เมษายน 2553

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
22 เมษายน 2553
คำวอนขอ



ฟาร์ยลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ มองฝ่ามือตัวเองที่วางเปล่า เขาไม่สามารถจะคว้ามือของเค้กเอาไว้ได้

“ฝีมือของใครกัน” พ่อเอ่ยถาม
“ท่านย่าแมรี่” เขาตอบ
“แมรี่ ... ยัยนั่น” พ่อสถบออกมา
ฟาร์ยหันมามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ เมอร์ฟีริสตกใจกับดวงตาพิฆาตของอีกฝ่าย
“เอ่อ...คือว่า ข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เค้กเขาเกิด แม่ของเขาเป็นผู้อัญเชิญข้ามา เราทำสัญญากันไว้ เมื่อเค้กอายุได้ 20 ปี บริบูลย์ข้าจะเล่าความจริงให้กับเค้กฟัง...และตอนนี้ก็ครบ 20 ปีแล้วด้วย ข้าตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับเค้ก”
“นี่เจ้ามาอยู่กับยัยนั่นตั้ง 2 0ปี เชียวหรือ?” ฟาร์ยทำหน้าไม่พอใจ
“อ้อ...อย่าเพิ่งโกรธน่า ข้ามีสัญญานะ เมื่อครบ 2 0 ปี ข้าก็....ก็...” สีหน้าเศร้าของเมอร์ฟีริสปรากฎ
“ทำไม?...ไม่อยากกลับนรกแล้วรึ”
“ฮืม....ข้าก็ไม่คิดว่าจะผูกพันกับ 2 คนมากขนาดนี้ ตอนนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยพาเค้กกลับมาทีนะ”
“แล้วเจ้าจะไม่คิดไปช่วยเหรอ?”
“ถ้าข้า....ไป ข้ากลัวว่าจะไม่ได้กลับมานะสิ”
“เข้าใจล่ะ ถึงเจ้าจะไม่ขอร้อง ข้าก็จะทำอยู่แล้วล่ะ” ฟาร์ยพูดแล้วสะบัดชายผ้าคลุ่มบังเกิดควันพวยพุ่งร่างเขาก็หายไปจากตรงนั้นทันที

“คิก คิก คิก” เสียงแหลมเล็กหัวเราะเยาะ
เมอร์ฟีริสหันไปมองต้นเสียง
“ไม่คิดว่าจะพบจอมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ในที่แบบนี้”
“แม่สาวน้อย เจ้ามีธุระอันใด”
“ท่านเมอร์ฟีริสผู้ยิ่งใหญ่ มันจะดีหรือไง ท่านปล่อยให้ฟาร์ยไปแบบนั้น เกิดเขาต้องการขังเค้กเอาไว้ที่นรกล่ะ”
เมอร์ฟีริสทำหน้าครุ่นคิด
“ท่านก็รู้นินา ท่าทางฟาร์ยน่ะจะพอใจแม่มนุษย์น้อยคนนี้นัก ไม่แน่นะ ท่านอาจจะไม่ได้เธอกลับมาก็ได้ ถ้าไม่ไปช่วยจะดีหรือ?”
ถ้อยคำเหมือนจะโน้มน้าวดูจะได้ผลทีเดียว
“ดูเหมือนเจ้าเองจะมีจุดประสงค์อะไรอยู่นะ” เมอร์ฟีริสเอ่ยอย่างระแวดระวัง
“อ้อ...อ๋อ....เปล่าหรอค่ะ ข้าก็แค่ตั้งสันนิษฐานเท่านั้นเองแหล่ะ”
“ไปสิ....ไปด้วยกัน ไปช่วยมนุษย์คนนั้นกันเถอะ” เสียงแหลมเล็กเอ่ยชักชวนก่อนจะค่อยๆหายไปพร้อมกัน

ณ เมืองนรก

เค้กถูกขังอย่างโดดเดี่ยวในห้องอันสลัว
“ที่นี่บรรยากาศแปลกๆ” เธอบอกตัวเองพลางห่อไหล่ลง นั่งมองออกไปนอกหน้าต่างพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวปรากฎลอยเด่น

“หนาว....หนาว....ฉันหายใจไม่ออกเลย...ทำไม...มันแย่อย่างนี้ นี่หรือ บ้านของฟาร์ย” เธอพรึมพรำเบาๆ

เสียงประตูเปิดออก เสียงคนตะโกนบอกว่า
“สมเด็จย่ากำลังเสด็จ”

ไม่นานนักหญิงสาวร่างระหงส์ หน้าตาดุดันก็ก้าวเข้ามาในห้องของเธอโดยมีฟอร์เรสตยืนอยู่ข้างหลังอย่างนอบน้อม เค้กยืนมองอย่างสงสัย
“นี่น่ะหรือมนุษย์ที่ฟาร์ยโปรดปราน” น้ำเสียงดุเอ่ยถามฟอร์เรสต
“ขอรับ”
“หน้าตาขี้เหร่สิ้นดี” เสียงเย้ยหยันพูดขณะเชยคางเล็กขึ้นมอง
“ดูสิ...ตาของเจ้า...ช่างน่าเกลียดสะจริง จับจ้องข้าอย่างมิเกรงกลัวได้นะ เจ้ามนุษย์ที่แสนอ่อนแอ”

เค้กแม้จะตกใจกับการมาเยือนของอีกฝ่ายแต่ก็มิอาจจะเคลื่อนไหวร่างกายได้ เหมือนกำลังตกอยู่ในเวทมนต์ที่ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“เจ้าชื่ออะไร?”
“ค.....เค้ก....ค่ะ” เธอตอบอย่างยากเย็น
“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าจับเจ้ามาที่นี่”
“ก็เพราะข้าอยากสั่งสอนทั้งเจ้าและฟาร์ยที่บังอาจขัดใจข้าน่ะสิ”

เค้กเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า คิดต่างๆนานา ว่าเธอไปทำการสิ่งใดที่ทำให้สตรีนางนี้ขุ่นเคืองใจ

“ฮิฮิฮิ...พวกเจ้าคิดว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ สนุกนักใช่ไหม ข้าน่ะเกลียดนักความรัก....พวกเจ้ากล้ามีความรัก่อหน้าข้า.....ความรักของเจ้ามันต้องถูกทำลายด้วยมือของข้าเอง” เสียงอันโหดเหี้ยวดังอยู่ข้างหูเค้ก

ทำไมกัน...ทำไมจะต้องทำขนาดนี้ด้วย การที่เราทั้งสองรักกันมันผิดตรงไหน เสียงของเค้กตะโกนก้องอยู่ในใจ
“ผิดสิ.....ผิดมากด้วย.....เจ้าเป็นแค่มนุษย์ แต่ฟาร์ยเป็นถึงจอมปีศาจ....ความรักต้องห้าม คิดจะฟันฝ่าอุปสรรค์เพื่อพิสูจน์รักแท้ยังงั้นหรือ?...555.....นี่แม่สาวน้อย เจ้าช่างไม่เข้าใจอะไรบ้างเลยนะ ปีศาจอย่างพวกเราอยู่กันเป็นร้อยๆปี ชั่วกับชั่วกัลป์...แต่เจ้าน่ะ อีกไม่กี่สิบปีก็ตายแล้ว ยังคิดว่าความรักมันจะเป็นไปได้ แค่ฟังมันก็ตลก ขำๆ”

ใช่...ฉันเป็นแค่มนุษย์..แล้วจะรักปีศาจไม่ได้งั้นหรือ..ฉันแค่รักเขา...รักมากด้วย ถึงไม่กี่ปีก็จะตาย แต่ไม่กี่ปีนี้ก็แค่อยากจะรักเขาตลอดชีวิตที่มีอยู่

“บ้า....เจ้ามันบ้าที่สุด” เสียงเกรียวกราดของอีกฝ่ายแผดขึ้น
“เจ้านี่ช่างเป็นมนุษย์ที่แสนโง่สิ้นดี ฟาร์ยไปชอบคนอย่างเจ้าได้ยังไงกัน”
“คิดเหรอว่าพวกเจ้าจะสมหวัง...ข้าจะทำลายมัน ทำลายมันให้สิ้น ข้าเกลียดความรักกกก” สมเด็จย่าแผดเสียงจนสาแก่ใจก็เดินออกจากห้องไป

เค้กยืนน้ำตาไหลริน
ฟอร์เรสตหันมามองอย่างสงสารจับใจแต่ก็มิอาจจะช่วยอะไรได้

ฟาร์ยมาที่ปราสาทสมเด็จย่า
“ท่านย่า ข้ามารับเค้กกลับคืน” เขาประกาศต่อหน้าสมเด็จย่าที่นั่งอยู่บนบัลลังล์
“อะไรฟาร์ย หายหน้าไปหลายวัน กลับมาแล้วพูดจาไร้สาระแบบนี้ใส่หน้าย่า มันไม่เสียมารยาทไปหน่อยเหรอ”
“ก็ท่านย่าทำเสียมารยาทก่อนนิครับ”

แมรี่รูดพัดเข้าหากันอย่าไม่สบอารมณ์ที่โดนหลานชายคนโปรดพูดจาแบบนี้ใส่หน้า
“เจ้าเพี้ยนไปหรือไง จอมปีศาจฟาร์ย ตำแหน่งนี้ใช่ว่าปีศาจทุกตนจะได้มา อย่ามาทำอะไรที่ทำให้ข้าต้องผิดหวังสิ มันชักจะเหมือนคนบางคนเข้าไปทุกที”

ใครบางคนที่แมรี่พูดถึง ถึงกับจามอย่างรุนแรง
อลิสถึงกับตกใจ
“นี่ท่านเบาๆหน่อยสิคะ แบบนี้ใครก็จับได้กันพอดี”
“สงสัยจะมีคนบ่นถึง” เขารีบออกตัว

“ฉันว่าท่านปลอมป็นสาวใช้ของข้าดีกว่านะคะ” อลิสออกความเห็น
“ฮืม....เป็นไงใช้ได้ไหม” เมอร์ฟีริสถามเมื่อเขาแปลงกายเป็นร่างหญิงสาวใช้ตามที่อีกฝ่ายบอก
“ใช้ได้ค่ะ”
“ว่าแต่ทำไมเจ้าต้องช่วยข้าด้วยล่ะ...ที่จริงเจ้าชอบฟาร์ยไม่ใช่เหรอ”
“ที่จริงข้าก็อยากจะแยกฟาร์ยกับเค้กออกจากกันเหมือนกันล่ะ แต่มาคิดดูอีกที ฟาร์ยจะต้องโกรธข้าแน่ๆเลยล่ะ แล้วก็จะพาลไม่ยอมพบข้าด้วย ที่จริงข้าต้องสู้กับเค้กแบบตัวต่อตัวถึงจะยุติธรรม แต่ที่ข้าช่วยท่านครั้งนี้ก็เพราะว่า เมื่อเราได้ฟาร์ยกลับมาที่นรกแล้วท่านย่าแมรี่ก็จะผลึกคำสาปให้ฟาร์ยอยู่ที่เมืองนรกห้ามไปที่โลกมนุษย์ได้อีก และเมื่อนั้นจะไม่มีใครช่วยเค้กกลับโลกได้”
“ที่จริงเจ้าก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ”
“เค้กเป็นคนดี...ข้าก็อยากจะเป็นแบบนั้นมั่ง ยัยนั่นน่ะได้หัวใจของฟาร์ย ข้าจะไม่ยอมแพ้หรอก ต่อไปข้าจะพยายามให้ฟาร์ยหันมาสนใจข้าให้ได้”

เมอร์ฟีริสมองสาวปีศาจตรงหน้าอย่างอึ้งๆ เขายิ้ม
“เจ้ามีความตั้งใจดีนะ แต่ว่านะ ความรักใช่ว่าจะบังคับกันได้ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและงอกงามอยู่ในใจคนสองคน”

ข้าเองก็รู้ดีเพราะอย่างนั้นถึงไม่อยากจะกลับมาที่นี่นัก ที่ที่คนรักของข้าอยู่มันไม่ใช่ที่แห่งนี้

อลิสเข้ามาหาเค้กในห้อง พบเธอกำลังนั่งเม่อมองฟากฟ้าอันมืดมิดมีเพียงพระจันทร์เสี้ยวเล็กลอยอยู่อย่างโดดเดี่ยว
“เค้ก...”
“อลิส” เค้กเหมือนจะดีใจที่พบอลิส
“เธอ....เธอเองก็เป็นคนของท่านย่าใช่ไหม” เธอเอ่ยถาม
“เอ่อ....ข้าเอาของกินมาให้เจ้าไม่ต้องกังวลไปนะ ยังไงเจ้าต้องได้กลับโลกมนุษย์แน่” อลิสเลี่ยงการตอบคำถาม
“ฉันไม่กลับหรอก ถ้าฟาร์ยไม่กลับกับฉัน”
“เธอน่ะ...ไม่เข้าใจอะไรเสียเลยนะ ฟาร์ยไม่กลับไปกลับเธอหรอก ถ้าเขามาที่นี่ เขาก็กลับไปที่โลกมนุษย์ไม่ได้อีกแน่”
เค้กตกใจเป็นอย่างมากกับคำบอกเล่าของอลิส
“ทำไม....จะเกิดอะไรขึ้นกับฟาร์ย”
“ท่านย่าจะผนึกตราเวทน์ของเขาเอาไว้ที่นี่นะสิ และเมื่อนั้นฟาร์ยก็จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“ทำไมจะต้องทำขนาดนั้นด้วยล่ะ” เค้กเริ่มน้ำตาคลอ
“ฮืม...มนุษย์อย่างเจ้าจะกี่ร้อยปีก็มิอาจจะเทียบปีศาจได้ เจ้าอย่าทำให้จอมปีศาจอย่างฟาร์ยต้องตกต่ำไปกว่านี้เลยนะ”
“เราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ก็แค่.....รักกัน”
“นั่นแหล่ะ เป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ นี่เจ้ายังไม่เข้าใจเลยสินะ ทำไมคนอย่างเจ้าถึงได้เอาแต่ใจขนาดนี้ด้วยล่ะ เจ้าจะเอาตัวฟาร์ยเป็นของเจ้าคนเดียวไม่ได้หรอกนะ ข้าองก็รักฟาร์ยเหมือนกัน” อลิสเอ่ยเสียงดังกอ่นจะวิ่งหนีออกจากห้องไป ทิ้งสาวใช้ที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่ข้างหลัง

เกหันมามองสาวใช้ก่อนจะหมุนตัวกลับไปนั่งลงที่แท่นหน้าหน้าต่างเหมือนเคย

“เอ่อ....คุณหนูจ๊ะ...เอ่อ….คุณหนูคงคิดถึงบ้านสินะ” สาวใช้เดินเข้ามาใกล้พลางพูดปลอบ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งเศร้า
“คุณหนู ทานอะไรก่อนดีไหมจ๊ะ” สาวใช้กุรีกุจอยกสำรับไปวางไว้ตรงหน้า
เค้กก็ไม่ได้สนใจ
“คุณหนู...ข้าจะช่วยพาท่านกลับโลกมนุษย์เองนะ เชื่อข้าเถอะ”
เค้กเงยหน้าสบตากับปีศาจสาว
“คุณจะพาฉันออกจากที่นี่ได้เหรอคะ”
“ได้สิ....เพราะงั้นคุณหนู ได้โปรดเชื่อใจข้าเถอะนะ คืนนี้ข้าจะพาท่านออกจากที่นี่”
เค้กมองหน้าจริงจังของปีศาจสาวตรงหน้าแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องช่วยเหลือเค้ก แต่ก็ดีใจที่ยังพอมีความหวังที่จะออกไปจากที่แห่งนี้
“แล้วฟาร์ยล่ะ” เธอเอ่ยถาม
“ทำไมล่ะ...ท่านฟาร์ยมิเป็นไรหรอกค่ะ เพราะที่นี่เป็นเมืองของท่าน”
“ฟาร์ยจะต้องถูกขังอยู่ที่นี่ชั่วกัปชั่วกัลป์ แล้วมันจะทำให้เราไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกน่ะสิ ได้โปรดช่วยฟาร์ยด้วยได้ไหมล่ะ” เธออ้อนวอน
“เอ่อ...ข้าไม่อาจรับปากได้หรอกค่ะ ข้าแค่ช่วยท่านก็เต็มที่แล้ว” ปีศาจสาวเอ่ย

เมื่อคิดถึงการต้องจากกันกับฟาร์ยตลอดไปเค้กก็น้ำตาล้นปลี่

“เอ่อ....คุณหนู อย่าร้องไห้สิคะ ท่านฟาร์ยอยู่ที่นี่ก็สบายดีแล้วนะคะ”
“ใช่นะ แม้ไม่ได้เจอกันอีก แต่ฉันก็อดหวั่นไหวไม่ได้ ฉันจะไม่ได้เจอกับฟาร์ยอีก แค่คิดก็เจ็บปวดแล้ว” เค้กกุมที่อกข้างซ้ายน้ำตานองหน้า
“คุณหนู….” ปีศาจสาวครางอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเค้ก

ความรู้สึกรักอย่างอบอุ่น และเศร้าอย่างสุดแสน
“ฉันน่ะ.....เกิดมาเป็นลูกของคุณพ่อ คุณแม่ ท่านทั้งสองรักกันมาก พวกท่านมักเดินทางไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ พวกท่านมักจะกอดกัน จูบกันด้วยความรัก พวกท่านไม่เคยแยกจากกันเลย จนฉันยังอิจฉา และอยากจะมีใครสักคนที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไปแบบนั้นบ้าง ทำไม.....ฮือๆๆ.....ฉันก็แค่รักฟาร์ย...แค่อยากจะอยู่กับเขาตลอดไป มันผิดด้วยหรือไงล่ะ” เค้กนั่งลงคร่ำครวญอย่างสงสาร

ปีศาจสาวมองอย่างสงสารเข้ามากอดเอาไว้
“ไม่ผิดหรอกค่ะ คุณหนูไม่ผิดเลย” สายตาที่เปลี่ยนไปของเมอร์ฟีริส

สาวใช้ขอร้องให้เค้กกินขนมที่นำมาให้
“คุณหนูทานเถอะนะคะ นี่เป็นอาหารพิเศษ มันจะช่วยป้องกันพิษและคำสาปของปีศาจ”
“ฉัน.....จำเป็นต้องกินด้วยเหรอคะ”
“ฮืม....ป้องกันไว้ก่อนเถอะนะ เพราะยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ค่ะ”


เมื่อถึงเวลานัดแนะกันไว้ เมอร์ฟีริสในคราบของปีศาจสาวก็มาพบกับเค้กตามสัญญา เค้กยังดูเศร้าที่ต้องจากกับฟาร์ยแต่ก็ต้องตัดใจเพราะต้องกลับโลกมนุษย์

ขณะเดียวกันนั้นฟาร์ยเดินงุ่มง่ามอยู่ที่ห้องของเขาคิดหาวิธีที่จะต่อกรกับย่าแมรี่ คิดถึงคำพูดของท่านย่าที่เสนอให้เขาแต่งงานกับอลิสแล้วจะปล่อยเค้กเป็นอิสระ แต่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าท่านย่าจะทำตามคำพูด แต่เพื่อความปลอดภัยของเค้กเขาจึงจะรับข้อเสนอนั้น เมือ่คิดได้เช่นนั้นฟาร์ยจึงไปที่ปราสาทของท่านย่า

ปีศาจสาวกำลังพาเค้กหลบหนีออกจากปราสาทอยู่นั้นก็ต้องตกใจเมื่อทหารของแมรี่มาพบเข้า เมอร์ฟีริสได้แต่หัวเสียที่แผนการณ์ของเขาไม่ประสบผลสำเร็จ ทั้งสองถูกจับส่งไปหาท่านย่าแมรี่ทันที

“พวกเจ้าคิดว่าจะหลบหนีจากปราสาทแห่งนี้ได้งั้นเหรอ” แมรี่เอ่ย หันไปมองปีศาจสาวอย่างสงสัย
“เจ้าเป็นใครกันน่ะ ทำไมข้าไม่เคยเห็นเลย”
“เอ่อ...นั่นเป็นเมดของข้าเองค่ะ ท่านย่า” อลิสรีบเสนอตัว
“ทำไมคนของเจ้าจึงคิดจะช่วยมนุษย์ต่ำช้าผู้นี้ด้วยล่ะ อลิส”
“เอ่อ...สงสัยว่าท่านเค้กจะเป็นคนขอร้องนะคะ” อลิสรีบหาทางออกทั้งที่ใจเต้นโครมคราม
“ใช่...อย่าทำอะไรเธอเลยนะ หนูเป็นคนขอร้องเธอให้ช่วยเอง” เค้กรีบแก้ตัวให้
“เจ้านี่ช่างน่ารำคาญจริง ยอมรับโทษทัณฑ์แทนคนอื่นงั้นเหรอ โง่เง่า” แมรี่ร้องด่าอย่างไม่สบอารมณ์

“คนแบบเจ้าน่ะ” ดวงตากลมโตที่ประสานกับดวงตาดุดันของปีศาจสาวสูงวัยอย่างมิเกรงกลัว
“ข้าเกลียดสายตาแบบนี้นัก สายตาที่ไม่กลัวเกรงสิ่งใด เจ้าช่างเป็นคนน่ารังเกลียดอะไรขนาดนี้” แมรี่บีบคาเล็กอย่างเกลียดชัง

เสียงประตูเปิดออกอย่างแรง
“หยุดนะท่านย่า อย่าทำอะไรเค้ก” ฟาร์ยร้องเสียงหลง
“ฟาร์ย......” เค้กร้องอย่างดีใจได้พบกับฟาร์ย

“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะท่านย่า” ฟาร์ยออกคำสั่ง
“ฮิฮิฮิ.....นี่เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาออกคำสั่งย่าได้นะ เจ้าหลานชาย” แมรี่สะบัดพัดขึ้นบังหน้าหัวเราะขัน
“ข้าขอร้องล่ะ...โปรดปล่อยเค้กไปเถอะครับท่านย่า”
เกินที่แมรี่จะคาดคิดฟาร์ยคุกเข่าลงตรงหน้าอ้อนวอน
ถึงกับทำให้ปีศาจสูงวัยไม่สบอารมณ์หนักเข้าไปใหญ่
“นี่เจ้า...บ้าไปแล้วหรือไงกัน”
“ข้ายอมแต่งงานกับอลิส.........นั่นเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับอิสระภาพของเค้ก แค่นี้ท่านย่าพอใจหรือยัง” เขาเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง

เค้กอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน อลิสที่เหมือนจะน่ายินดีกลับหน้าเศร้า
“ได้โปรดปล่อยค้กไปเถอะครับท่านย่า” ฟาร์ยยืนยันคำเดิม

แมรี่แม้จะพึงพอใจในคำตอบของหลานชายแต่ก็มิพอใจนักที่เขายอมทุ่มเทแม้ต้องคุกเข่าเพื่อขอร้องให้ปล่อยเค้กเป็นอิสระ
“ก็ได้.....ย่ายอมรับข้อเสนอนั้น แต่ว่าก่อนที่นางจะไป ย่าจะลบความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวกับเจ้าให้หมด”

ทั้งเค้กและฟาร์ยตะลึงอึ้ง
“นี่มัน....ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของเรานะครับท่านย่า”
“แต่นางก็ไม่จำเป็นที่จะจดจำเจ้าเอาไว้นี่นา มันจะรังแต่จะทำให้เจ็บปวด”
“แต่ว่า.....”
“แล้วย่าจะไม่ผนึกเจ้าเอาไว้ที่โลกปีศาจนี้ เจ้าสามารถเดินทางไปไหนต่อไหนก็ได้ตามใจเหมือนเคย” แมรี่รีบยื่นข้อเสนอใหม่ทันทีอย่างผู้ถือไผ่เหนือกว่า
“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ช่วยลบความทรงจำของฉันที่เกี่ยวกับฟาร์ยไปเถอะค่ะ ถ้าหากว่ามันช่วยให้เขาไม่ถูกจองจำเอาไว้ที่นี่”
“เค้ก...นี่เจ้าทำแบบนั้นทำไม”
ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาหันมามองเขา
“และเพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดกับการพบกันใหม่กับนายไงล่ะ อย่างน้อยเราก็คงได้มีโอกาสเจอกันอีกนะ”
ฟาร์ยได้แต่นิ่งงัน
“แล้วฉันยังสามารถทำขนมให้นายทานได้ตลอดไปไงล่ะฟาร์ย” เค้กตอบ
“เค้ก....”

แมรี่ได้แต่ยิ้มย่องอยู่ในใจที่แผนการของตนสำเร็จ
“ฝันไปเถอะเจ้าพวกเด็กหน้าโง่ ข้าคนนี้จะไม่ให้โอกาสพวกเจ้าได้พบกันอีก ฮิฮิฮิ...แค่นี้ทุกอย่างก็สำเร็จ”

แมรี่สั่งให้ปีศาจรับใช้ถือเอาผลแอปเปิ้ลเข้ามาให้กับหญิงสาว
“กินเสียสิ”
เค้กจับจ้องอย่างใจระทึกค่อยๆหยิบมันขึ้นมา หันไปมองฟาร์ยที่นั่งคุกเข่าอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วกัดกินแอปเปิ้ล

หากเจ้ากินผลแอปเปิ้ลนั้น มันก็จะทำให้เจ้าลืมเรื่องของข้าทั้งหมดสิ้น เรื่องที่ผ่านมามันก็ไม่มีความหมายนะสิ ภาพความทรงจำต่างๆที่เคยทำมากมายปรากฎในมโนภาพของฟาร์ย
“ไม่นะ.....ไม่นะเค้ก อย่ากิน” เขากระโจนเข้าไปหาเค้ก แต่ก็เปล่าประโยชน์เมื่อร่างบอบบางล้มลงนอนที่พื้น
ฟาร์ยเข้าไปประคองร่างบอบบาง
“เค้ก....นี่เจ้าจะลืมข้างั้นหรือ เจ้าจะลืมเรื่องทั้งหมดของเรางั้นหรือ ข้าไม่ต้องการหรอกนะ ถ้าจะให้เจ้าเลิกสนใจข้า ถึงจะกินขนมของเจ้า ถึงจะชอบมากแค่ไหน มันก็ไม่เท่ากับ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเจ้าหรอกนะ ข้ารักเจ้านะเค้ก...เพราะงั้นอย่าลืมข้าเลยยย” ฟาร์ยคร่ำครวญกับร่างที่ไร้สติน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่อับอายใคร
สร้างความไม่พอใจให้กับแมรี่เป็นอย่างมาก ฟาร์ยหันไปมองอย่างโกรธแค้น
“ท่านย่า....”
“อะไรกันมองข้าด้วยสายตาแบบนั้น ข้าไม่ปลื้มหรอนะ เจ้าช่างเหมือนคนที่เสียสติไปแล้ว ร้องไห้คร่ำครวญราวกับคนบ้า เจ้าเป็นถึงจอมปีศาจมาทำแบบนี้ต่อหน้าผู้คนได้ยังไง”
“ข้ารักเค้ก ข้าไม่ยอมให้เขาลืมข้าหรอก เพราะงั้นท่านจงทำให้เค้กกลับมาเหมอืนเดิมด้วยเถอะ”
คำขอครั้งที่สองของฟาร์ยดูเหมือนจะเข้าทางแมรี่
“ก็ได้....ถ้าเป็นความต้องการของเจ้า แต่ข้อแลกเปลี่ยนเจ้าต้องยอมรับมันนะ”
“มันต้องแลกด้วยสิ่งใดอีกล่ะ” เหมือนต้องพ่ายแพ้อย่างสิ้นท่าให้กับท่านย่าแล้ว
“เจ้าจะต้องอยู่ที่เมืองนรก สืบทอดเจ้าแห่งอสูรรุ่นต่อไป ห้ามมิให้ตราเวทน์ปรากฎที่โลกมนุษย์เป็นอันขาด” สิ้นเสียงคำต่อรองฟาร์ยกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
“ก็ได้ข้ายอมรับ”
“งั้นเจ้าก็จงกัดกินแอปเปิ้ลลูกนั้นเสียสิ คำสาปจะสลายไปเมื่อมีคนกินคนที่สอง” แมรี่เอ่ย
ฟาร์ยจึงหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมา
“คำสาปจะสลายไปงั้นหรือท่านย่า” หลานชายเหมือนไม่อยากจะเชื่อความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายนัก
ฟาร์ยจำใจค่อยๆยกมันขึ้นมาเพื่อกัดกินอย่างไม่มีทางเลือกอื่น
ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของแมรี่
“ทีนี้แหล่ะ เจ้าก็จะจำนางไม่ได้ตลอดไป....ฟาร์ย”

“ผลั๊กกกก” เสียงไม้เท้ากระแทกกับแอปเปิ้ลกระเด็นตกพื้นไป
ทุกคนหันไปมองต้นเหตุ สาวใช้ยืนจังก้าถือไม้เท้ามีหัวรูปสิงโตอยู่ตรงนั้น
“นี่เจ้า...หลุดจากตราเวทน์ของข้าได้ยังไง” แมรี่ตกใจแต่มองดูไม้เท้าอาวุธของอีกฝ่ายยิ่งตกใจหนัก นั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้รู้ถึงตัวตนของผู้ครอบครอง
“เจ้า.......ไม้เท้านั่น…..เมอร์ฟีริส” แมรี่ครางอย่างตกใจ
“อึม.....สนุกพอหรือยัง แมรี่” เสียงทุ้มๆเอ่ยถาม
“ข้าขอสนุกด้วยคนดีไหม”
“เจ้าจะทำอะไร” แม้จะรู้สึกดีใจกับการพบกันหลังจากกันนับ 20 ปี ก็เถอะ แต่ก็ไม่รู้การมาเยือนของอีกฝ่ายเพื่ออะไร
“ข้าก็จะทำเรื่องที่สนุกๆ เหมือนเจ้าไงล่ะ”
“ข้าขอสาปให้เจ้าจองจำที่โลกมนุษย์จนกว่า.......จนกว่าอะไรดีน้า อ้อ.........ความทรงจำของเค้กจะกลับมา...”
สิ้นคำสาปร่างของทั้งสามก็หายไปจากตรงนั้นทันที
“อ่ะ......เมอร์ฟีริส...เจ้าบ้า......กลับมานะ เจ้าจะทิ้งข้าไปไหนอีกล่ะ เจ้าบ้า......” แมรี่ร้องตามแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้



Create Date : 22 เมษายน 2553
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2563 9:39:45 น.
Counter : 681 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]