อาภรณ์ประดับใจ

วันนี้ขวัญเอาเรื่องดีๆ
ผ่อนคลายสมองมาให้ฟังดีกว่านะ


จากหนังสือของ อ.วศิน อินทสระ
เรื่องอาภรณ์ประดับใจ .....เอาท่อนนี้ก่อนล่ะกัน
ขวัญว่าเป็นมุมมองสอนหญิงและสอนทุกๆคนได้ดีทีเดียว

ขวัญจะถอดความมาให้ฟังนะคะ

ท่านว่าผู้หญิงบางคนวางท่าเฉิดฉาย

แต่งกายโดยเสื้อผ้าแพรพรรณราคาแพงๆ

แต่ไม่สนใจที่จะวางตัวให้น่ารักใคร่ วางใจให้น่าชื่นชม

หญิงเช่นนี้ ย่อมสู้สตรีที่แต่งกายแต่พอเรียบร้อย สุภาพ

แต่เป็นผู้มากไปด้วยความกรุณา

มีแววตาส่อความปราณีไม่ได้ จริงไหมคะ

แววตาที่อ่อนโยน กิริยาที่สุภาพ วาจาที่อ่อนหวาน

และใจที่เปี่ยมด้วยพรหมวิหารนั้น


(รู้ไหมล่ะว่ามีอะไรบ้าง....โอเค ก็ เมตตา
กรุณา มุทิตา อุเบกขาไง วันหน้าจะทะยอยเล่าให้ฟังนะ)


สิ่งเหล่านี้ เป็นเสน่ห์ดึงดูดคนทั้งหลายให้รักใคร่ เคารพยำเกรงไม่จืดจาง

เป็นเสมือนที่ลาดลุ่มและร่องลึกเป็นที่ไหลมาแห่งน้ำ
ดังนั้นนะคะ
แม้เราจะค่อนข้างยากจนทางทรัพย์สิน แต่ขอให้เราไม่จนความดี

ถึงเราจะไม่มีเกียรติ(อย่างปลอมๆ)ในสังคม

แต่ขอให้เราล่องลอยอยู่ท่ามกลางแสงสว่าง

รุ่งโรจน์แห่งปัญญาและสติตรึกตรอง


(ขวัญมีความเห็นว่าบ้านของทุกคนน่าจะมีหนังสือธรรมะ

ตำราเกี่ยวกับภูมิธรรม และตำราเสริมสร้างภูมิปัญญา

ไม่ว่ายากดีมีจนเพียงใด...หวังว่าเพื่อนๆคงมีกันทุกคนนะคะ)



ขวัญน่ะเห็นมานักต่อนักแล้ว....บ้านที่พ่อแม่ไม่ใส่ใจในธรรมะ

แม้หนังสือธรรมมะสักเล่มยังไม่มีเลย แล้วยังไม่ประพฤติธรรมอีกต่างหาก

บ้านเขาจะไม่มีความสุข เพราะชอบบ่น ชอบด่ากัน ชอบว่ากัน

อะไรนิดก็เป็นฟืนป็นไฟ เรื่องเล็กนิดเดียวกลายเป็นเรื่องใหญ่


ถ้าหัวหน้าครอบครัวปฎิบัติดีเนี่ยนะ มีใจสงบเยือกเย็น มีเมตตาปราณี


สั่งสอนลูกหลานด้วยเหตุผล ชี้ผิดชี้ถูกให้เห็น

ภาพนั้นจะเป็นภาพยั่งยืนอยู่ในหัวใจของลูกไปจนเค้าเติบใหญ่
และเมื่อเขาเติบใหญ่ เค้าก็จะเก็บสิ่งที่พ่อแม่ทำไว้

คอยเตือนระแวดระวังชีวิตครอบครัวของตนเองต่อไป


(เชื่อเถอะ คนเรานะไม่ลืมกันง่ายๆหรอก

ความทรงจำที่ดีนึกถึงที่ไรก็ยิ้มได้ทุกที จริงไหมคะ)

สังคมของเราที่วุ่นวายกันอยู่เวลานี้
ต้องมีความผิดขั้นมูลฐานอยู่อย่างแน่นอน

เหมือนมะเร็งที่กินลึกๆ มองภายนอกไม่เห็น

แต่ทำให้คนเป็นมะเร็งอ่อนแรงลงๆ
และความผิดนั้น คือคนไม่ประพฤติธรรม
ให้เหมาะสมแก่ฐานะของตนนั้นเอง...

ขวัญว่าการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ผิดวิธีนั้น

(อันนี้เกี่อบทุกประเทศที่เป็นทุนนิยมเลยที่เป็น)

ผลที่ออกมาคือ คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนยิ่งจนหนักลง

โครงสร้างแห่งสังคมสั่นคลอน คนในสังคมรู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบ


ไม่ได้รับความเป็นธรรม เป็นสังคมพิการ

ดังนั้นในการเรียน การวางตัว หรือการใดๆก็ตาม ขอเพียงเราอย่างประมาท

ความประมาทคือการ วางใจ นอนใจ ไม่เป็นไรๆ แต่พอมันเป็นไรขึ้นมาแล้วก็สายเกินแก้

บางคนนอนใจ พอใจที่จะหาเงินใช้เงินไปวันๆ

ไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบ สร้างตน สร้างฐานะ

เกิดเจ็บป่วยพลาดพลั้ง พิกลพิการขึ้นมา จะหันหน้าไปพึ่งใคร

เป็นภาระให้สังคมไปอีก...อย่าประมาทนะเพื่อนๆ


ส่วนในการวางตัวต่อเพื่อนฝูงนั้น อย่าให้สูงเกินเดียวเขาจะหมั่นไส้
อย่าวางตัวต่ำเกินเดี๋ยวเขาจะดูหมิ่น ขอให้พอดีๆ


ส่วนกับวางตัวกับผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์นั้น
ขอให้อ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้ ดั่งท่านว่า

พึ่งเอาชนะผู้สูงศักดิ์ด้วยอ่อนน้อม
พึ่งเอาชนะผู้ต่ำต้อยด้วยความสงเคราะห์เอื้อเฟื้อ
พึงเอาชนะผู้เสมอ ด้วยความเพียรพยายาม
พึงเอาชนะผู้แกล้วกล้ากลุ่มก้อนอันยิ่งใหญ่
ด้วยการยุให้แตกความสามัคคีสิ่งที่บอกมานั้น วกกลับไปตรงที่ว่า

อยากให้ทุกคนมีหนังสือธรมะติดครอบครัว

หรือหนังสือดีๆให้แง่คิดให้ความรู้ทั้งหลายแหล่ ถ้าพกติดตัวได้ก็ดี

ว่างปุ๊บก็หยิบมาอ่าน ( ตอนขวัญไปรอสัมภาษณ์

ที่สถานฑุตล่าสุดก็ที่อเมริกาที่ว่าขอยากหนักหนา

ขวัญเห็นคิวว่าอีกประมาณ50คนได้โน่น ถึงจะถึงคิวขวัญ ก็นี่เลย

หยิบหนังสือธรรมะมานั่งอ่าน อ่านแล้วมันจะนิ่ง จะเย็น

จะดูสุขุม(หรือเปล่าหว่า) และมีแววแห่งสุขฉายอยู่ที่ตา(มั้ง)ไม่รู้สิ


แต่อยู่ๆ สถานฑูตก็ลัดคิวให้ขวัญเฉยเลย

คืออีกกว่า30คนน่ะตอนที่รอ

อยู่ๆก็กระโดดมาเป็นเลขเบอร์ขวัญ คนทั้งห้องก็งงว่าเลขกระโดดมาได้ไง

ขวัญก็งงๆเอ๋อๆ ว่ามาจากไหนเนี่ย เดินแบบงงๆเข้าไปที่ช่องฝรั่ง


(ทั้งๆที่ขวัญขอสัมภาษณ์กับคนไทยนะ...คือตอนนี้ที่สถานฑูตน่ะ
ให้เลือกได้ว่าจะขอสัมภาษณ์กับคนไทยหรือกับฝรั่งซึ่งคนไทยจะมีอยู่ประมาณ2ช่องนอกนั้นเป็นฝรั่งหมดเลย)

พอเข้าไปปุ๊บ

เขาถามว่าไปทำอะไร ขวัญก็บอกว่าไปเที่ยว

แล้วก็ถามว่าเพลงที่จัด(ดีเจน่ะ)เป็นเพลงแบบไหน เราบอกเป็นเพลงเก่าน่ะ
ขอบอกว่าถามแค่นี้จริงๆ แล้วเขาก็ให้วีซ่า 10ปีมาเลย

และขวัญก็ทำแบบนี้กับสถานฑูตอังกฤษเหมือนกัน

ถาม2คำก็ให้เลย ไม่ถึง10วินาทีเลย

มีการบอกว่า ชื่อเก่าเพราะอยู่แล้วไปเปลี่ยนชื่อทำไมอีกแน่ะ
ไม่ได้ตั้งใจว่าเป็นทริคนะ


แต่รู้ว่ารอสัมภาษณ์นานไง ก็เอาหนังสือธรรมะไปอ่านรอเวลา
แล้ววีซ่าขวัญก็ผ่านทุกที่ๆไปเลย


โอเค เปลี่ยนเรื่องกลับมาต่อเรื่องเดิม

ขวัญว่าชีวิตเราน่ะต้องหมั่นอ่านหนังสือดีๆ หมั่นบันทึกจดจำ


เพราะการอ่านมาก ทำให้กว้างขวาง

การเขียนทำให้แม่นยำ

การหมั่นตรึกตรองขบคิด ทำให้รู้ลึกซึ้ง

ตอนเรียนเราจำได้ป่าวว่านั่งบ่นเบื่อวิชานี้จัง

วิชานั้นหน่วยกิจน้อยไม่จำเป็นต้องไปก็ได้ ไม่ลงดีกว่า

แต่เชื่อเถอะว่าทุกวิชาทำให้เราเป็นเราจนทุกวันนี้ได้(เป็นคนดีด้วย)

เพราะเราเก็บเอาคุณของวิชานั้นๆมาใช้ดำเนินชีวิตของเรา

วิชาประวัติศาสตร์ทำให้เรารอบรู้ เพิ่มพูนไหวพริบ

วิชาวรรณกรรมหรือดนตรีศิลปะ ทำให้หลักแหลม อ่อนโยน และรื่นรมย์..

.คณิตศาสตร์ทำให้เป็นคนละเอียดถี่ถ้วน ....

ปรัชญา ทำให้เป็นคนเข้าใจความจริงต่างๆ อย่างลึกซึ้ง กว้างขวาง

ทำให้เป็นคนใจกว้างไปด้วย ....

ตรรกศาสตร์ ทำให้พูด คิด อ่านมีเหตุผล

ภาษาศาสตร์ ทำให้เรารอบรู้ในด้านที่แตกต่าง


จริยธรรมและศีลธรรม ช่วยอบรมให้เราเป็นคนดี

---

และอีกหลายๆวิชา....
เห็นไหมล่ะว่า ในแต่ละวิชามีคุณของมันอยู่

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชาศาสนาและศีลธรรมนั้นคะแนนสอบน้อยก็จริง

แต่คนทั้งหลายคอยให้คะแนนเราอยู่ตลอดเวลา แต่ตลอดชีวิตด้วย

และจำเป็นชนิดขาดไม่ได้ทีเดียว อย่าให้คนต่างชาติเขาดูถูกเราได้นะคะ

ว่ามีศาสนาที่ดีแล้ว มีคำสอนที่ดีแล้ว ไม่รู้จักสนใจนำเอาคำสอนมาใช้ในชีวิต

เมื่อยนิ้วแล้วล่ะ ไว้วันหลังขวัญจะพิมพ์มาให้อ่านอีกนะเพื่อน

ขอจบด้วยข้อเขียนของ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ว่า

เสียแรงที่มีรัตนาจำนวนสาม แต่เหมือนไก่ไม่นิยมชมของงาม

มัวตะกละตะกลามหาของกิน

หมายความว่าการศึกษาที่จัดอยู่ พาไปสู่อาชีพเสียทั้งสิ้น

ปริญญาท่วมท้นล้นแผ่นดิน แต่ขาดศีลขาดธรรมประจำตัว ปล. ขวัญมีเวปที่เข้าบ่อยๆ ให้เพื่อนๆลองเข้าไปดู น่าจะชอบ

น่าจะทำให้เกิดสุขในใจเพื่อนมากขึ้นมากขึ้น ลองเข้าไปดูนะ

//www.drungtrin.com รวมงานเขียนของเขา พร้อมไฟล์เสียงโหลดฟัง

บางเล่มไม่มีในท้องตลาด ซึ่งเป็นงานรวมข้อเขียนของเขา

แต่ถ้าอยากได้ต้องไปที่ห้องสมุดบาบาน่า

www.larndham.net ธรรมะ แง่คิดดีๆ ข่าวเกี่ยวกับธรรมะทั้งหมด

www.cddhamma.com เป็นซีดีแจกฟรี ที่ต้องการเผยแพร่คำสอน
ของพระพุทธเจ้า อยากได้อะไรล่ะ หนังสือธรรมะ ซีดีธรรมะ
ไฟล์เสียงทั้งหมด เพลงธรรมะ

เวปนี้มีหมดจ้า ที่สำคัญให้ฟรีด้วย

แต่ถ้าใครอยากจะทำบุญก็คลิกไปเลย เพราะเงินที่เราทำ

เขาก็เอามาทำหนังสือ ทำซีดีแจกคนที่ขอมาอีกที

ก็คือที่แจกๆแย่ก็เงินทำบุญเอามาทำทั้งนั้นแหละจ้า

www.dhammajak.net ธรรมะ ทั้งลึกทั้งซึ้ง ดีมากๆเหมือนกัน

ส่วนอีกทีนะ คนที่อยู่กรุงเทพ ว่างก็แวะไปนะ

ชื่อเดิมชื่อห้องสมุดบานาน่า แต่

ชื่อใหม่ชื่อบานาน่าเฉยๆ หรือเรียกว่าบ้านอารีย์ก็ได้

(อยู่ในซอยอารีย์ ตรงสำนักงานเขตพญาไท)

เข้าซอยอารีย์ไปเลี้ยวซ้ายมือซอยแรกเลย

เราสามารถรับหนังสือซีดีธรรมะฟรีได้ที่นี่ ขอได้มากไม่จำกัด

มีทำวัตรเช้าเย็น มีห้องสมุดธรรมะ

เสาร์อาทิตย์มีพระมาเทศนา และมีโรงทาน ทุกวันพระ

มีกิจกรรมดีๆเต็มไปหมดเลย อยากไปกราบพระ นั่งสมาธิก็มีให้

มีคอร์สเรียน โยคะ ดนตรี ศิลปะ มีสปา อาหารชีวจิตเอาเป็นว่า

เป็นอีกที่หนึ่งที่ดีๆในสังคมเมืองก็ละกัน ลองไปดูนะ โทร 02-2797838

ถ้าไม่แน่ใจ เข้าgoogle แล้วพิมพ์คำว่าห้องสมุดบานาน่าดูก็ได้

ปล. ใครที่มีmp3/ipod ก็ได้นะ

เราสามารถโหลดไฟร์เสียงมาเก็บในเครื่องแล้วเอาเข้าmp3อีกที


เราก็จะมีธรรมะฟังตลอดเวลาแล้วค่ะ

ที่เครื่องขวัญน่ะมีดังตฤณอยู่4ตอนได้ พอว่างๆ ก็เปิดฟังค่ะ)


ขวัญค่ะ

 

Create Date : 23 เมษายน 2551		1 comments
Last Update : 5 พฤษภาคม 2551 18:06:12 น.
Counter : 1222 Pageviews.
Share Tweet