|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
"เด็กในคาถาของเมิง โคตรโหดเลย...."
เช้าวันจันทร์ หลังจากที่พี่โฟล์คกลับไทยไป พี่แกก็โทรกลับมาหาผมแต่เช้า เช้าแบบผมเพิ่งจะอาบน้ำแต่งตัวเส็ด "ทำไมถึงคิดว่าผมตื่นแล้วอ่ะพี่" "พี่คำนวนแล้วเว้ยว่าปริ้นซ์น่าขี้เสร็จแล้วด้วย" "เป็นไง เข้าออฟฟิศวันแรก" "ป่วนชิบหาย...ไม่รู้ต้องไปเจอใคร ไม่รู้ต้องไปตรงไหน พี่ไม่รู้จักใครเลยนอกจากเอ็ง จะโทรหาก็ไม่ได้" "แล้วเรียบร้อยดีใช่ไหมครับ แล้วทำไมโทรหาผมละ" พี่โฟล์คก็บอกว่า ไม่มีอะไรแค่จะโทรมาอัพเดทว่าเข้ามาที่ออฟฟิศแล้ว เจอคนในแผนกแล้ว ที่เคว้งคว้างมาก เพราะไม่เจอพี่ ผจก หรือย้ง หรือ พี่ป๊อปี้ พวก Senoir คนไหนเลย ออกไซต์กันหมด
ใช้เวลาคุยไลน์กันนิดหน่อย ผมก็ขอวางสายเพื่อเดินทางไปประชุมงาน พี่โฟล์คเลยอัพเดทว่า เดี๋ยวคุณ VP จะบินไปหา เพื่อต่องาน รายละเอียดต้องไปถามคุณ VP ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ให้ผมโทรหาน้องธุรการได้เลย
และผมก็ได้รายละเอียดจากน้องธุรการว่า คุณ VP จะบินมาถึงวันพรุ่งนี้ ส่วนผม....ผมจะต้องบินไปพบลูกค้าที่ญี่ปุ่น ซึ่ง! ผมแม่งไม่ได้เตรียมตัว เตรียมข้อมูลอะไรเลยครับ เพราะในทุก ๆ วันผมต้องเตรียมงานที่ต้องทำที่นี่ ซึ่งการที่คุณ VP มาจะทำให้ผมยุ่งขึ้นไปอีก 2 เท่า เพราะทุกอย่างจะ out of plan ไปหมด นึกจะปรับก็ปรับ นึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน นึกอยากจะให้ทำนั่นก็จะต้องทำทันที เหอะๆ.... ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อนายมาถึง........
น้องธุรการจอง ANA จาก มิวนิก ไป โตเกียว ไว้ให้ครับ เพราะผมมีโน้ตไว้กับเอเจนซี่ว่าถ้าไปโตเกียว ขอ Priority เป็น ANA 787 น้องดีมากครับ เพราะจองไฟล์ทเสาร์เช้าตรู่ให้ผม 55555 จะได้มีเวลาพักวันอาทิตย์ก่อนทำงานต่อวันจันทร์
และเอาจริงๆ ..... ผมมีความสุขมากครับที่ได้มาญี่ปุ่น นอกจากหนีคุณVP มาได้แล้ว 55555 ยังโคตรคิดถึงญี่ปุ่นเลยครับ แต่การเข้าประเทศญี่ปุ่นนี่โคตรวุ่นวาย คุณต้อง register การเข้าประเทศล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว แคป QR กรอก immigration แคป QR กรอกวัคซีนโควิด แคป QR ลงทะเบียน passport แคป QR กรอกวัตถุต้องสำแดง แคป QR ........
นี่กี่ QR แล้วนะ
ทำไปครับ....ซับซ้อนวุ่นวาย บางอันก็ generate QR ไม่ผ่าน แต่ผมก็.....ช่างแม่งครับ......
ลงเครื่องมาก็มีเจ้าหน้าที่ ถือป้าย โบกไม้โบกมือตามสไตล์ญี่ปุ่น ให้โชว์ QR ใครไม่มีเลี้ยวไปยืนออกันอยู่อีกด้านนึง แล้วมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ใครมีก็ผ่านไปยังอีกจุด โชว์อีก QR ไม่มีก็คัดออกมา ใครมีก็ผ่านไป ผมก็ผ่านมาเรื่อยๆ จนเจอไอ่อันที่ของผมมันไม่ generate QR code ผมยังไม่ทันได้อธิบายอะไร ก็ถูกโบกให้ตกรอบไปยืนสแกนทำแบบสอบถามใหม่ ซึ่งอันนี้เหมือนเป็นทางลัดครับ ลัดแบบได้แทบสีอีกสีที่ผ่านตลอด 555555 ผ่านมาถึงจุดควบคุมโรคที่จะขอดู Vaccine certificate .... ผะ....ผมมีที่ไหน..... เลยเปิด "หมอพร้อม" ซึ่ง ณ ประเทศญี่ปุ่น หมอพร้อมก็เสือกจะไม่พร้อมขึ้นมา เปิดนานมาก จนต้องบอกเจ้าหน้าที่ว่า รอซักครู่นะครับ (เจ้าหน้าที่ก็ไม่พูดอังกฤษอีก) พอเปิดได้ ทุกอย่างก็เป็นภาษาไทย เจ้าหน้าที่ก็ถามหาชื่อ กับเลขพาสปอร์ต ผมก็บอกว่า "โทษทีครับ มันเป็นภาษาไทย เลขพาสปอร์ตน่ะ ไม่มีครับ แต่นี่ของผม" อาจฟังดูเหมือนผมพูดแปลก ๆ...ใช่ครับ 5555 เพราะต้องพูดญี่ปุ่น!!! แล้วปกติผมพูดได้เฉพาะตอนเมา....... เจ้าหน้าที่ก็พยายามดูแล้วบอกว่า "เอ่อ....ไม่เข้าใจ โอเคๆ go go" เฮ้ยยยย ผ่านเฉย !!!!
เดินวนเป็นวงกลมอยู่ 1 รอบถึงถูกโบกให้เข้า Immigration ครับ มีเจ้าหน้าที่ยืนแจกกระดาษใบยาวที่คุ้มเคยอยู่ ส่วนคนก็.....เยอะแยะมหาศาลมาก เค้าไม่ให้ถ่ายรูปนะเท่าที่จำได้ แต่ผมแอบถ่ายมา ***นี่คือผมเดินมาครึ่งทางแล้วนะ***
ผมยืนอยู่ราวๆ 1 ชั่วโมง พร้อมคนประมาณ 700-800 คนได้ ถ้าจะติดโควิดก็จากตรงนี้ละวะกุ พอเข้า ตม. เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มน่ารักผิดกับเยอรมันมาก ผมแค่สแกน QR แล้วถ่ายรูปแค่นั้น พร้อมกับบอกว่า "ถ้ายูมี QR แล้ว ไม่ต้องกรอกกระดาษแล้วนะ" ป๊าดดดด แล้วเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เค้าตรวจ QR แล้ว เค้ายัดไอ่นี่ใส่มือผมมาทำไมวะ!!!
มาถึง Customs clearance มีเจ้าหน้าที่เดินมาถามหา QR ใครไม่มีก็ยืนไว้ ใครมี เช่นผมเป็นต้น ก็เดินไปอีกด้าน มีเจ้าหน้าที่เอา QR ไปสแกนกับเครื่อง แล้วถ่ายรูป ถ่ายหน้าpassport อีกรอบ ผมเลยถามว่า....ตอน register ผมก็แนบหน้า passport ไปแล้ว กรอกไอ่พวกในจอนี่หมดแล้ว ทำไมต้องทำซ้ำหรอครับ เจ้าหน้าที่บอกว่า อ่ะ...ขอโทษด้วยจริงๆ แต่ต้องทำอีกรอบ 55555 อันนี้ขำๆ นะ ทำซ้ำไปซ้ำมา แต่เค้าก็เพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน คงยังมี process งง อยู่บ้าง
ข้ามมาวันจันทร์เริ่มงานเลยครับ ราวๆ 11 โมงกว่า ๆ พี่โฟล์คก็โทรมาหาผมอีก ถามสารทุกข์สุกดิบ ก่อนจะบอกผมว่า "พี่ขอไฟล์รายละเอียด project on hand ของปริ้นซ์หน่อยได้ไหม" ผมก็ตอบแบบไม่ต้องคิด "ได้ดิพี่ พี่เจอน้องที่ชื่อพัทหรือยังครับ เอาที่พัทได้เลย" "เจอแล้วครับ...." พร้อมทำเสียงกระอักกระอ่วนแปลกๆ "มีไรอ่ะพี่" "บอกน้องให้พี่ทีครับ เด็กในคาถาของเมิง โคตรโหดเลยวะ มันไม่ยอมให้ถ้าเมิงไม่สั่ง" พี่โฟล์คพูดเสียงกระซิบกระซาบ พร้อมหัวเราะเบาๆ "ห๊ะ! 555555 GM ขอก็ไม่ให้น่ะหรอ" ผมขำสิครับ นึกไม่ออกเหมือนกันว่าพี่เค้าต้องเจออะไรมา "เออ...มันบอกว่าลูกพี่มันต้องสั่ง ถึงจะให้ คงคิดว่าพี่จะมาก้าวก่ายงานปริ้นซ์" "เดี๋ยวผมบอกให้พี่ คุยกันดีๆ ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมกลับไปเคลียร์น้องๆเอง"
ป๊าดดดด ไอ่พัท!!!! นอกจากเรื่องนี้ พัทยังบอกพี่โฟล์คว่าส่วนไหนที่ผมควบคุมดูแลอยู่ และหน้าที่ความรักผิดชอบขอผมคืออะไร ซึ่งงานสมูทมาก พี่โฟล์คก็เลยไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ส่วนผมก็โทรไปคุยกับน้องก่อน ว่าพี่เค้ามาช่วย แต่อาจจะยังไม่มีหน้าที่รับผิดชอบชัดเจน ก็เลยทำงานตามถนัดไปก่อน เพราะเค้าเป็น Sale Engineer Manager มาก่อน เคลียร์กันเส็ด พัทก็ส่งข้อมูลให้ครับ เหอะๆ......
ตัดมาเรื่องงานผมเองที่ญี่ปุ่น ชิลมากครับ ชิลมากจริงๆ เช้ามาก็นั่งกิน breakfast ที่ร้านประจำ พนักงานที่คุ้นเคยไม่อยู่แล้ว แต่เมนูประจำของผมยังอร่อยเหมือนเดิม
เช้าก็ไม่ได้เร่งรีบ ก็ไปนั่งชิลๆ ดื่มกาแฟดีๆ ที่สตาร์บัค ผมไม่ได้ถนัดกาแฟ เมนูนี้เรียกว่าอะไรไม่รู้ แต่อ่านชื่อแล้วดูดีเลยสั่งส่งๆ ปรากฎว่าดีมากครับ! หอมอร่อยมากๆ กำลังดีเหมาะกับอากาศเย็นอ่อนๆ ข้างนอกมากๆ ครับ
การพบลูกค้าคุยโปรเจคคือแค่ 30 นาที ที่เหลือคุยเล่นทักทาย หลังจากไม่ได้มาเจอกัน 3 ปี คุยงานเส็ดชวนกินข้าวเที่ยง เจ้าบ่ายก็ชวนกินข้าวเย็นต่อ เฮฮารื่นเริง ชนแก้วกันวุ่น 5 วันรวด...........
แวะเดินเล่นถ่ายรูปตามทาง คือไม่ได้โอกาสเที่ยวนะครับ แต่มีเวลาพักผ่อน ย่อนใจ และไม่ต้องรีบเร่ง หรือตารางแน่นจนเกินไป ไม่เหมือนตอนทำงานที่เยอรมันที่แทบไม่มีเวลาเงยหน้าเลยครับ
ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้วครับ เมเบิลก็เปลี่ยนสี ร่วงสวยงามแล้ว คนญี่ปุ่นเองก็ตื่นเต้น ออกมาถ่ายรูปกันเยอะเลยครับ แยกนี่คือพอไฟแดงคนก็ลงไปกลางถนน ไฟเขียวก็เก็บตัวเองขึ้นฟุตบาต
กลางคืนก็เดินเล่น เอาบรรยากาศนิดหน่อยก่อนกลับโรงแรม แหม่....โคตรคิดถึงเลย
จนวันพฤหัสเย็นลูกค้าชวนกินข้าว แล้วเปิดด้วยสาเกข้าวอะไรซักอย่าง ในเซตมีปลาหมึกสด ดองหรืออะไรซักอย่าง และmain dish เป็น Beef steak แบบ Medium rare Rare แบบเลือดเป็นเลือด ซึ่งปกติผมทาน Medium well แต่ก็ทานได้ครับ แหยะๆ หน่อย โดนรวมก็อร่อยดี แถมเมาเละเทะเลยครับ จากไอ่สาเก on the rock ที่ดื่มไม่3-4 แก้ว เบียร์อีก 2 แก้ว
คืนนั้นตี 1 ผมปวดท้องมาก มากแบบนอนต่อไม่ได้เลยครับ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ได้แค่นอนทนๆ จนถึงเช้า เช้าก็ปวดท้อง ท้องเสีย จนกินข้าวเช้าไม่ได้เลย ได้แต่นั่งจิบชาร้อนอยู่ที่ร้าน ก็ดีขึ้นหน่อย แต่ยังปวดท้องเป็นระยะๆ แถมสิ่งที่ผมเจอคือ.....ผื่นขึ้นตัว งานก็ต้องไปทำ ก็ไปประชุมกับลูกค้าต่อแบบซึมๆ หน่อย ผมก็ยังยิ้มแย้มพูดคุยสนุกสนานอยู่นะ เก็บอาการพอไหว แต่กินข้าวเที่ยงตามที่ลูกค้าชวนไม่ลงเลยครับ ทั้งๆ ที่อาหารน่าทานมาก ๆ
ผมเลยบอกลูกค้าว่าไม่ค่อยสบายท้อง ลูกค้าก็สั่งชาอะไรซักอย่างให้ดื่ม บอกว่าจะได้ดีขึ้น ถ้าไม่ไหวบอกนะจะหายาให้ ไอ่ผมก็บอกว่า ไม่เป็นไรๆ กินชาร้อนแล้วโอเค บ่ายผมก็มีลูกค้าอีกเจ้าที่สนิทกันมาก ๆ ผมก็ยมมากๆ เดินไม่ค่อยไหว หน้าเซ็ง ๆ ลูกค้าดูทรงแล้วบอกว่า "ยูแพ้แอลกอฮอล์" "WTF!!! ไอแดรกมาไม่รู้กี่แก้วแล้ว มันจะแพ้ได้ยังไง" ผมเงียบไปพักนึกก่อนจะนึกขึ้นมาได้ "แต่ไอเคยเป็นเว่ย...หลังกลับจากร้านเหล้า ไอ่นึกว่าโต๊ะไม่สะอาด" ตรงนี้ลูกค้าตาโต จับมือผมไปดูแล้วตบแผะๆ "โซะ เดสสึ โย่ว! แพ้สาเกชั่วร์"
ชิบหาย....แล้วงานการกุจะทำได้ยังไง ความรู้สึกตอนนั้นนี่เหมือนเด็กดริ้งที่อยู่ๆ เกิดแพ้แอลกอฮอล์ขึ้นมา ชีวิตไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไง
อยู่ๆ ลูกค้าก็หายไป แล้ววิ่งไปซื้อยากับเกลือแร่มาให้ดื่มเลยครับ แล้วยาญี่ปุ่นมันดีมาก ซักชั่วโมงผมดีขึ้นเลยครับ ยังทานไม่ค่อยได้ แต่ปวดท้องน้อยลง เดินไหว สดชื่นขึ้น เกลือแร่ซื้อมาให้หลายขวดเลยครับ บอกว่าให้ผมกินได้เรื่อยๆ เพราะผมควรจะโอเคมากพอที่จะบินกลับในวันเสาร์
วันนั้นลูกค้าเลยเรียนแท็กซี่ส่งผมกลับโรงแรม เพราะดูสภาพผมน่าจะต้องพักผ่อน
คืนนั้นผมนั่งจัดกระเป๋าถึง ตี 1 แต่นอนได้สบายแล้วครับ เพราะอาการปวดท้องดีขึ้นจากยาของลูกค้า
แล้วแหม่....น้องแม่งจองไฟล์ทกลับซะ 10 โมงกว่า ผมต้องไปถึงสนามบิน 7 โมงครึ่ง ซึ่งก็ออกจากโรงแรม 6 โมงครึ่ง โชคดีที่รถไม่ติด ผมถึงสนามบินตั้งแต่ 7 โมง ต้องยืนรอเคาน์เตอร์เปิดอีก 15 นาที แต่มีคนถึงก่อนผมอีกเยอะเลยนะ 5555
ผมยังปวดท้องอยู่นิดหน่อย เลยไม่ค่อยเอ็นจอยที่จะซื้อของอะไรที่ Duty Free เลยซื้อแค่ของฝากนิดหน่อยแล้วไปกินข้าวเช้า และนั่งสบาย ๆ พักผ่อนที่เลานจ์
ระหว่างทางกัปตันก็ชวนให้ดูฟูจิซังครับ! แล้วผมก็นั่งดูหนังยาวๆ จนถึงไทย
ถึงไทยผมต้องยืนรอกระเป๋านานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ลูกค้าบอกว่า ยูโชคดีแล้วนะ เพราะคนอื่นเค้ารอกัน 2 ชั่วโมงก็มี ผมยืนรออยู่ใกล้ๆ ลูกเรือ ลูกเรือผู้ชายก็เข้ามาคุยด้วยครับ เพราะเห็นผมยืนคนเดียว และเค้าก็พยายามสอบถามเรื่องกระเป๋าให้ตลอดว่าเมื่อไหร่จะมา พอได้กระเป๋าลูกเรือป้าจำปี ก็ยกมือไหว้ บอกว่าขอโทษด้วยนะครับ ที่ต้องรอนาน ผมก็บอกว่า ไม่เป็นไรครับ ก็รอเหมือนกันหมดนี่แหละ
การเดินทางครั้งนี้ป้าจำปีทำให้ผมประทับใจมากครับ ทั้งตอนไปมิวนิก และขากลับจากโตเกียว การบริการ อาหารดีหมดครับ ทำให้ผมอยากกลับไปบินกับป้าอีกเลยครับ และทำให้การเดินทางของผมดีเยี่ยม
เจอกันใหม่ทริปหน้านะครับ ยังไม่อยากเดินทางหรอก แต่ขึ้นกับคุณ VP แหละครับ ^^
กลับไทยมาก็จัดน้ำแข็งไสเลยครับ 555555 ก็ญี่ปุ่นไม่หนาวเลยนี่ครับ หนาวๆ จากเยอรมันมา คาดหวังมากจากญี่ปุ่น ^^ แต่ไม่เป็นไร สบายดีครับ
Create Date : 01 ธันวาคม 2565 |
Last Update : 1 ธันวาคม 2565 17:29:20 น. |
|
28 comments
|
Counter : 871 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณnonnoiGiwGiw, คุณSweet_pills, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกิ่งฟ้า, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณtanjira, คุณเริงฤดีนะ, คุณThe Kop Civil, คุณtuk-tuk@korat |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 ธันวาคม 2565 เวลา:22:50:47 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 2 ธันวาคม 2565 เวลา:0:26:28 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 2 ธันวาคม 2565 เวลา:7:54:49 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 2 ธันวาคม 2565 เวลา:9:24:29 น. |
|
|
|
โดย: VELEZ วันที่: 2 ธันวาคม 2565 เวลา:13:09:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ธันวาคม 2565 เวลา:21:00:52 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 ธันวาคม 2565 เวลา:22:20:56 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 3 ธันวาคม 2565 เวลา:0:50:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 ธันวาคม 2565 เวลา:17:21:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ธันวาคม 2565 เวลา:6:22:34 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 4 ธันวาคม 2565 เวลา:7:43:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ธันวาคม 2565 เวลา:15:40:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ธันวาคม 2565 เวลา:18:50:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ธันวาคม 2565 เวลา:6:03:52 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 ธันวาคม 2565 เวลา:7:03:07 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 7 ธันวาคม 2565 เวลา:1:50:33 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
จะว่าไป ถ้าแพ้แอลกอฮอล์ ก็ดีนะ จะได้เลิกดื่มไปซะเลย 555