Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
1 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

☆แปลงผักสวนครัว (เดือน ม.ค. - เม.ย. 2551)☆

สวัสดีค้า....เพื่อน ๆ สมาชิกที่คิดถึงทุกท่าน

เห้อ.....กว่าจะอัพบล๊อคเรื่องแปลงผักเสร็จเนี่ย....ใช้เวลาเสียนาน....ขนาดค่อย ๆ เขียนเป็นดร๊าฟไว้ก่อนแล้ว แต่ก็ต้องหยุดพักยาวววววว....เพราะสภาพร่างกายเดี้ยง เซ็งเจรง ๆ แต่ทำไงได้ละค้า...ก็รักษากันไปตามระเบียบ จะบ่นปายทำไมมี.....ตอนนี้.....ก็พยายามทำใจยุบหนอพองหนอปลงเอาไว้ว่า... อายุปานฉะนี้....จะให้แข็งแกร่งเหมือนวัยละอ่อนคงเป็นไม่ได้แล้ว

สืบเนื่องต่อจากกระทู้เดิม ☆ แปลงผักสวนครัว (เดือน พ.ย. - ธ.ค. 2550) ☆
เพื่อน ๆ ตามมาชมความเจริญเติบโตของน้องผักทั้งหลายกันนะค้า

ตะไคร้.....ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่เป็นไร (เมื่อปีที่แล้ว) แต่ที่ไหนได้...แค่ลองไปดึงต้นมันเบา ๆ เท่านั้นเอง โอ้ย....มันหลุดติดมือมาเป็นยวง ให้ตกจายมั๊ก ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เห็นท่าไม่ดี...ก็เลยจำต้องขุดลงไปดูรากของมันหน่อย....โห....รากงี้เปื่อยเน่า ยุ่ยเป็นผงเชียวละค้า น่าจะเป็นเป็นเพราะช่วงหน้าหนาว...ปีนี้...หิมะตกหลายครั้ง แล้วก็ทับถม ก็เลยทำให้มันตายแบบกู๋ไม่กลับ หมดเกลี้ยงทุกกอเลยละค้า น่าฉงฉานเจ้าตะไคร้มั๊ก ๆ แต่ที่น่าสงสารจริง ๆ แท้ก็คือตัวเองมากกว่า ต้องมาเริ่มต้นปลูกใหม่ ซึ่งกว่าจะได้เก็บกินก็ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ที่สำคัญก็คือ...ได้ไม่ค่อยมากด้วยซิค่ะ รูปนี้...ก่อนที่จะเดี้ยงค้า



ยังดีนะ.....ที่ได้กลับไปเมืองไทยช่วงปลายเดือนมีนาคม....ก็ถอน (กันเหนียว) มาจากบ้านแม่ (เอาทั้งรากมันติดมาด้วยนิดหน่อย) แล้วก็แอบซุกใส่กระเป๋ามาได้ 10 กว่าต้น ที่มักน้อย...ก็เพราะคิดว่า...อีกไม่นาน ที่เราปลูกไว้ ก็คงแตกออกมาให้ใหม่ให้ได้เก็บกินแล้ว ที่หนายด้าย เลยไม่กล้ากินมัน เอาไปทำพันธุ์ ปลูกใหม่ ดีที่มันมีรากติดมาด้วย เลยติดได้ไว้หน่อย ) ตอนนี้...เริ่มแทงยอด แตกหน่อใหม่มาให้เห็นแล้วค้า เกิดเหตุการณ์พลิกพันแบบนี้ ปีนี้...ก่อนหน้าหนาว...คงจะต้องขุดใส่กระถางเอาเก็บมาไว้บ้างแล้วละค้า

ถั่วลันเตา (เอ็นโด มาเมะ - Endo Mame).........ตอนแรกก็หวั่น ๆ เหมือนกัน...กลัวมันจะเดี้ยง เพราะมันไม่โต แถมใบงี้...กรอบแห้งเลยละค้า ที่ไหนได้.....พอเข้าต้นเดือนมีนาคม โตวันโตคืน ออกดอกบานสะพรั่ง



ปีนี้...ลองปลูกคู่กันทั้ง 2 พันธุ์ แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คุณลุงแปลงข้าง ๆ เคยบอกเอาไว้เลยค่ะ ... ชนิดพันธุ์ดอกสีม่วง ดกติดเป็นฝักถั่วได้เยอะกว่า (เก็บกันเพลินเชียวค้า) ฝักก็ใหญ่กว่า หวาน กรอบอร่อยกว่า ชนิดพันธุ์ดอกสีขาว



ไปเก็บวันเว้นวัน....ได้มาตระกร้าขนาดนี้เชียวค้า ช่วงนั้น....สาระพัดเมนูถั่วลันเตา กินกันจนหน้าจะเป็นถั่วอยู่แล้ว ต้องเอาไปให้เพื่อนบ้านช่วยกินกันทีเดียวเชียวเค้า



เบบี้ แครอท.....ที่หว่านเมล็ดทิ้งไว้ช่วงปลายปีที่แล้ว...ตอนหน้าหนาว มันก็ไม่ค่อยโต หวาด ๆ อยู่เหมือนกันว่า มันจะเดี้ยงไปเสียก่อน คงอดกิน แต่ที่ไหนได้....พออากาศเริ่มอุ่นขึ้น มันโตวันโตคืน ดีจายมั๊ก ๆ พอต้นสูงสักคืบกว่า ๆ ก็เลือกถอนเอาแต่ต้นโต ๆ ออกมาบ้าง มันจะได้ไม่แย่งอาหารกัน ทยอยเอามาทำกินได้หลายมื้อเชียวจ้า



ถอนมาแต่ละครั้ง กะแค่พอเอามาทอดกะไข่ทานแต่ละมื้อ (กลัวหมดเร็ว เดี๋ยวอดอีก...อิอิ) เอามาล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ หั่นซอยฝอย ๆ ตีไข่ให้ฟู ปรุงรสด้วยน้ำปลาหน่อย แล้วจับเจ้าเนี่ย...ใส่ลงไปคลุกให้ทั่ว เอาไปทอดแบบชะอมชุบไข่ จิ้มกินกับน้ำพริกกะปิ หรือเอาไปทำแกงส้มชะอมชุบไข่ อู๊ย...อร่อย รสชาดงี้...ใกล้เคียงกับชะอมจริง ๆ เหมือนที่คุณนก (ข้าวยำ)....แนะนำเอาไว้เลย เนี่ย....ถ้าอยู่ใกล้ ๆ จะกระโดดไปจุ๊บแก้มซ้าย-ขวา

ตัวหัวของมัน....ปลูกให้ตรงสวย ค่อนข้างยากเชียว ถ้าไม่คิดว่า...จะเอาใบมันมาดัดแปลงกินแทนชะอมละก้อ...คงไม่ปลูกเหมือนกาน ขนาดว่า...ขยันพรวนดินให้มันก็แล้วนะ มันยังหงิก ๆ งอ ๆ ไม่ตรงกะเค้าเลยแระ สงสัยว่า....พืชจำพวกแครอท คงจะต้องใช้ดินที่ร่วนจริง ๆ แบบดินปนทรายปลูกถึงจะเวิร์ค



รุ่นนี้...ได้เก็บมากินหลายครั้ง จนชักเริ่มเบื่อ ก็หมดพอดี พออากาศอุ่นขึ้น (กลางเดือนเมษายน)...ก็เอาเมล็ดไปลงใหม่ (ที่จริงเจ้าเนี่ย....ปลูกได้ทั้งปี แต่จากที่สังเกตุดูแล้ว ช่วงหน้าหนาว ใช้เวลาในการปลูกนานหน่อย มันโตช้าค่ะ) รุ่นใหม่ที่เพิ่งหว่านไปนี้...โตพอใกล้ได้เก็บมากินแล้วละจ้า ลงทุนซื้อเมล็ดมาซองหนึ่ง 200 เยนนิดหน่อย แบ่งทยอยปลูกได้ทั้งปี คุ้มเจรง ๆ

ต้นหอมญี่ปุ่น (เนงิ)....เจ้าเนี่ย ปลูกได้ทั้งปี และทนต่อสภาพอากาศทุกฤดู ตั้งไว้เอาไว้ว่า...จะเอาเมล็ดพันธุ์ไปให้พี่สาวปลูก เพราะบ้านใหม่ของเค้าที่เยอะ จะได้ไม่ต้องไปซื้อเค้ากิน ก็เลยปล่อยให้เป็นดอก กะเก็บเมล็ดเอาไว้ทำพันธุ์ต่อ (ที่จริงไปซื้อเค้าก็ได้หรอกค้า ถุงหนึ่ง 100 กว่าเยนเอง....แต่ความงกมีมากกว่า...อิอิ) รูปนี้...ถ่ายก่อนที่จะริดดอกเล็ก ๆ ออก ปล่อยไว้เพียงบางต้นเท่านั้นเอง



โคสอัพใกล้ ๆ หน่อยจ้า.... ดอกของต้นหอมญี่ปุ่น



เนี่ยแระค้า...ดอกขนาดที่เลือกที่โตที่สุดบางส่วน เพราะมันออกดอกเยอะมาก ๆ ก็เลยต้องตัดเอาดอกที่เล็ก ๆ ทิ้งไปทั้งหมด (เดี๋ยวมันแย่งอาหารกัน) ปล่อยให้แห้งคาต้น แล้วก็เก็บเอามาตากต่อ ยังได้กองพะเนินขนาดนี้



พอเห็นว่ามันแห้งสนิท ก็จัดการฉีกพร้อมกับเคาะเอาแต่เมล็ดเก็บไว้ ทยอยทำอยู่หลายวันเชียวละจ้า เล่นเอาหลังแข็งปายเหมือนกานงานนี้หนักเจรง ๆ วุ้ย พอเห็นว่าได้เยอะพอควร (ถุงหญ่ายมั๊ก ๆ) ขี้เกียจแย้ว ไม่ทำดีกว่า.....เอาทั้งอย่างนั้นแระ แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะมันเยอะมากกกกก นำไปหว่านเพาะเอาไว้ทำพันธุ์ต่อ จะได้มีต้นกล้าเอาไว้ปลูกตอนช่วงเดือนก.ย-ต.ค ปีนี้ ส่วนที่เหลือ...ก็ปล่อยมันให้มันแห้ง เก็บใส่ถุงเอาไว้อย่างนั้นแระค้า




ผักชี......ไม่น่าเชื่อ โดนหิมะขนาดนี้ ยังรอด สุดอึดเลย พออากาศอุ่นขึ้นมา โอ๊ย....มันโตวันโตคืน เก็บกินกันไม่ทันเชียวละค้า ต้องเอาไปไล่แจกชาวบ้านเช่นเดิม



แต่ก็ไม่ได้กินเค้าจนเพลินหรอกนะค้า.......เลือกเก็บต้นที่อวบอ้วนโตที่สุดเอาไว้ 3-4 ต้น ปล่อยให้ออกดอก ได้เก็บเมล็ดมันเอาไว้ทำพันธุ์ต่อได้อีกถุงหญ่าย ๆ



คึ่นช่าย....ปลูกเมื่อปีที่แล้ว ตอนเดือนเมษายน ได้เก็บเอามาทำอาหาร กินจนลืม



ครบรอบขวบปีพอดิบพอดี..... มันก็เริ่มออกดอก ให้ได้เก็บเมล็ดเอาไว้ใช้ทำพันธุ์ต่อ โชคดีจริง ๆ เพราะตอนที่กลับไปเมืองไทย กว่าจะหาซื้อเมล็ดพันธุ์เจ้าเนี่ยได้....ยากส์เจรง ๆ ได้มาแค่ซองเดียวเองค้า ก็เลยปล่อยบางต้นให้มันออกดอก (เพื่อจะได้เก็บเมล็ดไว้ทำพันธุ์ต่อ) ดอกมันเล็ก ๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม น่ารักเชียวค่ะ



โรสแมรี่.....โตวันโตคืน สูงเกือบจะเท่าคนปลูกอยู่แล้ว ต้องคอยตัดทิ้งอยู่บ่อย ๆ เพราะมันเกะกะ มีลองชำกิ่งมันดู อุ๊ย...มันขึ้นให้ด้วย ก็เลยเอาไปให้เพื่อน ๆ ที่เค้าอยากได้ เพราะของเราก็กินไม่ทันอยู่แล้ว (ที่จริงแทบจะไม่ได้เอามันมาใช้ประโยชน์เลยละค้า 5555555 ) ใครอยากได้...ไปลองปลูกไว้ดูเล่น ฝากข้อความไว้ได้นะจ้า



ชอบดอกของมันมาก ๆ ดอกเล็ก ๆ สีม่วงสวยเชียวค่ะ



ความที่มันเริ่มโตมาก (เกะกะ) ก็เลยตัดออกมา....จะทิ้งก็เสียดายนิ ไหน ๆ ก็สู้อุตส่าห์ปลูกเค้าแล้ว ก็เลยนำมาล้างให้สะอาด ริดเอาแต่ใบอ่อน ๆ ตากแห้งเก็บเอาไว้ เผื่อจะได้ใช้ประโยชน์บ้าง.....ซึ่งที่ได้ใช้เป็นเรื่องเป็นราว ก็คือนำมาใส่ในส่วนผสมของไส้หนมปัง



แปะตำปึง....ตอนแรกได้กิ่งมาแค่ 2 กิ่งเองค่ะ ปลูกไปปลูกมางอกงามดีมั๊ก ๆ



เวลาที่จะตัดใบมาทานนั้น เต่าจะเลือกตัดแต่กิ่งแก่ ๆ ริดเอาแต่ใบอ่อน ๆ ล้างสะอาดใส่กล่องแช่ตู้เย็นเอาไว้ (ให้คุณฝาละมีทาน....วันละ 3 ใบ ตามตำรา) เก็บไว้ได้เป็นอาทิตย์ ส่วนกิ่งที่ตัดมานั้น...ก็ลองชำทิ้งไว้ มันขึ้นเป็นต้นให้ใหม่ด้วยละค้า อ๊าว......ชำไปชำมา ชักเยอะต้นแล้วซิ ก็ถามเพื่อนฝูงว่าใครอยากได้บ้าง? แบ่งต้นกล้าเอาไปให้เค้าช่วยปลูกต่อ เจ้าเนี่ย....ไม่แน่ใจว่าถ้าเอาไปปลูกที่แปลงผักจะรอด (ความหนาว) หรือเปล่า ก็ไม่กล้าเอาไปปลูกที่แปลงผัก ปลูกไว้ในกระถางตั้งทิ้งไว้ที่ระเบียงบ้าน ผ่านมาหนึ่งหน้าหนาว เค้าก็ยังอยู่รอดปลอดภัยดี



ปีนี้...ตั้งใจเป็นอย่างแรงกล้า ว่าจะต้องกลับเมืองไทยในช่วงปลายเดือนมีนาคม (ถึงจะแค่ 10 วันก็ยังดีเน้อ....เพราะเรามีจุดประสงค์...อิอิ) จะไปเอาต้นไม้+เมล็ดพันธุ์หลาย ๆ อย่างมาปลูก เพราะจากที่เคยกลับไปมาแล้วทั้งช่วงปลายเดือนธันวาคม หรือ เดือนสิงหาคม พอเอากลับมาปลูกแล้ว มันไม่ค่อยขึ้น ต้องถือว่าโชคเข้าข้าง ตอนเดินผ่านด่านตรวจที่สนามบิน ไม่โดนเรียกให้เปิดกระเป๋า (แต่ก็ภาวนาในใจ...โฮมเพี้ยง ๆๆๆ ขอให้รอดเถอะ) ไม่งั้น....งานนี้คงเสร็จแน่ เพราะเล่นขนเอาต้นไม้มาเพียบเหมือนกาน

ใบเตย....กิ่งนี้ เอามาจากบ้านแม่ น้องสาวตัดมาให้ กลับมาถึงก็รีบจับแช่น้ำ ปล่อยให้รากงอก ที่ไหนได้ รากก็ไม่งอก ดั๊นเน่า...เด๊ทสะมอเร่เท่งทึงปายเสียแย้ว



ส่วน 2 กิ่งนี้....ได้รับอภินันทนาการมาจาก น้องกุ้ง (จากบ้านแม่เจเจ) พอดีนัดทานข้าวกัน น้องเค้ายังจำได้ว่าอยากได้ สู้อุตส่าห์หอบหิ้วเอามาฝากให้ กลับมาถึง...ก็ทำวิธีเดียวกัน แต่พอเห็นต้นที่เอามาบ้านแม่อาการย่ำแย่ ก็เลยเขียนเมล์เล่าอาการให้น้องกุ้งฟัง แฟนน้องกุ้งเค้าเลยฝากบอกว่า ไม่ต้องรอให้รากงอก เอาลงดินเลยจะดีกว่า ก็จัดการรีบเอาลงดิน (ปลูกในกระถาง) แต่คงช้าไปหน่อย เพราะกิ่งหนึ่งมานม๋องเท่งปายแล้ว (น้องกุ้งจ๋า....พี่ต้องขอโทดจริง ๆ ) ตอนนี้... เหลืออีกกิ่งหนึ่ง ที่ยังพอเขียวอยู่ แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะแตกใบออกมาให้เห็น ก็คงต้องคอยลุ้นต่อปายว่ามันจะรอดปลอดภัยหรือเปล่า?



ตอนกลับบ้านที่เมืองไทย.....พี่สาวถามว่าจะเอาเมล็ดพันธุ์พริกต่าง ๆ , กระเพรา , โหระพา ไหม? เพราะที่บ้านปลูกแล้วเก็บเม็ดเอาไว้เยอะเหมือนกัน ก็เลยขอมาด้วย....กลับมาถึงญี่ปุ่นเปิดถุงดู อ๊ายหย่า อาเจ๊เล่นเอาสาระพัดพริก รวมมาในถุงเดียวกัน....พอโทรกลับไปถาม แล้วฉานจะรู้หรือว่ามันเป็นพริกอะไรกันบ้าง? เม็ดมันเหมือนกันโหม๊ด เจ๊หัวเราะก๊าก....บอกว่าเธอก็เอาไปลุ้นเองดิ



ตำลึง......พี่สาวที่น่าร๊าก....พอน้องสาวโทรศัพท์ไปบอกว่าจะกลับเมืองไทย อยากได้เมล็ดตำลึง (หาซื้อก็ไม่มีขาย) เอามาปลูกที่ญี่ปุ่น ก็ให้ลูกสมุนไปจัดการหาเก็บลูกสุก ๆ เอามาล้าง ตากแห้งเก็บเม็ดไว้ให้ ด้วยความเสียดาย (เพราของหายาก) ไม่กล้าเอาไปหว่านที่แปลงผักหมด ใช้แค่ 1/3 ของเมล็ดที่ได้มาเท่านั้นเองค่ะ



ส่วนที่เห็นเป็นต้นกล้านี้......ไม่อยากเฉลยที่มาเล๊ย ด้านหลังคอนโดที่เต่าอยู่นั้น มีพุ่มไม้เยอะ เพื่อนบอกว่ามีต้นตำลึงขึ้นอยู่.....หน้าฝนทีไร ได้ไปเก็บยอดอ่อน ๆ มาแกงจืดกินกันเพลินเชียว ก็ชวนกันไปด่อม ๆ มอง ๆ (ตอนนั้น....ยังไม่รู้ว่าพี่สาวได้จัดการเก็บเมล็ดไว้ให้แล้ว) เจอลูกสุกแดงคาต้น อยู่ 2-3 ลูก ที่พอเอื้อมถึง รีบสอยกลับมาทันที ที่จริงยังมีอีกหลายลูก แต่มันสูงสุดเอื้อม ได้แต่ชะเง้อคอมองตาปริบ ๆ นำเอามาตากทิ้งไว้ที่ระเบีบงบ้าน กะว่าจะให้แห้ง ที่ไหนด้าย....แค่ไม่กี่ชั่วโมง โดนนกมาแอบจกกินปายเสียนิ วุ๊ย.....ไม่ตงไม่ตากมานแย้ว เอาที่เหลือจับใส่ถุง หอบเอากลับมาญี่ปุ่นเลยดีกว่า กลับมาถึงก็จัดการเพาะเมล็ดชุดนี้ก่อน ตอนที่เห็นต้นอ่อนมันโผล่มา ขอบอกว่า.....สุดแสนจะดีจายมั๊ก ๆ



ส่วนเมล็ดที่พี่สาวตากแห้ง ก็นำไปหว่านที่แปลงผัก....ขึ้นมาให้สมจายมั๊ก ๆ ความที่มันขึ้นเยอะ ต้นติด ๆ กันก็เลยจัดการ ขุดออกมาทำให้ได้แบ่งต้นกล้าที่เอาไว้ไปให้เพื่อน ๆ ที่เค้าอยากได้ไปช่วยกันปลูกต่อ.....มาถึงวันนี้....ถึงจะยังเก็บได้น้อยอยู่ แต่ก็พอที่จะนำมาทำแกงเลียง , แกงจืดตำลึงหมูสับ กิน 2-3 รอบแล้วค้า ไว้ค่อยรอดูโฉมหน้าของตำลึงในกระทู้หน้านะค้า แต่ช่วงนี้...ฝนตกทุกวัน ยังไม่ได้ไปดูเลยสงสัยคงได้เก็บกินกันเพลินเชียวแระค้า

ผักชีฝรั่ง (ผักชีล้อม).....ซื้อทั้งต้น+ราก มากำหนึ่ง ส่วนใบที่เหลือใช้ ก็จับซอยใส่กล่องแช่แข็งเก็บเอาไว้ใช้ยามขาดแคลน ส่วนราก...ก็นำไปปักชำ ขึ้นมาให้เห็น ได้เก็บกินสด ๆ ต่ออีก



ฮว่านง๊อก.....เป็นว่านสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณดีกว่า "แปะตำปึง" แถมกินได้ง่ายกว่าอีกด้วย....อิอิ เพิ่งรู้ว่า....ที่บ้านแม่ปลูกไว้พุ่มหญ่ายมาก ๆ ก็วันที่จะต้องเดินทางกลับญี่ปุ่น (เต่ากลับเครื่องกลางคืน) ก็นัดไปสังสรรค์รวมญาติครั้งสุดท้าย ....พี่แดง (จากบ้านแม่เจเจ) ได้กรุณาช่วยหอบหิ้ว ซื้อหมูยอ+หมูยอแบบมีหนังหมู เจ้าอร่อยจากอุดร 10 ท่อน (แต่หมดปัญญาที่ขนกลับญี่ปุ่น....เพราะกระเป๋าเต็มจนล้นเกินพิกัด ก็จัดการแบ่งสรรปันส่วนแจกญาติ ๆ กันไปคนละอัน เหลือกลับมาได้แค่ 5 อันเอง ยังนึกเสียดายอยู่ว่าเอามาได้น้อย เพราะอร่อยจริง ๆ แถมเป็นของโปรดของคุณฝาละมีอีก) พี่เค้ายังมีของแถม (ของฝาก) อย่างอื่นมาให้อีกหลายอย่าง แต่ก็หมดปัญญาขน (อย่างที่บอก)...จำต้องตัดใจควักออกมา....อย่างน้อย ๆ ก็ได้ชิมหน่อยก็ยังดีนะค้า ขอบอกว่า...... แหนมเนืองเมืองอุดร อร่อยมั๊ก ๆ ขนาดพี่สาวเต่า (รายนี้....ชอบแหนมเนืองสุด ๆ) แล้วก็ชอบเสาะแสวงหาเจ้าที่คนบอกว่าอร่อยมาทาน ยังชูนิ้วโป้งยกให้ 2 นิ้วให้เลยค่ะ เล่าเสียเพลิน....อิอิ เนี่ยก็คือ...ที่มาของฮว่านง๊อกไงคะ เพราะแหนมเนืองนั้น.....ต้องทานกับผักสดหลาย ๆ อย่างถึงจะอร่อย (หาของในบ้านแม่นั่นแระ....สอยมะม่วง , เก็บผักสวนครัวที่ปลูกไว้) ยัยน้องสาวก็เลยจัดการไปตัดกิ่ง ริดใบมาล้างทานแกล้มกับแหนมเนือง.....พอเต่าเห็นปุ๊ปร้องอ๊าวทันทีเลย.....เอ๊ย...ฉานไปเดินหาท่อม ๆ มาตั้งหลายวัน ไม่มีขาย ดั๊น....มาจุดไต้ตำตอที่บ้านแม่เราเองนิ ก็เลยเลือกกิ่งแก่ ๆ มาแค่ 2 กิ่ง นำมาชำใส่กระถางที่บ้าน ตอนแรกนึกว่าไม่รอดเหมือนกัน แต่มันรอดค้า ไว้คอยชมกระทู้หน้านะคะ



ตอนที่กลับเมืองไทยคราว.....เวลามีน้อยมาก ๆ ไปแค่ 10 วันเอง นัดไปเดินชมวิวที่ตลาดน้ำตลิ่งชันกับพี่แดง (จากบ้านแม่เจเจ) สนุกมาก ๆ เดินทางไปกันโดยใช้บริการของรถแอร์ อาหารที่นั่นอร่อยมั๊ก ๆ ทุกอย่าง เค้ามีร้านค้ามาตั้งขาย พอเราเดินไปสั่ง ก็หาโต๊ะนั่งรอ พอเค้าเอามาส่งก็จ่ายตังค์...ราคาก็ไม่แพง ที่จริงอยากนั่งนาน ๆ กินอีกหลายอย่าง แต่เจ้าลูกชายตัวดี....หน้าหงิก บ่นเป็นหมีกินผึ้ง เพราะอากาศมันร้อน แล้วก็มีทั้งยุง+แมลงวัน ซึ่งเค้าไม่ชอบ แม่มานเลยหมดมู๊ดเอ็นจอยในการกิน ต้องเผ่นกลับทั้ง ๆ ที่ยังอยากอยู่ต่อ

ที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน......เค้ามีพืชผักสดต่าง ๆ ที่ชาวสวนนำมาขายกันเอง ราคาถูกมาก ๆ เห็นแล้วอดจายม่ายด้าย ขนซื้อแบบลืมตัว...ว่าจะต้องขึ้นรถแอร์กลับ...อิอิ เหลือบไปเห็นมะกรูดสดที่เค้าใส่กระจาดขาย มีประมาณ 5-6 ลูก ราคา 10 หรือ 20 บาท ก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันค่ะ ยังถามแม่ค้า...เลยว่า มีแบบลูกที่มันสุกเหลืองบ้างหรือเปล่า? เค้าก็บอกว่าไม่มีหรอกจ้า แต่ถ้าคุณจะลองเอาไปเพาะ ก็เอาไปปล่อยทิ้งไว้ให้มันเหลืองดูซิค้า

ของอย่างงี้...ต้องลอง เพราะถ้าไม่ลองเราก็ไม่รู้เหมือนกันใช่ไหมค้า แอบซุกซ่อนพาเจ้าลูกมะกรูดกลับมาญี่ปุ่นด้วย มาถึงก็ปล่อยทิ้ง (ตามยถากรรม) นานเกือบเดือนละมั้ง อ๊าว.....ทำมายมันไม่ยักจะเหลืองขึ้นมาเลย มีแต่ผิวที่แห้งกรอบ เหมือนคนขาดน้ำ แข็งมาก ๆ ถ้าเอามาปาหัวน้องหมา (นู๋จิโกะ) คงร้องเอ๋ง ท่าจะไม่ได้การแล้วละ จัดการลงมีดผ่าตัดเฉือนเอาเปลือกแข็ง ๆ ออกให้หมดก่อน (ที่จริงจะผ่าครึ่งลูกก็คงจะได้ แต่ด้วยความกลัวว่ามีดที่ลงไปนั้น จะไปเฉือนเม็ดมันเสียก่อน ยอมเสียเวลาหน่อยดีกว่านิ) พอเหลือแต่เนื้อใน คราวนี้...ก็ใช้มือค่อย ๆ ปลิ้นเลือกเอาแต่เม็ด ใส่ลงในกะละมังใบเล็ก ๆ ออกมาจนหมด เม็ดไหนที่มันลอยตุ๊บป๋อง ๆ ขึ้นมา ก็เอาทิ้งไป (คิดเอาเองอีกแระ...ว่ามันคงจะต้องฟ่อ) เหลือแต่เม็ดที่จมน้ำ ล้างสะอาดก็เอาใส่กระชอนผึ่งให้สะเด็ดน้ำ วันไหนมีแดด ก็เอาออกไปตากจนแห้งสนิท

รูปนี้....คือเมล็ดที่เหลือจากการนำไปลองเพาะปลูกเอง (30 เม็ด) แล้วมันพอรอดขึ้นมาให้ ก็เลยแบ่งครึ่งหนึ่งที่มีอยู่ ใส่ซองส่งไปรษณีย์แบ่งไปให้คุณคิท (mymoumick) ที่อยู่อาโอโมริ ให้ช่วยลองลุ้นปลูกกันหน่อย แล้วก็สุดแสนจะดีใจแทนที่คุณคิท....เพาะขึ้น แล้วก็ได้นำมาให้ชื่นชมด้วย (เลื่อนลงไปด้านล่าง ๆ นะคะ) ที่กระทู้นี้ค้า //www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H6783471/H6783471.html



พวกเมล็ดพันธุ์ผัก....ที่ปลูกยาก ๆ และราคาค่อนข้างแพง ส่วนใหญ่เวลาที่เต่าเพาะจะซื้อเจ้าเนี่ยมาใช้...ตามร้านขายต้นไม้ หรือร้าน 100 เยนบางแห่งมีขายค่ะ ดูจากลักษณะของมันแล้วน่าจะเป็น พวกกาบมะพร้าว+ดินแล้วก็คงมีปุ๋ยผสมอยู่ อัดเป็นก้อนอบแห้ง



ก่อนที่จะนำเมล็ดพันธุ์ไปเพาะ ก็ต้องเอาเจ้าเนี่ย วางใส่ในกล่องที่มีฝาปิดได้ (เต่าใช้กล่องพลาสติกที่ใส่ไข่) แล้วก็แทน้ำใส่ให้ท่วม ทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาที มันจะพองตัวขึ้นอืดมา เสร็จแล้วก็นำเอาเมล็ดพันธุ์ผักที่เราจะปลูก 2-3 เม็ด ใส่ลงไปในรูตรงกลาง ปิดฝากล่อง ตั้งไว้ในที่ไม่โดนแสงแดด คอยดูบ้างหน่อย อย่าปล่อยให้น้ำที่หล่อด้านล่างแห้ง พอต้นอ่อนแตกขึ้นมา พอเห็นใบเลี้ยง ก็เอาไปตั้งให้โดนแดนอ่อน ๆ จนโตพอควร ค่อยนำลงดิน

เมล็ดมะกรูดงวดนี้....ตอนแรกก็คิดว่ามันคงจะไม่ขึ้น เพราะลูกมันไม่แก่จัด แต่ความอยากลองมีมากกว่า ก็เลยเสี่ยง...อิอิ เต่าเพาะไปทั้งหมด 30 เม็ด ปล่อยจนลืม (เกือบ 3 อาทิตย์) พอเห็นต้นมันขึ้นมาให้ ถึงแม้นว่าจะแค่ 3 ต้นก็สุดแสนจะดีใจแล้วละค้า



ต้นที่งอกขึ้นมา...ก็จับแยกออกมาก่อน ส่วนที่เหลือก็ปล่อยทิ้งเอาไว้ลุ้นต่อ เผื่อมันจะแตกขึ้นมาให้อีก



หลังจากนั้น.....โผล่มาให้เห็นอีก 2 ต้น สุดแสนจะดีใจ (ที่เหลือก็เน่าตามระเบียบ) พอมันโตพอควร ก็นำลงดิน รวมทั้งหมดได้ 5 ต้น แต่ตอนนี้....เหลือแค่ 3 ต้น เพราะอีก 2 ต้นโดนหนอนเจี๊ยะใบเรียบ เหลือแต่ก้าน ก็คงต้องคอยประคบประหงมมันไปก่อน



ส่วนมะกรูดต้นแรก (ต้นเดียว) ที่ปลูกไว้เข้าปีที่ 2 .....หลังจากทำตามที่เคยเขียนไว้ในกระทู้ที่แล้ว...พอเข้าฤดูใบไม้ผลิ.....ก็จัดการยกมันกลับไปให้โดนแดดตามเดิม อู๊ย....มันก็ผลิยอด แตกกิ่งก้านสาขาใหม่ ออกมาให้ชื่นใจจริง ๆ ค่ะ



โคสอัพให้เห็นกันใกล้ ๆ...... เจ้าหนอนผีเสื้อ (ตัวนี้เป็นตัวแรก) ตัวมันอวบอ้วนน่ารักเหมือนตุ๊กตา แต่หลัง ๆ ชักไม่ไหวเหมือนกาน เพราะพวกพากันมาเยอะ แอบจกกินใบอ่อน ๆ ของน้องมะกรูดจนเหลือแต่ก้าน....ก็เลยต้องพาพวกเค้าอพยพไปอยู่ที่อื่น



ส้มจิ๊ด.......พวกพืชตระกูล ส้ม , มะนาว , มะกรูด พอเข้าฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณเดือนตุลาคม)....หลังจากที่เราได้เก็บผลหมดแล้ว ก็จัดการตัดแต่งกิ่ง ให้ปุ๋ยบำรุงเค้าเต็มที่ พอเข้าฤดูใบไม้ผลิ....ก็ให้ปุ๋ยอีกที คราวนี้แระ....จะเริ่มแตกยอดใหม่ออกมาให้เห็น พร้อมกับออกดอกสะพรั่ง



ช่วงที่....ดอกบาน กลิ่นดอกส้มหอมฟุ้งไปทั้งบ้านเลยค่ะ



มะนาวเหลือง.....ลุ้นมากเชียวค้า เพราะถ้ามันไม่แตกกิ่ง ออกดอก ติดลูกให้ ก็ต้องถือว่า....มะนาวลูกเดียวที่ได้เก็บกินนั้น....แพงที่สุดในโลก



เริ่มออกดอกแล้วค้า



ได้ต้นกุหลาบแบบถูกสุด ๆ ( 50 เยน ) ทางร้านเลหลัง....ได้มาหลายต้นเชียวค่ะ ตอนมาต้นจิ๊ดเดียว นำมาปลูกบำรุงทะนุถนอมเค้าหน่อย เดี๋ยวนี้....ออกดอกให้เห็นชื่นจายมั๊ก ๆ

กุหลาบเหลือง



กุหลาบแดง



คงต้องขอจบไว้แค่นี้ก่อนแระค่ะ ที่จริงยังมีอีกหลายอย่าง....แต่หมดแรงเสียก่อน ถ้าให้โพสจนหมด คงไม่ได้โพสแน่นอน....อิอิ เอาเป็นว่า....ไว้ค่อยรอชมต่อในกระทู้หน้าดีกว่านะคะ (แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ไม่สัญญิงสัญญาหร๊อก)


***ขอปิดการให้ Comment ในกระทู้นี้ไว้แค่นี้ก่อนนะคะ***

หากเพื่อน ๆ ท่านใดมีความประสงค์ อยากเพิ่มเติม , ติ ชม หรือมีคำถามใด ๆ กรุณาแวะไปฝากข้อความไว้ได้ที่นี่ค่ะ

♥♥♥ Guestbook .....เล่มที่ 3 ♥♥♥

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และขออภัยในความไม่สะดวก ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ




 

Create Date : 01 กันยายน 2551
4 comments
Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 6:42:12 น.
Counter : 13424 Pageviews.

 

ปลูกไว้ทานเอง เหลอค่ะ

หรือปลูกไว้เป็นงานอดิเรกต่ะ

อยากปลูกบ้างจังง

แต่ขี้เกรียจอ่ะ

 

โดย: โอเล่ญ่า 1 กันยายน 2551 21:49:11 น.  

 


ขอจับมือหน่อยได้มั้ยคะ


อืมม์ มือเย็นมากๆ เลย มิน่าปลูก อะไรก็ขึ้นไปโม้ดดดด ^^

 

โดย: ศศิ IP: 125.26.155.97 1 กันยายน 2551 23:47:07 น.  

 

อยากได้เมล็ดพันธุ์โรสแมรี่บ้างจังเลยค่ะ แต่ว่าอยู่เมืองไทยไม่ทราบจะหาที่ไหนได้บ้าง

 

โดย: just another day IP: 125.24.185.81 11 กันยายน 2551 19:39:05 น.  

 

คุณโอเล่ญ่า.....ปลูกผักเต่าทำเป็นงานอดิเรก+เอาไว้ทานในครอบครัว ถ้ามีเยอะมากก็แจกจ่ายเพื่อนฝูงให้ช่วยกันทานค้า

คุณศศิ.....ไม่ทราบว่ามือจะเย็นหรือเปล่า? แต่ก็ลองปลูกไปเรื่อย ๆ บางอย่างก็ได้กิน บางอย่างก็แห้วเหมือนกานค้า

คุณ just another day.....ไม่ทราบเหมือนกันว่า เมล็ดพันธุ์โรสแมรี่ทางเมืองไทยจะมีขายหรือเปล่า? เพราะเวลาที่ตัวเองกลับไปนั้น....มัวแต่หาเมล็ดพันธุ์ผักไทยมากกว่าค่ะ

 

โดย: เต่าญี่ปุ่น 22 กันยายน 2551 6:13:30 น.  


เต่าญี่ปุ่น
Location :
埼玉県 Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 234 คน [?]




ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ จุดประสงค์หลักก็คือ... อยากเก็บประสพการณ์ต่าง ๆ ของชีวิตในต่างแดน (ญี่ปุ่น) ซึ่งได้อยู่มาเข้ารอบปีที่ 15 แล้ว เพื่อบันทึกความทรงจำ กันลืม เพราะแกร่แย้วววว ^o^ มีหลายเรื่องที่อยากเขียน....จนตัดใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกเรื่องไหนเป็นหลัก......"รักพี่เสียดายน้อง" ไหน ๆ ก็ตัดใจเลือกไม่ได้ ก็เขียนมันเสียทุกเรื่องจะดีกว่าเนอะ.... บล๊อคนี้...ก็เลยกลายเป็น " บล๊อคจับฉ่าย " อย่างที่เพื่อน ๆ เห็นละนี้แระคร้า
Friends' blogs
[Add เต่าญี่ปุ่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.