|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สี่ดรุณี เพื่อนซี้ (ไม่มี) ซั้ว 1
สี่ดรุณี เพื่อนซี้ (ไม่มี) ซั้ว
ปีใหม่ทั้งที มาเริ่มนิยายใหม่ ๆ สักเรื่องกันดีกว่านะคะ วีขอฝากนิยายเรื่องใหม่ ...สี่ดรุณี เพื่อนซี้ (ไม่มี) ซั้ว... ไว้ให้อ่านเพลิน ๆ อีกสักเรื่องหนึ่งค่ะ
และพร้อมกันนี้ วีขอสวัสดีปีใหม่ 2554 ปีกระต่ายน้อยแสนซน ปีแห่งความสุข ความสมหวัง ความรื่นเริง และโชคลาภ สำหรับเพื่อนนักอ่านทุก ๆ คน ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ
^^
ตอนที่ 1 "บ้านซุ้มเฟื่องฟ้า"
รั้วไม้เก่าจนสีลอกร่อนที่ล้อมรอบบ้านไม้สองชั้นสีเขียวจืด ๆ หลังใหญ่นั้น เป็นรั้วที่ทรุดโทรม บางส่วนโย้เย้จะล้มมิล้มแหล่เสียให้ได้ และด้านที่อาการหนักกว่า ก็มีร่องรอยการซ่อมแซมด้วยไม้ที่ใหม่เอี่ยมเสริมเติมแทนไม้เดิมอย่างง่าย ๆ ด้วยการตอกพาดขวางไว้ดื้อ ๆ อย่างไม่เสนใจในเรื่องของความสวยงาม นอกจากนั้น ยังมีเถาวัลย์ที่เลื้อยรกเรื้อปกคลุมอยู่หนาทึบ ฟ้องชัดว่า รั้วนี้ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ควร ภายในรั้วที่มีไม้ใหญ่น้อยแผ่กิ่งก้านระเกะระกะที่ทำให้แทบจะกลายเป็นป่าย่อม ๆ ได้
ทั้งหมดนี้ ทำให้กลายเป็นรั้วที่ไม่น่าดูเท่าใดนัก และสภาพโดยรวมที่ดูเก่าคร่ำคร่า ชวนให้รู้สึกว่าแค่ใช้มือออกแรงผลักเพียงเบา ๆ รั้วไม้หมดสภาพเหล่านั้นก็มีสิทธิ์ที่จะล้มครืนลงไปได้ทั้งแผงได้อย่างไม่ยากลำบากนัก ดังนั้นประโยชน์ใช้สอยของรั้วพวกนั้นจึงเป็นเพียงแค่เพื่อใช้บอกอาณาบริเวณของบ้านเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อใช้ป้องกันขโมยเช่นเดียวกับรั้วของบ้านอื่น ๆ ทั่วไป
สิ่งเดียวที่ดูใหม่และโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ป้ายทองเหลืองขนาดกลาง ที่ขัดจนเป็นเงาวับสุกปลั่ง อวดความแวววาวราวกับจะเย้ยเยาะความชราของรั้วไม้ ทั้งยังมีตัวอักษรแกะสลักงดงามเป็นระเบียบว่า บ้านซุ้มเฟื่องฟ้า ที่ชวนให้ฉงนสำหรับผู้ที่พบเห็น เพราะในอาณาบริเวณบ้านหลังนั้น ไม่มีแม้แต่เงาของต้นเฟื่องฟ้าให้แลเห็นเลยแม้แต่เพียงต้นเดียว
ที่แปลกกว่านั้นก็คือบ้านหลังนั้นตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองที่เรียกว่าทำเลทอง เนื่องจากเป็นย่านธุรกิจ แต่หาได้ถูกนายทุนมาซื้อหาเปลี่ยนมือไปทำอาคารสำนักงานไม่ ทั้งที่ตั้งอยู่เกือบติดถนนใหญ่ และมีเนื้อที่มากมายถึงสามร้อยกว่าตารางวา
ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา แทบจะไม่เคยเห็นคนที่อาศัยอยู่ในบ้านเลยสักครั้งเดียว และมักจะร่ำลือกันไปต่าง ๆ นานา ตามแต่ว่าใครจะจินตนาการได้บรรเจิดเพริศแพร้วกว่ากัน แต่ที่เหมือนกันก็คือ หลังจากวิพากษ์วิจารณ์กันจนหนำใจแล้ว ส่วนใหญ่มักจะจบลงด้วยความเห็นที่ไม่แตกต่างกันนักว่า
เจ้าของบ้านคงจะเพี้ยนมั้ง
นั่นสินะ ถ้าไม่ทำให้ดี ก็น่าจะขายไปซะ โอ้โฮ ไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าขายไปจะได้เงินก้อนใหญ่ขนาดไหน คงจะกินทิ้งกินขว้างไปได้ยันหลานเหลนโหลนโน่นเลย
ไม่ใช่แค่รุ่นเหลนโหลนหรอกนะ กินไปถึงชาติหน้าเลยมากกว่า เสียดายจริง ๆ มาทิ้งร้างไว้เป็นบ้านผีสิงอยู่ได้
ก็เคยมีคนมาขอซื้ออยู่นะ แต่โดนตะเพิดออกมาแทบจะไม่ทัน คนที่พอจะรู้เบื้องหลังบอกอย่างนั้น
ก็บอกแล้วว่า...เพี้ยน อีกคนยิ่งเสริมเพิ่มความมั่นใจ
ไม่มีใครรู้แน่ ๆ ว่า เบื้องหลังความรกเรื้อขาดความเอาใจใส่นั้น ภายในของ "บ้านซุ้มเฟื่องฟ้า" น่าอยู่เพียงใด หากไม่ได้ก้าวเข้าไปสู่ภายใน
บ้านหลังใหญ่ขนาดห้าห้องนอน สี่ห้องน้ำ บนที่ดิน 350 ตารางวา ภายในบ้านตกแต่งสวยงาม ทันสมัย และดูใหม่เอี่ยมอ่อง ตรงกันข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยสิ้นเชิง
หากไม่ได้เข้าไปในบ้านหลังนั้น จะไม่มีใครเชื่อเลยว่า บ้านซุ้มเฟื่องฟ้า มีคนอาศัยอยู่จริง ๆ คนตัวเป็น ๆ ที่เป็นปกติเหมือนมนุษย์เดินดินทั่วไป และยิ่งกว่านั้นภายในบ้านยังน่าอยู่ที่สุดอีกด้วย เพราะทั้งใหญ่โต โอ่โถง ทันสมัยสวยงาม และได้รับการบูรณะจนเหมือนใหม่ขัดแย้งกับภายนอกเป็นคนละเรื่อง จึงอาจจะนับได้ว่า รูปลักษณ์ภายนอกของบ้านทำให้บ้านซุ้มเฟื่องฟ้ากลายเป็น ผ้าขี้ริ้วห่อทอง โดยแท้ เพียงแต่เป็นทองที่แทบจะไม่มีใครมองเห็นเลย เพราะผ้าขี้ริ้วห่อไว้จนมิดชิดดีเกินไป
นอกเสียจาก....สามสาวภายในบ้านนี้เท่านั้น ที่มีโอกาสได้แลเห็นเนื้อทองแท้นั้นด้วยตาของตนเอง
สาวคนแรก นั่งอยู่หัวโต๊ะ อายุยี่สิบแปด นับว่ามากที่สุดในบ้าน เป็นคนเรียบร้อย สงบเสงี่ยม พูดน้อย ไว้ผมยาวตรง ปลายผมซอยสไลด์สวยงาม บนใบหน้ามีแว่นสายตาอันโตบดบังดวงตาคู่สวยเอาไว้ แต่ไม่อาจจะซ่อนความสวยหวาน เหมือนขนมทองหยอดเอาไว้ได้ สาวแว่นหน้าใส คนนี้มีคำนำหน้าชื่อว่าแพทย์หญิง เธอชื่อครีมา หรือครี
สาวคนถัดมานั่งเยื้องมาทางขวา อายุยี่สิบเจ็ดปี เป็นพี่รองของบ้าน ความสวยไม่แพ้คนแรก เพียงแต่เป็นความสวยคนละรูปแบบกันเพราะเป็นสวยปนเก๋ไก๋ชวนมอง โดยเฉพาะมีดวงตากลมวาวที่ฉายความฉลาดทันคน ที่เป็นจุดเด่นที่สุดบนใบหน้า ผมยาวซอยไล่กันทั้งศีรษะสวยไม่แพ้กัน แต่นิสัยตรงกันข้ามกับคนแรกทุกอย่าง เอกลักษณ์ที่บอกความเป็นตัวเองของสาวคนนี้ ก็คือความทันสมัย และเชื่อมั่นในตัวเองเกินร้อย ความเปรี้ยวจี๊ดจนน่าเข็ดฟัน ทำให้อาจจะเปรียบเทียบเธอเป็นมะม่วงแก้วดิบ ๆ ได้เหมือนกัน ชื่อของเธอคือ เอมิกา และมีชื่อเรียกเล่น ๆ ว่า เอมี่
สาวคนสุดท้าย นั่งเยื้องไปทางซ้าย อายุยี่สิบหกปี หน้าตาสะอาดสะอ้านดูดี แต่ติดจะบึ้งตึง ยิ้มยาก จนกลายเป็นนิสัยประจำตัว ถ้าคนแรกถูกเปรียบเปรยว่า หวานเหมือนทองหยอด คนที่สองเปรี้ยวเหมือนกับมะม่วงแก้วแล้ว คนสุดท้ายก็น่าจะเป็นสาวเค็มจัด เหมือนเกลือทะเล ที่ไม่มีอะไรกระเด็นออกจากกระเป๋าของเธอไปได้ง่าย ๆ สาวเค็มจนทะเลเรียกพี่คนนี้ ชื่อก่องแก้ว หรือก่อง
"ถ้าเราคิดจะหาคนเช่าบ้านเพิ่มอีกคนหนึ่ง เราคงจะต้องเริ่มต้นด้วยการทาสีรั้วก่อนอื่นเลย เพราะความประทับใจแรกเห็นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จากน้นก็คือการกำจัดหญ้ารก ๆ ให้หมดไป ตกแต่งต้นไม้หน้าบ้านให้ดี ไม่อย่างนั้นทุกคนที่เข้ามาเห็น จะต้องเผลอนึกว่าอยู่ในบ้านผีสิง แล้วใครล่ะจะอยากมาเช่าอยู่...จริงไหม" คนพูดเป็นสาวคนที่สองในวงสนทนานั้น ท่าทีหมุนปากกาไปมา แล้วก็พูดไปด้วย แสดงถึงการกำลังใช้ความคิด
"พูดน่ะมันง่ายหรอกเอมี่ แต่ทำได้รึเปล่า นั่นต่างหาก..คือปัญหา" เสียงกวน ๆ เหมือนจะป่วนที่เอ่ยขัดนั้น ทำให้ผู้ที่ออกความเห็นคนแรกแทบจะโยนปากกาทิ้ง สาวหน้าหวานเริ่มเห็นว่าท่าไม่ดี จึงขยับแว่นสายตาแล้วรีบพูดขึ้น
"ก่อง...เธอเป็นอย่างนี้อีกแล้วนะ ใครจะพูดอะไรขึ้นมา เธอก็จะขัดเขาไปเสียทุกเรื่อง นี่มันใช่เวลาจะขัดคอกันไหม เรากำลังปรึกษาหารือกันอยู่นะ ช่วยออกความเห็นด้วยเถอะ อย่าเอาแต่ขัดอย่างเดียวอยู่เลย" ที่สาวอายุมากที่สุดจำใจต้องรีบชิงพูดขึ้นมาก่อน เพราะรู้ดีว่า ถ้ารอให้สาวเปรี้ยวเก๋ เป็นคนพูดขึ้นมา งานนี้ไม่ "วงแตก" ก็ต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้นแน่ ๆ
"ก็ด๊ายยยยย..." สาวนักขัดคอร้องเสียงสูงอย่างฉิว ๆ "ตกลงจะให้ฉันนั่งหุบปากเงียบเชียบอย่างคนที่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงอย่างนั้นใช่ไหม"
"ออกแต่เงินได้ไหม แต่ถ้าเป็นเรื่องของความคิดเห็นน่ะ ฉันจะเป็นคนออกเอง" เอมิกาสาวเปรี้ยว ที่เพื่อน ๆ เรียกกันติดปากว่า "เอมี่" พูดสวนกลับมาทันที
ก่องแก้วค้อนขวับอย่างขัดใจ หน้าตาที่บูดบึ้งอยู่เป็นนิจนั้น บัดนี้งอง้ำหนักขึ้นกว่าเดิม จนไม่ต่างจากม้าหมากรุกไปมากเท่าไรนัก "โอเค..โอเค ฉันมันคนไม่สำคัญ เลยพูดอะไรไม่ได้สักอย่างเดียว พวกเธอออกความเห็นกันไปก็แล้วกัน แล้วถึงตอนเก็บตังค์ ก็อย่าลืมจับฉันไปหารด้วยล่ะ" น้ำเสียงนั้นประชดประชันเต็มที่ ก่อนที่ก่องแก้วจะลุกเดินลงส้นเท้าโครม ๆ หายไปทางหลังบ้านอย่างหัวเสีย
เอมิกายักไหล่ แล้วหันกลับไปหารือครีมาต่อไปทันทีอย่างหมดความสนใจในตัวของก่องแก้วอีกต่อไป
ครีมานั้นค่อนข้างเชื่อมั่นในความเป็นคนเจ้าความคิดของเอมิกาอยู่มาก ดังนั้นเธอจึงพลอยไม่สนใจกับท่าทีขุ่นเคืองของก่องแก้วไปด้วย ทั้งที่ปกติครีมาเป็นคนที่ค่อนข้างจะรักสงบ ชอบการรอมชอม เพราะไม่นิยมให้เกิดการกระทบกระทั่งหรือสงครามย่อย ๆ ในบ้าน
"ถ้ามีคนมาอยู่อีกคน จะได้ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในบ้านได้ ที่เราสามคนแบกไว้ตอนนี้ มันหนักอึ้งมากเกินไป เชื่อเถอะ ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้ อีกไม่นานยายก่องที่คอยขัดคออยู่ปาว ๆ นั่นแหละ จะต้องเป็นคนโวยวายเรื่องค่าใช้จ่ายขึ้นเสียเอง ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเก็บขยะ แล้วยังค่ากระจุกกระจิกอีกสารพัด...เงินทั้งนั้น จะว่าไปแล้ว...ที่จริงเราหาคนเช่าเพิ่มได้อีกสองคนด้วยซ้ำไป เพราะมีห้องนอนเหลืออีกสองห้อง" เอมิกาบอกเรื่อย ๆ ปากกาในมือถูกหมุนอีกครั้งหนึ่ง
"เพิ่มคนเดียวก็พอแล้วเอมี่ อีกห้องหนึ่งเหลือเอาไว้ เผื่อญาติพี่น้องของใครแวะมาหา จะได้มีห้องให้พักได้" ครีมาออกความเห็นอย่างคนที่รอบคอบ
"ที่จริงแขกของใคร ก็ให้พักกับคนนั้นก็ได้นี่นา ยิ่งถ้าเป็นญาติผู้ชาย ถึงยังไงก็ต้องไปหาโรงแรมนอน จะให้นอนที่นี่ไม่ได้อยู่แล้วนี่" เอมิกาไม่เห็นด้วยกับความเห็นนั้น
"อีกห้องหนึ่ง เก็บเอาไว้เถอะ อยากจะเก็บห้องของป้าเฟื่องเอาไว้ในสภาพเดิม ๆ ไม่อยากให้มีคนเข้าไปใช้ห้องนั้น เอมี่ก็รู้ว่าป้าเฟื่องรักห้องของแกมากขนาดไหน" เมื่อสาวหน้าหวานยกเอาชื่อเจ้าของบ้านขึ้นมาอ้าง สาวเปรี้ยวเก๋จึงพยักหน้ายอมรับ ทั้งที่ในใจมีข้อขัดแย้งตะหงิด ๆ อยู่บ้างก็ตามที
"บ้านซุ้มเฟื่องฟ้า" เป็นบ้านของคุณเฟื่องฟ้า สาวโสดวัยหกสิบสาม ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากพ่อแม่ และบัดนี้คุณเฟื่องฟ้าบินลัดฟ้าไปอยู่ ณ สหรัฐอเมริกาเรียบร้อยนานหลายเดือนแล้ว
สามสาวมารวมตัวกันที่ บ้านซุ้มเฟื่องฟ้า เพราะชะตากำหนดโดยแท้ เพราะมีที่มาที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่มีวันจะได้บรรจบหรือรู้จักกันได้เองโดยเด็ดขาด หากไม่ใช่เพราะคุณเฟื่องฟ้านำป้ายเล็ก ๆ ไปติดไว้หน้าบ้านเมื่อสามปีก่อนว่า มีห้องให้เช่า เฉพาะสาวโสด และสามสาวนี้มาพบเข้าและพาตัวเองเข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านโดยพร้อมเพรียงกัน
ครีมาเป็นหมอประจำโรงพยาบาลที่ห่างจากบ้านหลังนี้ไปเพียงสามกิโลเมตร
เอมิกาทำงานเป็นดีไซเนอร์ในห้องเสื้อที่ใกล้กับบ้านหลังนี้มาก ชนิดที่สามารถเดินไปได้ในเวลาเพียงสี่ห้านาทีเท่านั้นเอง
ส่วนก่องแก้วทำงานอะไรไม่มีใครรู้เลยสักคนเดียว
ตอนที่เดินเข้ามาขอแบ่งห้องเช่า ก่องแก้วบอกกับคุณเฟื่องฟ้าเพียงสั้น ๆ ว่า กำลังมองหางานทำอยู่ เธอรับประกันตัวเองว่า เป็นคนดี ไม่ใช่มิจฉาชีพ และที่สำคัญก็คือ มีเงินเก็บมากพอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้านได้ตรงเวลาทุก ๆ เดือนอย่างแน่นอน ซึ่งข้อสุดท้ายนี้ สามารถลบล้างความคลางแคลงใจทุกอย่างให้คุณเฟื่องฟ้าจนหมดสิ้น และตกลงใจรับก่องแก้วเข้าอยู่ในห้องแบ่งเช่าภายในบ้านหลังใหญ่นั้นอย่างเต็มใจในที่สุด
คุณเฟื่องฟ้าเป็นข้าราชการบำนาญ เป็นหญิงชราร่างเล็ก ผอมเกร็ง เกล้าผมขาวโพลนไว้เป็นมวย และชอบมองลอดแว่น หน้าตาไม่ต่างอะไรกับ "ครูไหวใจร้าย" ในนิยายเรื่องดังมากนัก เป็นคนหัวโบราณ ที่ค่อนข้างจะเคร่งครัด มีวินัย และละเอียดละออ โดยเฉพาะกับเรื่องเงิน ๆ เรื่องทอง ๆ
เมื่อคุณเฟื่องฟ้าได้รับมรดกเป็นบ้านหลังใหญ่จากพ่อแม่ผู้วายชนม์ในฐานะลูกสาวคนเดียวที่ยังอยู่ในเมืองไทย แรก ๆ ก็เหมือนกับบุญหล่นทับ แต่ต่อมามันกลับกลายเป็นปัญหา เมื่อพบว่าภาระค่าใช้จ่ายมากมายเพื่อที่จะคงสภาพเดิม ๆ ของบ้านเอาไว้มันช่างมากมายเกินกว่าเงินบำนาญน้อยนิดจะทำได้ คุณเฟื่องฟ้าจึงคิดจะหาตัวช่วยมาแบ่งเบาค่าใช้จ่าย และสุดท้ายก็คิดที่จะนำห้องว่างต่าง ๆ ในบ้านออกให้เช่า เพื่อนำเงินค่าเช่านั้นมาใช้ทะนุบำรุงบ้านต่อไป
ต่อมา หลังจากที่สามสาวเข้ามาเช่าอาศัยอยู่ไม่นานมากนัก พี่ชายอีกคนของคุณเฟื่องฟ้าที่พำนักอยู่สหรัฐอเมริกาเอ่ยชวนให้คุณเฟื่องฟ้าไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน เพื่อช่วยดูแลหลานตัวน้อยที่เกิดจากลูกสาวของพี่ชาย คุณเฟื่องฟ้าก็รีบตกลงทันที เพราะต้องการหนีชีวิตเงียบเหงาคนเดียวลำพังกลางเมืองใหญ่อยู่แล้ว
คุณเฟื่องฟ้ายังคงให้สามสาวเช่าบ้านหลังนี้ต่อไปเหมือนเดิม โดยมีสัญญาต่อกันสามข้อ
ข้อแรก สามสาวจะไปบริหารจัดการบ้านอย่างไรก็ตาม ยกให้เป็นสิทธิ์ได้โดยสมบูรณ์ โดยที่คุณเฟื่องฟ้าจะไม่เข้าไปก้าวล่วง เพียงแต่ยังขอรับค่าเช่าเป็นจำนวนรวมเท่าเดิม และให้โอนเข้าบัญชีธนาคารในเมืองไทยที่คุณเฟื่องฟ้าทิ้งหมายเลขบัญชีเอาไว้ให้อย่างตรงเวลาทุก ๆ เดือน
ข้อสอง ให้รักษาสภาพบ้านเอาไว้ให้เหมือนเดิม สามสาวรู้ดีว่า คุณเฟื่องฟ้ารักบ้านหลังนี้มาก แม้จะปล่อยให้ภายนอกรกรุงรังด้วยต้นไม้และวัชพืช แต่ภายในบ้านสะอาดเอี่ยม และได้รับการตกแต่งบูรณะให้สวยงามอยู่ตลอดเวลา
ข้อสาม ห้ามนำผู้ชายเข้ามานอนค้างในบ้านหลังนี้โดยเด็ดขาด!
เป็นปะกาศิตที่ทิ้งเอาไว้ก่อนที่จะบินลัดฟ้าจากไป ซึ่งคุณเฟื่องฟ้าได้ไหว้วานคุณนำศรีเพื่อนรักเพียงคนเดียวในเมืองไทย ให้มาช่วยตรวจตราบ้านให้บ้างเป็นครั้งคราว รวมทั้งเป็นคนถือสมุดบัญชีธนาคารที่สามสาวโอนเงินค่าเช่าให้คุณเฟื่องฟ้า และเป็นคนช่วยคุณเฟื่องฟ้าตรวจสอบความตรงต่อเวลาของสามสาวนี้ด้วย
สี่ห้าเดือนแรกของการอยู่กันเอง ครีมาและเอมิกาเริ่มพบว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ๆ นั้นเป็นภาระที่หนักเกินไป
เมื่อครั้งที่คุณเฟื่องฟ้ายังอยู่ด้วย ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ค่าแม่บ้านที่เข้ามาเช็ดถูทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง และค่าบำรุงรักษาอื่น ๆ คุณเฟื่องฟ้าเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด แต่ขณะนี้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ส่วนนั้น คนสามคนต้องนำเงินมาลงไว้กองกลางเพื่อรับผิดชอบร่วมกัน
หาคนเช่าบ้านเพิ่มอีกสักคนดีไหม เอมิกาเป็นคนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนในเย็นวันนี้ และครีมาก็ตอบรับความคิดนั้นแต่โดยดี ด้วยเธอเองก็เล็งเห็นอยู่เหมือนกันว่าภาระนี้หนักหนาเกินไป จะมีก็เพียงก่องแก้วคนเดียวที่ไม่เห็นด้วยมากนัก ทั้ง ๆ ที่เป็นคนที่มีปัญหามากที่สุด เวลาต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมจากค่าเช่าห้องที่เคยจ่ายประจำ
เดิมคุณเฟื่องฟ้าจะเก็บห้องติดระเบียงเอาไว้ เผื่อไว้ให้ญาติ ๆ ที่เดินทางจากต่างประเทศมาเมืองไทยได้เข้าพักบ้างเป็นครั้งคราว จึงไม่ได้ให้ใครเช่า แต่ถึงตอนนี้ห้องดังกล่าวก็ไม่จำเป็นต้องเก็บสำรองไว้แล้ว เอมิกาจึงคิดจะนำห้องดังกล่าวมาหารายได้เพิ่มเติม ส่วนห้องนอนเดิมของคุณเฟื่องฟ้า ครีมายังอยากจะเก็บไว้เพื่อคงสภาพเดิม ซึ่งก็เป็นเพราะความรักและเคารพเจ้าของบ้านอย่างคุณเฟื่องฟ้าด้วยส่วนหนึ่ง และเอมิกาก็ไม่อยากขัดใจครีมา ทั้งที่ก็ไม่เห็นด้วยนัก
ถ้าอย่างนั้น เราเริ่มจากหาคนมาถางหญ้าหน้าบ้าน แล้วก็ริดกิ่งก้านต้นไม้หน้าบ้านพวกนั้นบ้างจะดีไหม เอมิกาปรึกษาครีมา ทั้งที่ในใจของเธอนึกกำหนดแล้วด้วยซ้ำว่า เธอจะต้องไปว่าจ้างใคร ทำอะไรบ้าง หาต้นอะไรมาปลูกเพิ่มความสวยงาม แต่ที่เอ่ยปากปรึกษาก็เพราะเห็นว่าด้วยอายุแล้วครีมานับเป็น พี่ใหญ่ ในบ้าน เธอพร้อมทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ
ก็ดีนะ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินเยอะแค่ไหน ไม่อยากให้ก่องบ่น คนที่อายุมากที่สุดเอ่ยอย่างตริตรอง เรื่องความตระหนี่เหนียวแน่นของก่องแก้วเป็นที่รู้กันในบ้าน จนไม่ต้องเอ่ยให้มากความนัก
ไม่เป็นไร ฉันสำรองให้ก่อนก็ได้ แล้วพอได้ค่าเช่าห้องจากคนเช่าใหม่ ค่อยจ่ายคืนให้ฉันจนครบก็แล้วกัน เอมิกาบอกอย่างใจป้ำ ทำให้ครีมามองอย่างชื่นชม เอมิกาไม่ใช่มีเพียงไอเดียอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีน้ำใจล้นเหลือให้เห็นอยู่เสมอ ๆ
ขอบใจนะเอมี่ เอาอย่างนี้สิ ครีช่วยออกสำรองให้อีกคน อย่าให้เดือดร้อนกับก่อง เขาจะได้ไม่บ่น
งั้นก็โอเคตามนี้นะ ฉันจะได้ไปหาคนมาจัดการ เสียงของคนเจ้าความคิดกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
ครีจะช่วยไปดูในห้องติดระเบียงที่จะเปิดให้เช่านะ ว่าจะเย็บผ้าม่านใหม่ไปติดแทนสักหน่อยด้วย ของเดิมมันเก่าแล้ว จะได้ชวนมองและน่าอยู่มากขึ้น เผื่อจะอัพราคาค่าห้องขึ้นมาได้บ้าง สาวหน้าหวานยิ้มหวานโล่งอกเมื่อรู้สึกว่าทุกอย่างสรุปลงตัวแล้ว แต่ประเด็นเรื่อง ราคาห้อง ทำให้เอมิกานึกขึ้นมาได้ว่า เธอยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน
แล้วเราจะคิดราคาค่าเช่ากับคนใหม่เท่าไรดีเหรอ ครี
แหม ที่ครีบอกว่าจะอัพค่าห้องน่ะ ไม่ได้แปลว่าจะโขกคนที่มาใหม่หรอกนะ เพียงแต่ถ้าห้องมันโทรมก็คงจะต้องคิดได้แค่ค่าเช่าถูก ๆ เท่านั้นแหละ ครีมารีบออกตัว เรื่องค่าเช่า ครีเห็นว่าป้าเฟื่องคิดค่าเช่าเราสามคนเท่า ๆ กัน คนที่สี่ที่จะมาอยู่ใหม่ ก็น่าจะจ่ายค่าเช่าในราคาเท่ากับที่เราจ่าย แฟร์ ๆ กันไป เพียงแต่ค่าเช่าของคนที่สี่ จะถูกเอามาใช้จ่ายในบ้าน ไม่ได้จ่ายให้กับป้าเฟื่องเท่านั้นเอง เอมี่เห็นด้วยไหม ตอนท้ายครีมาก็หารือกลับไปที่เอมิกา
ก็ดี จ่ายเท่า ๆ กัน ก็หมดปัญหาไป แล้วสาวเปรี้ยวก็ลุกขึ้นยืนอย่างกระฉับกระเฉง เธอยิ้มให้ครีมาอย่างร่าเริง งั้นฉันจะรับไปจัดการเรื่องทั้งหมดให้เองก็แล้วกัน เพราะที่บริษัทมี รปภ. ที่พอจะทำงานสวนงานต้นไม้ได้ แต่เรื่องเลือกคนเข้ามาเป็นสมาชิกในบ้าน เราสามคนจะต้องช่วยกันเลือกนะ และลงความเห็นตกลงเป็นเอกฉันท์ถึงจะรับเข้ามาได้ เพราะคนที่สี่ที่จะเข้ามา จะต้องไม่ทำให้ชีวิตของเราต้องวุ่นวายหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก
กระทบใครก็ไม่ว่าหรอก แต่ถ้าไปกระทบกับก่องเข้า ก่องเขาคงโวยวายไม่เลิกแน่ ๆ แล้วเราสองคนนั่นแหละ จะปวดหัวเสียเอง ครีมาตอบพร้อมกับรอยยิ้มเพราะรู้นิสัยของก่องแก้วเป็นอย่างดี
ก่องแก้วเป็นเจ้าของปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ ทุกสิ่งสำหรับเธอ ไม่เคยง่าย เธอทำให้มันเป็นเรื่องยากได้ทุก ๆ เรื่อง และกลายเป็นคนที่ถึงไม่มีใครอยากสนใจ ก็ลืมเธอไม่ได้เลยแม้แต่สักครั้งเดียว
ดวงตาคู่สวยของเอมิกาเป็นประกายแพรวพราว สมาชิกใหม่ที่จะเข้ามา ไม่ควรจะมาสร้างปัญหาอะไรให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะแค่ก่องแก้วคนเดียว เธอก็เกือบจะรับไม่ไหวอยู่แล้ว
ดังนั้น เรื่องที่ บ้านซุ้มเฟื่องฟ้า จะได้สาวคนไหนมาร่วมชายคาด้วย หน้าตา อาชีพ นิสัยใจคอจะเป็นอย่างไร และจะทำให้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นใน บ้านซุ้มเฟื่องฟ้า บ้าง จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจจริง ๆ
สงวนลิขสิทธิ์ 1 มกราคม 2554
ขอขอบคุณภาพเฟื่องฟ้าสวย ๆ จาก //www.niyommit.org/botanic/index.php?option=com_wrapper&view=wrapper&Itemid=94 ค่ะ
Create Date : 01 มกราคม 2554 |
|
91 comments |
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2555 12:40:52 น. |
Counter : 2102 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: veerar 1 มกราคม 2554 0:31:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: สายป่าน (Doungtawan ) 1 มกราคม 2554 1:14:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: มินทิวา 1 มกราคม 2554 8:45:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Opey 1 มกราคม 2554 9:02:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 1 มกราคม 2554 13:17:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: gymstek 1 มกราคม 2554 13:25:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: noklekkaa (papagearna ) 1 มกราคม 2554 14:48:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: wbj 1 มกราคม 2554 17:55:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: veerar 2 มกราคม 2554 0:10:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nnin (Niiziie ) 2 มกราคม 2554 1:21:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: piGipo 2 มกราคม 2554 1:55:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: Macys 2 มกราคม 2554 4:43:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: forenoon IP: 76.233.72.124 2 มกราคม 2554 7:20:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: Zaneba 2 มกราคม 2554 8:29:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: piyanof 2 มกราคม 2554 8:52:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: เขาพนม 2 มกราคม 2554 9:27:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: โปแป้ง (popang ) 2 มกราคม 2554 11:18:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 2 มกราคม 2554 13:20:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: TonMai2K IP: 118.174.156.229 2 มกราคม 2554 16:06:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: gymstek 2 มกราคม 2554 19:39:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ravio 2 มกราคม 2554 21:07:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องผิง 2 มกราคม 2554 22:02:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: weraj 3 มกราคม 2554 0:27:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: TheKPP 3 มกราคม 2554 2:53:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: Chefin 3 มกราคม 2554 9:30:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 3 มกราคม 2554 20:25:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: panwat 4 มกราคม 2554 8:04:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอิงเอย IP: 118.172.35.2 4 มกราคม 2554 9:29:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: jamaica 4 มกราคม 2554 11:48:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: yaeli (ฑีรฒ ) 4 มกราคม 2554 16:19:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 4 มกราคม 2554 22:03:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]
|
e-mail ติดต่อโสดในซอย singleinsoi@hotmail.com
Facebook โสดในซอย http://www.facebook.com/profile.php?id=100002317657363
เติมรักให้เต็มรุ้ง งานเขียนล่าสุดของ โสดในซอย
สั่งซื้อในบล็อก พร้อมลายเซ็น ราคารวมค่าส่ง 305 บาท โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 020-056941-6 ชื่อบัญชี มนชญา โปรดโอนให้มีเศษสตางค์ เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง และแจ้งรายละเอียดการโอน พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง ที่หลังไมค์ได้เลย หรือตามร้านหนังสือค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ความรักคะ ฉันมีเรื่องจะฟ้อง ของ "โสดในซอย" โดย สำนักพิมพ์ 'ษาริน วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ หรือสั่งซื้อในบล็อกได้เช่นกัน ราคา 220 บาทรวมค่าส่งค่ะ
ขายหรือให้เช่า ศุภาลัย ปาร์ค ติวานนท์ 35 ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุข ไลน์ aazz999
|
|
|
|
|
|
|
ขอให้ทำอะไรก็เป็นพลุกันไปหมดนะครับ