Group Blog
|
คำวอนขอ ![]() ฟาร์ยลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ มองฝ่ามือตัวเองที่วางเปล่า เขาไม่สามารถจะคว้ามือของเค้กเอาไว้ได้ “ฝีมือของใครกัน” พ่อเอ่ยถาม “ท่านย่าแมรี่” เขาตอบ “แมรี่ ... ยัยนั่น” พ่อสถบออกมา ฟาร์ยหันมามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ เมอร์ฟีริสตกใจกับดวงตาพิฆาตของอีกฝ่าย “เอ่อ...คือว่า ข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เค้กเขาเกิด แม่ของเขาเป็นผู้อัญเชิญข้ามา เราทำสัญญากันไว้ เมื่อเค้กอายุได้ 20 ปี บริบูลย์ข้าจะเล่าความจริงให้กับเค้กฟัง...และตอนนี้ก็ครบ 20 ปีแล้วด้วย ข้าตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับเค้ก” “นี่เจ้ามาอยู่กับยัยนั่นตั้ง 2 0ปี เชียวหรือ?” ฟาร์ยทำหน้าไม่พอใจ “อ้อ...อย่าเพิ่งโกรธน่า ข้ามีสัญญานะ เมื่อครบ 2 0 ปี ข้าก็....ก็...” สีหน้าเศร้าของเมอร์ฟีริสปรากฎ “ทำไม?...ไม่อยากกลับนรกแล้วรึ” “ฮืม....ข้าก็ไม่คิดว่าจะผูกพันกับ 2 คนมากขนาดนี้ ตอนนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยพาเค้กกลับมาทีนะ” “แล้วเจ้าจะไม่คิดไปช่วยเหรอ?” “ถ้าข้า....ไป ข้ากลัวว่าจะไม่ได้กลับมานะสิ” “เข้าใจล่ะ ถึงเจ้าจะไม่ขอร้อง ข้าก็จะทำอยู่แล้วล่ะ” ฟาร์ยพูดแล้วสะบัดชายผ้าคลุ่มบังเกิดควันพวยพุ่งร่างเขาก็หายไปจากตรงนั้นทันที “คิก คิก คิก” เสียงแหลมเล็กหัวเราะเยาะ เมอร์ฟีริสหันไปมองต้นเสียง “ไม่คิดว่าจะพบจอมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ในที่แบบนี้” “แม่สาวน้อย เจ้ามีธุระอันใด” “ท่านเมอร์ฟีริสผู้ยิ่งใหญ่ มันจะดีหรือไง ท่านปล่อยให้ฟาร์ยไปแบบนั้น เกิดเขาต้องการขังเค้กเอาไว้ที่นรกล่ะ” เมอร์ฟีริสทำหน้าครุ่นคิด “ท่านก็รู้นินา ท่าทางฟาร์ยน่ะจะพอใจแม่มนุษย์น้อยคนนี้นัก ไม่แน่นะ ท่านอาจจะไม่ได้เธอกลับมาก็ได้ ถ้าไม่ไปช่วยจะดีหรือ?” ถ้อยคำเหมือนจะโน้มน้าวดูจะได้ผลทีเดียว “ดูเหมือนเจ้าเองจะมีจุดประสงค์อะไรอยู่นะ” เมอร์ฟีริสเอ่ยอย่างระแวดระวัง “อ้อ...อ๋อ....เปล่าหรอค่ะ ข้าก็แค่ตั้งสันนิษฐานเท่านั้นเองแหล่ะ” “ไปสิ....ไปด้วยกัน ไปช่วยมนุษย์คนนั้นกันเถอะ” เสียงแหลมเล็กเอ่ยชักชวนก่อนจะค่อยๆหายไปพร้อมกัน ณ เมืองนรก เค้กถูกขังอย่างโดดเดี่ยวในห้องอันสลัว “ที่นี่บรรยากาศแปลกๆ” เธอบอกตัวเองพลางห่อไหล่ลง นั่งมองออกไปนอกหน้าต่างพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวปรากฎลอยเด่น “หนาว....หนาว....ฉันหายใจไม่ออกเลย...ทำไม...มันแย่อย่างนี้ นี่หรือ บ้านของฟาร์ย” เธอพรึมพรำเบาๆ เสียงประตูเปิดออก เสียงคนตะโกนบอกว่า “สมเด็จย่ากำลังเสด็จ” ไม่นานนักหญิงสาวร่างระหงส์ หน้าตาดุดันก็ก้าวเข้ามาในห้องของเธอโดยมีฟอร์เรสตยืนอยู่ข้างหลังอย่างนอบน้อม เค้กยืนมองอย่างสงสัย “นี่น่ะหรือมนุษย์ที่ฟาร์ยโปรดปราน” น้ำเสียงดุเอ่ยถามฟอร์เรสต “ขอรับ” “หน้าตาขี้เหร่สิ้นดี” เสียงเย้ยหยันพูดขณะเชยคางเล็กขึ้นมอง “ดูสิ...ตาของเจ้า...ช่างน่าเกลียดสะจริง จับจ้องข้าอย่างมิเกรงกลัวได้นะ เจ้ามนุษย์ที่แสนอ่อนแอ” เค้กแม้จะตกใจกับการมาเยือนของอีกฝ่ายแต่ก็มิอาจจะเคลื่อนไหวร่างกายได้ เหมือนกำลังตกอยู่ในเวทมนต์ที่ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย “เจ้าชื่ออะไร?” “ค.....เค้ก....ค่ะ” เธอตอบอย่างยากเย็น “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าจับเจ้ามาที่นี่” “ก็เพราะข้าอยากสั่งสอนทั้งเจ้าและฟาร์ยที่บังอาจขัดใจข้าน่ะสิ” เค้กเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า คิดต่างๆนานา ว่าเธอไปทำการสิ่งใดที่ทำให้สตรีนางนี้ขุ่นเคืองใจ “ฮิฮิฮิ...พวกเจ้าคิดว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ สนุกนักใช่ไหม ข้าน่ะเกลียดนักความรัก....พวกเจ้ากล้ามีความรัก่อหน้าข้า.....ความรักของเจ้ามันต้องถูกทำลายด้วยมือของข้าเอง” เสียงอันโหดเหี้ยวดังอยู่ข้างหูเค้ก ทำไมกัน...ทำไมจะต้องทำขนาดนี้ด้วย การที่เราทั้งสองรักกันมันผิดตรงไหน เสียงของเค้กตะโกนก้องอยู่ในใจ “ผิดสิ.....ผิดมากด้วย.....เจ้าเป็นแค่มนุษย์ แต่ฟาร์ยเป็นถึงจอมปีศาจ....ความรักต้องห้าม คิดจะฟันฝ่าอุปสรรค์เพื่อพิสูจน์รักแท้ยังงั้นหรือ?...555.....นี่แม่สาวน้อย เจ้าช่างไม่เข้าใจอะไรบ้างเลยนะ ปีศาจอย่างพวกเราอยู่กันเป็นร้อยๆปี ชั่วกับชั่วกัลป์...แต่เจ้าน่ะ อีกไม่กี่สิบปีก็ตายแล้ว ยังคิดว่าความรักมันจะเป็นไปได้ แค่ฟังมันก็ตลก ขำๆ” ใช่...ฉันเป็นแค่มนุษย์..แล้วจะรักปีศาจไม่ได้งั้นหรือ..ฉันแค่รักเขา...รักมากด้วย ถึงไม่กี่ปีก็จะตาย แต่ไม่กี่ปีนี้ก็แค่อยากจะรักเขาตลอดชีวิตที่มีอยู่ “บ้า....เจ้ามันบ้าที่สุด” เสียงเกรียวกราดของอีกฝ่ายแผดขึ้น “เจ้านี่ช่างเป็นมนุษย์ที่แสนโง่สิ้นดี ฟาร์ยไปชอบคนอย่างเจ้าได้ยังไงกัน” “คิดเหรอว่าพวกเจ้าจะสมหวัง...ข้าจะทำลายมัน ทำลายมันให้สิ้น ข้าเกลียดความรักกกก” สมเด็จย่าแผดเสียงจนสาแก่ใจก็เดินออกจากห้องไป เค้กยืนน้ำตาไหลริน ฟอร์เรสตหันมามองอย่างสงสารจับใจแต่ก็มิอาจจะช่วยอะไรได้ ฟาร์ยมาที่ปราสาทสมเด็จย่า “ท่านย่า ข้ามารับเค้กกลับคืน” เขาประกาศต่อหน้าสมเด็จย่าที่นั่งอยู่บนบัลลังล์ “อะไรฟาร์ย หายหน้าไปหลายวัน กลับมาแล้วพูดจาไร้สาระแบบนี้ใส่หน้าย่า มันไม่เสียมารยาทไปหน่อยเหรอ” “ก็ท่านย่าทำเสียมารยาทก่อนนิครับ” แมรี่รูดพัดเข้าหากันอย่าไม่สบอารมณ์ที่โดนหลานชายคนโปรดพูดจาแบบนี้ใส่หน้า “เจ้าเพี้ยนไปหรือไง จอมปีศาจฟาร์ย ตำแหน่งนี้ใช่ว่าปีศาจทุกตนจะได้มา อย่ามาทำอะไรที่ทำให้ข้าต้องผิดหวังสิ มันชักจะเหมือนคนบางคนเข้าไปทุกที” ใครบางคนที่แมรี่พูดถึง ถึงกับจามอย่างรุนแรง อลิสถึงกับตกใจ “นี่ท่านเบาๆหน่อยสิคะ แบบนี้ใครก็จับได้กันพอดี” “สงสัยจะมีคนบ่นถึง” เขารีบออกตัว “ฉันว่าท่านปลอมป็นสาวใช้ของข้าดีกว่านะคะ” อลิสออกความเห็น “ฮืม....เป็นไงใช้ได้ไหม” เมอร์ฟีริสถามเมื่อเขาแปลงกายเป็นร่างหญิงสาวใช้ตามที่อีกฝ่ายบอก “ใช้ได้ค่ะ” “ว่าแต่ทำไมเจ้าต้องช่วยข้าด้วยล่ะ...ที่จริงเจ้าชอบฟาร์ยไม่ใช่เหรอ” “ที่จริงข้าก็อยากจะแยกฟาร์ยกับเค้กออกจากกันเหมือนกันล่ะ แต่มาคิดดูอีกที ฟาร์ยจะต้องโกรธข้าแน่ๆเลยล่ะ แล้วก็จะพาลไม่ยอมพบข้าด้วย ที่จริงข้าต้องสู้กับเค้กแบบตัวต่อตัวถึงจะยุติธรรม แต่ที่ข้าช่วยท่านครั้งนี้ก็เพราะว่า เมื่อเราได้ฟาร์ยกลับมาที่นรกแล้วท่านย่าแมรี่ก็จะผลึกคำสาปให้ฟาร์ยอยู่ที่เมืองนรกห้ามไปที่โลกมนุษย์ได้อีก และเมื่อนั้นจะไม่มีใครช่วยเค้กกลับโลกได้” “ที่จริงเจ้าก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ” “เค้กเป็นคนดี...ข้าก็อยากจะเป็นแบบนั้นมั่ง ยัยนั่นน่ะได้หัวใจของฟาร์ย ข้าจะไม่ยอมแพ้หรอก ต่อไปข้าจะพยายามให้ฟาร์ยหันมาสนใจข้าให้ได้” เมอร์ฟีริสมองสาวปีศาจตรงหน้าอย่างอึ้งๆ เขายิ้ม “เจ้ามีความตั้งใจดีนะ แต่ว่านะ ความรักใช่ว่าจะบังคับกันได้ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและงอกงามอยู่ในใจคนสองคน” ข้าเองก็รู้ดีเพราะอย่างนั้นถึงไม่อยากจะกลับมาที่นี่นัก ที่ที่คนรักของข้าอยู่มันไม่ใช่ที่แห่งนี้ อลิสเข้ามาหาเค้กในห้อง พบเธอกำลังนั่งเม่อมองฟากฟ้าอันมืดมิดมีเพียงพระจันทร์เสี้ยวเล็กลอยอยู่อย่างโดดเดี่ยว “เค้ก...” “อลิส” เค้กเหมือนจะดีใจที่พบอลิส “เธอ....เธอเองก็เป็นคนของท่านย่าใช่ไหม” เธอเอ่ยถาม “เอ่อ....ข้าเอาของกินมาให้เจ้าไม่ต้องกังวลไปนะ ยังไงเจ้าต้องได้กลับโลกมนุษย์แน่” อลิสเลี่ยงการตอบคำถาม “ฉันไม่กลับหรอก ถ้าฟาร์ยไม่กลับกับฉัน” “เธอน่ะ...ไม่เข้าใจอะไรเสียเลยนะ ฟาร์ยไม่กลับไปกลับเธอหรอก ถ้าเขามาที่นี่ เขาก็กลับไปที่โลกมนุษย์ไม่ได้อีกแน่” เค้กตกใจเป็นอย่างมากกับคำบอกเล่าของอลิส “ทำไม....จะเกิดอะไรขึ้นกับฟาร์ย” “ท่านย่าจะผนึกตราเวทน์ของเขาเอาไว้ที่นี่นะสิ และเมื่อนั้นฟาร์ยก็จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” “ทำไมจะต้องทำขนาดนั้นด้วยล่ะ” เค้กเริ่มน้ำตาคลอ “ฮืม...มนุษย์อย่างเจ้าจะกี่ร้อยปีก็มิอาจจะเทียบปีศาจได้ เจ้าอย่าทำให้จอมปีศาจอย่างฟาร์ยต้องตกต่ำไปกว่านี้เลยนะ” “เราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ก็แค่.....รักกัน” “นั่นแหล่ะ เป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ นี่เจ้ายังไม่เข้าใจเลยสินะ ทำไมคนอย่างเจ้าถึงได้เอาแต่ใจขนาดนี้ด้วยล่ะ เจ้าจะเอาตัวฟาร์ยเป็นของเจ้าคนเดียวไม่ได้หรอกนะ ข้าองก็รักฟาร์ยเหมือนกัน” อลิสเอ่ยเสียงดังกอ่นจะวิ่งหนีออกจากห้องไป ทิ้งสาวใช้ที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่ข้างหลัง เกหันมามองสาวใช้ก่อนจะหมุนตัวกลับไปนั่งลงที่แท่นหน้าหน้าต่างเหมือนเคย “เอ่อ....คุณหนูจ๊ะ...เอ่อ….คุณหนูคงคิดถึงบ้านสินะ” สาวใช้เดินเข้ามาใกล้พลางพูดปลอบ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งเศร้า “คุณหนู ทานอะไรก่อนดีไหมจ๊ะ” สาวใช้กุรีกุจอยกสำรับไปวางไว้ตรงหน้า เค้กก็ไม่ได้สนใจ “คุณหนู...ข้าจะช่วยพาท่านกลับโลกมนุษย์เองนะ เชื่อข้าเถอะ” เค้กเงยหน้าสบตากับปีศาจสาว “คุณจะพาฉันออกจากที่นี่ได้เหรอคะ” “ได้สิ....เพราะงั้นคุณหนู ได้โปรดเชื่อใจข้าเถอะนะ คืนนี้ข้าจะพาท่านออกจากที่นี่” เค้กมองหน้าจริงจังของปีศาจสาวตรงหน้าแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องช่วยเหลือเค้ก แต่ก็ดีใจที่ยังพอมีความหวังที่จะออกไปจากที่แห่งนี้ “แล้วฟาร์ยล่ะ” เธอเอ่ยถาม “ทำไมล่ะ...ท่านฟาร์ยมิเป็นไรหรอกค่ะ เพราะที่นี่เป็นเมืองของท่าน” “ฟาร์ยจะต้องถูกขังอยู่ที่นี่ชั่วกัปชั่วกัลป์ แล้วมันจะทำให้เราไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกน่ะสิ ได้โปรดช่วยฟาร์ยด้วยได้ไหมล่ะ” เธออ้อนวอน “เอ่อ...ข้าไม่อาจรับปากได้หรอกค่ะ ข้าแค่ช่วยท่านก็เต็มที่แล้ว” ปีศาจสาวเอ่ย เมื่อคิดถึงการต้องจากกันกับฟาร์ยตลอดไปเค้กก็น้ำตาล้นปลี่ “เอ่อ....คุณหนู อย่าร้องไห้สิคะ ท่านฟาร์ยอยู่ที่นี่ก็สบายดีแล้วนะคะ” “ใช่นะ แม้ไม่ได้เจอกันอีก แต่ฉันก็อดหวั่นไหวไม่ได้ ฉันจะไม่ได้เจอกับฟาร์ยอีก แค่คิดก็เจ็บปวดแล้ว” เค้กกุมที่อกข้างซ้ายน้ำตานองหน้า “คุณหนู….” ปีศาจสาวครางอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเค้ก ความรู้สึกรักอย่างอบอุ่น และเศร้าอย่างสุดแสน “ฉันน่ะ.....เกิดมาเป็นลูกของคุณพ่อ คุณแม่ ท่านทั้งสองรักกันมาก พวกท่านมักเดินทางไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ พวกท่านมักจะกอดกัน จูบกันด้วยความรัก พวกท่านไม่เคยแยกจากกันเลย จนฉันยังอิจฉา และอยากจะมีใครสักคนที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไปแบบนั้นบ้าง ทำไม.....ฮือๆๆ.....ฉันก็แค่รักฟาร์ย...แค่อยากจะอยู่กับเขาตลอดไป มันผิดด้วยหรือไงล่ะ” เค้กนั่งลงคร่ำครวญอย่างสงสาร ปีศาจสาวมองอย่างสงสารเข้ามากอดเอาไว้ “ไม่ผิดหรอกค่ะ คุณหนูไม่ผิดเลย” สายตาที่เปลี่ยนไปของเมอร์ฟีริส สาวใช้ขอร้องให้เค้กกินขนมที่นำมาให้ “คุณหนูทานเถอะนะคะ นี่เป็นอาหารพิเศษ มันจะช่วยป้องกันพิษและคำสาปของปีศาจ” “ฉัน.....จำเป็นต้องกินด้วยเหรอคะ” “ฮืม....ป้องกันไว้ก่อนเถอะนะ เพราะยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” “ค่ะ” เมื่อถึงเวลานัดแนะกันไว้ เมอร์ฟีริสในคราบของปีศาจสาวก็มาพบกับเค้กตามสัญญา เค้กยังดูเศร้าที่ต้องจากกับฟาร์ยแต่ก็ต้องตัดใจเพราะต้องกลับโลกมนุษย์ ขณะเดียวกันนั้นฟาร์ยเดินงุ่มง่ามอยู่ที่ห้องของเขาคิดหาวิธีที่จะต่อกรกับย่าแมรี่ คิดถึงคำพูดของท่านย่าที่เสนอให้เขาแต่งงานกับอลิสแล้วจะปล่อยเค้กเป็นอิสระ แต่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าท่านย่าจะทำตามคำพูด แต่เพื่อความปลอดภัยของเค้กเขาจึงจะรับข้อเสนอนั้น เมือ่คิดได้เช่นนั้นฟาร์ยจึงไปที่ปราสาทของท่านย่า ปีศาจสาวกำลังพาเค้กหลบหนีออกจากปราสาทอยู่นั้นก็ต้องตกใจเมื่อทหารของแมรี่มาพบเข้า เมอร์ฟีริสได้แต่หัวเสียที่แผนการณ์ของเขาไม่ประสบผลสำเร็จ ทั้งสองถูกจับส่งไปหาท่านย่าแมรี่ทันที “พวกเจ้าคิดว่าจะหลบหนีจากปราสาทแห่งนี้ได้งั้นเหรอ” แมรี่เอ่ย หันไปมองปีศาจสาวอย่างสงสัย “เจ้าเป็นใครกันน่ะ ทำไมข้าไม่เคยเห็นเลย” “เอ่อ...นั่นเป็นเมดของข้าเองค่ะ ท่านย่า” อลิสรีบเสนอตัว “ทำไมคนของเจ้าจึงคิดจะช่วยมนุษย์ต่ำช้าผู้นี้ด้วยล่ะ อลิส” “เอ่อ...สงสัยว่าท่านเค้กจะเป็นคนขอร้องนะคะ” อลิสรีบหาทางออกทั้งที่ใจเต้นโครมคราม “ใช่...อย่าทำอะไรเธอเลยนะ หนูเป็นคนขอร้องเธอให้ช่วยเอง” เค้กรีบแก้ตัวให้ “เจ้านี่ช่างน่ารำคาญจริง ยอมรับโทษทัณฑ์แทนคนอื่นงั้นเหรอ โง่เง่า” แมรี่ร้องด่าอย่างไม่สบอารมณ์ “คนแบบเจ้าน่ะ” ดวงตากลมโตที่ประสานกับดวงตาดุดันของปีศาจสาวสูงวัยอย่างมิเกรงกลัว “ข้าเกลียดสายตาแบบนี้นัก สายตาที่ไม่กลัวเกรงสิ่งใด เจ้าช่างเป็นคนน่ารังเกลียดอะไรขนาดนี้” แมรี่บีบคาเล็กอย่างเกลียดชัง เสียงประตูเปิดออกอย่างแรง “หยุดนะท่านย่า อย่าทำอะไรเค้ก” ฟาร์ยร้องเสียงหลง “ฟาร์ย......” เค้กร้องอย่างดีใจได้พบกับฟาร์ย “ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะท่านย่า” ฟาร์ยออกคำสั่ง “ฮิฮิฮิ.....นี่เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาออกคำสั่งย่าได้นะ เจ้าหลานชาย” แมรี่สะบัดพัดขึ้นบังหน้าหัวเราะขัน “ข้าขอร้องล่ะ...โปรดปล่อยเค้กไปเถอะครับท่านย่า” เกินที่แมรี่จะคาดคิดฟาร์ยคุกเข่าลงตรงหน้าอ้อนวอน ถึงกับทำให้ปีศาจสูงวัยไม่สบอารมณ์หนักเข้าไปใหญ่ “นี่เจ้า...บ้าไปแล้วหรือไงกัน” “ข้ายอมแต่งงานกับอลิส.........นั่นเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับอิสระภาพของเค้ก แค่นี้ท่านย่าพอใจหรือยัง” เขาเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง เค้กอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน อลิสที่เหมือนจะน่ายินดีกลับหน้าเศร้า “ได้โปรดปล่อยค้กไปเถอะครับท่านย่า” ฟาร์ยยืนยันคำเดิม แมรี่แม้จะพึงพอใจในคำตอบของหลานชายแต่ก็มิพอใจนักที่เขายอมทุ่มเทแม้ต้องคุกเข่าเพื่อขอร้องให้ปล่อยเค้กเป็นอิสระ “ก็ได้.....ย่ายอมรับข้อเสนอนั้น แต่ว่าก่อนที่นางจะไป ย่าจะลบความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับเจ้าให้หมด” ทั้งเค้กและฟาร์ยตะลึงอึ้ง “นี่มัน....ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของเรานะครับท่านย่า” “แต่นางก็ไม่จำเป็นที่จะจดจำเจ้าเอาไว้นี่นา มันจะรังแต่จะทำให้เจ็บปวด” “แต่ว่า.....” “แล้วย่าจะไม่ผนึกเจ้าเอาไว้ที่โลกปีศาจนี้ เจ้าสามารถเดินทางไปไหนต่อไหนก็ได้ตามใจเหมือนเคย” แมรี่รีบยื่นข้อเสนอใหม่ทันทีอย่างผู้ถือไผ่เหนือกว่า “ก็ได้ค่ะ งั้นก็ช่วยลบความทรงจำของฉันที่เกี่ยวกับฟาร์ยไปเถอะค่ะ ถ้าหากว่ามันช่วยให้เขาไม่ถูกจองจำเอาไว้ที่นี่” “เค้ก...นี่เจ้าทำแบบนั้นทำไม” ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาหันมามองเขา “และเพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดกับการพบกันใหม่กับนายไงล่ะ อย่างน้อยเราก็คงได้มีโอกาสเจอกันอีกนะ” ฟาร์ยได้แต่นิ่งงัน “แล้วฉันยังสามารถทำขนมให้นายทานได้ตลอดไปไงล่ะฟาร์ย” เค้กตอบ “เค้ก....” แมรี่ได้แต่ยิ้มย่องอยู่ในใจที่แผนการของตนสำเร็จ “ฝันไปเถอะเจ้าพวกเด็กหน้าโง่ ข้าคนนี้จะไม่ให้โอกาสพวกเจ้าได้พบกันอีก ฮิฮิฮิ...แค่นี้ทุกอย่างก็สำเร็จ” แมรี่สั่งให้ปีศาจรับใช้ถือเอาผลแอปเปิ้ลเข้ามาให้กับหญิงสาว “กินเสียสิ” เค้กจับจ้องอย่างใจระทึกค่อยๆหยิบมันขึ้นมา หันไปมองฟาร์ยที่นั่งคุกเข่าอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วกัดกินแอปเปิ้ล หากเจ้ากินผลแอปเปิ้ลนั้น มันก็จะทำให้เจ้าลืมเรื่องของข้าทั้งหมดสิ้น เรื่องที่ผ่านมามันก็ไม่มีความหมายนะสิ ภาพความทรงจำต่างๆที่เคยทำมากมายปรากฎในมโนภาพของฟาร์ย “ไม่นะ.....ไม่นะเค้ก อย่ากิน” เขากระโจนเข้าไปหาเค้ก แต่ก็เปล่าประโยชน์เมื่อร่างบอบบางล้มลงนอนที่พื้น ฟาร์ยเข้าไปประคองร่างบอบบาง “เค้ก....นี่เจ้าจะลืมข้างั้นหรือ เจ้าจะลืมเรื่องทั้งหมดของเรางั้นหรือ ข้าไม่ต้องการหรอกนะ ถ้าจะให้เจ้าเลิกสนใจข้า ถึงจะกินขนมของเจ้า ถึงจะชอบมากแค่ไหน มันก็ไม่เท่ากับ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเจ้าหรอกนะ ข้ารักเจ้านะเค้ก...เพราะงั้นอย่าลืมข้าเลยยย” ฟาร์ยคร่ำครวญกับร่างที่ไร้สติน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่อับอายใคร สร้างความไม่พอใจให้กับแมรี่เป็นอย่างมาก ฟาร์ยหันไปมองอย่างโกรธแค้น “ท่านย่า....” “อะไรกันมองข้าด้วยสายตาแบบนั้น ข้าไม่ปลื้มหรอนะ เจ้าช่างเหมือนคนที่เสียสติไปแล้ว ร้องไห้คร่ำครวญราวกับคนบ้า เจ้าเป็นถึงจอมปีศาจมาทำแบบนี้ต่อหน้าผู้คนได้ยังไง” “ข้ารักเค้ก ข้าไม่ยอมให้เขาลืมข้าหรอก เพราะงั้นท่านจงทำให้เค้กกลับมาเหมอืนเดิมด้วยเถอะ” คำขอครั้งที่สองของฟาร์ยดูเหมือนจะเข้าทางแมรี่ “ก็ได้....ถ้าเป็นความต้องการของเจ้า แต่ข้อแลกเปลี่ยนเจ้าต้องยอมรับมันนะ” “มันต้องแลกด้วยสิ่งใดอีกล่ะ” เหมือนต้องพ่ายแพ้อย่างสิ้นท่าให้กับท่านย่าแล้ว “เจ้าจะต้องอยู่ที่เมืองนรก สืบทอดเจ้าแห่งอสูรรุ่นต่อไป ห้ามมิให้ตราเวทน์ปรากฎที่โลกมนุษย์เป็นอันขาด” สิ้นเสียงคำต่อรองฟาร์ยกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น “ก็ได้ข้ายอมรับ” “งั้นเจ้าก็จงกัดกินแอปเปิ้ลลูกนั้นเสียสิ คำสาปจะสลายไปเมื่อมีคนกินคนที่สอง” แมรี่เอ่ย ฟาร์ยจึงหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมา “คำสาปจะสลายไปงั้นหรือท่านย่า” หลานชายเหมือนไม่อยากจะเชื่อความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายนัก ฟาร์ยจำใจค่อยๆยกมันขึ้นมาเพื่อกัดกินอย่างไม่มีทางเลือกอื่น ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของแมรี่ “ทีนี้แหล่ะ เจ้าก็จะจำนางไม่ได้ตลอดไป....ฟาร์ย” “ผลั๊กกกก” เสียงไม้เท้ากระแทกกับแอปเปิ้ลกระเด็นตกพื้นไป ทุกคนหันไปมองต้นเหตุ สาวใช้ยืนจังก้าถือไม้เท้ามีหัวรูปสิงโตอยู่ตรงนั้น “นี่เจ้า...หลุดจากตราเวทน์ของข้าได้ยังไง” แมรี่ตกใจแต่มองดูไม้เท้าอาวุธของอีกฝ่ายยิ่งตกใจหนัก นั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้รู้ถึงตัวตนของผู้ครอบครอง “เจ้า.......ไม้เท้านั่น…..เมอร์ฟีริส” แมรี่ครางอย่างตกใจ “อึม.....สนุกพอหรือยัง แมรี่” เสียงทุ้มๆเอ่ยถาม “ข้าขอสนุกด้วยคนดีไหม” “เจ้าจะทำอะไร” แม้จะรู้สึกดีใจกับการพบกันหลังจากกันนับ 20 ปี ก็เถอะ แต่ก็ไม่รู้การมาเยือนของอีกฝ่ายเพื่ออะไร “ข้าก็จะทำเรื่องที่สนุกๆ เหมือนเจ้าไงล่ะ” “ข้าขอสาปให้เจ้าจองจำที่โลกมนุษย์จนกว่า.......จนกว่าอะไรดีน้า อ้อ.........ความทรงจำของเค้กจะกลับมา...” สิ้นคำสาปร่างของทั้งสามก็หายไปจากตรงนั้นทันที “อ่ะ......เมอร์ฟีริส...เจ้าบ้า......กลับมานะ เจ้าจะทิ้งข้าไปไหนอีกล่ะ เจ้าบ้า......” แมรี่ร้องตามแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ |
unitan
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Link |