Group Blog
|
ตอนที่ 2 เรื่องของขนมหวานและคนชอบขนมหวาน ![]() วันนี้ในห้องเรียนมีอาจารย์จากฝรั่งเศษมาสอนทำขนมหวานสไตส์ฝรั่งเศษ “วันนี้เมนูแรกนะคะ Montblanc มันท์บลานซ ค่ะ” อาจารย์แนะนำ ส่วนประกอบได้แก่ 1. ชิฟฟ่อน ทาด้วยน้ำเชื่อมบรั่นดี 2. มูสเกาลัค 3. เกาลัคครีม บีบรอบๆ 4. วิปครีม “ทุกคนตั้งใจดูอาจารย์แมรี่สาธิตด้วยนะ แล้วก็อย่าลืมแลคเชอร์ด้วยค่ะ” นักศึกษาทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังการสาธิคและเริ่มลงมือทำตามที่อาจารย์แมรี่สอน พิมานแอบดูเค้กที่ทำหน้าเอาจริงเอาจัง “ยัยคนนี้มักเป็นแบบนี้ตลอดเลยนะเวลาอยู่ในห้องเรียน” เขาบ่นกับตัวเองเบาๆ หลังจากที่ทุกคนรอผลการอบขมปังที่จะนำมาส่วนประกอบของ มันท์บลานซ อาจารย์แมรี่ก็ได้เล่าประสบการณ์การทำอาหารฝรั่งเศษให้ลูกศิษย์ และยังสอนทำเกาลัคครีมสูตรพิเศษเป็นของตัวเองด้วย หลังจากที่ขนมของแต่ละคนถูกวางเรียงอยู่ที่หน้าชั้นของห้องเรียนเรียบร้อยแล้ว “มาดูกันนะคะว่าใครฝีมือดีที่สุด” อาจารย์แมรี่เอ่ยก่อนจะค่อยๆตักขนมของลูกศิษย์ชิม “มันท์บลานซ ที่อร่อยที่สุด รู้ไหมว่าหัวใจมันอยู่ที่ไหน?” อาจารย์สาวเอ่ยถาม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ต้องการคำตอบนัก “อยู่ที่ เกาลัคครีม หากได้เนื้อครีมนุ่มและมีกลิ่นหอมหวานขอเกาลัคผสมอยู่ด้วยแล้วล่ะก็จะทำให้ มันท์บลานซ จะอร่อยเลิศรสทีเดียว” อาจารย์แมรี่ตักชิมไปเรื่อยๆ “ทุกคนทำได้ดีทีเดียวค่ะ แต่ต้องพยายามปรับปรุงกลิ่นของเกาลัคครีมให้นุ่มกว่านี้ เพราะส่วนมากแล้วจะค่อนข้างมีกลิ่นไหม้และฉุนของเกาลัคที่โดนขั้วจนไหม้เกินไปจนทำให้ มันท์บลานซ ดูแข็งไปด้วย” อาจารย์มาหยุดอยู่ที่จานสุดท้ายของห้อง “พวกเธอเคยถามตัวเองหรือเปล่าว่าทำไมชอบทำขนมหวาน?” อาจารย์แมรี่เหลือบมองชื่อของเจ้าของจานใบสุดท้ายนั้น “คณิศรา เธอพอจะบอกครูได้ไหมว่าทำไมเธอถึงชอบทำขนมหวาน?” เค้กที่นั่งอย่างสงบอยู่แถวหลังสุดลุกขึ้นยืนอย่างงงๆ “ว่าไงคะ” แมรี่ถามซ้ำ รอยยิ้มหวานปรากฎเต็มดวงหน้าใสก่อนจะตอบอย่างชัดเจน “ก็เพราะว่ามีคนชอบทานขนมหวานค่ะ” เธอตอบอย่างมั่นใจ เพื่อนๆต่างพากันหัวเราะตลกกับคำตอบของเธอ มีเพียงพิมานที่อมยิ้มชื่นชอบ แมรี่เองก็ยิ้มรับคำตอบนั้น “ใช่แล้วล่ะ หากไม่มีคนชอบทานขนมหวานแล้ว ก็คงไม่มีคนทำขนมหวานอย่างพวกเรา เธอเข้าใจความหมายของขนมหวานหรือเปล่า?” เพื่อนๆ จึงหยุดหัวเราะ “ขนมหวานก็คือ ความรักและความเอาใจใส่ที่เราจะใส่ลงไปขณะที่ทำค่ะ เพื่อสิ่งเหล่านั้นจะถูกถ่ายทอดถึงผู้ทานและเราก็หวังว่าพวกเขาจะชอบค่ะ” แมรี่ถึงกับยิ้มกว้างเป็นคนที่คิดได้น่ารักเสียจริงนี่แหล่ะคือหัวใจของการทำขนม “นี่เป็นจานของเธอใช่ไหม” “ค่ะ” “เธอใส่อะไรในนี้บ้างล่ะ” “ส่วนผสมทุกอย่าง ความตั้งใจ และความคาดหวังว่าใครสักคนจะต้องละลายตามเนื้อครีมของเกาลัคค่ะ” “ใครสักคน เธอหมายถึงครูหรือเปล่า?” “เปล่าค่ะ หนูหมายถึงคนที่ชอบทานขนมหวานค่ะ” เธออมยิ้ม แมรี่ยิ้มก่อนจะตักเกาลัคครีมขึ้นมาชิม ดวงตาสีฟ้าฉายแววตาเหนือความคาดหมาย เธอค่อยๆเกลี่ยครีมจนเต็มกระพุ้งแก้มแล้วให้มันค่อยๆละลายลงไปในลำคอ “สงสัยครูคงจะละลายตามเนื้อเกาลัคจริงๆแหล่ะ คณิศรา เธอช่างมีพรสวรรค์ในการทำขนมเสียจริงนะ ขอชมจากใจจริง” ครูสาวก้มหัวให้อย่างให้เกียรติ เค้กโค้งรับอย่างยินดี พอหมดคาบเรียนทุกคนต่างเตรียมตัวกลับบ้าน “เชอะ...ยัยเค้กน่ะ ทำอะไรก็ขโมยซีนคนเก่งไปทุกงานเลยนะ” ฟ้าครามเมาส์กับเพื่อนๆ ทุกคนต่างหันมามองเค้กอย่างหมั่นไส้ “ใช่แล้ว หรือว่าแม่นันจะเป็นแม่มดจริงๆ อย่างที่เขาลือกันน่ะ ยังกะผู้วิเศษน่ะ ทำอะไรก็มีแต่คนติดใจไปเสียหมด” พิมานอยู่ข้างๆถึงกับไม่พอใจที่คนอื่นพูดถึงเธอแบบนี้ “พวกเธอน่าจะเอาเวลาที่เมาส์คนอื่นแบบนี้ไม่ฝึกการทำขนมเสียดีกว่านะ เวลาจบไปเปิดร้านทำขนมจะได้ขายดี” พิมานพูดเหน็บ สาวๆหันมามองเขาอย่างไม่พอใจแล้วต่างก็สลายตัวกันไป พิมานจึงเดินเข้ามาหาเค้ก “เค้ก...จะกลับเลยหรือเปล่า” “จ๊ะ” เค้กหันมาตอบเพื่อน พิมานเป็นเพื่อนคนเดียวที่กล้าเข้ามาพูดคุยกับเธอ ทั้งห้องมีทั้งหมด 20 คน แต่ก็เหมือนเธออยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครเลยสักคน แม้จะพยายามชวนเขาคุยด้วยก็แล้ว แต่ทุกคนต่างก็ถอยห่างออกไปทุกครั้งทำราวกับว่าเธอเป็นสิ่งน่ารังเกียจ “เออ....ว่าแต่คนที่เธออยากทำขนมหวานให้เขาทานคือใครเหรอ” พิมานถามสิ่งที่เขาแอบสงสัยตอนที่ครูแม่รี่ถาม “หือ....” เค้กเอียงคอถามอย่างสงสัย พิมานหัวใจแทบหยุดเต้น วันนี้ทาร์ตเบอรี่ ฉันจะทำทาร์ตเบอรี่เขาจะชอบไหมนะ “วงเวทเอ๋ย จงเป็นประตูเปิดสู่นรก ขออันเชิญปีศาจทาสรับใช้จากนรก มาช่วยทำความปรารถนาข้าให้เป็นจริงด้วยเถิดดด....” “เพี้ยงงงงงงงงงงงงงงง” ร่างสูงใหญ่ปรากฎตรงหน้าของเธอพร้อมชุดคลุมสีดำอย่างน่ากลัวเหมือนเคย “ฟาร์ย” เธอเอ่ยอย่างยินดีพร้อมรอยยิ้มหวานๆทำเอาปีศาจร้ายนิ่งงันอยู่สักครู่ “วันนี้เจ้ามีอะไร?” “ทาร์ตเบอรี่...นายชอบไหม?” “ชอบ...ชอบมาก” แทบจะไม่ต้องตัดสินใจในคำตอบ ฟาร์ยนั่งเตรียมตัวที่โต๊ะเมื่อเค้กยกขนมหวานมาวางตรงหน้า คุ๊กกี้.....กระต่ายน้อยรีบกระโดดมานั่งบนตักเธอ ฟาร์ยทานอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเคย หลังจากเสร็จสิ้นขนมหวานที่เจ้าแห่งอสูรโปรดปรานเรียบร้อยเขาก็มิลืมที่จะ... “คำขอของเจ้าในคืนนี้คืออะไร? ว่ามาสิ อยากให้ข้าทำอะไร อยากจะทำร้ายศัตรู หรือฆ่าให้ตาย หรือทำร้ายให้ง่อยเปลี้ยเสียขา” “ไม่มี” “หรืออยากจะได้แก้วแหวนเงินทอง เสื้อผ้าสวยๆ ของแพงๆ บ้าน รถ หรือว่า เกียรติยศ ชื่อเสียง” “ไม่ ฉันไม่ต้องการหรอกของพวกนั้น ฉันมีหมดแล้ว” เธอตอบเสียงเรียบ ทั้งสองยื่นหน้าแทบจะติดกัน “แล้วเจ้าเรียกข้ามาเพื่อสิ่งใดกันล่ะเจ้ามนุษย์ผู้แสนโง่เขลาอ๋ย......เจ้าไม่มีบ้างเลยเลย รัก โลภ โกรธหลง ความอยาก ปรารถนาสิ่งเริงรมย์ทั้งหลายน่ะ ฟังดูแล้วมันช่างขัดอกขัดใจข้าผู้เป็นเจ้าแห่งความชั่วร้ายนัก” น้ำเสียงของเขาเริ่มโมโห “ช่วยซ่อมเตาอบให้หน่อยสิ ตัวนั้นน่ะมันเสีย ถ้ามีเตาอบแค่ 2 ตัว จะทำให้ฉันทำขนมอบได้ไม่ทัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ลูกค้าเขาต้องรอคอยทานขนมอร่อยๆ ฉันไม่อยากให้พวกเขาต้องผิดหวัง แม้กระทั่งนายด้วยนะ” เธอทำหน้าจริงจังพูดถึงเตาอบตัวที่ 3 ที่เพิ่งเสียไปเมื่อวานนี้ ฟาร์ยสบัดมือเบาๆ เตาอบที่ดูเหมือนจะเก่าก็กลับมาดูใหม่เอี่ยมเหมือนยังไม่เคยผ่านการใช้งามมาก่อน “ฮ้า..มันจะใช้งานได้เหมือนเดิมใช่ไหม?” เธอร้องออกมาอย่างตื่นเต้นแล้วลองทดสอบเปิดดูก็เห็นว่ามันทำงานได้ “เยื่อมจังเลยฟาร์ย” เธอหันกลับมามองเจ้าแห่งความชั่วร้ายที่นั่งหน้านิ่งอยู่กับที่ “เรื่องเล็กน่า” เขาพูดแล้วสบัดมืออีกครั้ง เตาอบเก่าๆอีก 2 ตัวก็กลายเป็นของใหม่ไปด้วย “นี่นาย ใจดีเหมือนกันนะ...” เจอคำชมแบบนี้เจ้าแห่งความชั่วร้ายถึงกับพูดอะไรไม่ออก ฟาร์ยสบัดมืออีกครั้งเกิดลมหมุนอย่างรุนแรง “ว๊ายยยย” เค้กร้องอย่างตกใจ “นายย..จะทำอะไร หยุด น้า...” เธอร้องเสียหลงปิดหูปิดตาอย่างหวาดกลัว “ขอนั่งดื่มชาหอมๆกับขนมอร่อยๆ ใต้แสงเทียน ชมพระจันทร์สวยๆ บนฟ้าที่พรายพร่างด้วยดวงดาว คำขอน่ารักแบบนี้เจ้าขอไม่เป็นมั่งหรือไง ยัยโง่” เสียงที่ดูอ่อนโยนลงของอีกฝ่ายปลอบประโลมหญิงสาวให้คลายความกลัว เมื่อเสียงลมอื้ออึงเมื่อครู่จางไป เค้กลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่บนเก้าอี้บนโต๊ะมีจานทาร์ตหน้าเบอรี่ที่เธอเพิ่งทำให้ฟาร์ยทานเมื่อครู่ แก้วใส่ไวน์แดงใบสวย เชิงเทียนดวงใหญ่ตั้งเคียงข้างแจกันดอกกุหลาบสีแดงสด และบนท้องฟ้าที่แทบจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมทำเอาเค้กตะลึงกับพระจันทร์ดวงโต “พระจันทร์ยังไม่เต็มดวงเลยนิ” “อีก 7 ราตรี พระจันทร์ดวงนี้ก็จะเข้าใกล้โลกมาที่สุดในรอบ 150 ปี เราจะมีโอกาสดีๆแบบนี้ได้ก็ต้องรออีก 150 ปี ข้างหน้าเชียวล่ะ” “ไว้วันนั้นนายพาฉันมาที่นี่อีกนะ” เค้กเอ่ยทั้งที่ดวงตายังไม่ละจากพระจันทร์เสี้ยวบนฟ้า ฟาร์ยแอบมองเสี้ยวหน้านั้น “ได้สิ แต่เจ้าต้องทำขนมให้กับข้าเป็นค่าตอบแทนนะ” “ได้สิ...แต่ว่านะ ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องนายอยู่เรื่องหนึ่ง อาทิตย์หน้านี้ช่วยไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม ฉันมีงานประกวดทำขนมฝรั่งเศษที่เขตกลางน่ะ ฉันอยากให้นายไปเป็นเพื่อน” “เจ้านี่มันน่ารำคาญจริง” “น่ารำคาญเหรอ...แต่ที่นั่นน่ะมีขนมอร่อยๆเยอะแยะเต็มไปหมดเลยนะ นายต้องชอบแน่ๆเชียวล่ะ” ใบหน้าอมยิ้มอย่างอ่อนโยนทำเอาฟาร์ยแย้งไม่ได้ “ก็ได้ แต่เจ้าอย่าลืม เค้กช็อกโกแลคด้วยนะ” “ได้สิ ฉันจะทำสุดฝีมือเพื่อนายเชียวล่ะ” “ฮืม....” ณ เมืองนรก “ฝ่าบาทพะยะค่ะ หมู่นี้ชอบไปที่โลกมนุษย์บ่อยเกินไปแล้วนะขอรับ” เสียงจิงโจ้ทาสรับใช้คนสนิทเอ่ย “เด็กสาวคนนั้นกำลังมอมเมาท่านด้วยขนมหวานนะขอรับ ท่านอย่าได้หลงมัวเมาไป กลับมาเป็นเจ้าแห่งความชั่วร้ายผู้สูงส่งเช่นเดิมเถอะขอรับ” “เจ้านี่ช่างไม่มีความโลภกับเขามั่งเลยนะ” เสียงฟาร์ยบ่นอยู่หน้ากระจก จิงโจ้ทำหน้าเหรอ “ฝ่าบาทว่าหม่อมฉันเหรอพะยะค่ะ” “เป็นผู้หญิงที่แสนจะธรรมดาเสียจริง แต่ขนมหวานของหล่อนอร่อยยิ่งกว่าใครในโลกนี้” “โอ้ว....ฝ่าบาทพะยะค่ะ อย่าไปที่โลกมนุษย์อีกเลยนะพะยะค่ะ แล้วงานเลี้ยงปีใหม่ปีนี้.....” ฟาร์ยแขว้งไม้เท้าไปโดนหัวของจิงโจ้จนบวม “งานเลี้ยงปีใหม่ที่ปราสาทของเจ้า ปีแอร์ ข้าจะหาตัวแทนไปเอง” เสียงประกาศิตของเจ้าแห่งความมืดเอ่ย “ตอนนี้ข้ามีงานต้องไปทำ” หลังจากฝ้าดูเค้กเตรียมตัวอยู่ตั้งนาน เขาเพียงรอเวลาที่เธอจะร่ายเวทเพื่อเรียกเขาเท่านั้นเอง “ข้าเพิ่งจะถูกขอร้องอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง” เค้กกับฟาร์ยมาถึงสถานที่จัดงานก่อนเวลาเพื่อเตรียมตัว “ฟาร์ย....ฉันกลัวจังเลย” แม้คำพูดเหมือนจะอ่อนแอแต่น้ำเสียงที่พูดออกมาบอกว่าเธอตื่นเต้นอยู่ ฟาร์ยจับตัวเธอให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา “เจ้าน่ะเป็นที่ 1 ของข้าอยู่แล้วนะ เค้ก” เค้กฟังคำพูดของอีกฝ่ายแล้วหน้าแดงระรื่อ หมายความว่ายังไงนะที่ 1 ของข้าน่ะ ยิ่งทำให้เธอประหม่าเข้าไปอีก “ว่าแต่นายทำไม...” “เท่ห์ใช่ไหมล่ะ ที่จริงข้าน่ะป๊อปมากเลยนะ ใครๆก็ชื่นชมเสมอ” เขาทำท่าเท่ห์อวดเธอ “นั่นเค้กนี่” เสียงของฟ้าครามเอ่ยซึ่งมาพร้อมกับแอริณห้องบี อาจารย์พิมพกา แม่รี่ และยังมีพิมานมาด้วยอีกคน เค้กไหว้ครูทั้งสอง “เอ๊ะ....นั่นใครกันน่ะ” แอริณเอ่ยอย่างสนใจ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อฟาร์ยเป็นเพื่อนของเค้กครับ” เขารีบแนะนำตัวอย่างดี ทีอย่างนี้พูดดีกับทุกคนนัก ครั้งแรกที่เจอกันน่ะ จะเอาชีวิตของฉันไม่ใช่เหรอ “ว่าไงจ๊ะเค้ก” อาจารย์หันไปถามลูกศิษย์ “ครูเชื่อว่าเธอต้องชนะเลิศแน่ๆ พยายามเข้านะ” “ค่ะ” ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปเข้าห้องการทดสอบของแต่ละคน ส่วนผู้ที่มาให้กำลังใจต่างก็ชวนกันเดินชิมอาหารในงานไปพลางๆ ดูเหมอืนจะถูกใจฟาร์ยเป็นอย่ามาก เพราะมีเค้กหลากชนิดให้เขาได้เลือกชิมอย่างอร่อย ส่วนผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 ต่างก็ต้องอกตั้งใจทำการทดสอบของแต่ละคน โจทย์ของแต่ละคนที่ได้คือนำวัตถุดิบที่ทางกองประกวดให้มาเพื่อทำอาหารตามที่กองประกวดหนดเอาไว้ ทุกคนต่างก็พยายามเต็มที่ เค้กมองดูช็อกโกแลคกับผลไม้หลายอย่างในถ้วย โจทย์ของเธอคือทาร์ตผลไม้รวม “เค้กจ๊ะ...ขนมหวานน่ะเป็นสิ่งที่เหล่าปีศาจเพื่อนของเราชอบมากเลยนะ ลูกต้องทำขนมให้อร่อยเพื่อทำให้พวกเขาชอบและเป็นเพื่อนกับเรา และเมื่อนั้นเมื่อลูกต้องการสิ่งใดพวกเขาก็จะช่วยเหลือลูกทุกอย่าง” “นี่คือตำราการทำขนมหวานที่แม่ขอมอบให้ลูกเอาไว้ ลูกต้องฝึกฝนเอาไว้ให้ดีนะจ๊ะ เหล่าปีศาจน่ะชอบขนมหวานที่สุดเลย สักวันหนึ่งลูกจะต้องเจอคนที่ดีแน่ๆ เหมือนแม่ไงจ๊ะ” นั่นคือคำสั่งเสียของแม่เมื่อ 7 ปี ก่อน เธอเริ่มทำขนมหวานตั้งแต่อายุ 10 ขวบ และฝึกฝนการทำตำราขนมหวานจากแม่เมื่อตอนอายุ 13 ขวบและเป็นเจ้าของร้านขนมหวานเมื่อตอนอายุ 15 ขวบ สั่งเหล่านั้นเกิดจากการฟูมฟักของแม่ ผู้ซึ่งเป็นแม่มดขนมหวานมิใช่เหรอ แล้วเธอก็ยังเป็นแม่มดขนมหวานรุ่นต่อมา จะทำให้ชื่อเสียงของแม่ไม่สิ...ชื่อเสียงของเหล่าแม่มดขนมหวานที่มีมาหลายรุ่นต้องเสียไปคงมิได้ โดยเฉพาะสำหรับคนๆนั้นด้วยแล้ว ก็แค่อยากให้เขามีความสุขเวลาทานขนมหวานของเธอ....ใบหน้าของฟาร์ยเวลายิ้มอย่างยินดีผุดขึ้นมาในหัวของเธอ “ฉันจะทำขนมหวานแม้แต่ปีศาจยังใจละลาย” นี่คือคำพูดของเธอที่บอกตัวเองเอาไว้เมื่อครั้งที่พบกับฟาร์ยครั้งแรก ผ่านไปร่วมชั่วโมงเค้กออกมาจากห้องทดสอบเห็นเพื่อนๆออกมารอก่อนแล้วแต่ไม่มีเงาของฟาร์ยอยู่แถวนั้น “เป็นยังไงบ้างจ๊ะ เค้ก” อาจารย์รีบเข้ามาถาม “เธอออกมาช้ากว่าเพื่อเลยนะ” “ทำขนมก็ต้องใช้เวลานิจ๊ะ การทำหน้าทาร์ตให้อร่อยแล้วล่ะก็มันมีเคล็ดลับจ๊ะ” เธอหันซ้ายหันขวาเพื่อหาใครสักคน “หาใครอยู่เหรอเค้ก” พิมานถามอย่างสงสัย “ฟาร์ย เห็นเขาไหม?” “ถ้าหมายถึงสุดหล่อคนนั้นล่ะก็ โน้น แอริณกำลังคะยั้นคะยอให้เขาช่วยชิมขนมปังกรอบหน้าหมูสเต้กที่เธอเพิ่งทำไปน่ะ” ฟ้าครามบอก เค้กหันไปมองคนร่างสูงใหญ่ที่กำลังร่าเริงกับการทานขนมหวานที่เขาโปรดปรานข้างกายมีสาวสวยหน้าตาน่ารักคอยตักโน้นตักนี่ให้ “ลองชิมดูนะคะ คุณฟาร์ย นี่ฝีมือของฉันเอง” แอริณแทบจะป้อนเขา แต่ฟาร์ยกับดึงมือออก “เอ่อ...ผมว่าผมทานเองดีกว่า” ฟาร์ยทำหน้ากล้ำกลืน ถ้าเทียบกับขนมหวานแล้วล่ะก็มันคนละโลกกันเลยล่ะ “อย่าทานนะ” เสียของเค้กดังอยู่ในใจเธอไม่อยากจะให้ฟาร์ยกินของที่คนอื่นทำ ฟาร์ยหันไปมองเพราะเขาสามารถได้ยินเสียงนั้น แม้จะไม่รู้สึกชอบกับพวกอาหารว่างแต่เห็นหน้าของเค้กแปลกๆแบบนี้เขาก็อยากจะยั้วะเล่น ฟาร์ยยัดขนมปังเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างอร่อย “เป็นไงอร่อยไหมจะ” แอริณถาม “ฮืม...” ฟาร์ยทำหน้าไม่ถูกแต่ก็ตอบไปเพราะมารยาท “เอาอีกสิจ๊ะ” แอริณตักให้อีก “บอกว่าอย่าทานไงล่ะ” เค้กปัดมือเขาออกจนทำให้ขนมปังร่วงลงกับพื้นทุกคนต่างก็ตกใจหันมามองเธอ เค้กทำหน้าราวจะร้องไห้แล้วรีบวิ่งออกจากงานไป ฟาร์ยตามไปอีกคน “เค้ก” พิมพการ้องเรียกลูกศิษย์ “เกิดอะไรขึ้นน่ะ” “ไม่รู้สิคะ ยัยคนนี้แปลกจริงๆ” แอริณตอบหัวเสีย “นี่ยังไม่ประกาศผลเลยนะ ออกจากงานไปแบบนี้” แมรี่ชักเป็นห่วง “ผมตามไปดีไหมครับ” พิมานเสนอ “อย่าดีกว่านะ เธอก็เห็นนิว่าเพื่อนเขาก็อยู่ด้วย” ฟ้าครามทำหน้าขึงขังใส่ พิมานได้แต่มองตาม โดย: unitan (unitan
![]() นี่ฉันทำอะไรลงไปน่ะ ทำเรื่องน่าอายแบบนี้ยังไงกันนะ เค้กนั่งเหม่อลอยอยู่บนรถเมล์เพียงลำพัง เธอจึงไม่อาจจะรู้ได้ว่าผู้ที่ได้รับรางวัลการทำขนมหวานในวันนี้คือเธอเองหลังจากที่คณะกรรมการชิมต่างก็ได้ใจไปทุกคน พิมพกาเป็นผู้ขึ้นรับรางวัลแทนเธอ ส่วนฟ้าครามกับแอริณไม่ได้รางวัลอะไรเลย ฟาร์ยยืนมองทาร์ตหน้าผลไม้รวมที่ตั้งโชว์อยู่ในงานประกวด “ยัยนั่นจะโกรธเราหรือเปล่านะ เรากินเยอะไปจนเธออายหรือเปล่า” ฟาร์ยยกทาร์ตจานนั้นขึ้นมา มีคนหันมามองเขา “ผมขอชิมหน่อยนะครับ” เขาทำหน้าระรื่นกลบเกลื่อนก่อนจะใช้ช้อนตักขนมใส่ปาก “ฮืม...อร่อยที่สุดเลย ขนมที่เธอทำมันอร่อยที่สุดในโลกเลยนะยัยโง่ แล้วอย่างนี้ฉันจะไปทานอย่างอื่นให้โง่ทำไมล่ะ” ณ ปราสาทของจอมปีศาจฟาร์ย “ฝ่าบาทพะยะค่ะ วันนี้ไม่ไปโลกมนุษย์หรือพะยะค่ะ” เสียงจิงโจ้คนสนิทเอ่ยถามนายเหนือหัวที่นอนเอกขเนกอยู่บนเตียง “ฮือ....” ฟาร์ยหันมามองทำหน้าบอกบุญไม่รับ “เกิดอะไรขึ้นฝ่าบาท” “ไม่รู้สิ ต่อจากนี้ไปเราต้องอดอาหารเป็นเวลา 30 วัน” “โอ้ว....ทำไมกันพะยะค่ะ” “เพราะเราทำเรื่องขายหน้าน่ะสิ จนกว่ายัยนั่นจะยกโทษให้ ฉันจะไม่กินอะไรเลย” “อย่าทำร้ายตัวเองอย่างนั้นเลยฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นห่วงนะ” “พวกเจ้าต้องงดของหวานด้วยนะ” “ห้า....มันเกี่ยวอะไรกับพวกหม่อมฉันด้วยละ” จิงโจ้ทำท่าตกใจ “ลูกน้องทุกคนงดขนมหวาน 3 เวลา” เสียงของฟาร์ยประกาศกร้าว วันต่อมาเค้กไปที่มหาลัยพิมพกาได้มอบรางวัลให้กับเธอ เค้กรับมันมาด้วยใบหน้าที่ไม่ยินดีนัก ฟาร์ยหายไป....เขาหายไปจริงๆ ผ่านไป 3 วันก็ยังไม่มีข่าวของเขาเลย “เพริโต้....ขอบใจนะที่มาอยู่เป็นเพื่อน เอ้อนี่...........ขนมส่วนของเธอ” เค้กส่งถุงใส่ขนมหวานให้เพริโต้รับมาอย่างยินดีก่อนจะหายไปในวงแหวนเวท เค้กหันไปหากระต่ายน้อยที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่างเธอนักเค้กก้มลงคุยกับเจ้าตัวน้อยเหมือนกับอยากจะคุยกับใครสักคน “นี่ก็ 3 วันแล้วสินะ นายน่ะทำอะไรอยู่” เค้กทำหน้าเศร้า “ฉันอยากให้นายบอกฉันว่า ยินดีด้วยนะ ขนมของเธอน่ะมันที่ 1 อยู่แล้ว....ทำไมถึงไม่มาพูดล่ะ” เค้กพูดกับกระต่ายทำท่าราวกับจะร้องไห้ “แต่ก็อย่างว่าเราไม่ได้ทำสัญญานิรันดร์ต่อกัน จะหวังให้นายมาอยู่กับฉันตลอดไปคงไม่ได้” เธอยังรำพึงต่อ “ถ้าลูกเจอคนที่ดีด้วยแล้ว จงจับเขาเอาไว้ให้มั่นด้วยขนมที่อร่อยที่สุดที่เขาชอบ” เสียงของแม่ดังขึ้น “ใช่สิ.....นายชอบขนมเค้กใช่ไหม ฟาร์ย...ฉันจะทำ จะทำขนมที่นายชอบที่สุด ฉันจะทำขนมแม้แต่นายยังต้องละลาย ฉันจะจับนายด้วยขนมเค้กที่ฉันทำ” เค้กตรงไปในห้องทำขนมแล้วลงมือเตรียมส่วนผสมของขนม “นายไม่ชอบเกาลัคกับลูกเกดใช่ไหม? ฉันจะไม่ใส่มันให้เด็ดขาด” เธอเปิดตำราขนมหวานของแม่มดออกมาเลือกขนมหวานที่ฟาร์ยบอกว่าชอบ ณ เมืองนรก “โอ้ววว....หิวววว....ไม่ไหวแล้วนะ...ข้าหิวววว” ฟาร์ยร้องโอดครวญอย่างน่าสงสาร “อย่าอดเลยฝ่าบาทไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นหรอกพะยะค่ะ นี่เลยสเต็กเนื้ออย่างดี ฝ่าบาทเสวยเลยพะยะค่ะ” จิงโจ้ทาสรับใช้คนสนิทถือจานเข้าไปหา “ม่ายยย ข้า ม่ายต้องการ” เขาร้องอย่างทรมานปัดจานสเต็กกระเด็นไป จิงโจ้ตกใจใหญ่ “ข้าอยากกิน...อยากกิน...” เขาคลานไปที่กระจก เห็นเค้กที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำขนมอยู่คนเดียว “ข้าอยากกินนนน.......” ฟาร์ยน้ำลายไหลจนทนไม่ได้ ฟาร์ยมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะที่เต็มไปด้วยขนมเค้ก ส่วนคนทำนั่งหลับฟุบอยู่ที่โต๊ะเขาเดินเข้าไปหา “เจ้าทำเกินไปแล้วนะเค้ก ข้าอดมาตั้ง 3 วันยังแทบขาดใจเลย” “นี่มันอะไรตำราขนมแม่มด กระดาษนี่เขียนอะไรไว้น่ะ” เขาหยิบกระดาษที่วางทับหนังสือเอาไว้ขึ้นมาดู “ขนมที่ฟาร์ยชอบ ชอบที่สุด ชอบมาก ลูกเกดกับเกาลัคเกลียด ฉันไม่กินลูกเกดกับเกาลัค ฉันชอบชอคโกแลคที่สุด นี่เจ้าตั้งใจทำเพื่อข้าขนาดนี้เลยเหรอ เค้ก” ฟาร์ยทำกระดาษร่วงลงโดยไม่รู้ตัว “ฉันจะกินมันให้เกลี้ยงเลยนะ ของที่เธอทำน่ะ ยัยโง่” ฟาร์ยมองใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ยังหลับไหลอยู่บนโต๊ะด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน เค้กงัวเงียตื่นเพราะได้ยินเสียงขลุกขลักดังอยู่ข้างหู พอดวงตาโตเปิดกว้างแสงสีนวลที่เล็ดลอดม่านตาเธอทำเอาดวงตาโตตะลึงค้าง “พระจันทร์ดวงโตจังเลย” เค้กพรึมพรำ หันไปมองคนข้างกายที่เธอนอนหลับพิงไหล่เขามาเนินนาน “นาย....ฟาร์ย นายมาแล้วเหรอ” เธอถามอย่างดีใจ “ฮืม....ก็วันนี้เราสัญญากันไว้นินา ถ้าไม่มาวันนี้ต้องรออีก 150 ปีข้างหน้าเชียวนะ” เขาตอบรับ “ฉันนึกว่านายจะไม่มาอีกเสียแล้ว” เธอเอ่ยน้ำตาคลอ ฟาร์ยแทบทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะร้องไห้ “นี่เจ้าจะร้องไห้ทำไม?” “แค่คิดว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก ฉันก็เศร้าใจแล้ว” “ฮึฮึ....ยัยโง่ ถ้าข้าไม่มาที่นี่ แล้วจะหาของอร่อยที่ไหนทานล่ะ” เค้กสบตากับเจ้าแห่งปีศาจรอยยิ้มละไมฉายทั่วไปหน้าไม่ได้น่ากลัวอย่างวันแรกเลย “ฉันจะทำขนมเค้กที่แม้แต่ปีศาจยังใจละลาย......” เสียงดังจากห้วงคำนึงของเธอ จอมปีศาจได้แต่อมยิ้มอยู่อย่างนั้น พ่อกับแม่คะหมูมีคนที่อยากจะแนะนำให้รู้จัก เพราะงั้นกลับบ้านเร็วๆนะคะ “คุณคะฮันนี่ส่ง Mail มาหาด้วยค่ะ อยากให้เรากลับบ้านเร็วๆ ทำตัวเหมือนเด็กๆเชียว มีใครคนหนึ่งอยากแนะนำให้รู้จัก เอ๊ะ...สงสัยฮันนี่จะเจอคนดีๆแล้วมั้งคะ” สาววัยกลางคนหน้าตาสะสวยหันไปพูดกับชายร่างใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียง “คงจะเหมือนฉันสินะคะ” โดย: unitan
![]() |
unitan
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Link |
“เธออยากจะทำขนมให้ใครทานหรอ?”
“ก้อ.....”
“นี่คณิศรา มาพบครูที่ห้องหน่อยสิ” อาจารย์ประจำชั้นมาตามเธอ
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ
“ฉันขอตัวก่อนนะ” เธอหันมากล่าวลาพิมาน
เค้กตามอาจารย์ไปที่ห้องพัก ครูแมรี่รออยู่ที่นั่น
“อาจารย์มีธุระอะไรกับหนูคะ”
“อาจารย์แมรี่ปรึกษากับครู พวกเราตกลงกันว่าจะส่งเธอไปประกวดการทำขนมฝรั่งเศษที่เขตกลางที่จะจัดในอาทิตย์หน้านี้จ๊ะ”
“คะ” เค้กแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ใช่....เธอจะเห้นด้วยหรือเปล่าจ๊ะ ครูชอบฝีมือของเธอมากเลยนะ เทียบกับเชฟมือดังๆได้เลย คิดถึงเนื้อครีมที่ค่อยๆละลายอยู่ในปากแล้วมันแทบทำให้ใจละลายเลยจ๊ะ ดังนั้นครูจึงอยากจะให้เธอลองเข้าประกวดการทำขนมหวานฝรั่งเศษในครั้งนี้ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตของเธอเองนะ”
“ใช่จะเค้ก ครูก็เล่าเรื่องของเธอให้อาจารย์แมรี่ฟัง ครูก็สนใจเธอเป็นอย่างมากเลยล่ะ เธอมีพรสวรรค์ด้านนี้ครูก็ต้องการให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้า ไม่แน่นะเธออาจจะได้เป็นเชฟใหญ่ก็ได้”
“เป็นโอกาสที่ดีแล้วนะจ๊ะ การประกวดครั้งนี้มีโรงแรมดังๆ มาเป็นคณะกรรมการด้วยนะ เผลอๆ เธออาจจะโชคดีก็ได้”
ทั้งสองคนช่วยกันพูดกรอกหูของเธอแทบฟังไม่ทัน
“คือว่า.......” เค้กเองก็รู้สึกตกใจที่ได้ยินครูทั้งสองพูด
เรื่องที่ฉันชอบทำขนมหวานก็เพราะว่าเป็นสิ่งเดียวที่แม่ได้ถ่ายทอดให้ เวลาที่ฉันทำขนมเหมือนมีแม่อยู่ใกล้ๆ ความคิดถึงที่มีให้แม่มันได้ถ่ายทอดออกมาเป็นขนมทุกๆจาน แต่ว่าในตอนนี้ สิ่งที่ฉันอยากจะทำ ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเป็นผู้มีชื่อเสียงในการทำขนมถึงระดับโลก ขอแค่......มีใครคนนั้นนั่งทานขนมของฉันอย่างอร่อยก็พอแล้ว
“ว่าไงจ๊ะเค้ก” อาจารย์ถามย้ำ
“หนูไม่คิดว่าจะสามารถทำได้ขนาดนั้นหรอกค่ะ สิ่งที่หนูอยากจะทำในตอนนี้ก็คือ หนูอยากทำขนมหวานไว้รอใครสักคน คนที่ชอบทานขนมหวาน อยากเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของเขาเวลาทานขนมที่หนูทำ แค่นั้นเองค่ะ”
“เค้ก....เธอพูดเหมือนคนมีความรักเลยนะ” ครูอดแซวไม่ได้
“อ่ะ คะ....เปล่าสักหน่อย” เธอปฎิเสธหน้าแดง
“นั่นแหล่ะเป็นสิ่งที่คนทำขนมต้องคิดคำนึงถึง เธอช่างเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านนี้โดยแท้จริง” แมรี่เอ่ยอย่างชื่นชม
“ที่จริงนอกจากเธอแล้ว ครูก็ยังได้ส่ง ฟ้าครามไปทดสอบการทำอาหารฝรั่งเศษ แล้วยังมี แอริณห้องบีที่จะไปทดสอบการทำอาหารว่างด้วยนะ อย่างนี้เธอจะยอมแพ้สองคนนั่นหรือยังไงกัน”
อาจารย์พิมพกายังพยายามหว่านล้อมต่อ
“งั้นเหรอคะ”
“ครูหวังในตัวเธอมากเลยนะ แม่มดขนมหวานของครู” พิมพกายิ้มอย่างอ่อนโยน
เธอรู้จักลูกศิษย์คนนี้ดี เธอเป็นผู้โดดเดี่ยวที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งนี้ ไม่มีเพื่อนสักคนที่จะคอยพูดจาให้กำลังใจ แต่กระนั้นเธอก็เข้มแข็งมากสำหรับการอยู่ลำพังคนเดียวมาตลอด และเธอก็รู้ดีว่าลูกศิษย์คนนี้เก่งด้านการทำขนมหวานขนาดไหน ขนาดที่ว่าสะกดคนได้ทั้งเมืองมาแล้ว
ทั้งสองสบตากันนิ่งความเชื่อมั่นที่ถ่ายทอดจากสายตาอบอุ่นนั่นแสดงให้เห็นว่าเธอคาดหวังที่จะเห็นความสำเร็จของเค้กเพียงใด
แล้วอย่างนี้เค้กจะยังกล้าทำลายความหวังของเธออีกหรือ
“ค่ะ...ได้ค่ะ หนูจะทำสุดความสามารถเลยนะคะ” เค้กโค้งลงตรงหน้า
พิมพกายิ้มอย่างยินดีก่อนจะดึงคนร่างเล็กเข้าไปกอด
“ดีมากจ๊ะ ครูเชื่อว่าเธอทำได้นะจ๊ะเค้ก”
เค้กออกมาจากห้องพักครูก็ต้องตกใจที่พบพิมานยืนอย่ตรงนั้น เขารอเธอตั้งแต่ที่เธอเข้าไปแล้ว
“นายยังไม่กลับอีกเหรอ”
“ยัง...ผมรอเค้ก”
“รอฉัน?..” เธอถามอย่างสงสัย
“ก็แค่อยากจะกลับบ้านด้วย”
“บ้านเราไม่ได้อยู่ทางเดียวกันสักหน่อย” เธอถามซื่อๆ
“ก็เหอะ อยากจะกลับพร้อมกัน” ชายหนุ่มยังไม่ละ แม้จะดูเขินๆอยู่บ้างที่เธอตามเขาไม่ทัน
“ครูว่าไง”
“ครูจะให้เค้กไปทดสอบการทำขนมหวานฝรั่งเศษที่เขตกลางอาทิตย์หน้าน่ะ ยังมีฟ้าคราม กับแอริณห้องบีไปด้วยนะ” เธอบอก
“ดีจริง...อย่างนี้เค้กก็มีโอกาสได้โกอินเตอร์แล้วสิ”
“โกอินเตอร์อะไร ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“แหม๋....ก็เค้กน่ะ ทำขนมได้อร่อยสุดๆเลยนิ แบบที่เรียกว่าสะกดคนได้ทั้งเมือง”
“นายก็พูดเกินไป” เธอเอ่ยเขินๆ
ผมเองก็อยากจะเก่งให้เท่าๆกับเค้ก
“แล้วนี่เค้กต้องเตรียมตัวอะไรบ้างล่ะ”
“คงต้องเปิดตำรา ต้องทำขนมฝรั่งเศษบ้างแล้วล่ะ อย่างน้อยคงถูกปากใครบางคน”
พิมานสงสัย ใครบางคนของเค้ก เธอพูดแบบนี้หลายรอบแล้ว
“ใครเหรอ”
“อ่ะ...โทษทีนะฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ” เค้กวิ่งลงจากตึกปล่อยให้พิมานที่ยืนค้างอยู่คนเดียว
“อะไรของเธอยัยคนนี้” เขามองตามก็ไม่เห็นเงาของเค้กแล้ว
“ไวยังกะจรวดแน่ะ”