<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
8 มกราคม 2553
 
 

ละคร กุหลาบเหนือเมฆ ตอนที่ 11

ตอนที่ 11
เลอลักษณ์มาหาเรวัติที่ห้องพัก เล่าแผนการของไอริณให้ฟัง เรวัติเดินกลับไปกลับมาอย่างใช้ความคิด ก่อนหยุดตรงหน้าเลอลักษณ์ อยากรู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เลอลักษณ์ยังรักคิมหันต์ ไม่ว่าเขาจะทำร้ายจิตใจเธอขนาดไหน ส่วนนายกาแฟเธอแค่ชอบไม่ได้รัก แล้วเรียกเรวัติให้มานั่งข้างๆ ซบไหล่เหมือนจะหาที่พึ่งพิง
"นี่ถ้าวัติไม่ได้เป็นเกย์...เด่นอาจจะขอวัติแต่งงานให้หมดเรื่องหมดราวเลยก็ได้...แต่เด่นเกรงใจริณ"
เรวัติชะงักนิดหนึ่ง "หมายความว่ายังไง"
"เด่นคงต้องทำตามแผนการของริณ"
เรวัติร้องห้ามทันทีว่าไม่ได้ เลอลักษณ์งงท่าทีนั้น เรวัติย้ำอีกว่าห้ามทำเด็ดขาด แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าไม่ทำตามแผนของไอริณ ก็ต้องกลับไปอยู่กับคิมหันต์ด้วยความรู้สึกเหงาและสับสน เลอลักษณ์ขอเรวัติค้างที่นี่ เรวัติพยักหน้าอนุญาต เลอลักษณ์โอบคอ ดึงเรวัติมาจูบแก้ม ขอบใจสำหรับความเป็นเพื่อนแท้ที่มีให้เธอเสมอ...
ขณะเลอลักษณ์กำลังหาโรลม้วนผมตามลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง เรวัติเคาะประตูห้องเบาๆขอเข้าไปเอาหมอนกับผ้าห่มจะไปนอนที่โซฟา เลอลักษณ์ชวนเขานอนในห้องด้วยกัน เพราะคิดมาตลอดว่าเขาเป็นพวกแอ๊บแมน เรวัติสะดุ้ง รีบปฏิเสธว่าไม่ได้ อ้างว่าชอบนอนคนเดียว
"แล้ว...เวลามีแฟนหนุ่มๆมานอนด้วยล่ะ"
"ไม่ใช่เรื่องอะไรของคุณ" เรวัติเสียงเข้ม หอบผ้าห่มเดินไปที่ประตูห้อง เลอลักษณ์เรียกให้หยุด ขอยืมโรลม้วนผม เรวัติถึงกับอึ้ง เดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร
ooooooo
รุ่งขึ้น เรวัติสีหน้าเคร่งเครียดมาหาวินที่ออฟฟิศแต่เช้า หันไปสั่งวิทวัสซึ่งนั่งหน้าแหลมอยู่ในห้อง ออกไปรอข้างนอกก่อน เรวัติรอจนวิทวัสเดินกะเผลกออกไปแล้ว ถึงเตือนวินว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย
"มีคนกำลังวางแผนจะฆ่าฉันหรือไง"
"ประมาณนั้น"
พอเรวัติบอกว่าเป็นไอริณ วินถึงกับร้อง "ฮ้า" เรวัติเล่าแผนการของไอริณอย่างละเอียด โดยวินฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ หลังจากเรวัติเล่าจบ วินไม่เข้าใจว่าไอริณคิดแบบนี้ได้อย่างไร
"มันอยู่ที่แกจะยอมตกกระไดพลอยโจนหรือเปล่า"
"ถ้าทำอย่างนั้นก็เท่ากับทรยศหักหลังแกน่ะสิ"
เรวัติทำงงไม่เข้าใจที่วินพูด วินติงว่าเมื่อไหร่เพื่อนถึงจะยอมรับว่าชอบเลอลักษณ์ เรวัติทำเป็นกลบเกลื่อนเตือนวินให้ยุ่งเรื่องของตัวเอง ไม่ต้องมาเจ๋อเรื่องของเขา ก่อนเดินออกไปอย่างหงุดหงิด...
ฝ่ายไอริณก็เล่าแผนของเธอให้คุณหญิงป้าฟังเช่นกัน คุณหญิงป้าเชียร์เต็มที่ไม่มีขัด แถมบอกว่าถ้ามีอะไรจะให้ช่วย ท่านยินดีและเต็มใจ ด้วยหวังว่าบุญกุศลที่ช่วยเลอลักษณ์ครั้งนี้ จะส่งผลให้ท่านได้พบเนื้อคู่กับเขาบ้างในชาติหน้า ไอริณ ท้วงว่าไม่นานไปหน่อยหรือ ขอเป็นชาตินี้น่าจะเวิร์กกว่า คุณหญิงป้าพูดไปพูดมาชักนอกเรื่องพาลไปด่าว่าวาริรินทร์ ไอริณต้องดึงกลับมาเข้าเรื่องที่เธอจะขอร้องให้ท่านช่วย แล้วอธิบายรายละเอียดให้ฟัง...
ในที่สุดก็ถึงวันเผด็จศึก คุณหญิงป้าคอยกำกับป้าสร้อยให้จัดเตรียมเนื้อสัตว์และผักสดอย่างขะมักเขม้น โดยที่ท่านเป็นคนปรุงน้ำสลัด ส่วนไอริณกำลังนั่งพักเหนื่อยจากการออกกำลังกายอยู่ที่สนามหน้าบ้าน พลันภาพต่างๆของวินผุดเข้ามาในความคิดคำนึงของเธอ สีหน้าไอริณเริ่มเปลี่ยนเป็นขรึม เหมือนลังเลอะไรบางอย่าง
"ฉันต้องดีใจกับเพื่อนถึงจะถูก...ดีใจๆๆ" ไอริณพยายามฝืนให้ตัวเองรู้สึกตามที่พูดอย่างยากเย็น...
ในเวลาต่อมา ป้าสร้อยจัดเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะ โดยมี คุณหญิงป้าคอยควบคุมอยู่ไม่ห่าง ไอริณในชุดสวยเซ็กซี่เดินเข้ามาดูความเรียบร้อย ชมว่าอาหารดูน่ากินมาก คุณหญิงป้าเป็นปลื้ม ก่อนหันมาชมว่าไอริณแต่งตัวสวยมาก ไอริณยิ้มรับด้วยความขอบคุณ แผนขั้นต่อไปก็คือคุณหญิงป้าจะต้องทำทีออกไปช็อปปิ้ง
"ริณคิดว่าเย็นๆหน่อยทุกอย่างคงจะเรียบร้อยแล้ว"
"เอาค่ำๆไปเลยดีกว่า...พอกลับมาถึงจะได้ทำเป็นตกอก ตกใจที่เห็นพ่อกาแฟใส่นมกับหลานเด่นนอนอยู่ในห้องเดียวกัน"
"ทำไมคุณเด่นจะต้องนอนห้องเดียวกันกับคุณกาแฟใส่นมด้วยล่ะคะ" ป้าสร้อยพูดแทรกขึ้น
"เราเป็นสาวเป็นแส้ฟังไม่รู้เรื่องหรอก...คุณหญิงป้าไปละนะ...หลานจ๋า" คุณหญิงป้าเดินกรีดกรายออกไป ขณะไอริณ
หันมากำชับป้าสร้อยว่าอย่าลืมแช่ไวน์...
ทางด้านเรวัติจับวิทวัสแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูดีมีสง่า สมกับเป็นคุณอนาวิน พร้อมทั้งสอนให้ปฏิบัติตัวและพูดจาอย่างไรตอนอยู่ต่อหน้าไอริณ แล้วพาลงมาหาวินซึ่งรออยู่ใต้ตึกคอนโดฯที่พักของเรวัติ...
ใกล้ถึงเวลานัด เลอลักษณ์ยังมีสีหน้าเป็นกังวล ไม่แน่ใจ
ว่าตัวเองจะทำตามแผนที่ไอริณวางไว้ได้หรือเปล่า ไอริณพยายาม พูดปลุกเร้าความเชื่อมั่นให้ แต่เลอลักษณ์ก็ยังไม่มั่นใจตัวเอง อยู่ดี
"อย่าลืมสิ...นี่เป็นอนาคตของแกนะเด่น...ถึงนายกาแฟเขาจะจนไปหน่อย แต่คุณสมบัติกินขาดคนรวยอย่างนายอนาถานั่นอีก...เอาน่า เพื่อนช่วยอยู่ทั้งคนไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น"
เลอลักษณ์ถอนใจเฮือก สีหน้าเครียดๆ ไอริณเลยแนะให้ขึ้นไปนอนเล่นในห้องกันก่อน หรือจะนั่งทำสมาธิก็ได้ เลอลักษณ์เห็นดีด้วย เดินตามไอริณขึ้นไปที่ห้องนอน ทรุดตัว ลงนั่ง สูดลมหายใจยาวเพื่อรวบรวมสติ
"เอาละนะ...ฉันจะนั่งสมาธิละ" เลอลักษณ์หลับตาลง
ทันใดนั้น เสียงแตรรถดังขึ้น เลอลักษณ์ถึงกับสะดุ้งโหยง ไอริณปลอบให้ใจเย็นๆ เธอจะลงไปต้อนรับนายกาแฟเอง เพื่อนสบายใจเมื่อไหร่ค่อยตามลงไป เลอลักษณ์พยักหน้า หลับตาเข้าสมาธิต่อ...
ครู่ต่อมา ป้าสร้อยเอาน้ำมาเสิร์ฟให้วิน เรวัติ วิทวัสในคราบคุณอนาวิน ไอริณเดินเข้ามา ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจที่เห็นคุณอนาวินมาด้วย ถามเสียงเขียวว่ามาทำไม คุณอนาวินเหลียวมองวินกับเรวัติเลิ่กลั่ก เหมือนจะขอความช่วยเหลือ
"ฉันถามคุณไม่ใช่ถามสองคนนี่" ไอริณชี้นิ้วไปที่วินกับเรวัติประกอบคำพูด
เรวัติอ้าปากจะอธิบาย ไอริณชี้หน้าสั่งว่าไม่ต้องพูด วินจะพูดบ้าง ไอริณก็หันมาชี้หน้าห้ามเขาเช่นกัน แต่วินไม่สน กลับสั่งไอริณให้หยุดพูด ไอริณคาดไม่ถึงว่าวินจะกล้า จ้องหน้า เขาเขม็งราวกับไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน วินเตือนเธอว่าต้องหัดฟังคนอื่นบ้าง ไม่ใช่เอาแต่พูดอยู่คนเดียว ไอริณอ้าปากจะพูด วินสั่งว่าอย่าเถียง ไอริณเลยอ้าปากค้าง
"คุณเคยบอกผมว่า อยากจะคุยกับคุณอนาวินเรื่องซ่อมบ้านคุณหญิงป้าของคุณ...ผมเห็นเป็นโอกาสก็เลยกราบเรียนเชิญท่านให้มาด้วย...แล้วท่านก็อุตส่าห์สละเวลาอันมีค่ามา...คุณรู้ไหมว่า เวลาของเจ้านายผมเป็นเงินเป็นทองขนาดไหน...ดูท่านสิ"
ไอริณมองไปที่คุณอนาวิน เห็นเขาทำหน้าเหยเก วิน กลับบอกว่าหน้าตาแบบนี้ของท่าน แสดงว่ากำลังโกรธมาก คุณอนาวินพยักหน้าหงึกๆ เรวัติช่วยเสริมอีกแรงว่าไม่เคยเห็นท่านโกรธขนาดนี้มาก่อน วินแกล้งถามท่านว่าจะกลับเลยไหม คุณอนาวินพาซื่อ ลุกพรวดขึ้นทันที
"ครับ...กรุณาพาผมกลับเถอะครับ...ได้โปรด"
วินกระตุกแขนคุณอนาวินอย่างแรงให้นั่งลง แล้วหันมาบอกไอริณว่า เวลาที่เจ้านายของเขาโกรธ จะพูดจาสุภาพอย่างนี้ ไอริณรู้สึกแปลกๆ เลยขอตัวออกไปคุยกับเรวัติตามลำพัง ก่อนเดินนำไปที่สนามหญ้าหน้าบ้าน หันมาตำหนิเรวัติที่สั่งให้พานายกาแฟมาคนเดียว แล้วทำไมต้องพ่วงเจ้านายเขามาด้วย
"ผมก็ชวนนายกาแฟตามที่คุณสั่งทุกอย่าง...ใครจะไปรู้ว่ามัน...เอ๊ย...เขาจะชวนคุณอนาวินมา"
"โอ๊ย...แล้วนี่จะทำยังไงดี เสียฤกษ์หมด"
"ในเมื่อคุณอนาวินมาแล้ว ทำไมคุณไม่ใช้ประโยชน์ ให้เต็มที่ล่ะ...คุณพยายามทำให้เขาหลงรับคุณจนหัวปักหัวปาไม่ใช่เรอะ...โอกาสอย่างนี้หาไม่ได้แล้ว คิดดูให้ดีนะริณ"
ไอริณใจเย็นลง สีหน้าใคร่ครวญ ก่อนพยักหน้าช้าๆเห็นด้วย ชวนเรวัติกลับเข้าไปข้างใน รีบปรับสีหน้าและท่าทางเป็นอ่อนหวาน ส่งยิ้มใส่เสน่ห์ให้คุณอนาวิน พลางทรุดตัวลงนั่งข้างๆยกมือไหว้
"ริณต้องขอประทานโทษด้วยค่ะ...เมื่อกี้ริณลองซ้อมเล่นละครน่ะค่ะ"
"อ๋อ...จะเล่นช่องไหนครับ" คุณอนาวินซื่อบื้อ หลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
"ช่องแถวๆนี้แหละค่ะ...ฉลองนิตยสารครบรอบ 1 ปี... นึกได้แล้ว ริณจะขอสัมภาษณ์คุณอนาวิน แล้วถ่ายรูปขึ้นปกด้วย" ไอริณตาวาวขึ้นมาทันที
เรวัติกับวินร้องเอะอะว่าไม่ได้อย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย วินอ้างว่าคุณอนาวินถ่ายรูปไม่ติด เรวัติมองเขม้น วินรู้สึกตัวรีบแก้ว่า ที่พูดไปนั้นหมายถึงถ่ายรูปไม่ขึ้น เรวัติช่วยเสริมว่า คุณอนาวินโหงวเฮ้งไม่ดี ลงสัมภาษณ์นิตยสารเล่มไหน เล่มนั้นขาดทุนย่อยยับ
"จะเห็นได้ว่า ไม่มีหนังสือเล่มไหนเคยสัมภาษณ์เขาเลย" สามหนุ่มต่างพยักพเยิดสนับสนุนเต็มที่...
ในเวลาเดียวกัน อรนุชเดินกระสับกระส่ายอยู่ในห้องนอนของตัวเอง รอโทรศัพท์ของโสภิตา สักพักโสภิตาก็โทร.มาบอกว่าจอดรถรออยู่หน้าบ้าน อรนุชคว้ากระเป๋าถือออกไปทันที เดินจ้ำพรวดๆ ไปขึ้นรถของโสภิตา ถามว่าเอาเสื้อฟอร์มแม่บ้านมาด้วยหรือเปล่า
"เอามาตามที่คุณลูกน้ำสั่งทุกอย่างค่ะ"
จากนั้นไม่นาน โสภิตาขับรถพาอรนุชมาจอดแอบข้างทางก่อนถึงออฟฟิศของไอริณ อรนุชเปลี่ยนไปใส่ฟอร์มแม่บ้านบริษัทของไอริณ ก้าวลงจากรถตรงไปที่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ส่วนโสภิตาขับเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของบริษัทโดยมีอรนุชซ้อนมอเตอร์ไซค์รับจ้างตามเข้าไปอย่างไม่มีใครสงสัย
ครู่ต่อมา โสภิตาเดินเข้ามาในออฟฟิศ เจอจอยเลขาฯหน้าห้องไอริณ ชญานี กับพนักงานอีกคนกำลังเดินสวนออกมา จอยแปลกใจที่เห็นโสภิตา
"อ้าว พี่โส...ไหนว่าจะไม่มาไงคะ"
"พี่ลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในลิ้นชักจ้ะ...เลนแวะเข้ามาเอา...นี่จะกลับกันแล้วหรือ"
ชญานีกับพวกกำลังจะออกไปกินข้าว และจะกลับเข้ามาใหม่ โสภิตาจะไปด้วยแต่ขอไปหยิบโทรศัพท์ก่อน ทำเป็นเดินมาที่โต๊ะทำงานหยิบกุญแจมาไขลิ้นชัก พวกชญานีมัวแต่คุยกันเลยไม่ทันสังเกตเห็นโสภิตาวางถุงกระดาษไว้ใต้โต๊ะ หยิบกุญแจอีกพวงหนึ่งมาวางบนโต๊ะดูความเรียบร้อยแล้วเดินมาหาพวกชญานี
ตอนที่ทุกคนกำลังเดินไปที่บันได สวนกับอรนุชในคราบแม่บ้านของบริษัท ทำทีเข็นเครื่องดูดฝุ่นออกมาทำความสะอาดแถวนั้น โดยไม่มีใครสนใจเพราะเห็นเป็นเรื่องปกติ อรนุชเดินรี่ไปที่โต๊ะทำงานของโสภิตา หยิบกุญแจกับถุงกระดาษ ไปที่ห้องทำงานของไอริณ เหลียวซ้ายแลขวาไขกุญแจเข้าไปแล้วปิดประตูตามอย่างรวดเร็ว
อรนุชหยิบถุงมือจากถุงกระดาษขึ้นมาสวม เดินมาที่โต๊ะทำงานไอริณ กวาดข้าวของบนนั้นลงพื้น หยิบเอกสารต่างๆ ขึ้นมาฉีกอย่างสะใจ ทั้งคอมพิวเตอร์ รูปถ่ายของไอริณถูกทำลายจนเสียหาย ก่อนหยิบกระป๋องสีสเปรย์ออกมาฉีดไปตามผนังห้อง จนเลอะเทอะไปหมด
"ไม่เคยเห็นห้องทำงานห้องไหนสวยขนาดนี้มาก่อนเลย...เพื่อนริณ"
อรนุชเก็บกระป๋องสีใส่ถุง เดินไปที่ประตู เช็ดลูกบิดด้วยถุงมือที่ใส่อยู่ ก่อนเปิดออกไปหันมาชื่นชมผลงานของตัวเอง พร้อมกับสำรวจไปรอบๆว่าไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ ปิดประตูห้อง ล็อกกุญแจอย่างเดิม
ooooooo
โสภิตากินอาหารช้าๆเพื่อถ่วงเวลา คะเนว่า อรนุชน่าจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อย จึงเรียกเด็กเสิร์ฟ มาเก็บเงิน ระหว่างที่รถของโสภิตาใกล้จะถึงออฟฟิศ อรนุชนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างสวนออกมา โสภิตาชำเลือง มองอรนุชแวบหนึ่ง โดยที่จอย ชญานีกับพนักงานอีกคนซึ่งติดรถมาด้วยมัวแต่คุยกันเลยไม่ทันสังเกตเห็น...
หลังจากกินข้าวเสร็จ ไอริณกับเลอลักษณ์ช่วยป้าสร้อยยกสำรับเข้าไปเก็บในครัว คุณอนาวินเผลอตัวรีบลุกขึ้นจะช่วย วินเหยียบเท้าเขากดไว้อย่างแรงจนหน้าเบ้ ขณะพวกผู้หญิงเก็บจานเข้าครัว
"ผมว่าท่านนั่งจะดีกว่ามั้ยครับ"
"ดีเหมือนกันครับ" คุณอนาวินยิ้มแหย ค่อยๆทรุดตัว
ลงนั่งอย่างเดิม
"นั่งเฉยๆ...เพราะเวลานี้ นายคืออนาวิน" วินจ้องหน้าคุณอนาวินเขม็ง...
ด้านไอริณวางถ้วยชามลงบนโต๊ะในครัว หันไปสั่งป้าสร้อยออกไปดูจำรัสว่ากินข้าวหรือยัง พอกำจัดป้าสร้อยไปพ้นทางแล้ว ไอริณเดินตามแผนขั้นต่อไป
"เดี๋ยวแกออกไปนั่งคุยกับนายกาแฟนะ...คุยไปแล้วก็คอยเติมไวน์ให้เขาดื่มไปจนกว่าจะเมาฟุบ...ส่วนฉันก็จะแยกเจ้านายเขาไปคุยเรื่องธุรกิจ
"ยังเหลือวัติอีกคนนึง"
ไอริณนิ่งคิดอยู่อึดใจ เดินไปที่ประตูห้องรับแขก พยักหน้าเรียกเรวัติให้มาหา เรวัติหันมาถามวินว่าจะเอาอย่างไรดี วินแนะให้ลองไปฟังเธอก่อน เรวัติพยักหน้า เดินตามไอริณ ไปที่ห้องครัว คุณอนาวินชักหวาดๆชวนวินกลับบ้าน วินหันมาส่งเสียงดุให้อยู่เฉยๆ ปล่อยเรื่องกลับบ้านให้เขาเป็นคนตัดสินใจเอง คุณอนาวินหน้าจ๋อย
ไอริณขอให้เรวัติออกไปคุยถ่วงเวลาป้าสร้อย อย่าเพิ่ง ให้กลับเข้าบ้าน เรวัติโวยวายลั่น ไอริณไม่สนใจหันไปถามเลอลักษณ์ว่าต้องใช้เวลาเผด็จศึกนายกาแฟนานเท่าไหร่ เลอลักษณ์ว่าขึ้นอยู่กับเขาคอแข็งแค่ไหน
"สี่ชั่วโมงพอมั้ย"
"สี่ชั่วโมง...พวกคุณจะให้ผมคุยอะไรกับป้าสร้อยตั้งสี่ชั่วโมง"
"ถ้าไม่รู้จะคุยอะไรก็ขับรถพาป้าสร้อยไปเที่ยว" ไอริณชักรำคาญ เรวัติกุมขมับปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที
ooooooo
ขณะอรนิชและพีรเทพกำลังปรึกษาเรื่องหาฤกษ์แต่งงานกับเจ้าสัวเจริญอยู่ที่ห้องรับแขก อรนุชเดินเลยขึ้นบ้านโดยไม่มองใคร เจ้าสัวเจริญมองอย่างแปลกใจว่าเป็นอะไรไป อรนิชอาสาจะไปดูให้ ลุกตามพี่สาวขึ้นไปที่ห้องนอน ถามด้วยความเป็นห่วงว่าไปไหนมา อรนุชหันมามอง ค่อยๆยิ้มแล้วเปลี่ยนเป็นหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ
"พี่ลูกน้ำหัวเราะอะไรคะ"
"หัวเราะนังเพื่อนริณของพี่...พรุ่งนี้มันจะต้องอกแตกตายเมื่อไปถึงที่ทำงาน"
อรนิชสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น อรนุชเล่าว่าไปตกแต่งภายในห้องทำงานให้ไอริณใหม่ สวยจนบอกไม่ถูก...
ในเวลาเดียวกัน ไอริณชวนคุณอนาวินออกไปคุยเรื่องปลวกกินบ้านคุณหญิงป้าที่โต๊ะสนามหน้าบ้าน โดยคุณอนาวินนั่งชำเลืองมองเธออย่างระวังตัวตลอดเวลา ไอริณ อยากรู้ว่าเขาจะแก้ไขอย่างไร คุณอนาวินแนะให้ฉีดยาฆ่าปลวก พอพวกมันตายก็จะไม่มากินบ้านอีก ไอริณชักงงๆทำไมถึงไม่คิดจะซ่อมแซมบ้าน
"อันนี้ต้องสุดแต่เจ้าของบ้านครับ...อยากซ่อมก็ซ่อม ไม่อยากซ่อมก็ไม่ต้องซ่อม"
"คุณหญิงป้าท่านต้องการซ่อมค่ะ...ริณถึงได้มาปรึกษาคุณ"
"ปรึกษาผมคงไม่ได้ความ...ต้องปรึกษาคุณอนาวินครับ" คุณอนาวินตัวปลอมเผลอตัวอีกจนได้ แต่คราวนี้ไหวตัวทัน รีบกลบเกลื่อนว่า คุณอนาวินก็คือตัวเขาเอง ไอริณ จ้องหน้าเขาอย่างแปลกใจ...
ฝ่ายเลอลักษณ์พยายามจะมอมไวน์วินตามแผนที่
ไอริณวางไว้ วินแค่ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบนิดเดียว อ้างว่าปกติจะไม่แตะต้องด้วยซ้ำ ที่จิบก็เพราะเกรงใจเธอ เลอลักษณ์แปลกใจแกมทึ่งที่วินเป็นผู้ชายแต่กลับไม่ดื่ม
"ผู้ชายที่ไม่ดื่มก็มีนี่ครับ"
"พี่คิม...อดีตแฟนของเด่นน่ะค่ะ เขาชอบดื่ม เด่นก็เลยดื่มเป็นเพื่อนเขา"
"ไม่ดีหรอกครับ ดื่มมากๆเป็นอันตรายกับสุขภาพ บางครั้งครองสติไม่อยู่อาจจะเสียทีพวกสิบแปดมงกุฎที่ถือโอกาสเอารัดเอาเปรียบได้...สมัยนี้น่ะไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้นแหละครับ ทั้งผู้ชายผู้หญิง...ผู้ชายดีๆถูกผู้หญิงพยายามจับก็เพราะดื่มเหล้าจนขาดสตินี่แหละครับ...พระพุทธเจ้าท่านถึงได้บัญญัติไว้ในศีลข้อห้าที่ว่าห้ามดื่มสุรายังไงล่ะครับ"
เลอลักษณ์ร้อนตัวขึ้นมาจนไม่กล้าสบตากับวิน...ส่วนไอริณยังคงปรึกษาคุณอนาวินว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี คุณอนาวินเห็นว่าเรื่องซ่อมเป็นเรื่องใหญ่ เพราะบ้านคือวิมานของเรา ดังนั้น เขาจะต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมบริษัทก่อน
"ซ่อมบ้านเนี่ยนะคะ" ไอริณมึนตึบ
"ครับ...เพราะว่าบ้านคือวิมานของเรา ซ่อมบ้านก็คือ... ซ่อมวิมาน...ใช่ครับ...ซ่อมวิมาน" คุณอนาวินชี้แจงแบบตะกุกตะกัก ทันใดนั้น มีเสียงเรียกไอริณดังขึ้นด้านหลัง ไอริณกับคุณอนาวินหันไปมอง เห็นเลอลักษณ์ยืนสะพายกระเป๋าถือเรียบร้อยเตรียมกลับ ในมือมีผ้าเช็ดหน้าคอยซับหัวตาอยู่ ไอริณตกใจ รีบเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เลอลักษณ์ส่ายหน้า น้ำตาร่วงพรู
"เด่น...นี่...นี่หมายความว่า นายกาแฟปลุกปล้ำ..."
ไอริณพูดยังไม่ทันจบประโยค เลอลักษณ์รีบเอามือปิดปาก "เปล่า...อย่าพูดอย่างนั้น บาปหนักเชียวนะ"
"เกี่ยวอะไรกับบาปด้วย"
"คุณกาแฟเป็นคนดี...ความดีของเขาทำให้ฉันตื้นตันจนน้ำตาไหล...ฉันต้องกลับบ้านแล้ว...ไปละนะจ๊ะ"
ไอริณรีบเดินตามเพื่อนซึ่งเดินจ้ำพรวดๆไปที่จอดรถ คุณอนาวินมองตามงงๆ...ครู่ต่อมา ไอริณกลับเข้าไปในห้องรับแขกด้วยความหงุดหงิด มองหาวินแต่ไม่พบ จึงเดินเลยเข้าไปในครัว เห็นวินยืนหันหลังให้ กำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง ไอริณถามว่าเขาพูดอะไร เลอลักษณ์ถึงได้วิ่งแจ้นกลับบ้านแทบไม่ทัน
"พูดปกติ...พูดธรรมดา...ไม่มีอะไรแปลกแหวกแนว"
ไอริณเจ็บใจมองเขาอย่างเข่นเขี้ยว...ขณะเดียวกัน คุณอนาวินเข้ามาในห้องรับแขก กวาดตามองหาไม่เจอใครสักคน เห็นแก้วไวน์ที่เลอลักษณ์กับวินกินค้างไว้ จึงเดินรี่มาหยิบแก้วของวินซึ่งยังอยู่เต็มแก้วขึ้นจิบ เลียริมฝีปากไปมา แล้วกระดกจนหมดแก้ว เหลียวซ้ายมองขวาเห็นปลอดคน หยิบขวดไวน์มารินเติม
"เสียดายของ...ต้องกินให้หมด" คุณอนาวินดื่มอย่างสบายอกสบายใจ
ทางด้านไอริณทนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว ถามวินว่าเจ้านายของเขาเรียนจบอะไรกันแน่ วินแปลกใจว่าถามทำไม ไอริณตั้งข้อสังเกตว่าตลอดเวลาที่คุยกันเรื่องซ่อมบ้านคุณหญิงป้า เขากลับบอกว่าต้องเอาเข้าที่ประชุม วินแก้ตัวแทนว่าท่านเป็นคนรอบคอบ
"ฉันถามเขาว่าทำไม...คำตอบของเขาก็คือ เพราะบ้านเป็นวิมานของเรา"
วินตีหน้าตาย "ทำไม...ท่านก็พูดถูกนี่...บ้านคือวิมานของผู้ที่อยู่อาศัย ฉะนั้นจะปลูกสร้างหรือตกแต่งอะไรก็ต้องรอบคอบ...ถ้ายังไง ผมจะเรียนคุณอนาวินให้แวะไปดู แล้วมาปรึกษากันต่อไป"
"เจ้านายคุณไม่รู้เรื่องอะไรเลยใช่มั้ย และคุณเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลทุกสิ่งทุกอย่างให้"
วินไม่ตอบ ขยับจะเดินออกไป ไอริณร้องห้าม วินอ้างว่าต้องพาเจ้านายกลับบ้าน ไอริณกางแขนวางไว้ ไม่ยอมให้กลับจนกว่าเขาจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับเจ้านายของเขามาให้หมด
"ผมรู้แค่ท่านเรียนจบสถาปนิก"
"แต่เท่าที่ฟัง ฉันว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถาปนิกเลย"
"ก็สุดแล้วแต่คุณจะคิด"
วินเดินเข้าใกล้ไอริณมากขึ้น ดวงตาจ้องมองเธอเขม็ง ขอร้องแกมบังคับให้เธอหลีกทาง ไอริณเห็นท่าทางเอาจริงของวิน รีบหลีกทางให้อย่างไม่ค่อยพอใจ วินยิ้มนิดๆก่อนเดินกลับไปที่ห้องรับแขก แต่ต้องชะงัก เมื่อเห็นคุณอนาวินเมาฟุบอยู่กับโต๊ะ พร้อมขวดไวน์เปล่า 3 ขวด รีบเดินเข้ามาเขย่าตัวเรียก คุณอนาวินตาปรือมองดู
"คุณอนาวิน ผมขอลาออกจากตำแหน่ง" วิทวัสในคราบคุณอนาวินคอพับหลับไปทันทีที่พูดจบ
ไอริณตามเข้ามา ยืนมองคุณอนาวินที่นอนหมดสติ "เป็นอะไรไปล่ะ"
"ซัดไวน์เข้าไป 3 ขวดน่ะสิ" วินดึงตัวคุณอนาวินขึ้น เอาแขนคล้องคอ แล้วกึ่งลากกึ่งพยุงออกไป ไอริณมองตาม ก่อนเบือนหน้ามามองขวดไวน์เปล่าอย่างครุ่นคิด...
ด้านเรวัติพาป้าสร้อยเดินวนไปเวียนมาซื้อของในตลาดสดจนพากันหมดเรี่ยวแรง พอไอริณโทร.มาบอกให้กลับได้แล้ว เรวัติถึงกับขอบคุณสวรรค์ที่ไม่ต้องหาเรื่องเดินวนตลาดอีกรอบ
ooooooo
วินพยุงวิทวัสที่เมาไม่ได้สติเข้ามาโยนไว้ที่เตียงนอนภายในเรือนหลังเล็กของตน แล้วออกมาที่ห้องรับแขก ยังไม่ทันได้นั่ง อรนุชโทร.มาจิกให้ออก ไปซื้อของเป็นเพื่อน วินทำท่าอิดออดไม่อยากไป อรนุชต้องตื๊อจนวินใจอ่อน
"ขอบคุณค่ะพี่วิน น้ำเกรงใจ๊ เกรงใจพี่วิน...เกรงใจไปหมดเลย...อีกชั่วโมงครึ่งพบกันค่ะ"
อรนุชวางสายอย่างชื่นบาน วันนี้เธอลอบเข้าไปป่วนห้องทำงานของไอริณจนป่นปี้ แถมยังล่อหลอกวินให้ออกมาพบตามแผนมัดมือชก เท่ากับเธอโชคดีถึงสองเด้ง จากนั้นจึงโทร.หาคิมหันต์ สั่งให้มาคอยดักถ่ายรูปเธอกับวิน แต่ต้องทำเหมือนแอบถ่าย คิมหันต์รับคำสั่งรีบคว้ากล้องออกจากห้องพักทันที...
วิทวัสรู้สึกตัวตื่นขึ้น มองเพดานอย่างพร่ามัว ปวดหัวตุบๆเลยหลับตาลงอีกครั้ง เสียงวินเรียกให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำดังขึ้น วิทวัสสะดุ้งโหยง ลืมตาโพลง หันขวับไปตามเสียง เห็นวินกำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจก
"ฉันจะออกไปธุระข้างนอก...คืนนี้นายจะค้างที่นี่หรือว่าจะกลับไปที่คอนโดฯก็ได้...หรือถ้าหิวจะโทร.สั่งอะไรมากินก็ได้" วินเปิดกระเป๋าหยิบธนบัตรใบละหนึ่งพันบาทออกมาวางที่โต๊ะหัวเตียงก่อนเดินออกไป วิทวัสมองตาม สีหน้าเหมือนจะร้องไห้ รีบสำรวจดูเสื้อผ้าตนเองว่ายังอยู่ครบไหม ด้วยเข้าใจผิดคิดว่าวินเป็นเกย์...
ที่บ้านเจ้าสัวเจริญ ในขณะวินกำลังคุยกับเจ้าสัวเจริญอยู่ที่ห้องรับแขก อรนุชซึ่งเสื้อผ้าหน้าผมดูสวยงามเป็นพิเศษ เดินเข้ามาสมทบ สงสัยว่ากำลังคุยอะไรกัน
"พ่อกำลังบอกเขาว่า ยัยลูกนกกับพีรเทพกำลังจะได้ฤกษ์แต่งงานแล้ว...ความจริงพ่ออยากให้ลูกน้ำแต่งก่อนตามธรรมเนียม เพราะลูกน้ำเป็นพี่"
"ตายแล้ว...คุณพ่อนี่...พูดต่อหน้าพี่วินอย่างนี้ น้ำก็เขินแย่น่ะสิคะ" อรนุชทำอายม้วน
"เขินอะไรกัน เรื่องมีลูกมีผัวเป็นเรื่องธรรมชาติ...จริงมั้ย...คุณวิน"
วินอึดอัด แต่ก็รับคำไปแบบแกนๆ เจ้าสัวเจริญเลยเหมาเอาเองว่าวินเห็นด้วยเรื่องแต่งงาน วินเกรงว่าเรื่องชักจะไปกันใหญ่ รีบตัดบท ชวนอรนุชไปกันได้แล้ว...
ครู่ต่อมา อรนุชหลอกล่อวินมาที่ร้านขายเพชรตามแผน คิมหันต์ซึ่งรออยู่แถวนั้น เห็นอรนุชหันมาส่งสายตาเป็นสัญญาณให้ ก้มหัวเล็กน้อยเป็นการตอบรับ แล้วทำเป็นดูโน่นดูนี่ รอตอนที่อรนุชเกาะแขนวินเข้าร้านขายเพชร คิมหันต์คว้ากล้องขึ้นมาถ่ายรูปไว้ แล้วตามเข้าไปในร้าน ทำเป็นเลือกดูแหวนเพื่อหาจังหวะถ่ายรูปชัดๆ
ผู้จัดการร้านรีบเดินเข้ามาไหว้ทักทายอรนุชอย่างคุ้นเคย ก่อนหันไปไหว้วินด้วยสีหน้ายิ้มๆกระเซ้าอรนุชว่าพาคนพิเศษมาเลือกซื้อแหวนหรือ อรนุชรับคำชายตามองวิน อย่างหวานหยด ผู้จัดการร้านหยิบกล่องที่มีแหวนเพชรเม็ดเป้งน้ำงามขึ้นมาวางตรงหน้าสองหนุ่มสาวหลายกล่อง อรนุชเอียงคอทำแอ๊บแบ๊ว ถามวินว่าวงไหนสวย
"สวยทุกวงนั่นแหละครับ"
"ไม่เอาค่ะ...น้ำอยากให้พี่วินช่วยตัดสินใจด้วย"
ผู้จัดการร้านถามว่าจะเลือกแหวนหมั้นหรือ วินหยุดกึก อรนุชออดอ้อนวินเลือกแหวนให้เธอหน่อย คิมหันต์สบโอกาสค่อยๆยกกล้องขึ้นจะถ่ายรูป ผู้จัดการร้านหันมาเห็นพอดี ร้องเอะอะขึ้น ทุกคนในร้านรวมทั้งวินกับอรนุชหันไปมอง อรนุชตกใจ เห็นคิมหันต์วิ่งหนีออกจากร้าน ผู้จัดการตะโกนเรียก รปภ.จับตัวไว้ อรนุชร้องห้ามว่าไม่ต้องตาม ทุกคนแปลกใจหันมามองเธอเป็นตาเดียวกัน อรนุชรู้สึกตัวรีบกลบเกลื่อน
"เขาคงแค่อยากได้รูปน้ำ...คือ...เป็นธรรมดาของเซเลบฯอย่างพวกเราที่เวลาไปไหนจะมีคนคอยถ่ายรูปด้วยความชื่นชมตลอดเวลา
"น้องลูกน้ำทราบได้ยังไงครับว่าเขาจะถ่ายรูปน้องลูกน้ำ เขาอาจจะเข้ามาดูช่องทางเพื่อมาทำโจรกรรมก็ได้"
ผู้จัดการร้านเห็นด้วยกับวิน อรนุชตีหน้าซื่อ อ้างว่าเห็นผู้ชายคนนั้นถือกล้องถ่ายรูป พลางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อ ลุ้นแทบแย่ด้วยเกรงว่าคิมหันต์จะถูกจับได้
"โอย...ใจยังสั่นไม่หายเลย...ถ้าพี่วินไม่เชื่อลองจับดูสิคะ" อรนุชจับมือวินจะทาบอกตัวเอง
วินสะดุ้งโหยง ดึงมือกลับแทบไม่ทัน บอกว่าเชื่อแล้ว ผู้จัดการร้านถามอรนุชว่าตกลงจะเลือกวงไหน อรนุชทำเนียน หยิบแหวนเพชรที่ถูกใจขึ้นมาถามวินว่าดีไหม วินหลงกล เออออว่าสวยมาก อรนุชรีบกราบที่อกเขางามๆขอบคุณที่ซื้อแหวนให้ วินถึงกับใบ้กิน หนีไม่ออก จำใจหยิบเครดิตการ์ดส่งให้ผู้จัดการร้านเป็นค่าแหวน...
ต่อจากนั้น วินชวนอรนุชไปนั่งกินไอศกรีมเพื่อดับความร้อนอกร้อนใจ ขณะวินกำลังตักไอศกรีมจะเอาเข้าปาก อรนุชดึงช้อนจากมือแล้วอาสาจะป้อนให้ วินเกี่ยงขอกินเอง
"พี่วิน...ขอให้น้ำได้ตอบแทนความใจดีมีเมตตาที่พี่วินมีต่อน้ำเถอะนะคะ"
อรนุชยกช้อนมาจ่อปากวิน โต๊ะอื่นๆพากันชำเลืองมอง วินรีบกินด้วยเกรงจะตกเป็นเป้าสายตา อรนุชได้คืบจะเอาศอก ขอให้วินป้อนคืน วินทำท่าอึกๆอักๆอรนุชทำทีหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา ตัดพ้อว่าเขารังเกียจเธอใช่ไหม วินปรายตามองไปโต๊ะอื่น เห็นแต่ละคนมองแบบลุ้นเอาใจช่วย วินตัดสินใจหยิบช้อนป้อนให้อรนุช ทุกคนตบมืออย่างโล่งใจ อรนุชทำเขินอาย ขณะที่วินทำหน้าไม่ถูก...
หลังจากแวะส่งอรนุชที่บ้านของเธอแล้ว วินแวะไประบายความอัดอั้นกับเรวัติ เรวัติเดินมาตบไหล่เหมือนเป็นการให้กำลังใจ แนะวินให้คิดในแง่ดีเข้าไว้ว่า มีผู้หญิงสาวสวยถึงสองคนมารุมรัก
"แล้วแกจะเอาบ้างมั้ย"
"ไม่เอา...ฉันไม่สามารถที่จะเลี้ยงม้าพยศถึงสองตัวพร้อมๆกัน"
วินถอนใจ เหนื่อยหน่าย เรวัตินิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนนำเสนอสองวิธีในการแก้ปัญหา ข้อแรก วินต้องถามใจตัวเองว่าชอบใคร แล้วก็เลือกเอาคนนั้น หรือข้อสอง หาแฟนที่จะจริงจังหวังแต่งให้เจอ แค่นี้สองสาวสุดแสบคงจะยอมออกไปจากชีวิตเขา วินเอนตัวพิงพนักหลับตาลงอย่างอ่อนใจ
รุ่งเช้า จอยกับแป๋วไขกุญแจเปิดประตูห้องทำงานไอริณเข้าไปแล้วแทบลมจับ จอยรีบโทร.ตามไอริณให้มาที่ออฟฟิศด่วน ไอริณวางสายแล้วก้มลงจูบแก้มคุณหญิงป้าอย่างรีบร้อน

"อ้าว...แล้วไม่รับประทานข้าวต้มก่อนหรือลูก"

"ไม่ล่ะค่ะ...เกิดเรื่องอะไรที่ออฟฟิศก็ไม่รู้...จอยทำเสียงเหมือนจะร้องไห้" ไอริณรีบออกไปทันที

ในเวลาต่อมา ไอริณเดินแกมวิ่งมาที่ออฟฟิศ เห็นทุกคนยืนมุงอยู่หน้าประตูห้องทำงานของเธอ เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น พนักงานหันมามอง ก่อนหลีกทางให้ ไอริณเห็นสภาพห้องแล้วแทบช็อก เอกสารถูกฉีกกระจัดกระจายข้าวของถูกทำลายเสียหาย ตามผนังห้องมีสีสเปรย์ฉีดพ่นข้อความเต็มไปหมด

"ปีใหม่แล้ว...เมื่อไหร่จะตายเสียที ฮ่าๆๆ"

"โอ้โห...ห้องสวยจัง"

รวมทั้งคำหยาบอีกมากมาย ไอริณกรีดร้องลั่นอย่างแค้นใจ จ้ำพรวดๆไปที่รถ บึ่งไปหานังอรนุชตัวแสบที่ออฟฟิศทันที ไม่นานนักไอริณก้าวฉับๆเข้ามาในออฟฟิศของอรนุช ท่ามกลางความตกใจของพวกพนักงานกับท่าทีที่เอาเรื่องของเธอ เลขาฯหน้าห้องอรนุชรีบขวางไม่ให้เข้า ไอริณผลักเธอจนกระเด็น เปิดประตูห้องเข้าไป แล้วรีบปิดล็อก

"อ้าว...เพื่อนริณ...วันนี้ลมอะไรพัดมาจนถึงที่นี่จ๊ะ" อรนุชทำเป็นไม่รู้เรื่อง

"ลมแค้นไง นังเพื่อนน้ำ" ไอริณพุ่งเข้าใส่โดยที่อรนุชไม่ทันตั้งตัว จิกหัวลากจากเก้าอี้แล้วตบซ้ายตบขวาทั้งเข่าทั้งศอกประเคนใส่เป็นชุด จนกระเด็นล้มคว่ำลงไปกองกับพื้น

"นังริณ แกถือดียังไง" อรนุชชี้หน้าไอริณอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

"นังลูกน้ำ...แกบังอาจล้วงคองูเห่า...แกตาย"

ไอริณตามเข้าไปหมายจะซ้ำ อรนุชคว้าของใกล้มือฟาดสวนเข้าใส่เต็มๆจนไอริณถึงกับเสียหลัก เซถลาอรนุชตั้งหลักได้ ย่างสามขุมเข้าหา กระชากผมไอริณขึ้นมาตบบ้าง ทั้งสองสาวเข้าตะลุมบอนกันอุตลุด เสียงทะเลาะตบตีกัน

ดังโครมครามออกมานอกห้อง เลขาฯหน้าห้องอรนุชได้สติรีบวิ่งไปตามอรนิชกับพีรเทพมาช่วยกันห้ามทัพ อรนิชแนะให้รีบตามตำรวจมาจัดการ ก่อนที่สองสาวจะฆ่ากันตายไปเสียก่อน

"พี่กลัวจะอื้อฉาว...เอาอย่างนี้...ไปหานกหวีดมา...เร็ว... ไปช่วยกันหานกหวีดมา"

พวกพนักงานต่างแยกย้ายกันไปทำตามคำสั่ง...ขณะที่สองสาวผลัดกันรุกผลัดกันรับโดยไม่มีใครยอมใครต่างฝ่ายต่างหัวกระเชิง บอบช้ำเต็มที ทันใดนั้นมีเสียงนกหวีดดังขึ้นที่หน้าห้อง ทั้งอรนุชและไอริณต่างหยุดกึก

"เสียงอะไร"

"ตำรวจ" ไอริณมองหน้าอรนุชเลิ่กลั่ก

ฝ่ายพีรเทพเป่านกหวีดอีกครั้ง สักพักประตูห้องทำงานค่อยๆเปิดออก ทุกคนต่างจ้องมองเป็นตาเดียวกัน ไอริณ กับอรนุชในสภาพสะบักสะบอมเดินกอดคอกันออกมาด้วยสีหน้าประหนึ่งว่ารักกันหนักหนา ไอริณถามหาตำรวจอยู่ที่ไหน อรนิชสบตาพีรเทพ แล้วบอกว่าไม่มี สองสาวส่งเสียงขึ้นพร้อมกัน

"ไม่มี"

อรนิชกับพีรเทพพยักหน้าแทนคำตอบ สองสาวต่างปล่อยมือจากกันทันที อรนุชหันไปถามน้องสาวว่า หมายความว่าอย่างไร ไอริณสวนขึ้นทันที

"ก็หมายความว่าน้องสาวแกสตรอ...น่ะสิ...ทั้งพี่สาวทั้งน้องสาวเหมือนกันไม่มีผิด"

อรนิชหันไปอ้อนพีรเทพให้จัดการไอริณแทนเธอด้วย พีรเทพพยายามทำท่าเข้มแข็ง ต่อว่าไอริณว่าไม่ควรทำอย่างนี้ ไอริณได้ทีปั่นหัวอรนิช แกล้งกระเซ้าพีรเทพว่า ตอนอยู่ลับหลังยัยลูกนกกระจอกไม่เห็นพูดกับเธออย่างนี้ สองศรีพี่น้อง

หันขวับจ้องหน้าพีรเทพเขม็ง

"คำก็น้องริณคะ สองคำก็น้องริณขา...พี่อยากพบน้องริณ...น้องริณจะให้พี่พบได้เมื่อไหร่คะ"

"พี่พีพูดกับมันอย่างนั้นหรือคะ"

"ตอบลูกนกกระปูดไปสิคะ พี่พีขา...ทำไมไม่ตอบเขาไปล่ะคะ..." ไอริณยิ้มหยัน แล้วหันไปทางอรนุช "นังลูกน้ำ...แล้วเจอกัน" ไอริณสะบัดหน้า เดินเชิดออกไป

ooooooo

ไอริณพาหน้าตาบอบช้ำกลับไปที่ออฟฟิศตัวเองท่ามกลางสายตาของเหล่าลูกน้อง จอยรีบเดินตามเจ้านายไปที่ห้องทำงานเลอลักษณ์ ไอริณถามเพื่อนว่าเห็นห้องของเธอแล้วใช่ไหม

"เห็นเขากำลังช่วยกันล้างอยู่...ไปหาหมอทำแผลกันเถอะ"

"ไม่จำเป็น ทำเองได้...จอย...ไปซื้อยาทาแก้ฟกช้ำ

ดำเขียวมา"

จอยรีบออกไปจัดการให้ เลอลักษณ์ชวนไอริณกลับบ้าน จะได้ไปสงบสติอารมณ์ไอริณไม่พูดอะไร เดินกลับไปกลับมาช้าๆพลางนึกหาวิธีแก้เผ็ดอรนุช...

ขณะเดียวกัน อรนุชนั่งหน้าบึ้งตึงหัวกระเซิงให้น้องสาวทำแผลใส่ยา และหวีผมให้กลับเข้าที่เข้าทางแล้วนึกขึ้นได้ หันมาสั่งพีรเทพไปกำชับทุกคนในบริษัทคอยระวังคนแปลกหน้าดีๆ เพราะไอริณจะต้องกลับมาแก้แค้นเธออีก จังหวะนั้นประตูห้องทำงานของอรนุชเปิดออก รุทธ์ก้าวเข้ามาอย่างรีบร้อน ตกใจเมื่อเห็นสภาพของน้องสาว

"ไม่ได้เอามือมาหรือคะ ถึงไม่เคาะประตูก่อน" อรนุชเหวี่ยงใส่ทันที

"พอดีพวกข้างนอกบอกว่า ไอริณบุกมาตบตีลูกน้ำถึงในห้อง...พี่เลยรีบเข้ามาดู"

"พี่รุทธ์ต้องทำลายมัน...รวบหัวรวบหางมัน ประจานมัน ทิ้งมัน ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้มันอับอายจนต้องหลีกลี้ หนีหน้าไปจากวงสังคม ให้ฆ่าตัวตายได้ยิ่งดี" อรนุชสีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น

"มันเรื่องอะไรกัน เขาถึงบุกมาอาละวาดถึงนี่"

"ไม่ต้องถามไปจัดการทุกอย่างตามที่น้ำสั่งไม่อย่างนั้น...น้ำจะไม่ให้เงินพี่รุทธ์ใช้"

"ฉันเป็นพี่แกนะ ยัยน้ำ...จะพูดอะไรก็ให้เกียรติกันบ้าง"

"ถ้าอยากได้เกียรติ พี่รุทธ์ก็ต้องทำตัวให้มีเกียรติก่อน...ลูกนกไปกับพี่...พี่พีดูแลออฟฟิศไป...ส่วนพี่รุทธ์ไปคิดแผนการให้ออก" อรนุชหยิบแว่นดำมาสวม แล้วลุกขึ้นคว้ากระเป๋าถือเดินออกไป อรนิชวิ่งตาม
"พี่น้ำจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือคะ"
"เปล่า...พี่จะไปหาคุณแม่พี่วิน ไปทั้งๆเสื้อผ้าขาดวิ่นอย่างนี้แหละ" อรนุชยิ้มเจ้าเล่ห์...
ด้านคุณหญิงป้าเห็นไอริณกลับถึงบ้านในสภาพสะบักสะบอม ตกใจ ถึงกับทำหนังสือที่กำลังอ่านอยู่หลุดมือตกพื้น ถามว่าไปทำอะไรมา ไอริณเล่าว่าไปตบกับนังลูกน้ำยุงลายมา
"ตายจริง...วงศ์ตระกูลเราไม่เคยมีใครไปตบตีกับใครเลยนะจ๊ะ...แต่ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรก คราวหน้าถ้ามีอีกอย่าลืมเรียกคุณหญิงป้าด้วยนะลูก"
ไอริณรับปากว่า ถ้ามีเรื่องแบบนี้อีกจะเรียนเชิญท่านทันที แล้วขอตัวขึ้นไปพักผ่อน


ooooooo


ขณะเดียวกันบุปผากำลังปรึกษากับอรอุมาเรื่องจะไปเที่ยวเกาหลี อรนุชเดินเข้ามาหา ถอดแว่นดำออก ถลาเข้ามากอดบุปผา แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น ขอให้ช่วยเธอด้วย บุปผามองหน้าอรนุชแล้วตกใจ สงสัยว่าไปโดนอะไรมา
"น้ำถูกรังแกค่ะ...ถูกรังแกโดยที่น้ำไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย ไม่เชื่อคุณแม่ลองถามลูกนกดูสิคะ"
อรนิชยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับหัวน้ำตาด้วยความสงสารพี่สาว บุปผาขอให้อรนุชเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง อรนุชบีบน้ำตาเล่าเรื่องโกหกเป็นฉากๆ บุปผาฟังแล้วขัดใจอย่างมาก รีบโทร.ตามลูกชายให้กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้ วินอ้างว่าติดประชุมยังกลับไม่ได้ บุปผาไม่ฟัง สั่งให้เขาไปตามอาทรมาเข้าประชุมแทน พอวินมาถึงบ้าน บุปผาต่อว่าที่เขาซื้อแหวนหมั้นให้อรนุชแล้วไม่บอกพ่อกับแม่สักคำ วินปฏิเสธว่าไม่ได้หมั้น


"ตาวิน...ผู้ชายที่ซื้อแหวนเพชรให้ผู้หญิงใส่นิ้วนางข้างซ้าย มีจุดประสงค์อยู่เพียงอย่างสถานเดียวคือต้องการจะหมั้นหมาย"
วินอ้ำอึ้ง เถียงไม่ออก บุปผาเลยบอกให้หยุดเรื่องนี้ ไว้ก่อน แล้วถามว่าสังเกตเห็นเสื้อผ้าหน้าตาของน้องหรือเปล่า วินเห็นแล้ว และอยากรู้ว่าเธอไปทำอะไรมา อรนุชฟ้องว่าไอริณเป็นคนทำ บุปผาเสริมว่าไอริณที่เธอหลงเมตตาเอ็นดูเพราะเห็นว่าเป็นแฟนซีรี่ส์เกาหลีด้วยกัน แต่แล้วแม่นั่นกลับบุกไปทำร้ายอรนุชถึงที่ทำงาน
"ไอริณน่ะหรือครับ"
"ใช่...ถามอย่างนี้แสดงว่ารู้จักสนิทสนมกับเขาใช่มั้ยล่ะ"
"เปล่าครับ"
"อย่าโกหก...ไม่อย่างนั้นหนูลูกน้ำคงไม่สะบักสะบอมงอมพระรามอย่างนี้หรอก...เรื่องนี้คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย...นอกจากไอริณอิจฉาหนูลูกน้ำที่ประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน ทั้งการเงิน...การงาน และความรัก"
อรนุชสวมบทนางเอกแม่พระ บอกบุปผาว่าอย่าเพิ่งไปโทษคุณไอริณ บุปผาถึงกับออกปากชมว่าอรนุชจิตใจงามเหลือเกิน ขนาดไอริณทำกับเธอขนาดนี้ยังเรียกแม่นั่นว่า "คุณ" อีก
"น้ำน่ะไม่อยากจะกล่าวโทษคุณไอริณ"
"ไม่กล่าวได้ไงในเมื่อเขาตบหนูซะกระเซอะกระเซิงขนาดนี้...ตาวิน พาแม่ไปพบแม่ไอริณเดี๋ยวนี้ แม่จะได้ต่อว่าเสียให้สาแก่ใจ"
วินพยายามขอร้องว่าอย่ามีเรื่องอีกเลย อรนุชกลับยุ บุปผาให้โทร.ไปด่าไอริณแทน เกรงว่าถ้าบุปผาไปเจอหน้าไอริณ ก็จะรู้ทันทีว่าเธอโกหก เพราะไม่ใช่เธอเท่านั้นที่สะบักสะบอม ไอริณก็บอบช้ำไม่ต่างจากกัน บุปผาแปลกใจที่อรนุชอ้างว่า ไม่รู้จักสนิทสนมกับไอริณแต่ทำไมมีเบอร์โทรศัพท์
"อ๋อ...ค่ะ...เขาเคยโทร.มาด่าน้ำนี่คะ"
อรนุชกดเบอร์ไอริณ ก่อนส่งโทรศัพท์ให้บุปผา แต่ ติดต่อไม่ได้ ไอริณปิดเครื่อง...
ในเวลาเดียวกัน รุทธ์หอบดอกกุหลาบแดงช่อใหญ่ ไปหาไอริณที่บ้าน อ้างกับคุณหญิงป้าว่าจะมาขอโทษน้องไอริณ คุณหญิงป้าให้เขารอที่ห้องรับแขก แล้วเดินขึ้นไปตามไอริณ ที่ห้องนอนด้วยตัวเอง
"คุณหญิงป้าไล่เขาออกไปเลยค่ะ"
"หลานจ๋า...คุณหญิงป้าว่าเขาก็เป็นลูกผู้ชายดีนะ อุตส่าห์หอบดอกไม้มาขอโทษแทนน้องสาว"
"โอ๊ย...ในหัวคนพวกนี้เต็มไปด้วยแผนการร้ายๆทั้งนั้นแหละค่ะ"
"งั้นก็ยิ่งดีสิจ๊ะ...เราจะได้ซ้อนแผนมันไปเลย"


ไอริณสบตากับคุณหญิงป้าด้วยแววตาเป็นประกาย ลุกขึ้นดูความเรียบร้อยในกระจก แล้วชวนคุณหญิงป้าลงมาข้างล่าง รุทธ์มองสภาพไอริณด้วยสีหน้าที่แสดงออกว่าเสียใจสุดๆแล้วยื่นดอกไม้ให้
"กุหลาบพวกนี้ถึงแม้จะชดเชยหรือแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่พี่ก็อยากให้เพื่อแทนคำขอโทษจากใจจริงของพี่"
คุณหญิงป้ายกมือทาบอกอย่างซาบซึ้งไปด้วย แต่ไอริณ เบ้ปาก พูดทีเล่นทีจริงกลั้วเสียงหัวเราะว่าเลี่ยนจนเกือบอ้วก แล้วรับช่อดอกไม้จากรุทธ์ คุณหญิงป้าอาสาจะเอาไปจัดใส่ แจกันให้ รุทธ์แนะไอริณให้ไปหาหมอทำแผล ไอริณอยากจะ ทิ้งไว้อย่างนี้ จะได้คอยเตือนความจำ
"พี่รุทธ์เป็นยังไงบ้างคะ"
"ก็สบายดีครับ...ขอบคุณที่ถาม...น้องริณคงไม่ทราบว่าลูกน้ำจะหมั้นแล้ว"
"หรือคะ...ใครเอ่ยคือบุรุษผู้โชคร้ายที่สุดในโลกคนนั้น"
พอไอริณรู้จากรุทธ์ว่าผู้ชายโชคร้ายคนนั้นคือคุณอนาวินก็รีบโทร.ไปหาเขาที่ทำงานทันที วิทวัสในคราบคุณอนาวินผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจที่เพิ่งรู้ว่าตัวเองจะหมั้น
"ใช่...ทำไมคุณไม่บอกให้ริณรู้ตัวก่อน...ริณจะได้ไม่ เสียใจขนาดนี้" ไอริณทำเสียงเศร้าเพื่อความสมจริง
"ผม...ผมไม่ทราบจริงๆเลยนะครับ"
"แล้วทำไมคุณถึงไม่ทราบ"
คุณอนาวินอึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไร ไอริณขอร้องให้ เขามาหาเธอที่บ้าน คุณอนาวินทำท่าจะปฏิเสธ แต่ไอริณพูดดักคอว่าอย่าปฏิเสธเพราะจะไม่เป็นผลดีกับเขา คุณอนาวินหนีไม่ออก จำใจไปหาไอริณ

ooooooo

ครู่ต่อมา คุณอนาวินมาถึงบ้านไอริณ พอเห็นหน้าตาของเธอถึงกับร้องเอะอะด้วยความตกใจว่าหน้าไปโดนอะไร เหมือนกับถูกตบมาเลย
"ก็ทั้งถูกตบแล้วก็ตบเขานั่นแหละ...ตอบฉันมาว่าคุณจะหมั้นกับยัยลูกน้ำยุงลายเมื่อไหร่"
"ผมไม่ทราบจริงๆครับ"
"ไม่ทราบได้ยังไง ในเมื่อพี่ชายเขามาบอกฉันถึงที่นี่"
"งั้น...ก็อาจจะหมั้นครับ...ผมต้องขอไปถามก่อน"
ไอริณจ้องหน้าคุณอนาวินเขม็ง สงสัยว่าจะต้องไปถามใคร คุณอนาวินนึกได้ รีบกลบเกลื่อนว่าต้องไปถามคุณพ่อคุณแม่ก่อน ไอริณยังคงจ้องหน้าคุณอนาวินราวกับจะจับผิด...
ตกค่ำ วิทวัสกลับมาปรึกษากับวินและเรวัติที่คอนโดฯที่พักของเรวัติ วินเตือนวิทวัสให้หุบปากให้สนิท ห้ามเผลอหลุดพูดอะไรออกมาอีกเด็ดขาด วิทวัสอ้างว่าไอริณไล่ต้อนจนเขานึกคำตอบแทบไม่ทัน เรวัติย้ำว่าวิทวัสต้องคิดให้เร็วและให้ไวกว่าที่เป็นอยู่ วิทวัสพยายามแล้ว แต่ไอริณฉลาดกว่าเขามาก วินกับเรวัติฟังแล้วได้แต่ถอนใจ
"ถอนใจกันทำไมครับ" วิทวัสมองหน้าวินสลับไปมากับเรวัติ
"ไป...นายกลับไปห้องนายได้แล้ว"
"เดี๋ยวจะกลับ ฉันจะไปเรียก"
วิทวัสฟังวินพูดแล้วรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาทันทีว่าจะเรียกไปไหน วินจะเรียกให้กลับบ้านด้วยกัน วิทวัสกลืนน้ำลาย ฉุกคิดถึงตอนตื่นจากเมาไวน์ เห็นวินกำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจก เลยพาลจะไม่ยอมกลับด้วย สองเพื่อนซี้ถามขึ้นพร้อมกันว่าทำไม
"เอาเป็นว่าผมจะไม่กลับไปเป็นที่รองรับอารมณ์ใครอีก" วิทวัสทำขึงขัง เดินออกไป
"มันเป็นอะไรของมัน"
"เรื่องหมั้นของแก...ว่ายังไง"
"ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆอยู่ดีๆลูกน้ำชวนฉันไปเป็นเพื่อนซื้อแหวน แล้วมั่วให้ฉันออกเงินให้"
"ฉันบอกแล้วว่า ผู้หญิงสองคนนี้เหนือเมฆจริงๆ"
"คุณแม่โวยวายใหญ่หาว่าฉันเลือกเพชรเม็ดเล็กเกินไป เลยสั่งให้ฉันพาลูกน้ำไปเลือกซื้อเม็ดใหญ่กว่านี้"
"ซึ่งเข้าแผนลูกน้ำพอดี"
วินถอนใจอย่างสุดเซ็ง...ขณะเดียวกัน อรนุชครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเตียง มองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างอารมณ์ดี พอใจที่แผนทุกอย่างเป็นไปด้วยดี วินกำลังจะหมั้นกับเธอ ตามคำสั่งของบุปผา แถมมีนัดต้องพาเธอไปซื้อแหวนเพชรวงใหญ่กว่าวงนี้
"ต้องใช้วิธีนี้...เรื่องมันถึงจะเดิน" อรนุชยิ้มอย่างถูกอกถูกใจ
ooooooo

จบตอนที่11
เครดิต ไทยรัฐ




 

Create Date : 08 มกราคม 2553
0 comments
Last Update : 14 มกราคม 2553 21:22:19 น.
Counter : 581 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com