Group Blog
|
ตอนที่ 3 ขนมหวานเทศกาลปีใหม่ ก๊อก ก๊อก ก๊อกกกก เสียงประตูดังตอนดึกของวันที่ 24 ธันวาคม เค้กยังไม่นอนก็จริงเพราะกำลังอ่านตำราทำขนมเพลินๆ ก็ต้องแปลกใจมากที่จะมีใครมาหาเธอในยามอากาศข้านอกก็แสนเย็น นี้ได้ แต่พอประตูเท่านั้นร่างสูงโปร่งในเสื้อคลุมหรู ถือกล่องของขวัญใบใหญ่ เขาสวมหมวกสีแดงอยู่บนหัวก็และร้องทักเธออย่างร่าเริง “Merry Christmas and a happy new year เค้ก” เสียงทุ้มๆ เอ่ย พลางดีดนิ้ว ปุยเส้นใยขาวๆ มาพร้อมกับเหล่าดวงดาวและเกล็ดหิมะก็ปลิวว่อนทั่วห้อง เค้กอ้าปากค้างอย่างแปลกประหลาดใจ “อะไรของนายเนี่ย!!” ฟาร์ยนิ่งงั้นทำหน้าไม่สบอารมณ์ที่อีกฝ่ายไม่รับมุขเขาเลยขณะที่ยื่นกล่องของขวัญให้กับเธอถึงกับค้างนิ่ง “อะไรๆ เจ้าเป็นมนุษย์เสียเปล่า ไม่รู้หรือไงว่าวันนี้เป็นวันอะไร?” “รู้สิ........ก็วันนี้เป็นวันคริสต์มาสอีฟไงล่ะ” “แล้วเจ้าไม่ตื่นเต้นเลยหรือยังไงกัน” “ก็นะ.....ฉัน.......” เค้กนิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะปรับสีหน้าร่าเริง “ก็ฉันไม่คิดว่าจะมีใครเอาของขวัญมาให้นะสิ” แต่ฟาร์ยก็แอบจับพิรุธนั้นได้ ฟาร์ยเข้ามานั่งประจำที่ของเขา คุ๊กกี้กระโดดขึ้นไปนั่งบนตักเขาและทำท่ารอทั้งคู่ ดูเหมือนมันจะไม่ได้หวาดกลัวจอมปีศาจอย่างฟาร์ยแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะความคุ้นเคยที่พบเจอกันบ่อยๆ “อะไรกัน นี่นายน่ะที่จริงแล้วต้องการมากินขนมใช่ไหม?” เธอเอ่ยถามอย่างรู้ทันเพราะวันนี้เธอไม่ได้อัญเชิญเขามาสักหน่อย “ไม่น่าถามนี่ ก็วันนี้เป็นวันคริสต์มาสอีฟ ข้าให้ของขวัญแก่เจ้าแล้วเจ้าก็ต้องตอบแทนข้าด้วยสิ” “นั่นเป็นคำขอของนายใช่ไหม? ก็ได้จ๊ะ รอสักครู่นะ” เค้กหายไปครู่ใหญ่มาพร้อมกับน้ำชาและจานใส่ขนมหวานที่ฟาร์ยชอบ “ทานให้อร่อยนะ” “มันก็แน่อยู่แล้วล่ะ ขนมของเจ้าน่ะมันอร่อยที่สุดอยู่แล้ว” “ฟาร์ยในนี้มีอะไรเหรอจ๊ะ” “สิ่งที่ข้าอยากให้เข้าน่ะสิ” เค้กมองใบหน้ามีความสุขที่กำลังกินขนมหวาน เขาแบ่งให้คุ๊กกี้แทะกินอย่างอร่อย มีอะไรที่นายอยากให้ฉันงั้นเหรอ.....เสียงกระซิบจากความคิดที่ดังเบาๆ “ก็เปิดดูสิ” เขาบอก เค้กเปิดกล่องใส่ของขวัญรอยยิ้มสดใสปรากฎขึ้นอีกครั้ง “นายน่ะเลือกของพวกนี้เป็นด้วยเหรอ” เธอถาม ฟาร์ยไม่ได้ตอบ “หรือว่าเอาให้สาวๆเป็นประจำ?” เอียงคอถามอย่างสงสัย “ข้าไม่เคยให้ของพวกนี้กับใคร” เขารีบตอบหนาแดง “ก็มีแต่เจ้าเท่านั้นแหล่ะที่ข้าอยากจะให้” “ขนมเค้กแลกกับเสื้อผ้าเนี่ยนะ!!” เธอแทบจะไม่อยากเชื่อ “ก็ทำไมล่ะ ก็เจ้าน่ะไม่ยอมเรียกข้ามาหาตั้งวันนึง ข้าหิวขนมจะแย่อยู่แล้ว” เขาตัดพ้อ “ฮืม....ขอบใจนะ แต่ว่าฉันจะมีโอกาสได้ใส่มันเหรอ” “มีสิ...เจ้าต้องได้ใส่แน่” เค้กมองชุดผ้าไหมและเครื่องประดับมุกที่วางอย่างเรียบร้อยอยู่ในกล่อง มันสวยเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่าจะใส่ในโอกาสไหนได้ ฟาร์ยแอบมองเสี้ยวหน้ามีความสุขเงียบๆ อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลปีใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่การได้ฉลองเทศกาลปีใหม่หรอกนะเพราะปกติแล้วเค้กมักจะฉลองยู่ที่บ้านเพียงลำพัง แต่ปีนี้เธอตั้งใจแล้วล่ะว่าจะต้องชวนเขามาให้ได้ “ปีนี้ครูตั้งใจว่าจะเปิดร้านขายอาหารญี่ปุ่นจ๊ะ ทุกคนว่าไงดี” อาจารย์พิมพกา อาจารย์ประจำชั้นถามเหล่าลูกศิษย์ของเธอ ทุกคนต่างก็เห็นดวยและลงมติกันว่าจะทำอาหารญี่ปุ่น เค้กได้รับผิดชอบทำ ทาโกะยากิ ส่วนคนอื่นๆก้ได้งานส่วนที่ตัวเองถนัดไปทำ งานประจำปีของปีนี้แต่ละห้องได้เปิดร้านเหมือนทุกปี พวกปี 1 ส่วนมากรับเอางานแสดงไปทำกัน ปี 2 อย่างพวกเค้กเปิดร้านขายอาหารนานาชาติ ร้านอาหารญี่ปุ่นของห้องเอ ร้านอาหารฝรั่งเศษห้องบี อิตาเลี่ยนห้องซี อเมริกาห้องดี และห้องอีทำอาหารไทย ปี 3 เปิดร้านขายของ ส่วนปี 4 เป็นคณะกรรมการดูแลความเรียบร้อยไป เย็นนั้นเค้กเรียกฟาร์ยออกมาเหมือนทุกวัน “ปีนี้พวกเราเปิดร้านขายอาหารญี่ปุ่นจ๊ะ ฉันต้องทำทาโกะยากิด้วยล่ะ นายทานเป็นไหม?” เค้กเล่าให้เพื่อนร่วมโต๊ะฟังถึงเรื่องงานโรงเรียน “ฮืม...ก็พอกินได้นะ แต่จะให้ดี เป็นเค้กดีกว่า” เขาตอบ ใช่แล้วล่ะเพื่อนของเธอเป็นคนที่ชอบทานขนมเค้กมาก และเขายังไม่ใช่คนธรรมดาเสียด้วย เพราะเขาเป็นจอมปีศาจจากนรกที่เค้กมักจะเรียกมาใช้งานเสมอ เขาชอบขนมหวานมากทุกอย่างที่เธอทำเขาชอบทุกอย่างยกเว้นลูกเกดและเกาลัค “ข้าจะกลับล่ะ” “เดี๋ยวก่อนสิ....” “อ้อ....วันนี้ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเพื่อเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเลยใช่ไหม?” แม้เขามักจะเอาแต่ใจไปหน่อย บางครั้งก็ดุร้าย และอวดดี แต่เขาก็ใจดีเหมือน กันนะ “นายน่ะเห็นเรื่องกินสำคัญกว่าทุกทีเลยนะ” “ฮ้า...ว่าไงน่ะ เจ้าว่าข้าตะกละงั้นเหรอ เจ้าบังอาจมาว่าข้าแบบนี้ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกันมาว่าจอมปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เช่นข้า” “ก็มันจริงนิ นายน่ะ มาถึงก็ถามหาแต่ขนมเค้ก มีแต่เค้กๆๆๆ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะสนใจเรื่องอื่นบ้างเลย” เธอต่อว่าอย่างโมโห ฟาร์ยนิ่งไปเขาไม่เคยเห็นคนใจดีอย่างเค้กจะโมโหใครเลย “แล้วเรื่องอะไรล่ะ” เสียงเขาอ่อนลง “และก็พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ฉันตั้งใจว่าจะทำเค้กผีให้นายทานแต่ว่าแป้งสาลีมันหมด และตอนนี้มันก็ดึกแล้วจะไปหาซื้อที่ไหนก็คงไม่ได้” “แค่นี้เองเหรอ” ” ฟาร์สบัดมือทีเดียวแป้งสาลีถุงใหญ่ก็ปรากฎตรงหน้า “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เองพอใจเจ้าหรือยัง ข้าจะกลับล่ะ” “เดี๋ยวก่อนสิ” “วันนี้ช่วยอยู่เป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม? ช่วงนี้มีข่าวโจรปล้นบ้านแถวนี้บ่อยๆ ฉันกลัว.....” สีหน้าและแววตาที่ดูเศร้าสร้อยทำเอาฟาร์ยก้าวขาไม่ออก เจากระต่ายตัวน้อยกระโดดมาอยู่ข้างๆเค้ก “ข้าจะให้เมลเล่ย์มาอยู่เป็นเพื่อนเจ้า” เขาตอบ เค้กทำหน้าไม่พอใจนัก “นายนี่มันไม่เข้าใจเลยจริงๆนะ กลับไปซะ งั้นพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องกินแล้วเค้กผี” เค้กวิ่งเข้าห้องไปอย่างโมโห บ้าที่สุด ฟาร์ย บ้า..... ฟาร์ยบ้าที่สุด...ไม่เคยสนใจอะไรเลย
เค้กบ่นอย่างหัวเสียขณะเดินไปเรียน “อ้า....นางพญาบานแล้วเหรอ.....” เค้กเอ่ยอย่างตื่นเต้นไม่ได้มาเรียนแค่ 2 วัน ดอกนางพญาที่เพิ่งจะเกาะก้านเป็นดอกตูมตอนนี้บานสะพรั่งไปแล้ว “หอมจริงๆเลยนะ ฉันชอบที่สุดเลย” เค้กวิ่งไปอยู่ใต้ต้นดอกไม้โอบกอดต้นนางพญาเอาไว้อย่างหลงไหล กลิ่นหอมของมันทำเอาเค้กเคลิบเคลิ้ม “ต้องรอตั้ง 1 ปีแน่ะที่ฉันจะมีโอกาสได้ชื่นชมเธอ ขอให้เบ่งบานอยู่แบบนี้นานๆนะจ๊ะ” ฟาร์ยมองผ่านกระจกในห้องนิ่งงัน “ต้นไม้นั่นมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ทำหน้ายังกะได้รางวัลที่ 1 แน่ะ” เขาบ่นงึมงำ เมลเล่ย์ยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง “ผู้หญิงต่างก็ชอบดอกไม้กันทุกคนแล่ะครับ” “ฉันเห็นเขาชอบก็แต่ดอกไม้ที่เป็นช่อๆ แต่ยัยนี่ชอบต้นใหญ่ไปหน่อยนะ” เมลเล่ย์ได้แต่ยิ้มอยู่คนเดียว “ไหนบอกว่าจะไม่ยุ่งด้วยแล้วไงขอรับ” เมลเล่ย์แซว ฟาร์ยหันหน้าหนีอย่าลืมตัว “นี่เค้กเธอจะทำทาโกะยากิแบบไหนน่ะ หวังว่าคงจะขายออกนะ” ฟ้าครามเอ่ยอย่างเป็นห่วง “ฉันคิดออกแล้วล่ะ เอาไว้เธอมาชิมให้ฉันด้วยนะ” เธอเอ่ยอย่างร่าเริง เย็นนั้นเค้กเก็บเอาดอกนางพญากลับบ้านด้วยเพื่อที่จะทดลองทำอะไรบางอย่าง เธอเอาดอกนางพญาคลุกเคล้ากันกับแป้งเพื่อที่จะเอาไว้เป็นส่วนประกอบในการทำทาโกะยากิ “เราน่าจะลองเปลี่ยนใส้ของทาโกะยากิจากขนมกินเล่นเป็นของหวานยามว่างดีไหม เผื่อฟาร์ยจะกินได้ไงล่ะ” เมื่อคิดได้ดังนั้นเค้กก็ลงมือทำส่วนประกอบของแยมโดยใช้ดอกนางพญาเป็นส่วนประกอบหลักที่ให้ความหอม เมื่อได้ใส้ที่เป็นแยมแล้วก็ใช้แป้งห่อแยมย่างบนเตาที่อุณหูมิไม่สูงนักแป้งที่ผ่านการอบที่อุณภูมิพอเหมาะมาแล้วแป๊ปเดียวก็สุขผิวของมันเหลืองและมีกลิ่นหอมของดอกนางพญา “ไหนลองชิมหน่อยสิ” เค้กลองตักชิมเข้าปาก ความอ่อนนุ่มของแป้งห่อคลุกเคล้ากลิ่นหอมละมุนของดอกนางพญาแทบจะละลายอยูในปากพอกัดถึงเนื้อกลางที่เป็นแยมที่ค่อยๆละลายเข้ากับแป้งมันช่างอร่อยและนุ่มลิ้นเสียเหลือเกิน “อร่อยจังหวังว่าทุกคนคงจะชอบนะ” เมื่อเทศกาลปีใหม่ที่ทุกคนรอคอยมาถึงแต่ละร้านถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อดึงดูดลูกค้า ร้านอาหารญี่ปุ่นของนักศึกษาห้องเอมีหัวหน้าห้องเป็นประชาสัมพันธ์เรียกลูกค้า ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นเหมือนเดิมที่จะทำอาหารให้ลูกค้าทานจริงๆหลังจากที่บรรยากาศแบบนี้ได้ผ่านมาเมื่อ 1 ปีก่อนนั้นแล้ว “เต็มที่นะทุกคน” พิมพกาบอกเหล่าลูกศิษย์ของเธอ “เค้กลูกค้าสั่งทาโกะยากิแล้วนะ เธอจะบอกได้หรือยังว่าเธอจะทำอะไรเป็นพิเศษ” พิมพกาถามลูกศิษย์คนเก่ง “ทาโกะยากิใส้ดอกนางพญาค่ะ” เธอตอบก่อนจะลงมือทำให้ลูกค้าคนแรกที่เข้ามาทานอาหารของร้าน เมื่อทุกคนได้ชิมทาโกะยากิต่างก็ติดอกติดใจซื้อติดมือกลับบ้านด้วย แม้แต่เพื่อนๆของเธอเองต่างก้เอ่ยปากชมเป็นเสียงเดียวกัน กลายเป็นว่ากาโกะยากิเป็นขนมหวานที่ทุกคนชอบที่สุดของร้านและขายหมดตั้งแต่ 3 ทุ่ม เวลาผ่านไปจนดึก 5 ทุ่มทุกคนต่างก็ปิดร้านและช่วยกันเก็บร้านก่อนจะถึงเวลาจุดพรุ “ช่วยกันเก็บของก่อนนะจ๊ะแล้วค่อยไป” พิมพกาบอกลูกศิษย์ ฟ้าครามต้องการที่จะอยู่ดูพรุปีใหม่กับพิมานแต่เธอก็รู้ว่ายังไงพิมานจะต้องหาทางไปกับเค้กแน่ๆ ดังนั้น “เค้กจ๊ะฝากเอานี่ไปเก็บที่ห้องหน่อยสิจ๊ะ” ฟ้าครามกล่องผ้ากันเปื้อนให้กับเค้ก “ได้จ๊ะ” เค้กจึงถือกล่องจะไปเก็บที่ห้องเก็บของ “ให้ผมช่วยนะเค้ก” พิมานอาสา “พิมานจ๊ะนายช่วยปลดป้ายร้อนหน่อยสิ” ฟ้าครามรีบใช้ “อ้อ....ได้สิ” “ไม่เป็นไรหรอกนะฉันไปคนเดียวได้” เค้กบอก ก่อนจะเดินไปบนอาคารเรียนคนเดียว โดยที่เธอไม่อาจจะรู้ได้ว่ามีคนตามมาเมื่อเข้าไปในห้องเก็บของประตูห้องก็ถูกปิดจากข้างนอกทันที เธอจึงถูกขังเอาไว้อยู่ในนั้น “ห้า....ใครน่ะ อย่าปิดนะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที ช่วยเปิดประตูให้ฉันที” ใครกันที่แกล้งกันแบบนี้ เค้กร้องตะโกนขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีใครรู้ เนื่องจากงานเปิดเครื่องเสียงเสียงดังจนไม่มีใครอาจจะได้ยินเสียงของเธอ “ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยที” เค้กทั้งทุบประตูและร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่อาจจะทำให้ใครได้ยินได้ “ใครก็ได้มาช่วยฉันที.....” ไม้เท้าแม่มดอยู่ในกระเป๋าเธอไม่สามารถเรียกปีศาจรับใช้ออกมาได้ “ใครก็ได้มาช่วยฉันที ฉันอยากออกไป ฉันอยากดูพรุปีใหม่ และก็…..” เธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าของผ้ากันเปื้อนกล่องเล็กๆในนั้นมีทาโกะยากิอยู่ 2 อัน “ฉันยังไม่ได้ให้เขากินทาโกะยากิเลยนะ ได้โปรดเถิด...ฮืออออ.....” เค้กน้ำตาคลออย่างเศร้าใจ ฟาร์ยกำลังแต่งตัวเตรียมจะไปงานเลี้ยงปีใหม่ของท่านปีแอร์ เจ้าปีศาจอาณาจักรเพื่อนบ้าน ทั้งๆที่เจ้าพูดใส่หน้าข้าแบบนั้น ทั้งๆที่เจ้าก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง..... ทั้งๆที่ไม่อยากจะยุ่งกับเจ้าแล้ว....แต่เห็นหน้าเจ้าแบบนี้แล้วล่ะก็..... “ฝ่าบาทรถมาแล้วพะยะค่ะ” “โอ้ว.....ข้าปวดหัวเหลือเกินสงสัยจะไม่สบาย...” ฟาร์ยล้มลงนอนที่เตียง “ถึงจะไม่สบายก็ขอให้ขึ้นรถก่อนเถอะพะยะค่ะ” จิงโจ้ยังไม่ยอมเลิก “โอ้วว...ข้าคงไม่ไหวแล้ว เมลเล่ย์อยู่ไหนนนนน?” ฟาร์ยร้องครวญคราง ขณะที่เค้กร้องไห้อยู่คนเดียวในห้องมืดๆ ข้างนอกเสียงดัง “เจ้ายังขี้แยไม่เลิกเลยนะ เค้ก” เสียงทุ้มๆดังขึ้นที่มุมห้อง เค้กรีบเช็ดน้ำตาทันที แสงไปที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องพอจะทำให้เธอเห็นบุรุษผู้สูงสง่าในชุดผู้ดีเก่าฝรั่งเศษที่ค่อยๆเดินเข้ามาหา “ฟาร์ย.....” “ฮึ.....ทำเป็นเก่งนะเจ้าน่ะ” ฟาร์ยสบัดมือครั้งเดียวทั้งสองก็มายืนอยู่ใต้ต้นนางพญาเบื้องหน้าของทะเลสาบตอนนี้สว่างไสวด้วยแสงของพรุหลากสีที่กำลังส่องประกายจรัสเหนือน้ำ ทั้งสองจ้องมองความสวยงามนั้นอย่างตกตะลึง “อ้า......สวยจังเลย นี่คงเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วสินะ” เค้กแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง “ฟาร์ย...ขอบใจนะ นี่ฉันให้นาย” เค้กยื่นกล่องทาโกะยากิให้กับเขา....ฟาร์ยรับมาอย่างงงๆ “นอกจากขนมหวานแล้วนายคงไม่ชอบทานอย่างอื่นสินะ แต่ฉันอยากจะให้นายลองชิมทาโกะยากิดู ฉันตั้งใจทำเพื่อนายนะ” รอยยิ้มหวานๆปรากฎขึ้นอีกครั้ง ฟาร์ยรับมาแล้วค่อยๆ กินอย่างช้าๆ ความหอมหวานของดอกไม้แผ่ซ่านไปทั้วตัว “อร่อยจัง เค้ก มันอร่อยมากเลยล่ะ” “ดีจัง นี่เป็นขนมปีใหม่จากฉันนะ สวัสดีปีใหม่จ๊ะ ฟาร์ย” “สวัสดีปีใหม่เค้ก .....” ทั้งสองมองพรุที่กำลังส่องแสงสว่างทั่วพื้นน้ำอย่าชื่นชม ภายใต้ต้นดอกนางพญาที่ส่งกลิ่นหอม สวัสดีปีใหม่ค่ะ ปีใหม่นี้หนูไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วค่ะแม่......หนูมีเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง เขาอยู่กับหนูจนถึงเช้า หนูอยากให้เขาได้รู้จักกับแม่จังเลยค่ะ คิดถึงแม่นะคะ รุ่งเช้าเค้กนั่งอยู่ใต้เสื้อคลุมตัวใหญ่สีดำพึงไหล่ของใครคนหนึ่งอยู่ ลมหนาวพัดผิวน้ำเป็นระลอกคลื่น “โฮ้ว.....นั่นพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว” เธอเอ่ยอย่างร่าเริง “แสบตา......” เสียงทุ้มๆเอ่ย เค้กหันมามองเขาอย่างแปลกใจ “นายเป็นอะไรหรือเปล่า?” “ข้ากลับล่ะนะ” “ฟาร์ย....ขอบใจนะที่อยู่ด้วยกันจนถึงเช้า แล้วยังดูพระอาทิตย์แรกของปีด้วยกัน” “ฮืม.....” “ปีนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ” “ทำยังกะเป็นทางการเลยนะ” “ก็แหม....เรายังต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนานนิ” รอยยิ้มสดใสปรากฎทั่วใบหน้า “ฮืม...ใช่สินะปีนี้เจ้าก็ไม่ได้อยู่คนเดียวเหมอืนที่ผ่านมาแล้วสินะ” “เอ๊ะ...” ถ้าได้อยู่ด้วยกันได้ตลอดไปก็คงดี โดย: unitan (unitan
![]() test
โดย: D-benjy IP: 125.25.219.223 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:23:41:39 น.
|
unitan
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Link |
ฟาร์ยนั่งกินขนมที่เอากลับมาจากบ้านของเค้กหน้าตาเครียดจัด
“ท่านฟาร์ยกระเพาะไม่ย่อยหรือครับทำไมทำหน้าเช่นนั้น” เมลเล่ย์ ทหารรับใช้คนสนิทเอ่ยถามหลังจากที่เห็นอาการผิดปกติของเจ้าแห่งเงามืด
“นี่ข้ากินมากเกินไปหรือเปล่าเมลเล่ย์”
“ก็....นิดหน่อยขอรับ”
“ทุกครั้งที่ท่านกลับมาจากโลกมนุษย์มักจะอารมณ์ดีนี่ครับ”
“ก็ยัยนั่นน่ะ...ถ้ายัยนั่น มีความอยาก กระหายอยากได้สิ่งที่มาจากเงามืดแล้วล่ะก็ข้าคงจะดีใจมากกว่านี้”
“แล้วเธอต้องการอะไรเป็นพิเศษล่ะขอรับ”
“ข้าก็ไม่รู้หรอก ข้ารู้ว่ายัยนั่นอยู่อย่างโดดเดี่ยวเสมอมา เขาคงไม่กลัวแค่โจรกระจอกๆพวกนั้นหรอกมั้ง”
“ฮึๆๆ...”
“เจ้าหัวเราะอะไรกัน” ทำตาเขียวใส่
“ท่านแกล้งไม่ทราบหรือว่าไม่ทราบจริงๆขอรับ
“อะไรกันล่ะ”
โธ่...ท่านฟาร์ยผู้เก่งกาจเหนือนรกภูมิเหตุใดเล่าถึงไม่เข้าใจเรื่อง
แค่นี้
“งั้นเจ้าก็ช่วยไปอยู่เป็นเพื่อนเค้กให้ข้าหน่อยสิ”
“ท่านเค้กคงมิต้องการกระผมหรอกขอรับ”
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะท่านเค้กมิได้ขอให้กระผมไปอยู่เป็นเพื่อนนิขอรับ”
ฟาร์ยมองหน้าอมยิ้มของเมลเล่ย์
ขณะเดียวกันที่บ้านของเค้กมีเงามืดของใครบางคนกำลังปีนหน้าต่างเข้าไปในบ้าน ขณะที่เค้กนอนหลับไปแล้วแต่เธอก็ตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงแจกันตกแตก
เค้กค่อยๆคลำเงามืดเพื่อมาดูเห็นขโมยกำลังรื้อข้าวของที่ชั้นล่าง
เค้กเปิดไฟ เจ้าโจรร้ายตกใจเมื่อเห็นเจ้าของบ้านยืนถือไม้เบสบอลจังก้า
“555.....เป็นแค่ผู้หญิงตัวนิดเดียวคิดว่าฉันจะกลัวเหรอ” มันดึงมีดออกมาจากกระเป๋าข้าง
แม้จะตกใจละคนกลัวแต่เค้กก็ทำเป็นใจดีสู้เสือ
“ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้วนะอีกไม่นานก็จะมาถึง นายเตรียมโดนจับขังคุกลืมแน่”
“อย่ามาปากดีหน่อยเลยยัยบ้า รู้หรอกแกอยู่บ้านนี้คนเดียว แค่ฉันจัดการแกแล้วเก็บของพวกนี้ไป กว่าตำรวจจะมาถึงก็สายไปแล้ว”
“ฉันไม่ให้แกเอาอะไรไปทั้งนั้น!!” เค้กตะโกนเสียงดัง
“จ้ากกกกก” เค้กถือไม้เบสบอลเตรียมจะฟาดใส่ให้โดนตัว
แต่โจรร้ายก็หลบได้มันหมุนตัวกลับมาถีบเธอกระเด็นไป
“อั๊กกก” เค้กล้มคว่ำไปกระแทกกับโต๊ะพร้อมกับมีเลือดออกที่มุมปาก
เค้กลุกขึ้นมาหันกลับมามองโจรที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาหา เค้กตัวสั่นอย่างหวาดกลัว
“แค่นี้ก็เสร็จแล้วอย่าฤทธิ์มากเลยนะยัยตัวแสบ” เขาง้างมีดจะแทงเธอ
แต่แล้ว.....มีเท้าหนักๆแตะสีข้างของเจ้าโจรกระเด็นไป
เค้กมองตามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“แกบังอาจมาทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนี้ไม่สมควรให้อภัย”
เสียงหนักๆทุ้มๆที่แสนคุ้นหูดังขึ้น เค้กหันมามองผู้ที่มาช่วยเธอวันนี้
“ฟาร์ย....นายมาช่วยฉันเหรอ”
“ฮืม....” ฟาร์ยเดินเข้าไปหาโจรอีกรอบซึ่งตอนนี้กำลังลนลานอย่างตกใจ เขาทำท่าจะแตะมันอีกรอบ เจ้าโจรนั่นจึงกระโจรออกจากบ้านไปแต่ก็ต้องโชคร้ายที่รถตำรวจมาถึงพอดีรวบตัวไว้ได้
“ขอบคุณนะคะคุณตำรวจ”
เค้กเอ่ยขอบคุณตำรวจที่เข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนจะกลับ
“ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะครับ ช่วงนี้โจรปล้นเยอะ แต่ไอ้หมอนี่น่ะพวกเราตามจับมาตั้งนานต้องขอบคุณคุณด้วยนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เธอเอ่ยอีกครั้งก่อนตำรวจจะขึ้นรถไป
หันกลับมาหาคนที่นั่งอยู่บนโซฟา เขาสบัดมือทีเดียวห้องที่ถูกรื้อกระจายก็เรียบร้อยเหมือนเดิม
“ข้าเหนื่อยจังเลย มีอะไรกินมั่งอ่ะ”
“ฮิ....นายไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แล้วนี่...ทำไม? ก็ไหนบอกว่าไม่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนฉันไง ถ้านายมาช้ากว่านี้ล่ะก็....ฉันคงจะโดนมันแทงตายไปแล้ว ฮือๆๆ” เค้กไห้อย่างขวัญหนี
ฟาร์ยทำอะไรไม่ถูกเดินเข้ามาปลอบใจ
“อย่าร้องไห้สิ ข้าไม่ปล่อยให้มันทำอะไรเจ้าได้อยู่แล้ว”
“ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครทำอันตรายเจ้าอยู่แล้ว”
เค้กเงยหน้ามองเจ้าแห่งความชั่วร้ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ.....นายเป็นอสูรไม่ใช่เหรอ
“ก็เดี๋ยวไม่มีใครทำขนมให้ข้าทานน่ะสิ” เขาตอบหน้าตาเฉย
เค้กจึงทุบที่แขนเขาเบาๆ
“ก็ได้ พรุ่งนี้จะทำเค้กผีให้กินนะ”
“ได้สิ ข้าจะอยู่ที่นี่จนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยล่ะ”
รุ่งเช้าเค้กมีความสุขกับการทำขนมมากเพราะผู้ช่วยของเธอวันนี้เป็นถึงเจ้าแห่งความมืดผู้แสนจะโหดร้าย
หลังจากที่ทำขนมเสร็จสิ้นเธอยกเอาทาร์ตหน้าผีที่สัญญากันไว้เมื่อคืนมาวางตรงหน้าเขา
“ทาร์ตแอปเปิ้ล ทาหน้าด้วยมูสช็อกโกแลต หวังว่านายคงจะชอบนะ”
“มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว ขนมฝีมือของเค้กอร่อยที่สุดในโลก” เขาเอ่ยก่อนจะลงมือทาน
“อาทิตย์หน้านี้งานปีใหม่ประจำปีของมหาลัยเขาเปิดให้คนนอกเข้าไปเที่ยวด้วยนะ นายจะมาไหม?”
“ทำไมต้องมาด้วยล่ะ วุ่นวายออก”
“งานเริ่มตอน 6 โมงเย็น และปิดตอนเที่ยงคืน และตอนเที่ยงคืนจะมีการจุดพรุตรงหน้ามหาลัยกลางทะเลสาบสวยมากๆเลยนะ”
“มันคงหนวกหูน่าดูสินะ” เสียงอันเย็นชาของเจ้าชายปีศาจเอ่ย
ทำเอาคนที่กำลัยเล่าอย่างสนุกต้องหยุดพูดไป
“นายรีบกินแล้วกลับปราสาทของนายไปเลยนะ นายน่ะคงไม่มีหัวใจเลยสินะถึงไม่รู้สึกถึงเรื่องพวกนี้ ฉันโกรธนายแล้ว นายมันคนไร้หัวใจ”
เธอออกคำสั่งและต่อว่าเขาอย่างโมโห
ฟาร์ยทำหน้าบอกบุญไม่รับ
ณ เมืองนรก
“บังอาจ บังอาจ เจ้าเด็กมนุษย์ผู้โง่เขลาเอ๋ย บังอาจมาว่าใส่หน้าข้าแบบนี้ เจ้าคงไม่รู้สินะว่าข้าเป็นใคร” ฟาร์ยบ่นอย่างหัวเสียกับทหารคนสนิท
“หน็อย...เจ้าเด็กเมื่อวานซืน คงไม่รู้ถึงความน่ากลัวของข้าสินะ ถึงกล้ามาว่าแบบนี้กับข้า”
“ท่านเค้กอาจจะไม่ได้ตั้งใจนะขอรับ” เมลเล่ย์ออกรับแทน
“ชิ....ข้าจะจัดการยังไงกับเจ้าดีนะ"
“ท่านเค้กอาจจะไม่ได้ตั้งใจนะขอรับ” เมลเล่ย์ยังยืนยัน
“ฮืม....งั้นข้าเลิกยุ่งกับยัยนั่นดีกว่า”
“แล้วเรื่องงานเลี้ยงปีใหม่ของท่านปีแอร์ล่ะฝ่าบาท” จิงโจ้ยังตื้อต่อ
“ฮืม......แล้วข้าจะไปเอง” ฟาร์ยสบัดหน้าหนีเมื่อเห็นหน้าไม่สบอารมณ์ของเค้กขณะเดินออกจากบ้าน