|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
กิจกรรมอาสา+++>ครูอาสา พาไปทอดผ้าป่าโรงเรียน เกาะช้าง ระนอง
...........................................
สายๆของวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2551 ข้าพเจ้านอนทอดสายตาอยู่บนเตียงผ้าใบใต้ต้นสน ริมชายหาดบนเกาะช้างจังหวัดระนอง
เสียงหวีดหวิวของใบสนต้องลมดังไม่ขาดสาย พร้อมทั้งใบแห้งที่ร่วงล่นแทบทุกขณะเวลา หาดทรายตรงหน้าทอดยาวลงไปในทะเลกว้าง เม็ดทรายสีเหลืองทองต้องแดดยามเช้า น้ำทะเลฝั่งอันดามัน สีเขียวใสเป็นประกายระยิบระยับตัดกับสีฟ้าครามของท้องฟ้า
เรือประมงลำน้อยลอยล่องอยู่กระจัดกระจาย สุดขอบฟ้าคือสุดสายตาที่พานพบ
เงียบสงบในบรรยากาศของชายหาด ต่างชาติหลายคนเดินทอดอารมณ์บนเม็ดทรายละเอียดสะอ้านไปตามชายหาด ข้าพเจ้าสอบถามคนไทยที่นี่ได้ความว่า หลายคนมาพักอยู่ที่นี่เป็นเดือน หรือหลายเดือนถึงกลับไป หลายคนกลับไปแล้วก็กลับมาอีกในปีต่อๆมา
อาจจะเป็นเพราะความสวยงาม เงียบสงบ การต้อนรับและไมตรีจิตของคนที่นี่ก็เป็นได้ ที่ทำให้พวกเขากลับมาอีกหลายๆครั้ง ข้าพเจ้าคิดเช่นนั้น
ไมตรีจิตและมิตรภาพพบได้ทั่วไปหากเราเปิดใจไม่ปิดกั้นตัวเอง เช่นการเดินทางของข้าพเจ้า สิ่งที่พานพบคือมิตรภาพใหม่ๆที่เกิดขึ้น มันอาจเป็นมิตรภาพเพียงชั่วคราว หรือมิตรภาพที่ยั่งยืนก็เป็นได้
แต่มันก็คือมิตรภาพที่อาจหาไม่ได้ หากเราไม่ออกเดินทางค้นหามัน
การเดินทางของข้าพเจ้าครั้งนี้ก็เช่นกัน
...........................................
18:30 น. ของวันที่ 20 ธันวาคม 51 ณ ลานเบียร์เล็กๆ ในขนส่งสายใต้ใหม่ สี่หนุ่มร่วมการเดินทางครั้งนี้ที่คุ้นเคยกันมาบ้างแล้ว พูดคุย หัวเราะเสียงดัง อาจจะเพราะไม่ได้เจอกันบ่อย หรือไม่ก็เพราะฤทธิ์ ของน้ำสีเหลืองอำพันในแก้วใสใบเขื่องก็เป็นได้ ที่ทำให้พวกเราส่งสียงดัง
ครูอาสาจะเด็จ, ครูอาสาโต๋ , พี่ปัญ และข้าพเจ้า คือสี่ชายหนุ่มที่ว่านั้น ระยะเวลาผ่านไปไม่นานนัก หญิงสาวในชุดสีชมพูสวยใสก็พาร่างอันงามงดเข้ามาร่วมวงสมทบกับพวกเรา ครูจุ๊กจิ๊ก ครูอาสาสาวจากรุ่น107 และเกาะพยาม คือหญิงสาวที่ว่านั้น และคือมิตรภาพแรกที่ข้าพเจ้าได้รู้จักในการเดินทางครั้งนี้ การเดินทางของครูบ้านนอกรุ่นพิเศษ ทอดผ้าป่าโรงเรียนบ้านเกาะช้าง จังหวัดระนอง จึงเริ่มต้นขึ้นที่นี่กับรถทัวร์สาย กรุงเทพฯระนอง ตอนสองทุ่มครึ่ง
บางครั้งในมุมหนึ่งของคนสวยหนึ่งเดียวของเราในครั้งนี้ ก็ทำให้ข้าพเจ้าและบางคนที่ผ่านมาพบเห็น ได้อมยิ้มกับท่าทางการหลับของเธอบนรถทัวร์ ที่ไม่อาจอธิบายให้เห็นเป็นภาพได้แต่อย่างไร แต่เธอก็ยังเป็นคนสวยที่สุดของพวกเราในการเดินทางครั้งนี้
ตีสี่กว่าๆ พวกเรามาถึงมูลนิธิ กระจกเงา ระนองด้วยความปลอดภัย ตึกแถวเล็กๆ ห้องเดียวที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และโปสการ์ดสวยๆ คือที่ทำงานของหลายๆคนที่นี่ บางทีสถานที่ใช่สิ่งสำคัญเสมอไปหากแต่เป็นจิตใจข้างในเสียมากกว่า
ไม่นานนักครูอาสากฎ ครูหนุ่มนายทหาร จากรุ่น107และเกาะพยาม ก็ตามมาสมทบกับพวกเราที่นี่ รวมเป็นหกคนในรุ่นพิเศษนี้ ขอบคุณเพื่อนครูกฎที่นำทางพาพวกเราไปกินติ่มซำและกาแฟอร่อยๆที่ตลาดในตอนเช้า เป็นมื้อแรกของวันที่อร่อยทีเดียวเชียว
ที่ท่าเรือ ไปเกาะช้าง พวกเราได้พบมิตรภาพเพิ่มแบบไม่ได้คาดคิด กับอีกสามสาว ที่พวกเรามารู้ตอนหลังหลังจากได้พูดคุยกันบนเกาะ ว่าสองในนั้นเป็นครูแท้ๆที่ระนองนั้นเองและอีกหนึ่งสาวน้อยที่เป็นลูกสาว
ขอบคุณ ครูเจี๊ยบ ครูไก่ และลูกสาวครูเจี๊ยบ ที่ทำให้ข้าพเจ้าและครูโต๋ นึกถึงครูน้องขิมครูตัวน้อยของพวกเราในรุ่น 109 แม้ว่าพวกครูอาจจะค่อนข้างแปลกใจและรับไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ กับการกระทำบนเรือหางยาวที่พวกเราอาศัยเดินทางมาพร้อมกัน ขออภัยด้วยครับ แต่เรื่องบางเรื่องก็ต้องปล่อยให้มันเกิดขึ้น แบบที่ครูกฎบอกไว้ ไม่นั้นอาจเป็นอันตรายกับตัวเองได้
...........................................
คลื่นทะเลกระทบกับกราบเรือซ้ายทีขวาที ทำให้เรือโคลงเคลง เม็ดน้ำแตกกระเซ็นหลังจากหัวเรือพุ่งทะยาน เสียงเครื่องยนต์ดังลั่นพร้อมตั้งจุดหมายปลายทาง หกชีวิตครูบ้านนอก สามชีวิตมิตรภาพใหม่ กับหนึ่งลุงคนขับเรือ มุ่งหน้าสู่ปลายทางเกาะช้าง
แม้เสียงเครื่องยนต์จะดังลั่น กระนั้นเสียงพูดคุย หัวเราะและรอยยิ้ม ยังดังมากกว่า สิงห์หลายตัวนอนตายเกลื่อนในถุงพลาสติกบนท้องเรือ ทำให้บางคนต้องลุกไปทำภารกิจยังท้ายเรือที่แล่น และโคลงเคลง
ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเสียเลย กับเรือที่โยกโคลงเคลงตลอดเวลา แม้ลุงคนขับเรือจะเบาเครื่องยนต์ให้แล้วก็ตาม การต้องยืนให้มั่น ไม่ให้โยกเย้ของตัวเรา ไม่มีที่ให้ยึดเกาะจับ ดูกระแสลมที่พัดเพื่อไม่ให้กระเซ็นย้อนเข้าตัวเอง ณ ท้ายเรือหางยาวลำไม่เล็กและไม่ใหญ่ที่พวกเราโดยสาร
ปล่อยมันไปกับสีน้ำทะเลที่เขียวใส และท้องฟ้าสีครามที่ตราตรึงใจ
ณ โรงเรียนบ้านเกาะช้างที่พวกเรามาถึง ภารกิจสำเร็จไปก่อนหน้าแล้ว ทุกอย่างกำลังถูกจัดเก็บ เกือบเรียบร้อย จึงไม่มีอะไรให้พวกเราได้ช่วยกับงานในครั้งนี้
แม้จะไม่ตรงตามความตั้งใจของพวกเราในตอนแรก แต่อาจเป็นเพราะพวกเรามาช้าเกินไป แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลย จริงๆ เงินของผู้บริจาคยังถึงโรงเรียนโดยสมบูรณ์
เพราะฉะนั้น บ้านพักชายทะเลอีกฝั่งหนึ่งจึงเป็นที่ต้อนรับพวกเราในคืนนี้ และ ณ ที่นี่ยังมีอีกหลายคนที่ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้จักเพิ่มขึ้น ครูดอน เจ้าหน้าที่ที่กระจกเงา ระนอง ที่คุ้นหน้าและชื่นชอบแนวแต่งตัว ครูตีป เจ้าหน้าที่ระนองอีกคน ที่ขอตัวกลับก่อน
พี่กานและพี่ๆเจ้าของ Thai Bar ที่ให้การต้อนรับและนั่งคุยกันจนดึกดื่น แม้แท้ที่จริงพวกเราอาจทำให้พวกพี่เสียลูกค้าต่างชาติไปหลายคนในคืนนี้
สิงห์หลายตัวผ่านเข้ามาแล้วจากไป พร้อมกับเรื่องราวชีวิต และประสบการณ์ของหลายๆคน ที่ถ่ายทอดเป็นคำพูดสู่กันและกัน
เสียงดนตรีจากเครื่องคอมที่ทางร้านเปิดเบาๆ เสียงเรไรที่ทีแรกข้าพเจ้านึกว่าใครตั้งนาฬิกาปลุกเสียอีก เสียงคลื่นทะเลซัดฝั่ง เสียงใบสนที่ลู่ลม เปลวไฟที่ก่อบนชายหาดริบหรี่และสลับกันหลังจากใครบางคนใส่ฝืนเพิ่ม
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวมากมาย ไร้เงาพระจันทร์ดวงกลมดั่งห้วยชมพูที่ข้าพเจ้าหลงใหล
แต่ค่ำคืนนี้แสงดาวที่ระยิบระยับก็น่าหลงใหลเช่นกัน ยังมีผู้คนอีกมากมาย ยังมีสถานที่อีกหลายหนแห่ง ยังมีเรื่องราวและประสบการณ์ ให้เราได้ค้นหา อีกมากมายเช่นกัน
...........................................
การเดินทางกลับอาจมีอะไรมากมายให้ข้าพเจ้าได้บันทึก แต่ข้าพเจ้ากลัวไม่มีเวลาจะบันทึกมัน ขอเก็บเอาไว้ในบันทึกส่วนตัวข้างในแล้วกัน ขอบคุณทุกๆที่ได้พานพบ รู้จัก พูดคุยและยิ้มให้กัน
ขอบคุณ ครูจะเด็จ Idolสำหรับหลายๆคน ที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักครูในหลายๆมุม ขอบคุณ ครูโต๋ ที่ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น ขอบคุณ พี่ปัญ สำหรับคำพูดและข้อคิด ดีๆ จากคนที่ไม่เคยไปครูอาสา ขอบคุณ ครูกฎ จากรุ่น 107และเกาะพยาม สำหรับมิตรภาพใหม่ และคำชวนร่วมการเดินทางต่อๆไป ขอบคุณ ครูจุ๊กจิ๊ก จากรุ่น 107และเกาะพยาม สำหรับรอยยิ้ม และมิตรภาพ ขอบคุณ ครูดอน ครูตีป และเจ้าหน้าที่ที่กระจกเงาระนอง ที่ให้การต้อนรับ
บางสิ่งบางอย่างที่ไม่น่าจดจำ ปล่อยให้มันผ่านเลยไป บางสิ่งบางอย่าง ที่สวยงามเก็บมันไว้ในความทรงจำ
การเดินทางยังมีต่อไป เช่นเดียวกับมิตรภาพใหม่ๆยังเกิดขึ้นได้เสมอๆ
ครูเทพ ครูอาสาบ้านนอก 109
...........................................
สวัสดีตอนสายๆครับ
วันนี้อับบล็อคเพื่อให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไม่นิ่งงันและเงียบเหงาเกินไป
เอาบันทึกเก่าๆเมื่อสองปีก่อนมาลงไว้ให้อ่าน ในเมื่อตอนนี้งานใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ อาจเพราะสมองอันกระจิดริดไม่โลดแล่นเลยหมดมุขที่จะเขียนใหม่ๆ
อ่านของเก่าไปก่อนนะครับ เสร็จของใหม่จะมาใส่ในบล็อคทันที
สุดท้าย ขอความสุขอยู่คู่ทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันครับ
Create Date : 09 ธันวาคม 2553 |
|
20 comments |
Last Update : 10 ธันวาคม 2553 9:32:44 น. |
Counter : 1439 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 9 ธันวาคม 2553 11:42:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: หญิงแก่น 9 ธันวาคม 2553 13:35:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 9 ธันวาคม 2553 13:38:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: กลิ่นดอย 9 ธันวาคม 2553 20:23:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) 10 ธันวาคม 2553 13:37:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 14 ธันวาคม 2553 7:42:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 14 ธันวาคม 2553 11:07:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 15 ธันวาคม 2553 7:43:45 น. |
|
|
|
|
|
|
|