Group Blog
|
ตอนที่ 8 เดทกับจอมปีศาจ เค้กส่องกระจกและอมยิ้มอยู่อย่างนั้นหลายรอบแล้ว วันนี้เป็นวันพิเศษที่เธอจะได้ออกเดทกับจอมปีศาจฟาร์ย กว่าจะมีวันนี้ได้ ใช่ว่าเป็นเรื่องง่าย ก็เพราะจอมปีศาจที่เอาแต่ใจตนนั้นไม่ยอมออกไปไหน ได้แต่บ่นว่าร้อนบ้าง ไม่ชอบเสียงดังบ้าง จนหมดฤดูร้อนไปแล้ว เข้าสู่ฤดูฝน แม้ว่ามันอาจจะลำบากสักหน่อยที่อาจจะต้องเจอกับพายุฝน จนมาถึงวันนี้ บรรยากาศเป็นใจพยากรณ์เอาไว้ว่าวันนี้จะไม่มีฝนตก เค้กจึงสามารถอ้อนวอนจอมปีศาจชวนเขาขึ้นไปเที่ยวชมสวนพฤกษชาติบนเขาได้ และแน่นอนการวอนขอครั้งนี้เธอจะต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนก็คือขนมหวานที่จอมปีศาจฟาร์ยชื่นชอบนักหนา ที่เธอเตรียมเอาไว้เป็นอาหารกลางวันของเขา บนเขาเป็นสวนพฤกษชาติขนาดใหญ่ที่ถูกปลูกเอาไว้มาหลาย 10 ปีแล้ว จะบอกว่าเรือนเพาะชำพรรณไม้นานาชนิดขนาดใหญ่ก็เป็นได้ ตอนเป็นเด็กพ่อกับเม่พาเค้กมาที่นี่บ่อย เพื่อที่จะให้เด็กอย่างเค้กได้รู้จักต้นไม้ชนิดต่างๆ รวมทั้งสวนสัตว์เปิดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้หลั่งไหลมาเข้าชม เวลาผ่านไปสวนแห่งนี้ก็ได้พัฒนาตามยุคสมัย มีร้านอาหารและที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อน และยังมีลานกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล็ก ลานกีฬากลางแจ้ง สำหรับทำกิจกรรมในช่วงวันหยุด ทั้งสองขึ้นมาถึงเขาด้วยรถรางที่เตรียมเอาไว้สำหรับพานักท่องเที่ยวขึ้นไปบนเขา ฟาร์ยมองดูเค้กที่ดูตื่นเต้นกับการเที่ยวชมดอกไม้ที่กำลังแข่งกันบานอย่างสนุก “ดูเจ้าร่าเริงเกินไปแล้วนะ” เขาอดแซวไม่ได้ “ก็น่ะ...นายอุตส่าห์มาเป็นเพื่อนทั้งที และที่สำคัญช่วงนี้เป็นหน้าฝนต้นไม้ที่เพิ่งได้รับฝนแรกของปีก็จะแข่งกันออกดอกบานสะพรั่งด้วย ดูสิ สีสรรของมันทำพื้นโลกใบนี้ดูสวยงามมากขึ้นเชียวล่ะ” “ฮืม...ที่จริง นรกก็มีดอกไม้เหมือนกันนะ” “จริงเหรอ ดอกไม้ของนรกเป็นยังไงบ้างล่ะ” “มันก็...มีปาก พูดได้ กินแมลงเป็นอาหาร และยังอายุยืนด้วยนะ ไม่ได้บานแค่เพียงฤดูเดียวเหมือนดอกไม้บนโลกมนุษย์หรอก” “ท่าทางมันจะดูน่ากลัวมากกว่ามั้ง” “แต่มันก็สวยเช่นเดียวกันนั่นแหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้แม้บานอยู่นะที่ใด ก็จะทำให้ที่แห่งนั้นดูสวยงาม เขาถึงได้เปรียบหญิงสาวเหมือนดอกไม้ไงล่ะ” จอมปีศาจเปรียบเปรยให้ฟัง ทำเอาเค้กกลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้ “ข้าพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ” “เปล่าหรอก” จะว่าไป นายจะรู้ตัวบ้างไหมนะ นายเปลี่ยนไปมากจริงๆ เมื่อก่อน นายจะรู้จักความอ่อนหวานและสวยงามของดอกไม้บ้างหรือเปล่า ฉันยังคิดไม่ถึงเลยว่า จอมปีศาจที่แสนโหดร้ายอย่างเจ้า จะเห็นดอกไม้เล็กๆ เป็นสิ่งสวยงาม ผู้หญิงที่นายเปรียบถึง เมื่อก่อนคงเป็นอะไรที่น่ารำคาญสำหรับนายเสียมากกว่า “ขนาดนั้นเชียวหรือ?” เสียงของฟาร์ยดังทำลายความคิดคำนึงอันเงียบของหญิงสาวมีเพียงประกายตาวับวาวที่จับจ้องเขาอยู่ “เจ้านี่ยังเป็นมนุษย์ที่แสนแปลกจริงๆ มีเพียงเจ้านี่แหล่ะกล้าว่าข้าแบบนี้” เขาบอกเธอ นั่นสินะ ความรักคงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ฟาร์ยมองอมยิ้มที่แสนหวานนั้น เขาไม่ได้ต่อคำอะไรอีกนอกจากมองดูดอกไม้ที่หญิงสาวชื่นชมตามข้างทางแทน ถ้าต้องมองดวงหน้าสดใสนั้นนานกว่านี้มีหวังหัวใจคงเต้นแรงทะลุออกมาจากอกเป็นแน่ ได้เวลาอาหารกลางวันทั้งสองนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ เค้กตักขนมเค้กใส่จานใบเล็กให้เขา ดูเขามีความสุขกับการกินขนมเค้กและมีเค้กนั่งอยู่ตรงหน้าทุกครั้งไป หลังจากที่กินจนอิ่มแล้วฟาร์ยก็ล้มตัวลงนอนอย่างสบายใจ เค้กนั่งมองเขาอย่างมีความสุข เวลาผ่านไปนานพอสมควร ฟาร์ยตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจที่เห็นเค้กนอนหลับหัวพิงท้องเขาอยู่ ฟาร์ยลอบมองใบหน้าสดใกล้ๆหัวใจเขาเต้นแรง มันเป็นแบบนี้มานานหรือยังนะ หัวใจที่เขาไม่เคยได้ยินเสียงมาก่อนเลยในชีวิต ทำไมมันถึงต้องเต้นเป็นจังหวะที่ฟังกี่ทีก็เหมือนกับเสียงกลอง เค้กยังไม่รู้สึกตัวเลยฟาร์ยก็ไม่คิดจะปลุกเธอเช่นเดียวกัน เขามองไปรอบๆ ดอกไม้ที่เบ่งบานระบายทั่วเนินมีผีเสื้อตัวเล็กๆ บินว่อนกันอย่างสนุก เสียงนกตัวเล็กๆที่กำลังบินไล่จิกตัวหนอนตามต้นดอกไม้ เหมือนกำลังคุยกันอย่างสนุก “โลกแห่งนี้ช่างสวยงามเสียจริง ขอบใจนะเค้กที่ทำให้ข้าได้มาอยู่ที่นี่” เขาเอ่ยกับคนหลับทีไม่ได้ยินเสียงของเขาในเวลานี้ เวลาผ่านไปพอสมควรเค้กลืมตาตื่นพบว่าตัวเองนอนหนุนตักของฟาร์ย “อ๊ะ...นี่มันกี่โมงแล้วล่ะ” เธอถามเขา “ไม่รู้สิ เจ้านอนหลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ” เขาต่อว่า ขณะเดียวกัน ณ เมืองนรก ท่านย่าแมรี่มองดูหลายชายตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ก็ไม่พอใจกับการกระทำของฟาร์ย “ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่านั่นคือเจ้าฟาร์ย” นางเอ่ยอย่างฉุนเฉียว “อลิส ฟอร์เรสต...พวกเจ้าจงไปจับฟาร์ยแยกออกจากมนุษย์ชั้นต่ำคนนั้นเสียที” นางหันมาบอกปีศาจทั้งสองที่ยืนสงบนิ่งอยู่ด้านหลัง “ขบรับ/ค่ะ ท่านแมรี่” อลิสกับฟอร์เรสตยืนมองดูฟาร์ยกับเค้กอย่างไม่สบอารมณ์เช่นเดียวกัน “เจ้าคิดว่าเราควรจะทำอย่างไรดี”อลิสถามความเห็น “ทำให้ฝนตกสิ ถ้าฝนตกพวกเขาก็ต้องหมดสนุกแน่ๆ” ฟอร์เรสตเอ่ย “งั้นเหรอ...เอาฟ้าร้องด้วยดีไหม?” “ก็เข้าท่าดี” เมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกันเรียบร้อยแล้ว อลิสจึงแสกเมฆฝนให้มาตกบนเขา ส่วนฟอร์เรสตเสกฟ้าร้องฟ้าผ่ามาเสริมอีกคน “ว้า....ไหนพยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้ท้องฟ้าจะแจ่มใสกันล่ะ” เค้กมองท้องฟ้ามืดครึ้มด้วยเมฆฝนอย่างไม่เข้าใจ แต่จอมปีศาจฟาร์ยมองดูก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเพราะเวทมนต์บางอย่างทำให้อากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ สีหน้าเขากังวลเกิดขึ้นด้วยไม่รู้ว่าเป็นใครที่ทำแบบนี้ เค้กกับฟาร์ยหลบฝนที่ศาลาเล็กๆแห่งหนึ่งใกล้ๆกับต้นชมพูพันธ์ทิพย์ที่กำลังออกดอกสีชมพูเต็มต้น “ฮ้า.....สวยจังเลยนะ” เค้กมัวแต่ชื่นชมต้นไม้จึงไม่อาจจะรู้ได้ว่าจะเกิดฟ้าร้องและผ่าลงใกล้ๆ “เปรี้ยงงงงง” ร่างบอบบางจึงเผลอโผเข้าซุกกับอกของจอมปีศาจอย่างไม่รู้ตัว “ว๊ายยยย.....” เค้กร้องอย่างตกใจ ฟาร์ยกอดเธอเอาไว้แน่น รู้ตัวว่าอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายเค้กก็รีบผลักออกทันที แต่ฟาร์ยกลับดึงเธอมากอดไว้หน้าตาเฉย “เจ้าต้องกอดข้าเอาไว้แน่นๆต่างหากล่ะ หากว่าฟ้าผ่าลงมาอีกคราวนี้จะได้ไม่ต้องขวัญผวา” “ฉันไม่ได้ขวัญผวาสักหน่อย” มิใยที่จะพยายามผลักไสแต่ก็ไม่สามารถสู้วงแขนอันแข็งแกร่งได้ สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ก่อการร้ายทั้งสองเป็นอย่างมาก “ทำไมเป็อย่างนี้กันล่ะ” “นี่นายอย่ามาฉวยโอกาสสิ” เค้กเริ่มโมโหยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุฟาร์ย สุดท้ายเธอจึงต่อยหน้าเขาไปหนึ่งทีเพื่อเป็นการลงโทษซึ่งก็ได้ผลฟาร์ยรีบคลายวงแขนทันที “ยัยบ้า..ต่อยข้าทำไม” “ก็ฉันหายใจไม่ออกนินา” “หมั่นไส้....” อลิสร้องออกมาอย่างลืมตัว ฟาดสายฟ้าลงไปอย่างแรงเฉียดร่างเค้กไปหวุดหวิดเพราะฟาร์ยดึงเธอหลบไปอย่างรวดเร็ว “ว๊ายยยยย” เค้กกอดเขาเอาไว้อย่างอัตโนมัติ จอมปีศาจหันไปมองแหล่งต้นเหตุซึ่งฟอร์เรสตก็รีบดึงอลิสหลบเช่นเดียวกัน “เจ้าน่ะสงบสติไว้หน่อย เดี๋ยวแผนเราก็แตกกันพอดี” ฟอร์เรสตดุอลิส “ก็ข้า...ไม่ชอบนิ...ฟาร์ยกำลังกอดแม่นั่นอยู่นะ” อลิสทำท่าจะร้องไห้ “ข้าก็ไม่ชอบใจเหมือนกันล่ะน่า...เพราะงั้นเจ้าต้องสงบใจเอาไว้ด้วย” ฟอร์เรสตจับร่างปีศาจสาวเขย่าอย่างแรง “ถ้าหากว่าเจ้านั่นรู้ตัวเข้าล่ะก็เราจะเป็นฝ่ายแย่เอานะ” เจ้านั่นของเขาคงหมายถึงฟาร์ย ฟาร์ยรีบพาเค้กหลีบหนีจากตรงนั้นไปทันที ฟาร์ยวางเค้กลงกับพื้นหลังจากออกห่างมาไกลมากแล้ว “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?” เขาถามอย่างเป็นห่วง แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายตัวสั่นอย่างหวาดกลัวในอ้อมกอดเขามาตลอด “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ว่าแต่ทำไมฟ้าจะต้องมาผ่าใกล้ๆฉันด้วยล่ะ น่ากลัวจริงๆ” ฟาร์ยมองดูคลับเฮาน์ตรงหน้าจึงบอกให้เค้กเข้าไปหลบข้างใน อลิสกับฟอร์เรสตแอบติดตามมาห่างๆ “พวกเขาหนีกันไปแล้ว” ฟาร์ยรู้แล้วว่าเป็นฝีมือของปีศาจทั้งสองเมื่อจับสัมผัสของไอปีศาจจากทั้งสองได้แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจพาเค้กเดินปะปนผู้คนเข้าไปนั่งในร้านขายขนมแห่งหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าที่ร้านแห่งนั้นกำลังชุลมุนเพราะมีลูกค้าร้องเรียนเรื่องขนมเป็นจำนวนมาก “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” เค้กถามพนักงานที่ร้าน “เฮ้อ.....ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับจู่ๆ ขนมที่ทำวันนี้ก็เกิดมีรสชาติเหม็นไหม้ไปหมดจนลูกค้าไม่พอใจเป็นจำนวนมาก ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักอย่างเดียว” “ฉันขอชิมหน่อยนะคะ” “ฮืมมม ....” เค้กชิมขนมอย่างช้าๆ หลับตานึกถึงส่วนผสมต่างๆ ทุกคนต่างจับจ้องดวงหน้าใส “ฉันคิดว่าน่าจะเกิดจากน้ำเตาลค่ะ” “น้ำตาลงั้นเหรอ ไม่น่าเป็นไปได้นะ แต่ว่าเราก็เพิ่งจะเปลี่ยนน้ำตาลเจ้าใหม่” เจ้าของร้านดูจะไม่ค่อยเชื่อนัก “ฉันคิดว่าน่าจะเป็นน้ำตาลค่ะ เพราะขนมทุกชนิดส่วนผสมที่ต้องใช้เหมือนๆกันคือน้ำตาล และแป้ง และกลิ่นเหม็นไหม้คล้ายๆกับคาลาเมลและขมด้วยนิดหน่อย เป็นลักษณะของน้ำตาลไหม้ค่ะ” เธอตอบอีกครั้ง พนักงานของร้านต่างก้ทึ่งในตัวเธอเพียงแค่ชิมขนมไปนิดเดียวเธอก็สามารถบอกถึงสาเหตุที่ทำให้ขนมเสียรสได้ “เราจะทำยังไงล่ะ วันนี้เสียลูกค้าไปเยอะเลยล่ะ แล้วนี่ขนมที่ต้องไปส่งที่คลับเพราะสั่งเอาไว้เลี้ยงนักท่องเที่ยวอีกล่ะ” เจ้าของร้านวิตกกังวลอย่างมาก “งั้นให้ฉันช่วยไหมคะ ฉันจะช่วยเอง” เธออาสา แต่เจ้าของร้านก็มองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ “ฉันชื่อเค้กค่ะเป็นนักศึกษาที่มหาลัยการเรือนค่ะ วิชาเอกคือเบอเกอรี่ บอกมาเถอะค่ะว่าต้องการอะไร ฉันสามารถทำได้ทุกอย่างเลยนะคะ” “นี่คุณเป็นนักศึกษามหาลัยการเรือนงั้นเหรอครับ งั้นก็คงต้องรบกวนด้วยครับ” ดูเขาเชื่อมั่นขึ้นมานิดหน่อย เพราะชื่อเสียงของมหาลัยการเรือนเป็นหนึ่งของเมืองนี้ นักศึกษาของที่นั่นมีฝีมือการทำอาหารเป็นที่ลือเลื่อง “เชื่อมือฉันเถอะนะคะ” ดูความเอาจริงเอาจังของหญิงสาวแล้วพลอยทำให้เจ้าของร้านเชื่อใจ ฟาร์ยไม่ได้เอ่ยอะไรเพราะเขารู้จักเค้กดี ถ้าเป็นเรื่องของคนอื่นที่เธอพอจะช่วยได้ ยัยแม่มด ก็คงไม่นิ่งเฉยเป็นแน่ แต่เรื่องสำคัญที่เขาต้องจัดการก็คือตัวการที่มาก่อความวุ่นวายในวันพิเศษนี้ เจ้าของร้านพาเค้กเข้าไปในห้องทำขนมโดยมีฟาร์ยติดตามไปช่วย เจ้าของร้านเขียนรายการขนมที่ต้องการส่งให้กับเธอ เค้กเตรียมส่วนผสมต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว จนเจ้าของร้านเองก็นึกชื่นชม เธอขอให้ทางร้านหาน้ำตาลมาให้ใหม่ ซึ่งพวกเขาก็รีบเตรียมให้อย่างรวดเร็ว ฟาร์ยลองเห็นเงาของปีศาจวายร้ายทั้งสอง วูบไวผ่านร้านขนม เขาได้แต่ถอนใจกับความไม่รู้เรื่องของเค้ก แต่พอเห็นหน้าเอาจริงเอาจังกับงานตรงหน้าแล้วก็ได้แต่ยืนระวังอยู่ใกล้ๆ “ยัยบ้า...ทำไม..เจ้าถึงเป็นมนุษย์ที่แสนแปลกอย่างนี้” เขาพรึมพรำกับความเงียบ “เสร็จแล้วๆ” เสียงใสๆเอ่ยอย่างร่าเริงเมื่อถาดขนมเลื่อนออกมาจากเตากลิ่นขนมอบใหม่ๆหอมฟุ้งไปทั่วห้อง เจ้าของร้านยิ้มอย่างยินดี เมื่อเขาตักชิมถึงกับน้ำตาไหล “อร่อยมากเลยครับ เป็นขนมที่อร่อยมาก ผมไม่เคยกินขนมที่อร่อยแบบนี้ที่ไหนมาก่อนเลยครับ” “ไม่ขนาดนั้นหรอนะคะ” เธอยังถ่อมตัวเหมือนเคย เค้กเงยหน้ามายิ้มให้กับฟาร์ย หลังจากที่ก้มหน้าก้มตาทำขนมอยู่ตั้งนาน ฟาร์ยที่ยืนกังวลอยู่ถึงกับนิ่งงัน นี่เจ้า....ทำหน้าไม่ทุกข์ร้อนแบบนี้ กลับปล่อยให้ข้าเป็นกังวลแทบบ้าอยู่คนเดียว “นี่จ๊ะ นายคงจะหิวบ้างแล้วสิ” เธอยิ้มอย่างใจดีเหมือนเคย “นี่ฉันใส่ความรักลงไปด้วยนะ” เค้กก้อนเล็กที่ถูกตักใส่จานเต่งแต้มด้วยลูกสตอร์เบอรี่อย่างน่ารับประทาน ฟาร์ยถึงกับหน้าแดงเมื่อรับจานขนมเอาไว้ นี่เป็นการบอกรักหรือเปล่านะ จอมปีศาจถึงกับมือไม้สั่น “โครมมมมม” เสียงโต๊ะและเก้าอี้ในร้านล้มระเนระนาด “ว๊ายยยย” เสียงลูกค้าร้องตกใจ ทุกคนวิ่งออกมาดูเห็นจอมวายร้ายสองตนกำลังอาระวาดอยู่ที่นั่น ฟาร์ยมองด้วยสายตาดุดัน “นี่พวกเจ้า มาทำอะไรกัน” เสียงเขาเอ่ยถาม “ก็ไม่น่าถามนะ ก็มาสร้างความวุ่นวายให้เจ้าสองคนไงล่ะ” ปีศาจสาวหันมาตอบ “นั่นๆ.....ฉันจะทำให้ของพวกนี้พังพินาศให้หมดเลย” อลิสเอ่ยอย่างสนุกสนาน “อะไรกันน่ะ อลิส ฟอร์เรสต” เค้กร้องอย่างตกใจเมื่อของต่างๆลอยขึ้นจากตกและตกลงมาเกลือนพื้นลูกค้าต่างร้องระงมอย่างขวัญหนีพากันวิ่งออกจากร้านๆไป เจ้าของร้านทั้งตกใจและกลัวนั่งหัวหดอยู่ใต้เคาน์เตอร์ “555.....ทีนี้พวกเจ้าก็หมดสนุกกันแล้วสินะ” อลิสยังสนุกอยู่ ฟอร์เรสตดูจะไม่ค่อยเต็มใจนักที่ต้องมาทำแบบนี้แต่ก็ไม่อาจจะขัดใจปีศาจสาว “หยุดเดี๋ยวนี้นะ พวกอยากจะลองดีกับข้าหรอืไง” เสียงเหี้ยมของฟาร์ยเอ่ย แต่อลิสก็ไม่สนใจ “ขนมพวกนี้ ข้าจะทำลายให้หมดดด 5555” อลิสเสกคาถาใส่ขนมที่เค้กเพิ่งทำเสร์จให้หกเรี่ยราดเต็มห้องอย่างสนุกสนาน “กรี๊ดดดดดดดดดด” เค้กร้องสุดเสียง ทุกคนตกใจมาก อลิสถึงกับชะงักอย่างตกใจ เค้กหันมามองอลิสและฟอร์เรสตหน้าแดงกล่ำด้วยความโกรธ “นี่พวกเธอ...ทำไมแย่อย่างนี้...ใช้ไม่ได้เลยนะ มาทำลายของกินแบบนี้ให้อภัยไม่ได้” เค้กตะโกนอย่างโมโห “นิสัยเสียที่สุด.....ช่างเป็นปีศาจที่ชั่วร้ายสิ้นดี สร้างความเดือดร้อนให้มนุษย์แบบนี้ต้องถูกลงโทษ” เค้กด่าให้ทั้งสองอย่างโมโห “ข้าจะเสกให้พวกเจ้าถูกขังอยู่ในตู้อบสัก 1 0 ปีเลยดีไหม โทษฐานที่ทำลายของกินแบบนี้ พวกเจ้าช่างไม่มีจิตสำนึกจริงๆ” ไม่มีจิตสำนึก.... อลิสกับฟอร์เรสตตกใจมากที่เห็นเค้กโกรธถึงกับหยุดอย่างไม่เป็นท่า “เค้ก...เอ่อ...ข้าแค่ทำตามที่อลิสเขาขอร้องนะ ข้าไม่ได้เต็มใจ” ฟอร์เรสตรีบแก้ตัว “เออ....เออ....ข้า...ไม่.....ทำไมเจ้าเอาตัวรอดคนเดียวแบบนี้ล่ะ” อลิสให้ไปโวยวายกับฟอร์เรสต ฟาร์ยได้แต่ยืนทำหน้างง เฮ้อ....สุดท้ายปีศาจพวกนี้ยังต้องสยบให้กับแม่มดของข้าสินะ เวลาโมโหน่ากลัวจริงๆ สุดท้ายฟาร์ยก็ไม่ได้ออกโรงแต่อย่างใด “ฉันขอโทษนะเค้ก ฉันไม่ได้ตั้งใจ” อลิสรีบแก้ตัวทันที “ผมขอโทษครับ” ฟอร์เรสตเอ่ยอีกคน “พวกเธอต้องทำทำขนมทดแทนเจ้าของร้านเดี๋ยวนี้เลยนะ รู้ไหมว่าทำให้พวกเขาเดียดร้อนขนาดไหน ขนมที่ฉันเพิ่งจะทำไปจะต้องนำไปให้คนอีกจำนวนมากทาน ถ้าพวกเขาไม่ได้กินขนมพวกนี้ ก็จะทำให้การพักผ่อนในช่วงวันหยุดไม่มีความหมายนะสิ” “ครับ/ค่ะ พวกเราจะทำขนมทดแทน” ทั้งสองตอบแทบจะพร้อมกัน ดังนั้นทั้งอลิสและฟอร์เรสตจำต้องเป็นลุกมือช่วยเหลือเค้กในการทำขนมใหม่ เจ้าของร้านดูจะหวาดกล้วกับเหล่าผู้มาเยือนใหม่เป็นอย่างมาก แต่เค้กก็ช่วยพูดให้คลายตกใจ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณเจ้าของร้าน พวกเขาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกค่ะ” เธอบอกแก่เขา “และไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะช่วยกันทำขนมให้ทันส่งแน่นอนค่ะ” “งั้นเหรอครับ ขอบคุณครับ” แม้จะยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่แต่เห็นสีหน้าและท่าทางที่เอาจริงเอาจังของเค้กแล้วเขาก็วางใจล ปีศาจทั้งสองช่วยเค้กทำขนมอย่างขันแข็งไม่นานนักขนมก็เสร็จเรียบร้อยตรงหน้า “เฮ้อ...เสร็จสักที” อลิสนั่งหมดแรงลงข้างๆฟอร์เรสต “นี่พวกเธอจะต้องจัดการกับข้าวของที่ทำจนเละด้วยนะจ๊ะ” เค้กยังสั่งงานต่อ “เอ่อ...เฮ้อ..ถ้ารู้ว่าจะยุ่งยากแบบนี้ฉันไม่ทำหรอกนะแผนนี้” อลิสบ่นขณะช่วยร่ายเวทให้คืนสภาพข้าวของต่างๆ เจ้าของร้านแม้จะงงและหวาดกลัวกับการกระทำของปีศาจแต่เขาก็ดีใจที่ร้านกลับมาเป็นปกติ “และอีกอย่างการที่พวกเธอทำให้ลูกค้าต้องตกใจและหนีออกจากร้านไปหมดนั้น จะต้องชดใช้ด้วยการช่วยเรียกลูกค้ากลับมาที่บ้านด้วยนะ และก็ขนมพวกนี้ พวกเธอจะต้องเอาไปส่งให้กับทางคลับที่เขาสั่งด้วยล่ะ” เค้กยังออกคำสั่งต่อ “นิ..เธอน่ะ จะสั่งเหมือนแม่เข้าไปทุกทีแล้วนะ” อลิสโวยวายตรงเข้าจะไปเล่นงานเค้กแต่ฟอร์เรสตจับตัวไว้ “จ๊ะๆ....เราจะจัดการทุกอย่างเลยนะท่านเค้ก ขอแค่เจ้าหายโกรธก็พอ” “นี่เจ้า...” อลิสหันไปมองได้แต่หัวเสีย “นี่จ๊ะ..ขนมช่วยเอาไปส่งให้ทีนะ” เค้กส่งกล่องขนมให้กับทั้งสอง ใบหน้ายิ้มแย้มน่ารักของเธอทำเอาปีศาจหนุ่มไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้น “นี่ฟอร์เรสต นายบ้าไปแล้วหรือไงล่ะ” “ไม่รู้ล่ะ ข้าไม่ต้องการทำร้ายท่านเค้กแบบนั้นสะหน่อย แค่จับพวกเขาแยกออกจากกันก็พอ” “แล้วนี่อะไรทำไมเราจะต้องมาส่งขนมด้วยล่ะ” อลิสยังโวยวายต่อ “พวกเรามาจับพวกเขาแยกออกจากกันไม่ใช่เหรอ” เธอถามฟอเรสต หลังจากส่งขนมเรียบร้อยแล้วก็รีบกลับมาที่ร้าน เค้กกับฟาร์ยยังอยู่ที่นั่น “นี่ๆๆ....ที่จริงน่ะ พวกข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะ….” อลิสตรงเข้าไปหาเค้ก แต่ฟอร์เรสตก็ยังดึงมือเอาไว้ อลิสหันกับมาโวยวายกับฟอร์เรสต “นี่เจ้ามาจับข้าไว้ทำไมล่ะ” “ข้าไม่ยอมให้เจ้าทำอะไรท่านเค้กหรอกนะ” “เจ้ามันบ้าไปแล้ว ข้าจะจัดการเอง.....” แต่พอทั้งสองหันกลับมาก็ต้องตกใจที่ไม่พบร่างของเค้กกับฟาร์ยอยู่ตรงนั้นแล้ว ขณะเดียวกันบนท้องฟ้าฟาร์ยอุ้มเค้กลอยไปกับปุยเมฆ “ทิ้งพวกเขาเอาไว้แบบนั้นจะดีเหรอ” เค้กตั้งคำถาม “ก็ดีแล้วล่ะ ข้าไม่รู้นะว่าเจ้านั่นจะมาทำอะไรกัน แต่วุ่นวายชะมัด” “แต่ฉันอยากรู้นิน่าว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อ” ฟาร์ยมองหน้าร่าเริงแล้วยิ้ม “เจ้าเนี่ยนะ…..” “ว้าววว....นั่น รุ้งกินน้ำ” เค้กชี้มือให้ฟาร์ยดู “สวยจังเลยนะ ฉันไม่เคยเข้าใกล้มันขนาดนี้เลย รุ้งมากินน้ำที่ทะเลจริงเหรอ?” เธอตั้งคำถาม “เป็นเรื่องเด็กๆน่ะ เจ้าก็น่าจะรู้รุ้งกินน้ำเกิดมาได้ยังไง” ฟาร์ยแย้งกลับ “ฮิฮิฮิ....นายน่ะก็รู้เหมือนนันสินิ....แล้วเราสามารถอธิษฐานขอพรจากรุ้งกินน้ำได้หรือเปล่าล่ะ” “ไม่รู้สิ...ไม่เคยได้ยินความเชื่อแบบนี้ เจ้าน่ะเป็นมนุษย์ก็ชอบขออะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่คนอย่างเจ้ามีอะไรที่อยากจะขอกัน” เขาถามออกไปก็โดยปกติเค้กไม่เคยขอให้เขาทำอะไรให้นอกจากช่วยทำขนม “ก็...ก็....ขอให้เราได้อยู่ด้วยกันตลอดไปไงล่ะ...” ฟาร์ยสบตากับตาดวงโตที่อยู่ตรงหน้า ร่างบอบบางที่เขาอุ้มอยู่นี้ ใบหน้าระบายด้วยรอยยิ้มสดใส จอมปีศาจถึงกับใจเต้นแรง “นี่เจ้า....ช่างไม่รู้อะไรจริงๆนะ เราไม่อาจจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป เพราะเจ้าเป็นมนุษย์ ส่วนข้าคือปีศาจ” “ก็นะ...เพราะนายคือปีศาจส่วนฉันก็เป็นเพียงคนธรรมดา แค่เพียงชั่วชีวิตของฉัน นายจะอยู่กับฉันตลอดไปได้ไหม?” เพียงอ่อนหวานเอ่ยคำอธิษฐานที่วอนขอออกมา ฟาร์ยหลับตาลงและยิ้มบางๆ “เจ้านี่ช่าง....คิดเรื่องอะไรที่เกินจริงไปหน่อย.” “ไม่ได้เหรอ......” เสียงผิดหวังเอ่ยออกมา ฟาร์ยเหยียบพื้นดินอย่างแผ่วเบา ดวงตากลมโตที่ฉายแววผิดหวังตรงหน้า ข้าก็คงมิอาจจะทำลายความหวังนั้นได้ “ข้าจะลองคิดดูก็แล้วกัน...ถ้าเจ้าอบขนมทุกวัน มันก็ช่วยไม่ได้ แล้วเจ้าน่ะ จะขี้เกียจอบขนมบ้างไหม?” “ฮ้า.....ฉันไม่หรอก ฉันเต็มใจ” รอยสดใสกับมาอีกครั้ง เค้กจับบ่าทั้งสองเอาไว้ทั้งสองสบตาเนิ่นนาน ฟาร์ยใจเต้นแรงเมื่อดวงหน้าใสค่อยๆโน้มลงมาหาเขา.....นี่เจ้ากำลังจะทำร้ายข้าหรือไงนะ ยัยบ้า...จะปั่นหัวข้าเล่นหรือยังไงกัน? แต่ทำไมข้าถึงต้องใจเต้นแรง...และยังรอ...รอให้เจ้าทำแบบนี้กับข้าด้วยนะ “เค้ก......เค้ก...จะทำอะไรน่ะลูก...” เสียงเข้มดุ ดังมาจากหน้าร้านขนมหวาน ทำเอาทั้งสองตกใจชะงักทันที ฟาร์ยถึงกับหน้านิ่วอย่างไม่สบอารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะ “พ่อ”... เค้กร้องออกมาอย่างตกใจ “พ่องั้นเหรอ” ฟาร์ยหันไปมองต้นเสียงบ้างแต่เขาตกใจมากกว่า “ปล่อยลูกฉันเดียวนี้นะ...แกเป็นใครบังอาจทำมิดีมิร้ายลูกของฉัน” ฟาร์ยมองร่างสูงใหญ่อย่างงงงันที่ได้พบกัน “เมอร์ฟีริส” “อ่ะ....” ดูทั้งสองตกใจที่พบกัน ฟาร์ยยังคงอุ้มเค้กเอาไว้ไม่ยอมปล่อยลง เค้กสงสัยกับท่าทีเหมือนจะรู้จักกันของทั้งสอง “ปล่อย...ข้าบอกให้ปล่อยลูกข้าไงล่ะ” การพูดจากของพ่อเปลี่ยนไป “พ่อคะ....” เค้กร้องอย่างตกใจเมื่อพ่อเข้ามาคว้าที่เอวเอาไปแบกไว้บนบ่า “แก...บังอาจมายุ่งกับลูกของข้า” พ่อชี้หน้าว่าอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ฟาร์ยมองอย่างไม่เกรงกลัว “ข้าน่าจะเป็นฝ่ายถามเจ้ามากกว่านะ...เมอร์ฟีริส” เสียงทุ้มๆเอ่ยถาม “ปล่อยค่ะพ่อ...เมอร์ฟีริสคือใครกันคะ?” เค้กตั้งคำถามเมื่อลงมายืนที่พื้นแล้ว “เออ...ไม่มีๆ อะไรทั้งนั้นจ๊ะ พ่อไม่รู้จักหรอก” พ่อโบกมือปฎิเสธกับเค้ก “ทั้งสองคนท่าทางจะรู้จักกันด้วยนะคะ” “ไม่ๆๆ พ่อไม่เคยรู้จักหรอก ไอ้คนหน้าประหลาดอย่างนั้น” พ่อชี้หน้าฟาร์ยที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม “อย่าบอกนะว่านี่คือคนที่ลูกอยากจะให้พ่อกับแม่รู้จักน่ะ” “ค่ะ....นี่ฟาร์ยเพื่อนของหนูคะ” เค้กรีบบอก “โอ้ววว....ไม่นะ พ่อไม่อนุญาตให้ลูกคบหากับปีศาจ...เอ๊ย...ไอ้คนแบบนั้น” “ทำไมละคะ?” “พ่อไม่ชอบ...พ่อเหม็นขี้หน้ามัน” “ข้าขอสั่งเจ้าต่อไปห้ามมายุ่งกับลูกสาวของข้า ถ้าไม่งั้นล่ะก็ ข้าเอาเจ้าตายแน่” พ่อหันไปลั่นประกาศิตใส่ฟาร์ย ฟาร์ยมองอย่างไม่สบอารมณ์สะบัดมือทีเดียวเสื้อคลุมสีดำของปีศาจก็ปรากฎออกมา “เจ้ามีสิทธิอะไรมาสั่งข้าแบบนี้ เจ้าก็น่าจะรู้นะ ถ้าสู้กันจริงๆแล้วล่ะก็ ใครกันแน่ที่ต้องตาย” เสียงอันโหดเหี้ยวของฟาร์ยเอ่ย เค้กแม้จะไม่เข้าใจกับการสนทนาแต่ก็ไม่ชอบใจนักที่ทั้งสองมีท่าทีไม่ชอบกันแบบนี้ “งั้นก็มาลองดีไหมล่ะ....ฟาร์ย” ฟาร์ยยกมือขึ้นเตรียมจะร่ายเวท “หยุดนะ.....อย่านะฟาร์ย” เค้กยืนกางแขนห้ามทัพระหว่างชายทั้งสอง “อย่าทำอะไรคุณพ่อนะ” เสียงอ้อนวอนของเธอทำเอาฟาร์ยชะงัก “เขาเป็นคุณพ่อของฉัน นายอย่าทำร้ายเขาเลยนะ” เธอเอ่ยอีกครั้ง “ไม่ใช่สักหน่อย เจ้านั่นน่ะ......อั๊ก” ฟาร์ยล้มลงไปนอนกับพื้นทันทีเมื่อโดนของหนักกระแทกเข้าที่หน้า พ่อโยนกระเปาเดินทางใส่หน้าเขาเต็มๆ “อ่ะ ฟาร์ย...คุณพ่อ อย่าทำอะไรฟาร์ยนะ” เค้กหันมาห้ามพ่อของตัวเองแต่มันก็ช้าไปแล้ว เหมือนมีลมพัดร่างเค้กให้ถอยห่างออกไปจากการปะทะกันของชายทั้งสอง เธอได้แต่ร้องห้ามเสียงหลง “อย่านะ....อย่า” ฟาร์ยลุกขึ้นมาเสกเชือกพันร่างของเมอร์ฟีริสเอาไว้อีกฝ่ายล้มลงทันที “ฟาร์ย....อย่า” เค้กวิ่งเข้ามากอดฟาร์ยเอาไว้เมื่อเขาตรงเข้าไปแตะพ่อที่นอนอยู่ “นี่เจ้าไม่เห็นเหรอว่าเจ้านี่มันทำร้ายข้า” ฟาร์ยหันไปตะคอกใส่เค้ก เค้กน้ำตานองหน้า จอมปีศาจจึงชะงักไป “อย่าทำอะไรคุณพ่อเลย” เสียงเธอสะอื้นดัง “ฮึบบบบ” เมอร์ฟีริสแก้เชือกเวทของฟาร์ยออกจนได้ ฟาร์ยจึงผลักเค้กกระเด็นไปอีกรอบ “ว๊ายยยย” แต่ก็หลบหมัดของพ่อไม่ทัน “พลั๊กก....” ฟาร์ยล้มลง “ชิ....เล่นทีเผลอเหรอ” ฟาร์ย ฟาร์ยแสกไม้เท้าของเขาออกมากระโดดทีเดียวก็คว่ำพ่อลงไปนอนกับพื้นพร้อมด้วยรองเท้าที่ประทับอยู่บนหน้า เขาขี้ไม้เท้าใส่หน้าพ่อ “เจ้าคิดว่าข้าเป็นใครกัน ที่เจ้าออมมือให้น่ะ มันดูถูกมากไปแล้วนะ” พ่อทำหน้าเลิ่กลั่กหันมามองหน้าเค้ก “ว๊ายยยยย” เค้กร้องเสียงดัง “เค้กกก” พ่อร้องเรียกเธอ ฟาร์ยหันมามองคนที่อยู่ข้างหลังก็ต้องตกใจที่พบว่าฟอร์เรสตกำลังจับกุมเธอเอาไว้ “ข้าขอตัวท่านเค้กไปนรกกับข้าก่อนนะ ถ้าอยากจะช่วยก็ตามมาก็แล้วกัน” พูดเสร์จเค้กก็หายไปในกลุ่มหมอกเวทของฟอร์เรสต “พ่อคะ.....ฟาร์ย.....ช่วยด้วย” เธอร้องอย่างตกใจพร้อมเอื้อมมือหวังจะจับมือกับฟาร์ย ทั้งสองกระโจนเข้ามาหาแต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า......... |
BlogGang Popular Award#20
unitan
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Link |