Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
บทความ ข้อเขียน
กลอนรักกล่อมโลก
กล่อมด้วยเสียงเพลง
บทความท่องเที่ยว
<<
พฤษภาคม 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
29 พฤษภาคม 2552
+++ เสียงเรไรหริ่งเร้า...ราวจะกล่อมแผ่นดิน!!!!
All Blogs
เพลงโปรดที่ชอบมาก "การคอยที่ไร้ค่า" สุเทพ วงศ์กำแหง
ส่งต่อความรัก
ประวัติเพลง "เรือนแพ" พร้อมภาพวันแถลงข่าวงาน "ที่นี่มีรัก...ที่นี่มีเพลง"
!!!!!++ก่อนจะเปลี่ยนมือถือใหม่++++อยากให้อ่านข้อเขียนตรงนี้สักนิด !!!!
+++ เสียงเรไรหริ่งเร้า...ราวจะกล่อมแผ่นดิน!!!!
ตำรายาแก้ตับอักเสบ หรือไวรัสตับทุกชนิด จาก พระราชวังพญาไท
ความฮาแบบนรกถามหา เมื่อ"เปิ้ล" ป๊ะ "พระมหาสมปอง"
เธอเดินจากไป ในขณะหัวใจพร่ำบอกรัก!!!(พร้อมแปลอังกฤษค่ะ)
มันคงผิดมาแต่ต้น....
ดอกบัวแทนค่าความเป็นพุทธ...หยุดความรุนแรงโหดร้าย
เพลงจะได้ไม่ลืมกัน แด่พี่ตุ๊กค่ะ
Self Healing รู้รักษาตัว
แล้วก็ถึงวันจันทร์ดับ-เพลงแรมพิศวาท มอบแด่ ปอ ป้าค่ะ
พระจันทร์ในใจ
เหตุเกิดในใจ
เราอยู่บนโลกกว้าง...มีป้ายบอกทางเพียงน้อยนิด
!!! พระธาตุทั้ง +8+ที่..นครพนม...
ให้กับความเป็น "เพื่อน"ที่ "เฉือน / เชือด"
ถ้าคนสองคนรักกันจริง
ประกาศเพิกถอนยา
ข้อคิดดีๆค่ะ
เพราะความรักที่ปราศจากความเชื่อใจ ก็มิต่างอะไร กับการทรยศหัวใจตนเอง
จะอยู่ในที่หัวใจยังใฝ่หา
มอบให้กับ "รอยลวง" ที่ "ล่วงผ่าน"
ทว่าดำน้ำหลบสายฝน หรือจะช่วยให้คนพ้นเปียกปอน
......ฉันมีอะไรอยากจะบอกคุณ...
เรื่องน่าเศร้าของชีวิตมนุษย์ มิใช่การสูญเสียชีวิต แต่เป็นการสิ้นสูญความรัก
เธอที่รัก.....เธอเป็นใครในโลกใบนี้?
ปราสาทเขาพระวิหาร เรื่องจริงที่ไทยทุกคนควรต้องพิจารณา
มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ
คิดถึงเพ็ญศรี-รพีพร
หัวใจข้างแรมไม่อาจส่องทางให้ใคร
วิธีอยู่กับคนที่เราเกลียด ( โดยพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี )
จันทร์คืนวันวิสาขะ
2 ทศวรรษ นารายณ์ได้บรรทม (เบื้องหลังที่อยากให้ทุกคนรู้)
วิธีดู LOUIS VUITTON Murakami Multicolor ของแท้ค่ะ
!!!! 49จังหวัดเสี่ยงธรณีสูบ กทม มีเสียว !!!!
กระเป๋า Louis Vuitton แท้ ดูตรงไหนบ้าง
วิระ บำรุงศรี ตำรวจเสียงทอง ขวัญใจหมาจรจัด
เสียงปืนที่ไม่อยากให้เงียบหาย
เรื่องรักๆ.ที่มีคำตอบอยู่ในสายลม...
ข้อคิดดีๆ จาก พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี
เขียนไว้บนผืนทราย.....
สาวชิค(าโก)ทาวน์ เท้าคางเล่า
เมืองchicกับเมืองเทพ
ทรายในกำมือของคุณ
จากบทประพันธ์ของ ทมยันตี
เมื่อรักเราไม่ใช่ที่หนึ่ง
รอยลวง
ชีวิตนี้ พ่อก็ให้ หัวใจพ่อก็สร้าง
อาภรณ์ประดับใจ
โลกที่คุณไม่ให้ฉันไป
วันที่หัวใจ .บอกว่าไม่ไหวแล้ว
มือสีน้ำผึ้งในรอยจำ
ต้นไม้ของความรัก(ของขวัญ)
ค่ำคืนที่ต้องกลืนน้ำตา
ร่องรอยของความเหงาเมื่อเข้ามีนา
โลกร้ายของคนขาดรัก
อย่าให้มีรอยโศกในใจ
เพลงของความรัก
+++ เสียงเรไรหริ่งเร้า...ราวจะกล่อมแผ่นดิน!!!!
ฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงอดีตยุคที่เรายังเป็นแมงมุมสาวบ้าง
เป็นนินจาเดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ สติฟั่นเฟือน เลอะเลือนเพราะเธอปันใจ
จึงต้องเดินเรื่อยเปื่อยตากฝนอย่างไรจุดหมาย
......................
ท่ามกลางบรรยากาศดัวกล่าว
ใครสักคนที่กำลังอยู่ช่วงวัยของการสร้างตัวสร้างตน
พยายามหาเอกลักษณ์ของความเป็นตัวของตัวเอง
ที่มีทางเลือกอยู่ไม่กี่อย่าง.........
หนึ่ง คือหลอมรวมตัวเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรสนิยมหลัก
เพื่อความปลอดภัย
หรือไม่ก็ต้องประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์กับสิ่งที่เรียกว่า
รสนิยมกระแสหลัก กัoซึ่งๆหน้า
.............................................
ช่วงวัยตอนนั้น อะไรๆก็เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ได้เผื่อใจยั้งคิดหรอกว่า
แท้จริงแล้ว หาได้มีความจำเป็นอันใด
ต้องแสดงอาการเกี้ยวกราดเกลียดชังทุกอย่าง
ที่ไม่เข้ากับรสนิยมตนเอง เสียทุกเรื่องทุกครั้ง
................................................
เหมือนรสนิยมในการฟังเพลง ตามคำเบื้องต้น
ที่พอถึงช่วงวัย เรามองเพลง ฟังเพลง ร้องเพลง
ในฐานะเพลงธรรมดาๆเพลงหนึ่ง.......
เพลงธรรมดาที่ถูกผลิต และโด่งดังในช่วงยุค ช่วงสมัยหนึ่ง
คุณค่าของมันอาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงในแง่เพิ่มขึ้น หรือลดลง
ไม่ได้เปลี่ยนความชอบหรือความชังไปจากเดิม
.............................
สิ่งที่เปลี่ยนไปกลับอยู่ที่ตัวเราเอง
ที่เริ่มเรียนรู้ที่จะใช้สอยเครื่องมือเหล่านั้น
ในฐานะ เป็นเพลงธรรมดาๆเพลงหนึ่ง
ที่พาเราย้อนกลับไปดูสิ่งที่เคยเป็น
หรือข้อเท็จจริง และวิถีแต่ละยุคสมัย
.......................................
เพลงบางเพลง บางคนไม่ชอบ
เพราะรับทราบว่าลอกเลียนผู้อื่นมา หรือไม่มีความสร้างสรรค์
.................
แต่สำหรับใครสักคนที่ปลดเป้แล้ว
มันก็เป็นเพียงเสียง จังหวะ และท่วงทำนอง
ที่สอดเสนาะ ไพเราะกับสัมผัสทางโสตประสาท
แค่นี้ก็ถือได้ว่า ดนตรีได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว
..........................................
และแม้ว่าโสตทัศน์ของหู มีโอกาสได้ลิ้มลองเสียงอื่นๆ
ที่ดูเหมือนมีคุณภาพสูงกว่า จริงจังมากกว่า เสียงร้องมีเทคนิคมากกว่า
ดูเป็นคนมีรสนิยมดีกว่า หรือกระทั่งดัดจริตมากกว่า
.......................................
กว่า ทั้งหมดนี้ คือกว่ารสนิยมของคนหมู่มาก..ของผู้คนส่วนใหญ่
ที่เราหายใจหายคอรดร่วมในสังคมเดียวกันกับเขา
เมื่อบวกเข้ากับความเกลียดชัง ต่อสิ่งที่คิดต่าง
ก็ยิ่งสร้างเส้นคั่น อาณาบริเวณของตนเองหนาขึ้นๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
..................................
ในวัยหนึ่ง เรื่องแบบนี้อาจเป็นทั้งความทะเยอทะยานและความสุข
แต่ไม่นานเราจะพบว่า...............
ลำพังการสร้างอาณาจักรตัวเองให้สวยหรูอย่างเดียวดายนั้น
อาจไม่เพียงพอต่อการมีชีวิตอย่างร่มเย็นในระยะยาว
.............................
และทำให้เราต้องสร้างอะไรใหม่ๆ เพื่อพิสูจน์ผิดชอบชั่วดี
โง่ฉลาด สูงส่งต่ำต้อย โดยไม่รู้ปลายทางจะจบลงที่ใด
หรือใครจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายจากความเสียหายที่เกิดขึ้นบ้าง
..............................................
มีแต่ผู้ป่วย และผู้กระหายสงครามเท่านั้น
ที่จะมีความสุขกับชีวิตแบบนี้
............................................
และโดยมิรู้ตัว และไม่มีใครสามารถเตือนได้
เขาจะตายไปอย่างผู้ป่วยที่กระหายสงคราม
ที่มิต้องรอนับศพทหารก็มีคนถือดอกไม้จันทน์รอสาปส่งแล้ว !!!
แด่ใครคนหนึ่ง ซึ่งบังคับทุกคนที่อยู่
ในห้องคาราโอเกะนั้นว่า ห้ามร้องเพลง ชีวิตสัมพันธ์
เพียงเพราะว่า นักร้องหลากหลายที่ขับขานบทเพลงนี้
ไม่มีความจริงใจในการสร้างสรรค์สังคม
แด่ใครคนหนึ่ง ที่ด่าทอต่อว่า ตั้งตาดูถูก
ใครสักคนที่เรียนปริญญาโท ปริญญาเอก ด้านอื่นๆ
ที่ไม่ใช่รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ แพทย์ศาสตร์
เพียงเพราะ วิชาที่เขาเหล่านั้นเรียนไม่มีคุณค่าต่อสังคมระยะยาว
........................
คนๆนี้เป็นคนๆเดียวกับผู้ที่ทำตัวมีวุฒิภาวะสูง หวังอยู่ร่วมโดยสันติ
แต่แท้จริงแล้ว เป็นเพียงผู้ที่ประวิงเวลาการฆ่าฟันออกไป...ก็เท่านั้น!!!!
เพลงนี้ชื่อเพลงกล่อมแผ่นดิน.......
หวังจะกล่อมใจให้คลายจากจริตทั้งหลายทั้งปวง
ที่อยู่ในตัวตนเขาลงไปได้บ้าง
kwan
เพลง กล่อมแผ่นดิน ชาลี อินทรวิจิตร / นรอรรถ จันทร์กล่ำ
ตราบเวิ้งฟ้า โค้งรอบครอบแผ่นดิน
ดินมิเคยสิ้นแสงสุรีย์ฉาย ฟ้าบ่มีน้ำ ดินนั้นมีแต่ทราย
ลบมันให้เหือดหาย สลายไปที
ลมโบก ดอกฝนฝนหลั่ง กลิ่นพะยอมหอมฉ่ำ
ทุกยามย่ำเย็นบ้านเป็นอย่างนี้
ไร่นาสดใส ห่มพฤกษ์ไพรชั่วตาปี
เหม่อมองสายนที เอื่อยเอ่อรินไหล
นางแย้มเอยแย้มกลิ่น ประทินหอมแก้ม
เหมือนกลิ่นแก้มใครที่จากพรากไป
ยามเจ้าหม่นหมองใจ ใครเล่าจะซับน้ำตา
ไม่รู้เลยหรือว่า ที่แล้วมาใครโศกซม
ยินเสียงแผ่วของลม กระซิบใบไม้
ฟังเสียงแผ่วหัวใจกระซิบรักเธอ
โลกเอยสวยงามอย่างนี้ มีเธอมีฉัน มีแผ่นดินในฝันของเรา
ป่านนี้แล้ว ไร้วี่แววแก้วใจ
ไกลแสนไกล ตะวันใกล้ลับเหลี่ยมเขา
ระส่ำในเสียงซึงซึ้งใจแผ่วเบา
เสียงเรไรหริ่งเร้า...ราวจะกล่อมแผ่นดิน
ระส่ำในเสียงซึงซึ้งใจแผ่วเบา
เสียงเรไรหริ่งเร้า...ราวจะกล่อมแผ่นดิน ... ราวจะกล่อมแผ่นดิน
Create Date : 29 พฤษภาคม 2552
Last Update : 12 พฤษภาคม 2555 10:28:09 น.
2 comments
Counter : 1268 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาเยี่ยม...
มาถามข่าวคราว..ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เป็นห่วงและคิดถึงเสมอ...นะคะ
โดย:
พรหมญาณี
วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:31:56 น.
มาส่งเข้านอน...หลับฝันดี...นะคะ
โดย:
พรหมญาณี
วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:43:22 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
toyor
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [
?
]
Friends' blogs
คนสาธารณะ
diamon
เนเวอร์แลนด์
สดายุ...
พรหมญาณี
Webmaster - BlogGang
[Add toyor's blog to your web]
Links
สารคดี
วรรณคดี วรรณกรรมไทย
คลื่นอนุรักษ์ 104.75
นิตยสาร หมดปัญญา
ไทยไรท์เตอร์
ประภัสสร เสวิกุล
หนังสือไทยและหนังไทย รูม 2521
เพลงเพราะๆหวานๆ
ดนู ฮันตระกูล
รวบรวมข้อมูลเพลงไทยอันเป็นสมบัติของชาติ
บ้านคนรักสุนทราภรณ์
เว็บไซต์ศิลปะออนไลน์
เมโทรไลฟ์ คู่มือใช้ชีวิตของคนเมือง
นิตยสาร เมืองโบราณ
ศูนย์กิจกรรมเพื่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เว็บไซต์ของเสมสิกขาลัย
มูลนิธิโลกสีเขียว
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
ประชาไท
บ้านเพลงเก่า
6 ตุลา 2519
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
มาถามข่าวคราว..ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เป็นห่วงและคิดถึงเสมอ...นะคะ