรือแล้ว...”

“ถ้าแม่หมายถึงภรรยาของผมละก็ไม่ต้องห่วงไปหรอกครับ”

ยิ่งนึกถึงผมสั้นซอยของสถาปนิกสาวก็ยิ่งทำให้ขัดใจเธอมีอะไรที่ไม่ใช่สเปคเขาหลายอย่าง

“ได้ยินแบบนี้แม่ก็ดีใจแม่ยิ่งกลัวแม่นั่นจะยั่วลูก”

ธนดลไม่ได้ตอบโต้เขายังนิ่งฟังต่อว่าแม่จะมีเรื่องอะไรจะคุยต่อ

“แม่ได้ยินพ่อบอกว่าที่เชียงใหม่ค่อนข้างมีปัญหาอีกอย่างช่วงนี้ลูกก็ลาพักผ่อนด้วยแม่เลยคิดว่าลูกน่าจะมีเลขาฯซักคน”

ธนดลรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในถ้อยคำนั้นแต่ก็เดาไม่ออกว่าแม่จะมาไม้ไหน

“ผมก็มีเลขาฯอยู่แล้วนี่ครับ”

เลขาฯของเขาคอยรายงานความเป็นไปอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

“อ้อสายฝนนะหรือ แต่สายฝนอยู่กรุงเทพฯจะใช้งานได้สะดวกได้ยังไง”

“ที่นี่ผมไม่ต้องมีเลขาฯก็ได้ครับ อีกอย่างผมมีคุณนพคอยช่วยงานอยู่แล้วแม่ไม่ต้องห่วง ผมรู้นะว่าแม่คิดอะไรอยู่แค่น้อยคนเดียวแม่ยังไม่ไว้ใจอีกหรือครับ”

ธนดลดักคออย่างรู้ทันมารดาว่ากำลังคิดทำอะไรอยู่กะจะให้เลขาฯมาประจำที่นี่เพื่อดูความเป็นไปของเขากับภรรยานะสิ

“ไม่ใช่แม่ไม่ไว้ใจเรานะตาดลแต่แม่ไม่ไว้ใจแม่นั่นต่างหาก”

“ยิ่งไม่ต้องห่วงเลยครับคนนี้รับรองเธอไม่เข้าหาผมแน่นอน”ธนดลยิ้มเยาะ ภรรยาจำยอมอยากหย่ากับเขาใจจะขาดแต่ละวันหากเป็นไปได้หาโอกาสหลบหน้าหลบตาตลอด

“เอ่อแม่ครับ ผมมีงานต้องทำเอาไว้คุยกันใหม่นะครับแม่ทำใจให้สบายเถอะเสร็จงานผมหย่ากับเธอแน่นอน”ลูกชายยืนยันหนักแน่นเพื่อตัดบทก่อนที่ภรรยาจะเข้ามาได้ยิน

ข่าวในวงสังคมก็เหมือนไฟวูบหนึ่งสว่างไสวเพียงชั่วครู่ก็มอดดับไร้ซึ่งคนสนใจเพียงแค่รอเวลาซักหน่อยเท่านั้นธนดลถอนหายใจ การแต่งงานของเขาก็เช่นกันหนึ่งปีก็คงซา ไม่มีใครสนใจต่อให้มีการหย่าร้างก็คงเป็นขี้ปากสังคมน้อยกว่าการยกเลิกงานแต่งงานชายหนุ่มยืนครุ่นคิดถึงเรื่องงานยกโทรศัพท์ที่อยู่ในมือขึ้นถูปลายคาง

“อุ๊ย...ขอโทษค่ะ”

พลับพลึงอุทานเมื่อเดินทะเล่อทะล่าออกมารบกวนคนครุ่นคิดอะไรซักอย่างอยู่ ธนดลเอี้ยวตัวไปมอง

“ไม่เป็นไรวันนี้ทำไมกลับเร็ว”

“อ๋องานเสร็จเร็วค่ะฉันขอลงไปเดินเล่นข้างล่างก่อนนะ”

“ไปด้วยกันสิผมเองก็อยากพัก”

พลับพลึงเลิกคิ้ว

“หรือไม่ได้มีเพื่อนเดินเล่นจะได้ไม่เหงาอีกอย่างเราควรจะทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้”

“ไม่จำเป็นมั้งคะฉันว่าเราอย่ารู้จักกันลึกซึ้งจะดีกว่าเพราะยังไงเราสองคนก็ต้องหย่ากันอยู่แล้ว”

“แต่นั่นมันอีกตั้งหนึ่งปีผมไม่อยากอยู่กับคุณด้วยความอึดอัดใจเนินเขาด้านโน้นสวย”

ธนดลชวนแล้วเดินผ่านหน้าพลับพลึงไปทำให้หญิงสาวต้องออกตัวเดินตาม

บรรยากาศท่ามกลางแสงแดดของบ่ายแก่ๆมีลมหนาวพัดเอื่อยๆพอกลบเกลื่อนความร้อนของแสงแดดยามนี้ได้มากไม่นานเมฆก้อนใหญ่ก็เคลื่อนตัวเข้ามาปิดบังแสงแดดยามบ่ายเสียมิดพลอยทำให้ลมหนาวทำงานได้เต็มที่พลับพลึงที่สวมเพียงเสื้อคลุมตัวบางเธอเปลี่ยนเสื้อคลุมตัวใหม่เมื่อออกจากห้องพักนี่เองถึงตอนนี้ทำให้นึกถึงเสื้อคุลมตัวหนาที่ใส่ขึ้นดอยไปเมื่อเช้าแต่ก็ยังพอทนไหวโดยยกมือสองข้างขึ้นกอดตัวเอง

“เมื่อคืนผมได้ยินคุณคุยโทรศัพท์”ธนดลเปิดประเด็น

พลับพลึงเงยหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าชายหนุ่มซึ่งเดินข้างๆเพื่อตำหนิเพราะเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมากที่ทำอย่างนั้นแต่เขาก็แก้ตัว

“ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังแค่ผ่านไปได้ยินเข้า”

“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ”

“ผมรอให้คุณถามแต่คุณก็เงียบเหมือนไม่ใส่ใจ”

ใช่ว่าพลับพลึงไม่ใส่ใจอย่างที่เขาว่าแต่เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นคำถามอย่างไรมากกว่า

“ถ้าฉันถามคุณจะมีคำตอบให้ฉันหรือเปล่าละ”

“ผมบอกได้แค่ว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยเร็วๆนี้”

ถ้าเรื่องที่ตกลงกับกิตติจะเรียบร้อยเช่นกัน

“ถ้าคุณรับปากอย่างนี้ฉันก็เบาใจฉันจะได้ตอบป้าได้อ้อ คุณดล ฉันมีเรื่องอยากจะถามอีกเรื่อง”

“เรื่องอะไร”

แล้วธนดลก็เดินไปนั่งที่ก้อนหินก้อนใหญ่ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ๆลำธารเขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่หยุดเดินห่างจากตัวเขาพอสมควร

“เรื่องพิมพ์”

ความผ่อนคลายที่กำลังเกิดขึ้นกับธนดลมลายหายไปโดยพลันเมื่อได้ยินชื่อของหญิงสาวเจ้าปัญหาเขาเมินหน้าหนีอย่างระอาเพราะไม่นึกว่าชื่อนี้จะยังมีผลอะไร

“พิมพ์พรรณทำไม”

“ฉันอยากรู้ว่าคุณยังอยากจะแต่งงานกับพิมพ์อยู่อีกหรือเปล่า”

“ถามทำไม”

“ฉันก็แค่อยากรู้”

“งั้นผมก็จะตอบตามจริงไม่”

“แล้วคุณต้องการแต่งงานกับพิมพ์ทำไม”พลับพลึงรู้สึกโกรธธนดลขึ้นมา

“ทำไมผมต้องบอกคุณ”เขายังทำหน้าเรียบไม่เดือดร้อนธนดลลุกจากก้อนหินแล้วเดินเข้าไปหาเจ้าของคำถามมากมาย“ไหนคุณบอกว่าเราไม่ควรรู้จักกันมากนักไงล่ะเพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว”

“ฉันก็ไม่ได้อยากรู้ซักเท่าไหร่หรอกที่ฉันถามก็เผื่อว่าวันหนึ่งพิมพ์กลับมาแล้วคุณจะทำยังไงกับน้องสาวฉันเท่านั้น”

“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรในเมื่อเรื่องของผมกับพิมพ์พรรณมันจบไปแล้วคำตอบเท่านี้คุณคงจะพอใจแล้วนะ”

“คุณคิดแบบนั้นจริงๆหรือ”

ธนดลพยักหน้าการแต่งงานระหว่างเขากับพิมพ์พรรณก็ไม่ต่างอะไรกับที่เขาแต่งงานกัพลับพลึงนั่นเพราะเรื่องของ ‘ธุรกิจ’

“พอใจมากเลยล่ะค่ะ”

พลับพลึงโล่งใจเมื่อรู้อย่างนี้เธอจะได้หาทางพาพิมพ์พรรณกลับมาให้เร็วที่สุด

“ขอบคุณนะคะที่ไม่โกรธพิมพ์”

“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกผมไม่ได้ทำอะไรมาก”

พลับพลึงยิ้มมองสบตาเขาอย่างลืมตัวดวงตาคู่คมเองก็มองเธอแปลกไปชื่นชม เย้ยเยาะ ในบางวูบก็เหมือนจะอ่อนโยนหรือบางวูบก็ปนเศร้าเหมือนคนมีความในใจผู้ชายคนนี้ช่างมีหลายมุมเสียจริง

“อากาศเริ่มเย็นแล้วฉันว่าฉันขึ้นบ้านก่อนดีกว่า”

โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบตกลงพลับพลึงก็เดินนำหน้าขึ้นบ้านโดยไม่สนใจว่าธนดลจะตามขึ้นมาด้วยหรือไม่และธนดลก็เลือกที่จะอยู่ตรงนั้นต่อเพียงแค่พลับพลึงก้าวเข้าไปในห้องนอนเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่หัวเตียงก็ดังขึ้นพอดีพลับพลึงเดินไปหยิบและรับสาย

“ค่ะคุณต้น”

“พลับคุณคาร์เวลคอมเม้นต์กลับมาแล้วนะว่าให้ยึดตามแบบเดิมไม่ต้องแก้ไขอะไรแล้วเขาพอใจมาก แปลกนะก่อนหน้านี้ยังตินั่นตินี่อยู่เลย ฟังอยู่หรือเปล่าพลับ”ตระการเรียกเมื่อปลายสายเงียบไป

“ค่ะฟังอยู่ค่ะ”

“คงคาดไม่ถึงละสิพี่ดีใจนะ งานจะได้เดินหน้าได้ซะทีเฮ้อ...”ตระการแสดงความโล่งอก“แล้วพลับจะไปรับแบบเองหรือว่าจะให้คนงานไปรับล่ะ”ตระการเอ่ยถามเมื่อรู้จากลูกน้องสาวว่าได้ทิ้งแบบไว้ให้ลูกค้าที่บ้าน

“พลับว่าพลับไปรับเองดีกว่า”

“อืมก็ดีนะ จะได้ทำความคุ้นเคยและขอบคุณคุณคาร์เวลด้วย”

แน่นอนเธอจะต้องทำความรู้จักกับลูกค้าคนนี้แน่นอนหลังจากวางสายจากตระการพลับพลึงก็ออกจากห้องเธอมองไปยังมุมทำงานของธนดลแล้วเบือนหน้าหนีอย่างไม่อยากสนใจแต่แล้วก็ต้องหันกลับไปให้ความสนใจเมื่อมีบุคคลหนึ่งก้าวเข้าไปหาเขา


พลับพลึงนั่งเคาะโต๊ะทำงานซึ่งเธอจัดแจงมุมหนึ่งใกล้ๆระเบียงให้เป็นมุมส่วนตัวเพื่อจะได้ไม่ต้องรบกวนเวลานอนของธนดลซึ่งเขาไม่ชอบเปิดไฟนอนบวกกับเธอเป็นคนนอนดึกจึงอยากมีมุมซักมุมเป็นมุมส่วนตัวเธอนั่งนึกถึงสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ก็ทำให้รู้สึกกลัวแทนชายหนุ่มไม่นึกว่าคนอย่างธนดลจะมีมุมที่ต้องระแวดระวังแบบนี้ด้วย

“น้อยจ๊ะ”พลับพลึงเรียกแม่บ้านไว้เมื่อแม่บ้านเดินผ่านมา

“คะ”แม่บ้านตอบรับแล้วเดินเข้ามาหา

“ฉันถามอะไรหน่อยสิเอ่อ...น้อยรู้จักผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า”

“ผู้ชาย...”น้อยนึกคิดแล้วย้อนถาม“ผู้ชายคนไหนคะ”

“ก็คนที่มาหาคุณดลไง”

“ไม่รู้จักหรอกค่ะเวลาคุยเรื่องงานคุณดลไม่ชอบให้ใครแอบฟัง”

พลับพลึงหน้าเสียเพราะน้ำเสียงและสีหน้าของแม่บ้านนั้นต่อว่าเธอกรายๆว่า 'ไม่ควรยุ่งเรื่องคนอื่น'อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆพลับพลึงเอ๊ย...

“งั้นหรือขอบใจนะ”

พลับพลึงฝืนยิ้มแล้วพยักหน้าให้สาวใช้ไปได้ส่วนตัวเองก็นั่งหน้าร้อนผ่าวๆอยู่ตรงนั้นอย่างเซ็งๆอยู่ดีไม่ว่าดีก็หาเรื่องให้ตัวเองถูกแขวะ

น้อยเดินยิ้มสะใจที่ทำให้เจ้านายสาวรู้สึกอายจนหน้าเสียได้น้อยหันกลับไปเบ้ปากเมื่อเดินออกมาห่างพอสมควรยอมรับว่าไม่ชอบหญิงสาวคนนี้เลยเพราะดูอย่างไรก็ไม่เหมาะสมกับเจ้านายหนุ่มหากจะพูดให้ถูกหล่อนได้มอบความภักดีให้หญิงสาวคนหนึ่งไปแล้วและมีความหวังว่าหญิงสาวผู้นั้นจะได้มาเป็นภรรยาของเจ้านายเพราะทั้งอ่อนหวานมีน้ำใจ ใจดีมากมาเมื่อใดจะต้องมีของฝากมาฝากเสมอๆแต่เพียงไม่นานเจ้านายหนุ่มก็เปลี่ยนใจไปคว้าใครก็ไม่รู้ท่าทางกระโดกกระเดกแถมยังชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านมาเป็นภรรยาหล่อนจึงไม่อาจจะยอมรับหญิงสาวผมสั้นมาเป็นเจ้านายได้

ว่าแต่คุณรวิดาคนสวยหายไปไหนนะ


***********

แหะ แหะ จะพยายามมาลงทุกอาทิตย์ค่ะ




Create Date : 29 กรกฎาคม 2557
Last Update : 29 กรกฎาคม 2557 8:48:55 น. 1 comments
Counter : 1021 Pageviews.

 
มีเหตุผลคะ


โดย: wan IP: 171.4.194.64 วันที่: 29 กรกฎาคม 2557 เวลา:19:36:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ใยไหมเจ้าค่ะ
Location :
เลย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




โลกแห่งนิยายมีทุกอย่างให้นึกคิด เป็นอีกคนที่ชอบจินตนาการไปพร้อมๆ กับบทประพันธ์ ใยไหม...คือนามปากกาที่ได้มาจากสิ่งที่เห็น รังไหมสีเหลืองทองรูปร่างเรียวรีสะดุดตาเข้าเต็มเปา...
เจ้าขนปุย...คืออีกหนึ่งความรักที่มาจากใจ

 งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี (นี่ไม่ใช่คำเตือน แต่...ขอร้อง...)


Google
Friends' blogs
[Add ใยไหมเจ้าค่ะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.