คืนนี้ที่ชิคาโกฝนพราวเต็มฟ้า ตีหนึ่งแล้ว เสียงโทรศัพท์ดังแว่ว พ่อนั่นเอง โทรมาถามว่าลูกจะมาถึงวันไหน กี่โมงฉันถามท่านว่าอยากได้อะไรไหม จะได้ซื้อไปฝาก (แกล้งแหย่ท่าน ).พ่ออึกอักๆๆๆ บอกว่าไม่ต้องซื้ออะไรหรอกลูกฉันเลยกระเซ้า เอาแค่ลูกสาวสุดรักกลับมาก็พอใช่ไหม ท่ามกลางสายฝนร่วงริน หัวใจชุ่มชื่นไปด้วยรอยยิ้ม ..ฉันช่างโชคดีที่มีพ่อแม่ที่น่ารักเหลือเกินและโชคดียิ่งขึ้นไปใหญ่ ที่มีเพื่อนน่ารักๆมากมายทั้งที่ไทยและที่ชิคาโกเพื่อนหลายกลุ่ม เลี้ยงไล่ฉันคืนแล้วคืนเล่าทั้งๆที่อีกไม่กี่เดือนก็จะกลับมาใหม่อีกแล้ว .และเมื่อเห็นดวงหน้าที่ฉันรักเหล่านั้น .รอยยิ้มที่มีให้เสมอมา เสียงหัวเราะ ณ ช่วงเวลาแสนรื่นเริงของเราอยากจะบอกเหลือเกินว่า ขอบคุณทุกความรักและทุกรอยยิ้มเพราะรอยยิ้มของเธอ ไม่ได้เป็นเพียงของเธอ หากแต่ยังช่วยลบรอยโศกที่ยังติดแต้มอีกหลายดวงตานกน้อยในป่าใหญ่ อาศัยกิ่งไม้กิ่งเดียวเป็นบ้าน แต่มันก็ต้องเชื่อมร้อยกับป่าไพรเพื่อให้รับรู้ถึงรวงรังเราเองก็เช่นกัน ที่ต้องพึงเชื่อมโยงกับเพื่อนมนุษย์ เพื่อสร้างที่ทางของตนณ เส้นของฟ้าที่ตะวันฉายแสง คือที่ซึ่งดวงตะวันจากมาคือรุ่งอรุณหรือสนธยา ขึ้นอยู่ที่ว่า เราวางชีวิตไว้ในโลกซีกใดส่วนกับใจดวงแล้งร้าย สิ่งที่เธอถวิลหา จักไม่มีความหมาย หากในใจยังเต็มไปด้วยพื้นที่รกร้างว่างเลือนและต่อให้เธอก้าวพ้นจากความเงียบเหงา แต่ก็อาจพบตัวเองอยู่บนขุนเขาแห่งความเงียบเหงาเพียงเเพราะสำนึกที่แยกส่วน คือเงามืดที่คอยทาบทับหัวใจเธอเอาไว้หัวใจข้างแรมไม่อาจส่องทางให้ใคร อีกทั้งมันยังขาดอุ่นไอแห่งความรักอีกด้วย 7 โมงเช้า ฝนหยุดตกแล้ว แสงเรืองสีเงินยวงทาบขอบฟ้า คงต้องเปิดประตูบ้านต้อนรับกรุ่นกลิ่นดิน ที่แวะมาเคาะประตูเรียกซะแล้ว
ขวัญ
แวะมาเยี่ยมกันวันหยุดค่ะ ขอบคุณที่ไปทักทายกันนะคะ
แวะมาทักทายกันยามเช้านะจ๊ะ
เป็นไงบ้างขอรับ สบายดีไหม คิดถึงนะขอรับ
๐ วันอาทิตย์ หวิด ห้วง..........อาถรรพ์
สายก่อน ซอนกาย ฝัน..........ห่มผ้า
หยุดนอน หย่อนนุช ยัน.........ยามหนึ่ง
คึกหน่อย คอยนึก คว้า..........กอดผ้าห่มหมอน ๚ะ๛