บล็อกนี้ไม่มี VIP ค่ะ ทุก ๆ คนเป็น VIP อยู่แล้ว เมื่อคลิกเข้ามา
Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
13 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
ยุทธการกระชากนางฟ้า ตอนที่ 3

ยุทธการกระชากนางฟ้า ตอนที่ 3


สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ
ได้เวลาพบกับเปิ่น และนางฟ้าอีกแล้ว
ดีใจที่หลาย ๆ คนเกลียดเปิ่นค่ะ
จะหาทางทำให้เพื่อน ๆ รักเปิ่นให้ได้

วีค่ะ





ตอนที่ 3


คราวนี้ สะบันงาพาเปิ่นเข้าตรวจร่างกายในโรงพยาบาลเอกชนที่หรูหรากว่าครั้งก่อนเสียอีก เปิ่นรู้ว่ามันจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากโขเลยทีเดียว นึกเสียดายเงินที่จะต้องจ่ายไปอย่างจับใจ รู้อย่างนี้เปิ่นขอจากนางฟ้าเป็นเงิน แล้วไปตรวจร่างกายเองที่โรงพยาบาลของรัฐบาลจะดีกว่า หรือไม่อีกทีก็ไม่ต้องตรวจให้มันยุ่งยากก็ได้ เก็บเงินเอาไว้กับตัวให้อุ่นใจ เรื่องเจ็บปวดแค่นี้เปิ่นทนได้ เคยเจ็บกว่านี้อีกหลายเท่า โดยเฉพาะตอนที่โดนจิ๊กโก๋คุมซอยรุมตีเอาปางตาย เมื่อครั้งที่เปิ่นไปทำท่ากวนบาทาใส่ไอ้จิ๊กโก๋ขี้ยาคนหนึ่ง โดยที่ลืมดูว่า มันมีพวกมากกว่า ครั้งนั้นเขาก็ยังรอดมาได้อย่างไม่สะดุ้งสะเทือนนี่นะ

ผลการตรวจร่างกายปรากฏออกมาย่ำแย่กว่าที่เปิ่นคาดเอาไว้ เพราะหมอให้คำแนะนำว่าเปิ่นควรจะพักการใช้แขน และพักผ่อนอย่างน้อยหนึ่งเดือน เลยเป็นโอกาสที่เปิ่นจะเรียกร้องเงินทองให้เต็มที่อย่างที่ใจต้องการ
“ผมอดตายแน่...ถ้าไม่ได้ทำงานเป็นเดือน ๆ น่ะคุณ”
เขาโอดครวญน่าสงสาร
ดาราตุ๊กตาทองก็เถอะ ไม่มีใครตีบทแตกเท่าเปิ่นเลยสักรายเดียว

“คุณทำงานอะไรคะ”
นางฟ้าย้อนถาม แต่แววตาซื่อใสคู่นั้นไม่ได้แสดงความหมิ่นแคลนหรือรู้ทันใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้เปิ่นเป็นฝ่ายต้องหลบตาเสียเอง และโกหกไม่ออก ต้องหลุดความจริงออกมา
“ก็งานรับจ้าง...ทำไงได้ล่ะ ผมมันพวกหาเช้ากินกลางคืน หาได้วันหนึ่งก็กินวันหนึ่ง วันไหนไม่มีให้หา ก็อดไป ไม่ได้มีเงินเก็บเงินออมเหมือนใครเขา”
เธอไม่พูดอะไร ท่าทางเหมือนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก แต่เปิ่นไม่ปล่อยให้นาทีทองของเขาหลุดลอยไปง่าย ๆ จึงรีบกลืนความอายลงคอ แล้วพูดย้ำ...ตีเหล็กมันต้องตีตอนร้อนอยู่แล้ว

“ผมมันคนจนนะคุณ ไม่ใช่จนแบบธรรมดา ๆ ด้วย แต่จนกรอบเป็นข้าวเกรียบเลยด้วย ถ้าคุณไม่ขับรถส่งเดชมาชนผมเข้า ผมก็พอจะทำมาหากินประทังชีวิตของผมไปได้อยู่หรอก แต่เมื่อมาเจ็บเสียอย่างนี้แล้ว มันไม่ใช่แค่ผมหรอกที่เดือดร้อน ยังมีคนในครอบครัวของผมอีก ทั้งหมดก็ต้องลำบากไปตาม ๆ กัน”

คิ้วเรียวของสะบันงาขมวดเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่า “ครอบครัว” เขาดูยังอายุน้อยเกินกว่าจะมีลูกเมีย
“คุณมีลูกมีเมียแล้วหรือคะ”
เปิ่นนึกอยากจะตอบออกไปว่า เมียหนึ่ง ลูกอีกแปด ให้มันฟังดูรันทด หดหู่ ดราม่า น่าสงสาร เผื่อนางฟ้าจะเห็นใจจนต้องเทกระเป๋าให้เขาอีกสักรอบหนึ่ง แต่เหมือนมีประกายอะไรบางอย่างที่แสดงถึงความเมตตาปรานีจากใบหน้าผุดผาดของนางฟ้าที่แผ่ซ่านออกมา ที่มันทำให้เปิ่นโกหกไม่ลง
“ผมอยู่กับพ่อสองคน จน ๆ อย่างผมนี่ ยังไม่มีใครยอมมาเป็นลูกเป็นเมียหรอกคุณ”
“คุณทำงานเป็นรายวันใช่ไหม...”
“ใช่...ทำก็ได้เงิน ไม่ทำก็อด ผมไม่มีสวัสดิการ ไม่มีประกันชีวิตอะไรทั้งนั้น เวลาตายก็คงไม่ต่างจากหมาข้างถนนเท่าไรนักหรอก”
ตอนท้าย ๆ เปิ่นพูดติดกระแสขมขื่นนิด ๆ ประชดหน่อย ๆ
“อืม... ถ้างาจะชวนคุณไปทำงานด้วย คุณจะไปหรือเปล่า มีเงินเดือนประจำให้ มีสวัสดิการให้พอสมควร กินอยู่พร้อม”
ได้ยินแค่นั้น เปิ่นก็เกือบจะตอบตกลงไปแล้วด้วยความลิงโลด แต่...จู่ ๆ เขาก็เกิดอยากจะมีฟอร์มขึ้นมาบ้าง
“งานอะไร แล้วก็เงินเดือนเท่าไร”
“เรื่องงานค่อนข้างจะจิปาถะสักหน่อยค่ะ แต่เรื่องเงินเดือน งาจะให้คุณเดือนละหมื่นห้า....”

...เดือนละหมื่นห้า...
ผู้ชายที่เคยอ่อนเลขขนาดหนักอย่างเปิ่น กลับคำนวณเรื่องเงินทองได้รวดเร็วอย่างน่าทึ่งเสมอ...เดือนละหมื่นห้า ก็แปลว่า เขาจะมีรายวันละห้าร้อย ทั้ง ๆ ที่เคยได้วันละร้อยกว่าบาทหรือสองร้อยเป็นอย่างมาก มิหนำซ้ำยังมีงานให้ทำทุกวัน มีข้าวให้กินทุกมื้อ มีที่ให้นอน มันสมบูรณ์แบบ จน ไม่มีอะไรน่าจะต้องคิดหนักอีกแล้ว พอนึกถึงตรงนี้ เปิ่นก็ฟอร์มหลุดทันที
“ตกลง”



สะบันงาพาเปิ่นมาที่อพาร์ทเม้นต์ของเธอ มันชื่อ “เอยูเอส อพาร์ทเม้นต์” เป็นอพาร์ทเม้นต์ขนาดร้อยยี่สิบห้อง ใจกลางเมือง มันคงจะดูน่าทึ่งกว่านี้ ถ้าเปิ่นไม่บังเอิญรู้มาก่อนหน้านี้ว่า นางฟ้าของเขาเป็นลูกสาวเจ้าพ่อบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ในสายตาและความรู้สึกของเปิ่น เธอน่าจะทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่กว่านี้ เพราะอพาร์ตเม้นต์ขนาดนี้ มันเหมาะกับเศรษฐีอีกระดับหนึ่ง ไม่ใช่นัมเบอร์วันอย่างที่เธอเป็น อย่างสะบันงาน่าจะดูแลโรงแรมห้าดาว หรือเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกใหญ่ ๆ สักแห่งหนึ่งมากกว่า

สิ่งที่สะบันงาให้เขาทำมันไม่ได้หนักหนาอะไรเลย ให้เป็นสารถีคอยขับรถรับส่งเธอบ้าง เพราะตั้งแต่นางฟ้าขับรถชนซาตานอย่างเขาเข้าแล้ว เธอก็หวาด ๆ กับการขับรถ แล้วก็อีกงานเป็นงานกระจุกกระจิกที่เธอเรียกว่า “งานพ่อบ้าน”

“งานอพาร์ทเม้นต์ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ก็คอยดูแลอำนวยความสะดวกเรื่องต่าง ๆ ให้กับคนที่พักในห้องพักของเรา คอยซ่อมไฟฟ้า ซ่อมท่อประปา พวกท่อแตก ท่อรั่ว มันไม่ได้มีงานทุกวัน แต่บทจะมีขึ้นมา ก็อาจจะงานท่วมหัวจนทำไม่ทัน... อีกอย่างหนึ่ง งาก็มีลุงตั้ว พ่อบ้านอีกคนหนึ่งอยู่แล้ว แค่คุณภาราไดยช่วยแบ่งเบางานของลุงเขาบ้าง เท่านั้นก็พอ”

เธอเรียกเขาว่า “ภาราไดย” ที่เปิ่นเผลอตัวหลุดปากบอกกับเธอไปเอง ตอนที่กำลังเบลอ ๆ อยู่ มันไม่คุ้นเคยเลยจริง ๆ เขาเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า ตัวเองชื่อ ภาราไดย อย่างที่พ่อมักจะบอกเขาเสมอว่า
“แม่เขาตั้งชื่อให้เอ็งว่า ภาราไดย เพราะเอ็งเป็นพาราไดซ์ของแม่ของเอ็งไงล่ะ สวรรค์น่ะสวรรค์ รู้จักไหม ไม่ใช่นรกเน่า ๆ อย่างที่เอ็งเป็นอยู่ในตอนนี้ แต่ข้าว่าเอ็งเหมาะกับชื่อเปิ่นมากกว่านะ ชีวิตคนจน ๆ มันต้องอยู่กับความจริงโว้ย ไอ้ความหรูหราลวงโลกนั่นน่ะ เขามีไว้ให้เฉพาะคนรวย ๆ เท่านั้น จำไว้นะ ไอ้เปิ่น”
พ่อของเขาไม่ค่อยจะนิยมการสั่งสอนลูก แต่เมื่อใดที่ได้ออกปากออกมา ก็มักจะมีแต่เรื่องรันทด ชวนเศร้าสลดเสียเป็นส่วนใหญ่ เหมือนกับชีวิตของพ่อ ช่างขาดแคลนความสุขเสียนักหนา



สะบันงาพาเขาไปพบกับคุณยายของเธอ และแนะนำให้รู้จักเหมือนกับเปิ่นเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเธอ คุณยายของสะบันงาชื่อ คุณการะเวก ก็เป็นคนแก่ใจดี และต้อนรับขับสู้เขาเหมือนกับลูกหลาน การแต่งตัวของคุณยายก็เรียบ ๆ ง่าย ๆ ธรรมดา ผ้าป่านสีขาวสะอาด กับผ้านุ่งที่เป็นผ้าไหมสีเขียว ไม่มีเครื่องประดับราคาแพงในตัวเลย นอกจากแหวนทองเกลี้ยง ๆ ที่นิ้วนางขวาเพียงวงเดียวเท่านั้นจริง ๆ ดูท่าทางก็มองออกว่าเป็นคนใจดี ธรรมะธรรมโม

“แล้วไปทำอะไรมา ถึงได้มีแผลเต็มตัวไปหมดอย่างนี้ล่ะพ่อคุณ”
สายตาของคุณยายมองขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่างแขนกับหัวของเปิ่น
นางฟ้ารีบจุปากห้าม และบอกด้วยเสียงรื่นเริง
“อย่าเอ็ดไปค่ะคุณยาย ฝีมือของงาเอง”
“แล้วไปทำอะไรกันมาล่ะ”
“งาขับรถชนเปิ่นเขา”
“ตายแล้ว อกอีแป้นแตก แล้วเป็นอะไรมาหรือเปล่าพ่อเปิ่น”
เสียงตกใจของคุณการะเวกทำให้สะบันงาหัวเราะ
“อกอีแป้นแตกไม่เป็นไร อย่าให้อกคุณยายของงาแตกก็แล้วกัน”
“แน้ ยังจะมาพูดล้อเล่น นี่มันเรื่องความเป็นความตายเชียวนะแม่งา”
คุณยายดุหลาน 

“ถ้ารถของงาไม่ได้ขับไปชนเปิ่นเข้า เราก็ไม่มีวันจะได้รู้จักกันหรอกค่ะ คุณยาย”
จริงสินะ เปิ่นไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้มาก่อนเลย ถ้ารถของสะบันงาขับผ่านเลยเปิ่นไป ไม่ชนหนุ่มที่วิ่งทะเล่อทะล่าออกมาบนถนน ต่างคนก็คงจะมีชีวิตตามหนทางของตนเอง ไม่มีวันที่ดอกฟ้ากับหมาวัดจะเดินทางมาบรรจบกันได้ บางที...สวรรค์มันอาจจะเหงานัก เบื้องบนก็เลยคิดจะลิขิตอะไรสนุก ๆ บางอย่างขึ้นมาก็ได้
เขาสะดุดความคิดของตัวเองดังกึก แล้วก็นึกอยากจะเขกหัวของตัวเองขึ้นมาเป็นกำลัง.... เทพอุ้มสมอย่างนั้นหรือ เทพที่อุ้มให้เขามาเป็นขี้ข้ากินเงินเดือนของนางฟ้าอยู่นี่ไง...สมกันตายชักละ
“งาไม่ค่อยได้พาเพื่อนมาหายายเท่าไรนักหรอก”
คุณการะเวกบอกเหมือนกับฟ้อง ใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นยิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งแข็งแรง และความจำดีมาก จนดูแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนแก่อายุจวน ๆ จะเก้าสิบแล้ว
“งาไม่อยากจะรบกวนคุณยายนี่คะ”
หญิงสาวย่นจมูกแก้ตัวอย่างน่าเอ็นดู
“ไม่ใช่หรอก จริง ๆ แล้วงาไม่ค่อยจะมีเพื่อนต่างหาก”
หญิงชราบอกแล้วหัวเราะหึ ๆ

สะบันงาพยักหน้ารับเหงา ๆ ....ก็คงจะจริง ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยอย่างตก ๆ หล่น ๆ นั้น เธอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการกวดวิชามากกว่าการคบหาสมาคมกับเพื่อน อีกทั้งความร่ำรวยของเธอที่มาพร้อมกับความเรียบร้อยเงียบขรึม ทำให้เพื่อน ๆ มองว่า สะบันงา “หยิ่งและไว้ตัว” จนไม่มีใครอยากจะยุ่งด้วย ครั้นพอจบปริญญาตรี เธอต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ก็ยิ่งทำให้ห่างหายจากสังคมของเพื่อน ๆ ในเมืองไทย และยังเรียนไม่จบดี สะบันงาก็ขอกลับมาเมืองไทยเพราะความเหงาจับใจ สุดท้ายหญิงสาวจึงแทบจะไม่มีทั้งเพื่อนเมืองไทยและเพื่อนต่างชาติ ส่วนเพื่อนสนิทสองสามคนที่พอจะมีอยู่ ก็ทยอยแต่งงานออกเรือนไป ไม่ค่อยได้มาสุงสิงคบหากันมากนัก
เปิ่นมองแล้วก็ได้แต่ปลง รวยเสียเปล่า แต่หาเพื่อนไม่ได้ เขาเสียอีก...ทั้งจน ทั้งเกเร ยังมีเพื่อนมีพวกออกจะเต็มสลัม

“ทำไมเนื้อตัวของเพื่อนงาถึงได้มอมแมมนักล่ะ...”
แววตาปรานีของหญิงชราคู่นั้น ทำให้เปิ่นรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เขาพูดไม่ออก ได้แต่ก้มลงมองดูเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเขิน ๆ มันจะไม่สกปรกมอมแมมได้อย่างไร ในเมื่อมันเป็นชุดเดิมที่เขาสวมใส่ตั้งแต่ถูกรถยนต์ของสะบันงาชนนั่นแหละ ยังมีร่องรอยฉีกขาด ถลอกปลอกเปิก และมีกลิ่นหืนของเนื้อตัว ที่ไม่ได้ผ่านการอาบน้ำมาสองวันเข้าไปแล้ว
“อุ๊ย งาก็ลืมไป ว่าจะ
ถามทางไปบ้าน จะได้แวะไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านให้กับคุณภาราไดยเขาก่อน แต่เพราะงารีบเกินไป ก็เลยลืมไปเสียสนิท”

เขาขยับตัวอย่างอึดอัด ก่อนจะเกาหัวแกรก ๆ และพูดอ้อมแอ้มว่า
“คุณงาเรียกผมว่า เปิ่นเถอะครับ ชื่อภาราไดยมันดู...เอ่อ..ฟังดูไม่ใช่ผมยังไงก็ไม่รู้”
คุณการะเวกหัวเราะหึ ๆ เหมือนจะเห็นด้วย แต่ไม่ได้ปริปากอะไร ส่วนสะบันงาหัวเราะเบา ๆ ไม่รู้ว่าขำหรือว่าสมเพชเขากันแน่ เปิ่นอ่านเสียงหัวเราะนั้นไม่ออกเหมือนกัน
“ค่ะ เปิ่นก็เปิ่น งาเห็นว่าชื่อจริงของคุณเพราะดี ก็เลยอยากจะเรียกเท่านั้นเอง”
“พาเพื่อนไปหาเสื้อหาผ้าให้เหมาะสมกว่านี้ก่อนดีไหมลูก แล้วค่อยกลับมาหายายอีกครั้ง มากินข้าวด้วยกัน... เปิ่นด้วยนะ วันนี้โต๊ะอาหารของยายจะได้ครึกครื้นสักหน่อย”
เปิ่นยืดตัวขึ้นเล็กน้อย ไม่นึกว่า เศรษฐีมีเงินตัวจริงจะชวนให้ร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน ..รู้สึกเหมือนตัวเบา ๆ แทบจะลอยได้ชอบกล



นางฟ้าของเปิ่นพาเขาไปซื้อเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้าหรูหรา เป็นครั้งแรกที่นักเลงโตที่กล้าและกร่างอยู่เป็นนิจอย่างเปิ่น รู้สึกเหมือนตัวลีบเล็กเป็นมดปลวก สายตาหลาย ๆ คู่มองดูเขาอย่างหมิ่น ๆ เพราะเพียงเห็นเครื่องนุ่งห่มก็รู้ว่าเป็น “คนละพวก” เปิ่นไม่ได้แคร์สายตาพวกนั้นเท่าไร แต่เขาห่วงใยความรู้สึกของสะบันงามากกว่า เธอจะอายมากหรือไม่ก็ไม่รู้ที่ต้องเดินกับผู้ชายที่ดูสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างเขา หน้าตาที่เป็นปกติของสะบันงา ทำให้เปิ่นเดาความคิดของเธอไม่ออก
หญิงสาวจ่ายเงินให้เขาไปมากพอดู จนเขากลัวว่าเงินเดือนของเดือนแรกที่จะได้รับจากเธอจะหมดไป แต่ก็โล่งอกเมื่อสะบันงาบอกว่า
“เสื้อผ้า ของใช้พวกนี้ งาจ่ายให้ค่ะ ถือว่าเป็นสวัสดิการไปก็แล้วกัน”
นางฟ้าดีกับเขามาก เธออาจจะรู้สึกผิดที่ทำให้เขากลายสภาพเป็น “หนุ่มเดี้ยง” หรือจะเพราะว่าเธอมีความเมตตาเป็นทุนให้สมกับหน้าตาสะสวยประดุจนางฟ้าอยู่แล้วก็ไม่รู้
พอได้เสื้อผ้าเนื้อดีราคาแพงมาสวมใส่ ผู้ชายหน้าตาดีอยู่แล้ว ก็เจิดจรัสขึ้นทันที เขารู้สึกได้ถึงความตะลึงงันของนางฟ้า เมื่อได้เห็นเขาตอนที่ก้าวออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และยังทันได้ยินเสียงนางฟ้าพึมพำเบา ๆ กับตัวเองว่า
“ถ้าไม่บอกว่าเป็นเปิ่น งาคงจะนึกว่าเป็นนายแบบที่ไหนแล้วละ”
เปิ่นยิ้มนิด ๆ เขาไม่อยากจะคุยว่า เพราะได้เชื้อสายที่ดีมาหรอก พ่อเขาก็จัดว่าเป็นคนหล่อเหลา แต่ต้องย้อนไปสมัยยังหนุ่มแน่น ที่ยังไม่ติดเหล้าจัดเหมือนตอนนี้ และแม่ของเขาก็สวยระดับเคยชนะการประกวดความงามระดับเทพีสงกรานต์นั่นเลยทีเดียว
“เปิ่นแต่งตัวอย่างนี้ทุกวันดีกว่านะ เสื้อผ้าเก่า ๆ พวกนี้อย่าไปใส่เลย ถ้าเงินไม่พอก็บอกกับงา หรือจะให้งาพามาซื้อก็ได้”
คำพูดของเธอ ทำให้เปิ่นรู้สึกได้เลยว่า สวรรค์บนดินปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาแล้ว ตอนนี้เปิ่นมีห่านที่ไข่ออกมาเป็นทองคำให้เขาได้ทุกวัน...วิธีที่ดีที่สุดที่เปิ่นนึกออกในตอนนี้ก็คือ รักษาห่านทองคำเอาไว้ให้ดีที่สุด และกอบโกยจากห่านชื่อ “สะบันงา” ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้



ชายหนุ่มร่างสูงนั่งมองหญิงสาวที่เดินกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบตรงหน้าอย่างชวนเวียนหัว ปาหนันเป็นอย่างนี้เสมอ เวลานึกอะไรไม่ออก คนแรก ๆ ที่เธอนึกถึงก็คือ เขา หลาย ๆ ครั้งชายหนุ่มก็อดจะคิดไม่ได้ว่า แท้จริงแล้ว ปาหนันชอบเขา แต่เสียใจด้วยที่เขาไม่เคยคิดกับเธอเป็นอื่นได้เลย นอกจากคำว่า “เพื่อน”
“ตั้งแต่ยายงากลับมาจากเมืองนอก ก็ทำเรื่องทำราวตั้งมากมาย”
ปาหนันเริ่มต้นบ่น
“จะทำอะไรได้อีก ได้ข่าวว่าคุณป้าให้ไปอยู่กับคุณยายแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ คุณแม่รำคาญน่ะ เผ่าก็รู้นี่นา คนอย่างยายงาทำธุรกิจอะไรไม่ได้หรอก นอกจากหายใจทิ้งไปวัน ๆ” เสียงของคนเป็นพี่แสดงความดูหมิ่นอย่างไม่คิดจะปิดบัง “ให้ไปทำงานที่อพาร์ตเม้นต์ก็ไม่ใช่ให้ไปดูแลอะไรหรอกนะ เพราะคุณยายท่านเซ็ทระบบของท่านไว้โอเคหมดแล้ว แต่คุณแม่ต้องการให้ยายงาไปไกล ๆ จากธุรกิจมากกว่า”
“นั่นสิ แล้วยังไปทำเรื่องอะไรอีกหรือ”
เผ่าทองขยับตัวอย่างสนใจ ที่จริงเขาเคยจีบ ๆ สะบันงามาพักหนึ่ง ก่อนที่เธอจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ความเรียบง่ายของเธอไม่ได้เข้ากับหน้าตาสะสวยจนชวนตะลึงเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช้ไม่นาน เผ่าทองก็เริ่มเบื่อหน่ายความสวยที่เรียบง่ายเกินไปสำหรับคนอย่างเขา และจบลงด้วยการควงผู้หญิงคนอื่น จนกระทั่งสะบันงาจับได้ และบอกลากันไปในที่สุด
เรื่องมันจบลงไปแล้ว แต่คนที่ไม่ยอมให้จบกลับกลายเป็นคนที่สามอย่างปาหนัน ที่ยังพยายามดึงเผ่าทองให้มารักใคร่ชอบพอกับน้องสาวอีกครั้ง เพราะคิดเอาเองว่า ไม่มีใครเหมาะสมกับสะบันงามากเท่ากับเผ่าทองอีกแล้ว
...ลูกชายเจ้าของบริษัทผลิตเครื่องประดับใหญ่โต กับลูกสาวเจ้าของบริษัทอุปโภคบริโภค...
ปาหนันไม่ต้องการเห็นน้องสาวคนสวยไปควงคู่กับคนที่ไม่เหมาะสม เพราะรู้ว่า น้องสาวมีพื้นฐานของจิตใจที่ดีงามเกินไป ที่เธอเรียกมันว่า “ความใจอ่อน”
“ตอนนี้หนันได้ข่าวว่า ยายงาพาคนจรหมอนหมิ่นที่ไหนก็ไม่รู้มาอยู่ในอพาร์ตเม้นต์... ที่แย่ก็คือ คุณยายก็สนับสนุนด้วยอีกเสียงหนึ่ง ไม่รู้ว่าเพราะอายุมากไปหรือเปล่า คุณยายก็เลยหลง ๆ ชอบกล”
“ผู้หญิงหรือผู้ชาย”
เขาซักอย่างสนใจ
“ผู้ชายน่ะสิ ถ้าเป็นผู้หญิง หนันจะยอมหลับตาสักข้างหนึ่ง ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้”
เรื่องที่ได้ยินทำให้เผ่าทองเลิกคิ้ว เพราะเขารู้จักสะบันงามานาน และไม่เคยคิดว่า เธอเป็นคนเจ้าชู้...การที่พาผู้ชายแปลกหน้ามาอยู่ด้วย ดูจะเปรี้ยวเกินไปสำหรับสะบันงา
“แล้ว...หนันอยากจะให้เผ่าทำอะไร หรือแค่เรียกให้มาฟังเฉย ๆ”
“เผ่าไม่คิดอยากจะกลับมาคืนดีกับยายงาหรือไง อย่าลืมสิว่า บรรดาแฟน ๆ ของเผ่าแต่ละคน ไม่มีใครสวยสู้ยายงาได้สักคน หนันว่านะ..ไม่มีใครเชิดหน้าชูตาเผ่าได้เท่ากับยายงาอีกแล้ว”
เผ่าทองยิ้มมุมปาก เขาไม่อยากจะพูดให้หมองใจกันว่า ผู้หญิงที่เขาคบนั้น แม้จะสวยไม่เท่าน้องสาวยของปาหนัน แต่ความร้อนแรง...เขากล้ารับประกันว่า ต่อให้สะบันงาสิบคนก็เทียบไม่ติด
“เคยคิดจะกลับไปง้อเหมือนกัน แต่งาเขาดูเหมือนไม่สนใจ”
“เขาอาจจะยังไม่ลืมที่เผ่านอกใจเขาละมั้ง”
การที่เดินเข้าไปเห็นคนรักของตัวเองกำลังอยู่บนเตียงกับหญิงอื่น มันเป็นเรื่องทำใจได้ยาก ที่ปาหนันเองก็พอเข้าใจ แต่ถ้าสะบันงาฉลาดพอ ก็จะรู้ว่า มันก็แค่เกมเกมหนึ่งของผู้ชายเท่านั้นเอง สุดท้าย เมียที่มีทะเบียนสมรสต่างหาก ที่คือ “ตัวจริงเสียงจริง”
“ตอนนี้...เผ่าเลิกกับพวกนั้นหมดแล้ว”
“ให้มันจริงสักครั้งเถอะ” เสียงของปาหนันไม่เชื่อถือนัก แต่กลับพร้อมจะสนับสนุน “หนันน่ะเชียร์เผ่าเต็มที่ อยากจะได้มาเป็นน้องเขย”
ก็ไม่เลวหรอก การจะได้เป็นลูกเขยตระกูลดัง เพราะหากเทียบกันจริง ๆ ฐานะที่ว่าร่ำรวยของครอบครัวเขา ก็ยังห่างชั้นจากครอบครัวของสะบันงาไปอีกหลายปีแสง
“งั้นก็ได้ ช่วยให้เผ่าได้คืนดีกับงา แล้วเผ่าจะช่วยเขี่ยไอ้หนุ่มคนนั้นออกไปจากชีวิตของงาเอง..”
คนสองคนลุกขึ้นจับไม้จับมือกันเหมือนตกลงทำสัญญาธุรกิจ เผ่าทองแกล้งมองไม่เห็นสายตาฉ่ำหวานของปาหนันที่ทำให้เขาขนลุก
ไม่อยากจะพูด แต่เขาได้แต่ย้ำในใจว่า ผู้หญิงขี้เหร่อย่างปาหนัน ไม่ใช่สเป็คของเขาโดยสิ้นเชิง



Create Date : 13 กันยายน 2555
Last Update : 14 ตุลาคม 2555 14:55:04 น. 32 comments
Counter : 2528 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ
หลังจากหายไป 3 ปี กลับมาอีกทีคุณก็ยังไม่ไปไหน เหนียวแน่นจริงๆ ค่ะ ต้องชมเลย
แวะเข้ามาทักทายนะคะ ออกหนังสือใหม่ตั้งหลายเล่ม ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ เรื่องใหม่เพิ่งเขียนคงไล่ตามทัน เอาไว้เดี๋ยวจะมาเก็บตกตั้งแต่ตอนแรกค่ะ คุณสบายดีนะคะ


โดย: บรรณภรณ์ วันที่: 13 กันยายน 2555 เวลา:19:24:33 น.  

 
เรื่องสนุกชวนติดตามมากค่ะ


โดย: Cat IP: 171.99.15.197 วันที่: 13 กันยายน 2555 เวลา:20:58:26 น.  

 

เวลคัมค่ะคุณวี
ช่วงนี้อุ้มเป็นวัลลีไม่ค่อยได้ตามอ่านเลยล่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 13 กันยายน 2555 เวลา:23:40:29 น.  

 
ติดตามผลงานของคุณวีมานานมากแล้ว ชอบภาษา ชอบแนวคิด ชอบวิธีการนำเสนอ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถึงจะยังนึกไม่ออกว่าจะเป็นมายังไง แต่ก็รู้สึกอยากจะติดตามต่อไปเรื่อยๆ
vote ด้วยครับ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
โสดในซอย Literature Blog ดู Blog


โดย: ในนามของความเหงา วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:9:29:28 น.  

 
มารวบนะคุณวี...
เพิ่งเสร็จจากตัวเลข ศูนย์หลายตัว อิอิ ของเค้าทั้งนั้น คริคริ...
สนุกอ่าาาาา
ตอนนี้เม้นท์ได้ไม่มากขอเก็บรายละเอียดก่อน อิอิ ...ภาษาสวยงามเหมือนเดิมเง้อออ


โดย: gymstek วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:10:21:53 น.  

 
มาลงชื่อบอกว่า..ฉ้านนยังอยู่ อิอิ เขียนไปเรื่อยเลยนะเดี๋ยวจะตามอ่านยังไงก็ทัน(เอาเปรียบคนเขียนเนอะ)


โดย: P'jee เองละ IP: 182.255.9.34 วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:13:23:32 น.  

 
ตามมาอ่าน


โดย: 1168 IP: 27.55.6.213 วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:21:58:45 น.  

 
มาลงชื่อค่ะ

อ่านแล้ว โหวตแล้ว

เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นแล้วค่ะน้องวี


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:22:11:25 น.  

 
พ่อเปิ่นตกถังข้าวสารแล้วซิ

ว่าแต่ ไอ้คุณเผ่า ไม่น่าไว้ใจสุดๆเลย


โดย: saengchot IP: 115.87.155.95 วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:23:32:11 น.  

 
ทำไมไม่มีผู้ชายดีๆบ้างเลยอะคะ


โดย: bee_บี วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:9:31:54 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
โสดในซอย Literature Blog ดู Blog

สนุกดีค่ะ โหวตให้ด้วยความเต็มใจ


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:16:27:33 น.  

 
คนใสๆแบบสะบันงาเจอพระเอกเจนโลกอย่างเปิ่น ก็คงปกป้องจากมารทั้งหลายได้อยู่ครับ

เค้าโครงเรื่องน่าสนุก หวังว่าเปิ่นคงจะเก่งพอจะต่อกรกับผู้ร้ายนะ


โดย: Tangible วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:21:04:07 น.  

 
ตามมาอ่านด้วยคนจร้า


โดย: หญิงแก่น วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:21:11:40 น.  

 
โหย สนุกขนาดนี้ไม่พลาดอยู่แล้ว


โดย: เจิน IP: 27.55.5.20 วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:19:20:14 น.  

 
รอ่านตอนต่อไปค่ะ


โดย: นิตยา IP: 27.55.4.120 วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:7:17:03 น.  

 
สวัสดีค่ะ
เหมือนเราจะได้ทักทายกันนานเลยนะคะ
ขอลงชื่อไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวว่างแล้วจะเข้ามาอ่านค่ะ



โดย: เนินน้ำ วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:21:39:28 น.  

 
อั๊จฉ่ะ เริ่มผูกปมมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว แบบนี้ เรื่องราวมะรุมมะตุ้มแน่นอน ปูเสื่อ นอนรอตอนต่อไป ^^


โดย: oupip วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:23:22:33 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณวี
หายไปเกือบครึ่งปี กลับมารายงานตัวค่ะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:5:39:26 น.  

 





น่ารักนักเรอะ???

นี่แน่ะ...

รักซะเรยยย์...




บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
โสดในซอย Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น






โดย: foreverlovemom วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:9:11:38 น.  

 



ฝีมือเขียน "ไม่ธรรมดา"

อ่านหนังสือตัวแรก..

ต้องลากสายตาไปจนบรรทัดสุดท้าย...

จบโดยไม่ทันรู้ตัว...

และ...




โหยหา... ตอนต่อไป...


โดย: foreverlovemom วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:9:25:21 น.  

 
คุณวีครับ ผมรอตอนต่อไปอยู่นะครับ


โดย: ในนามของความเหงา วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:19:05:28 น.  

 
มาขอ Gift ค่ะ แม่โสม ที่ภาพที่แม่โสมส่งประกวดค่ะ ความคิดเห็นที่ 9 ::::: ภาพที่ 9 จากคุณ โสมรัศมี
ชื่อภาพ : ดอกลู่เพราะหยาดฝน
ถึงวันที่ 20 กันยายน 2555 ***เวลา 14.00 น. (วันนี้) ขอบพระคุณมากค่ะ
ภาพที่ 9 จากคุณ โสมรัศมี ชื่อภาพ : ดอกลู่เพราะหยาดฝน Click


โดย: โสมรัศมี วันที่: 20 กันยายน 2555 เวลา:9:34:02 น.  

 
แวะเวียนมาเยี่ยมชมครับ
ของฝากครับ
ให้รักมันโตในใจ Ukulele Cover by น้องเกล Gail Sophicha




โดย: Borkum_Monet วันที่: 21 กันยายน 2555 เวลา:22:02:47 น.  

 
สนุกมากกกกกกก


โดย: Good IP: 27.55.10.248 วันที่: 22 กันยายน 2555 เวลา:20:44:13 น.  

 
หายไปไหนนะะะะะะ คนเขียน รออ่านอยู่นะคะ


โดย: bee_บี วันที่: 26 กันยายน 2555 เวลา:13:05:30 น.  

 
รอค่ะ


โดย: ตามอ่าน IP: 124.120.21.105 วันที่: 26 กันยายน 2555 เวลา:23:03:19 น.  

 
สวัสดีครับคุณวี

แม้จะไม่ค่อยมีเวลาอ่านนวนิยายเท่าใดนักนะครับ แต่ก็ชอบวิธีการเขียนที่บรรยายให้เข้าใจได้ นึกภาพออกทุกอิริยาบทและความคิดยิ่งกว่าได้ดูหนังอีกครับ

ที่สำคัญคือ หากมีเวลาก็จะต้องมาเยี่ยมเยียนกันเสมอละจ้ะ

มอบดอกไม้ไว้ให้สดชื่นครับ



โดย: find me pr วันที่: 27 กันยายน 2555 เวลา:14:39:46 น.  

 
แวะมาหา นึกว่ามีตอนใหม่แล้ว คุณวีคงสบายดีนะคะ


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 28 กันยายน 2555 เวลา:7:38:44 น.  

 
สวัสดีตอนเย็นครับ

โอ้โห ดีใจจังที่
เพื่อนบลอกสมัยแรกๆมาเยี่ยมเยือนนะครับ
จำว่าเรื่องในบลอกคุณโสดนี่ผมมาแอบอ่านอยู่หลายครั้ง อ่านแล้วติดเอาง่ายๆเลยครับ อิอิ
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะครับ


โดย: multiple วันที่: 2 ตุลาคม 2555 เวลา:17:13:00 น.  

 
มาหลายรอบแล้วนะคุณวี ตอนใหม่ยังไม่มาเหรอคะ


โดย: หญิงแก่น วันที่: 2 ตุลาคม 2555 เวลา:19:36:02 น.  

 
คนอ่านรอคนเขียน


โดย: เพ IP: 27.55.1.1 วันที่: 2 ตุลาคม 2555 เวลา:21:16:04 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณวี

เก่งจังค่ะ ปรัซซี่เคยคิดจะแต่งนิยายนะคะ
แต่มันไม่ใช่เราแฮะ อีกอย่างในเรื่อง
มันไม่ได้มีแค่ พระเอก นางเอก
ต้องมีคนอื่น ๆ อีกเยอะแยะ งงค่ะ
ลำดับไม่ถูกเลย

ขอบคุณที่แวะไปทักทายส่งท้าย
บล๊อกปี 1 นะคะ วันนี้ปรัซซี่ up blog
ใหม่ใน group ใหม่แล้วค่ะ







โดย: ปรัซซี่ วันที่: 3 ตุลาคม 2555 เวลา:20:08:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โสดในซอย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]






e-mail ติดต่อโสดในซอย
singleinsoi@hotmail.com






Facebook โสดในซอย
http://www.facebook.com/profile.php?id=100002317657363





“เติมรักให้เต็มรุ้ง”
งานเขียนล่าสุดของ “โสดในซอย”

สั่งซื้อในบล็อก
พร้อมลายเซ็น
ราคารวมค่าส่ง 305 บาท
โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ
หมายเลขบัญชี 020-056941-6
ชื่อบัญชี มนชญา
โปรดโอนให้มีเศษสตางค์
เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง
และแจ้งรายละเอียดการโอน
พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง
ที่หลังไมค์ได้เลย
หรือตามร้านหนังสือค่ะ

ขอบคุณค่ะ





ความรักคะ ฉันมีเรื่องจะฟ้อง
ของ "โสดในซอย"
โดย สำนักพิมพ์ 'ษาริน
วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ
หรือสั่งซื้อในบล็อกได้เช่นกัน
ราคา 220 บาทรวมค่าส่งค่ะ








ขายหรือให้เช่า
ศุภาลัย ปาร์ค ติวานนท์
35 ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุข
ไลน์ aazz999




Friends' blogs
[Add โสดในซอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.