1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31
O บุหรงรำแพน..O
VIDEO เพลง....พญาโศก ซอด้วง ไวโอลิน ... อารัมภบท ...วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O ความ, คำ-เพราะคัมภิระประพน- ธะผจญผจัญใจ พรรณนาประดาทิฐิพิสัย ระบุไว้ระหว่างวัน O พูด-ฟ้า, วลาหกะและฝน เฉพาะคนก็มากครัน พูด-ธรรมะย้ำสัตะถวัลย์ ประจุขวัญะแจ้งความ O เห็นคราญก็จารสุภะประพันธ์ อภินันทะรูปนาม ปรุงภาษะอาลัยะเพราะงาม- ดละหวามและหวั่นไหว O ร้อยเรียงประเดียงรติภิรม- ยะผสมผสานนัย- โน้มจินต์ถวิลอุสุมะไอ- อุระใคร, และเฝ้าคอย O คร่ำครวญสิล้วนสุภะพยางค์ นยะอ้างก็สำออย กล่อมเยาวะเร้าบทะทะยอย- กระแหนะถ้อยกระหนาบถึง O ปวงเทพ..วิเลปนะประนัง ก็ประดังและเหนี่ยวดึง- อารมณ์ผสมพละคะนึง บทะซึ้งผสานทรวง O ใจความจะลามนยะกระทบ ดละภพะในดวง- จิตผู้เสาะรู้รหัสะปวง ก็จะห่วงละห้อยหา O เพียงเพื่อจะเอื้ออุระประอร ระอุร้อนบ่โรยรา กรองภาษจะหยาดมธุระผา- นิตะจาระห้วงใจ O โคลงฉันทะบันดละกมล อนุสนธิความนัย แรงซึ้งจะตรึงยุคะสมัย- ประจุไว้จะให้หวาน O อาวรณ์ บ่ ผ่อนพละประดัง จะประนังสินับนาน รูปเอยเพราะเคยอธิษฐาน วัฏะวานก็ครบ-วง O ใฝ่หาเพราะอาลัยะตระกอง จิตะปองมิอาจปลง ภพชาติและวาสนะ ฤ สง- เคราะหะบ่งเพราะคำบวง O พบงาม ณ ยามสุริยะแสง- ผละละแหล่งและเร้นดวง พร้อมจันทร์ถวัลยะ ณ สรวง รติช่วงก็เชื้อเชิญ O เริ่มงามละลามบทะสยาย- เพราะชม้ายชม้อย..เมิน สบเลศเพราะเนตรดุจะจะเขิน- และสะเทิ้นสะท้อนถึง O รูปองค์อนงค์ประดุจะเถา- วัลย์เร้ากระหวัดรึง- ใจ, พร้อมประนอมภวะคะนึง- บทะซึ้งก็ร่วมสรรค์ O ยิ้มเขินสะเทิ้น, ลุหิตะเรื่อ กระแหนะเนื้อประนอมนัน- ทา-ภพ, เพราะสบนัยนะนั้น- ดุจะหวั่นและสั่นไหว O โอภาสพิลาสะเพราะศศิน ดุจะภินทนาไป โดยลักษณ์และพักตระประไพ กระจะนัยน์กระจ่างนวล O รูปนามเพราะสัมผัสะพินิจ ก็ประชิดประหนึ่งชวน- เสพสมภิรมยะกระสรวล ภพะล้วนอุบัติรอ O รูปน้อยประดอยอิริยะบท ฤ-ประพจน์จะเพียงพอ- พร้องพากยะฝากบทะพะนอ เฉพาะล้อกะอาลัย O เนียนปรางสะอางขณะประจบ ดละภพะเพียบไพ- บูลย์บทเพราะจดสิริพิสัย พิสมัยะเมื่อมอง O โอ..ภาษประกาศพระชินสี- หะเพราะปรีดิด้วยปอง ฤๅขวางมล้างมุหะละออง ขณะพ้องกะพิมพ์พาล O ใต้ภาวะอาทิตยะช่วง ภวะบ่วงก็เบ่งบาน วางทอดตลอดระยะขนาน- ทรมานกะอาลัย O ช้อยช่อเพราะรอรุจะประภา กุสุมาประคองใบ, กลีบ, ก้าน-ตระการเฉพาะจะไหว- บทะไล้กะสายลม O อวลกลิ่นประทิ่นรสะขจร- และภมรก็จ่อมจม- แทรกตัวและกลั้ว-มธุระ, ฉม รสะห่ม ฤ ข่มหาย O ก้าวย่างระหว่างมรรคะคระลอง วรรณะผ่องก็พร่างพราย เมียงเมินสะเทิ้นขณะชม้าย นัยน์ชายก็รู้ชม O โลมพลอดตลอดรัถยะหมาย จะละลายระหว่างลม คือใจเลาะไล้รติภิรมย์ ฤจะข่มจะอาจขืน O หลังลมระดมพละกระโชก พรรณะโยกและหยัดยืน อ่อนเอนกระเวนภวะบ่ฝืน ก็จะคืนจะยังคง O พร่าพรางธุมางค์ขณะตระหลบ ฤจะสบกะรูปทรง พร่านัยกระไรจะพิศวง และประสงคะสืบสาว O แจ้ง, หม่นระคนบทะประดัง ตละครั้งและต่างคราว งดงาม ฤ ทราม ฤ จะอะคร้าว ระยะก้าวก็บงการ O ก้าวไปและใจก็ทรนง นยะบ่งก็เบิกบาน เร้ารุมผชุมจิตะสราญ ถิระนาน ณ คำนึง O ร้อน, ร่มและลมขณะกระหน่ำ จิตะด่ำเพราะเหนี่ยวดึง- ด้วยภาพกระหนาบนยะระรึง บทะหนึ่งก็ซึ้งหนอ
ความรัก ...วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O แผ่นน้ำ ณ ท่ามศศินะแสง ดุจะแต่งระลอกรอ ผืนกว้าง ณ กลางวตะพะนอ ดุจะรอระริกผืน O ลมโรยประโปรยชละระลอก ดุจะหยอกจะยั่วคืน แนวพฤกษ์ผนึกนิละทะมื่น ระกะตื่นระรื่นตาม O วงจันทร์ถวัลยะโพยม กละโคมนะส่องคาม วงพักตร์สุลักษณ์พฤติพิราม ฤจะห้ามละห้อยเห็น O ใจคนระคนทุขะสภาพ ฤจะบาปะสาบเป็น- บ่วงล่าม ฤ ห้าม ฤ ละ ฤ เร้น ขณะเค้นก็สุดคลาย O ฝ่าขวัญประจันฤดิพิมล ปะทุผละพริ้งพราย แผ่วผ่านประสารกมละหมาย รสะผายก็พร่างพรม O โหยเห็นบ่เว้นระยะถวิล ขณะจินตะจ่อมจม ห่างเห็นก็เข็ญอุระระทม ฤจะข่มฤดีคอย O หลับฝันก็มั่นจะเจอะจะเจอ ขณะเผลอก็เหม่อลอย ตื่นตาผวานัยนะพลอย- จะละห้อยระโหยเห็น O เต็มตรองคระลองรหัสะนัย ก็พิไลพิลาสเพ็ญ อกใจไฉนผิวะจะเร้น ก็จะเค้นซะเค็มขม O อบอุ่นละมุนระยะคะนึง ขณะหนึ่งก็นานนม งามหนึ่งก็ถึงบทะปฐม ระดะห่ม ณ ห้องใจ O โอ้..งามละลามนยะระบัด ปฏิพัทธะอำไพ ดวงมานสมานกะพิสมัย ระยะใจก็เชื่อมถึง O เที่ยวทางระหว่างระยะกมล รติ..ดละเหนี่ยวดึง อ่อนเอนกระเวนบทะคะนึง ดละซึ้งผสานเสริม O ลมรื่นระพื้นชละสะท้อน อุระตอนก็ตวงเติม- หวานซึ้งก็ถึงภวะกระเหิม รติเริ่ม..ก็เพิ่มแรง O เหมือนหวานและคราญสิริพิสุทธิ์ จะประทุษะเสียดแทง โอ้ใจ..ไฉนจะผละจะแผลง ยุติแว้งบ่วกเวียน O หอมกรุ่นกะสุนทริยภาค จะประจาคก็จวนเจียน- เกินการณ์จะทานนยะระเมียร ฤดิเพียระผูกพัน O เกินการณ์จะผ่านนยะประพจน์ มธุรสะโรมรัน สุดที่จะลี้จะผละจะผัน รตินั้นนิรันดร O ความบวง ณ ห้วงบุรพกาล ฤ จะผ่านประสาทพร เพรงบุญ ฤ หนุน บ่ ละ บ่ ถอน เพราะสะท้อนและตามทัน อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ O สังคีตประณีตคำ เฉพาะพร่ำจะรำพัน- งดงามและความฝัน นยะนั้นก็หนักหนา O คร่ำครวญกระบวนถ้อย ก็ประดอยประดังอา- รมณ์ซึ้งคะนึงหา ทรมาเพราะอาลัย O เฝ้าคอยละห้อยเห็น ฤ-จะเร้นจะหลบใจ พาทย์กล่อมประนอมนัย ฤ-ไฉนจะอาจหนี O พลิ้วผ่านผสานโสต ก็ประโมทยะมากมี ความนัยและไมตรี ณ ฤดีก็แว่วดัง O หวั่นเพียงประเดียงพาทย์ จะปลาตะกำลัง หวั่นไหวเพราะใจหวัง ตละครั้งก็สุดคลาย O นิ่งนึกคะนึงชู้ นิระรู้จะรำบาย เพลงแว่วก็แล้วหาย อุระคล้ายจะทอดถอน O สุดที่จะลี้หลบ รติภพะเว้าวอน พากย์เพลงประเลงย้อน นยะอ้อนก็แอบทรวง O เหมือนดาวจะวาววับ และระยับระยิบดวง เร้นแฝงก็แรงหวง- ดุจะช่วงเพราะอาวรณ์ O โอบอ้อมถนอมบท รติรสะซอกซอน แทรกซุก ณ ทุกตอน ฤจะผ่อนจะพรางผล O นัยเพลงประเลงล้อม ก็ประนอมประนังพล กำเริบและเติบตน ปะทุผล ณ ที่ใจ O บทเพลงประเลงล้อม ก็ประนอมประนังนัย เป็นขวัญประหวั่นไหว ณ พิสัยะใครนี้ O สืบสร้างระหว่างคิด สุจริตะใจมี หมายว่าประดาปรี- ดิพิถีจะทอดไป O เพียงหวังจะหลั่งพาก- ยะละหลากประนอมนัย สัมผัสะรัดใจ พิสมัยะหยั่งลง O หวังโสตอุโฆษคำ อุปถัมภะจำนง สุดคิดจะปลิดปลง จิตะคงจะคู่เคียง
การเมือง
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O เสร็จการณ์ก็ผ่านนยะประพัน- ธะกระทั้นกระแทก, เพียง- เย้ยหยามประนามทัศนะเสียง จะประเดียงสดับรู้ O การเมืองนะเรื่องผละประโยชน์ ตละโฉดก็เชิดชู ล้วนภาพะฉาบพิจิตระหรู พิศะดูจะรู้ดี O พูดคำเพราะคัมภิระประพจน์ มธุรสะวาที หวังถ้อยจะปล่อยทิฐิวิถี พจนียะหนักหนา O ยั่วแย้งแสดงวุฒิวิภาษ ผิวะปราศก็แต่ปรา- กฎเลสและเจตนะจะพา- มรคานะทอดคอย O จึงคำเพราะคำระบุระบือ ก็กระพือซะเลิศลอย เชื่อเชื่องก็เปลื้องอุระทะยอย ศิระคล้อยบ่อาจขืน O พากย์ชี้วิถีมรรคะประพฤติ จิตะยึดก็หยัดยืน ส่องทางระหว่างนิละทะมื่น นยะคลื่นประโลมคน O แว่วเสียงก็เพียง..อุระระรัว พิศะตัวก็ต่างตน แห่ห้อมตะล่อมสัทะระคน นยะล้นพิมลหลาย O สรรสรรพะศัพท์ธิระประดิษฐ์ นิรมิตะมากมาย ว่อนวางพยางคะอภิปราย จิตะคล้ายจะคลอฝัน O หวั่นไหวกระไร..สุระประพจน์ มธุรสะโรมรัน หลักการก็ควานและเสาะกระสัน อภินันทนาไทย O การเมือง ณ เบื้องปุระสยาม ขณะทรามละลามนัย เสียงสู่ก็รู้มุสะสมัย สุตะใด-ประดาเดียว O เมื่อทราม..ละลามระยะประเทศ พิเราะเลศะกรูเกรียว คมคำกระหน่ำ ฤ จะเฉลียว ผิวะเขี้ยวจะขบลง O พรรณนาประดานยะประดุจ- บริสุทธิแผ่วง ไหนเลยจะเคยจะพิสวง และก็คงจะคล้ายเดิม O ลมรื่นระผืนทกะสะท้อน อุระตอนก็ตวงเติม คำหวานประสารพละกระเหิม นยะเริ่ม..ก็ปรารมภ์ O เหมือนบัว ณ ทั่วทกะลออ ระกะช่อพะนอชม ผึ้งภู่เพราะรู้จะเสาะผสม พะกะฉมก็เฉิดฉาย O ดอกขาวอะคร้าวบุณฑริก วตะพลิกก็พลิ้วพราย ภู่ห้อมบ่ยอมจะผละละหาย ดุจะตายก็ยอมตน O อำนาจและอาชญะประการ เพราะสมานกะดวงมน ยิ่งหวานสุมาลยะระคน จะผละพ้น ฤ แผดเผา ? O ปรีดิ์เปรมเขษมเพราะสรเสริญ จะประเมิน-ก็มัวเมา ยศศักดิ์ฉลักบทะเฉลา ก็ระเร้าฤดี-รมย์ O ขัดแย้ง ณ แหล่งธรรมะพระพุทธ ก็ประดุจะโสมม หลักการณะผ่านอัตะผสม ก็ระดมประดังแดน O แบ่งข้างระหว่างจิตะประชา คุณะค่าก็คลอนแคลน เกณฑ์กรอบระบอบศักยะแสน- ยะจะแม้นจะมอดลง O อำนาจและอาชญะประภาพ กละบาปะบุญบง- การ-เลศเพาะเจตนะประสง- คะจะคงจะคอยเคียงสัทธราฉันท์ ๒๑ O ฉาบฆ้องกลองกรับสลับเสียง ศักยะผิวะจะเพียง ล่มถล่มเอียง ไผทไทย O อวดงามข้ามพ้นสกลไกล สัตะบุรุษะประไพ ถ้อยประดอยไป พิสัยนั้น O ชื้นฉ่ำน้ำลายขจายกัน อุตมะมุสะประชัน ว่อนสลอนฝัน ณ วันนี้ O ถ้วนถ้อยลอยฟุ้งจะปรุงปรีดิ์ รัถยะปุระจะมี เลิศประเสริฐชี- วะชนเวย O จึงแผ่แถคำมุรำเพย ศักยะธนะจะเผย บทะชดเชย พิชานชน O ด้วยใจไขว่ขวายตะกายกล อัคระยศะผจญ ศักดิหนักหน สิวนเวียน O ด้วยเจตน์เลศซ่อน บ่ กร่อนเกรียน รหัสะฤจะเสถียร บิดและผิดเพี้ยน มิเหมือนเดิมอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ O ลมตื่นระผืนน้ำ ภพะต่ำก็ตวงเติม- คำหวานประสารเสริม ฤดิเริ่มก็ปรารมภ์ O โกสุมปทุมา ดละภาวะหอมพรม ผึ้งภู่ ฤ รู้สม- มุติห่มจะร้างหาย O ดอกขาวอะคร้าวรูป วตะลูบก็รำบาย- หอมฟุ้งจรุงหมาย ผิวะตายจะยอมตน O อำนาจและอาชญา เสาะสภาวะเพื่อพล- อวยเดชวิเศษผล จะผละพ้น ฤ แผดเผา ? O เนานันทะสรรเสริญ ขณะเพลิน ฤ ผ่อนเพลา ยศศักดิ์ฉลักเขลา ก็ระเร้าฤดีรมย์ O ขัดแย้งเพราะแย่งยำ- สัทะธรรมะติดตม เคลิ้มขำกะคำคม ขณะถ่มเลอะดินแดน O แบ่งข้างระหว่างข้า คุณะค่าก็คลอนแคลน จึงอานุภาพแสน- ยะจะแม้นจะมอดลง O อำนาจและอาชญา ดละทาสะรูปทรง การเลศะเจตมง- คละคงจะมีหรือ O ร่มบุญ..สกุลคน ธนะผละร่วมมือ เล่ห์ฉันทะบันลือ- ก็กระพือกระเพื่อมหาง O เก่งกาจกระไรคน คติวนและว่อนวาง เชื่องเชื่อ..ก็เหลือง้าง- จะเสาะอ้างกะเหตุผลวิชชุมมาลาฉันท์ ๘ O อึ้มแอ้มออกเสียง - - - นั้นเพียงเพื่อชน เหลียวมองจ้องตน - - - คำรนโวหาร O ฟังเถิดฟังคำ - - - ลึกล้ำหลักการ อักโขโอฬาร - - - เพื่อบ้านเพื่อเมือง O รับใช้อำนวย - - - ย่อมด้วยศรัทธา หลงรักนักหนา - - - บอดบ้าเปล่าเปลือง O ตอกลิ่มทิ่มแทง - - - พวกแดงพวกเหลือง อกกรุ่นขุ่นเคือง - - - เชื่อเชื่องพอกัน O เป็นไทด้วยชาติ - - - เป็นทาสด้วยใจ ตื้นเขินเกินไหว - - - ทันไขรำพัน O เรื่องนึกตรึกตรอง - - - บกพร่องเกินฝัน แว่วโจษโทษทัณฑ์ - - - หูหันรอเสียง O ปรุงแต่งภาพพจน์ - - - งามรสวาที ออกสื่อช่วยชี้ - - - วาดวีสำเนียง O นั้นถูกนี้ผิด - - - รอพิศรอเพียง- ความถ้อยร้อยเรียง - - - อยู่เคียงหน้าตน O จับโยงเรื่องราว - - - รู้กล่าวรู้คาด เพื่อชนทั้งชาติ - - - รู้ภาษรู้พล O ตราบน้อมใจนับ - - - ตอบรับลุกลน กี่ครั้งกี่หน - - - ทุกหนทุกครั้ง O คือปราชญ์คอยปราม - - - ป้องทรามเข้าแทรก จำนรรจ์จำแนก - - - ความแจกให้ฟัง O จงร่ำจงเรียน - - - ถ้อยเธียรเพียรฝัง อย่าหยุดอย่ายั้ง - - - ตอบตั้งศรัทธา O เยี่ยงนี้คือชน - - - พล่ามบ่นรักชาติ เยี่ยงนั้นคือทาส - - - ปลอดปราศอัตตา O เยี่ยงนี้คือไท - - - ผู้ไร้บัญชา- จัดตั้งสั่งหา - - - ด้วยค่าของเงิน O ภาพนั้นดูดี - - - แต้มสีแต่งตัว จากเท้าจดหัว - - - ถ้วนทั่วมองเพลิน O ภาพงามเร้ารุม - - - ให้อุ้มหยอกเอิน อิ่มร่ำจำเริญ - - - ปานเหินเวหา O ผ่านหัวผ่านหู - - - รับรู้รับฟัง ลึกล้ำกำลัง - - - ฝากฝังปัญญา O ผ่านหูผ่านหัว - - - เร้ารัวศรัทธา อาทรอ่อนล้า - - - ให้บ้าเข้าเบียน O ความคำทำว่า - - - คิดข้าควรการ สามารถสามานย์ - - - ควรอ่านข้าเขียน O ความจูงฝูงชน - - - หวังผลต้องเพียร ทอทาบภาพเธียร - - - วกเวียนตราบวายวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O แซ่เสียงเผดียงเฉพาะจะนับ พิเราะศัพทะมากมาย พูดคำก็คัมภิระสยาย จะละลายกมล-หลง O เขตคามสยามกษณะนี้ ทรพีจะสมพงศ์ อวยเลศและเดชธนะประสงค์ จะณรงคะต่อตี O โดยเลศและเจตนะอสัตย์ อวิภัชะวาที เขตแดนและแสนยะรัฐะสี- มะก็ชี้จะแยกชน O อำนาจและอาชญะประภาพ ตละคาบและต่างคน เสพลิ้มก็อิ่มกละกมล- อนุสนธิด้วยสรวง O อำนาจและอาชญะประดา ประจุภาระเพื่อปวง- ชนเอมเขษมหทัยะดวง นิระห่วงจะยากเข็ญ O สัมมาและอาชิวะประกอบ เฉพาะชอบเหมาะควรเป็น เอื้ออวยอำนวยตละประเด็น ก็จะเห็นประโยชน์ผล O เสนาพฤฒามุขะอมาตย์ ธิระชาติเชื้อชน หากช่วยอำนวยสหะกมล คณะชนจะอวยชัย O ร่วมจิตะคิดประทุษะเข็ญ ยุติ-เว้นซะโดยไว ร่วมแรงและแปลงทุระสมัย ทุขะภัยะหยุดผลาญ O บำรุงผดุงกิจะประเทศ ทุระเลศะล่มลาญ ถูกถ้วนเหมาะควรอุดมการณ์ ก็ประสานประสมไป O หากเพียงจะเบี่ยงกฏะและเกณ- ฑะประเคนประโยชน์ใคร ค้อมหัวเพราะกลัวธนะไฉน ดนุใดนะโดยดี- O นั่นเพียงจะเคียงกุละกะกา คุณะค่าก็ราคี ควรเพียงกะเสียงกุละกลี เฉพาะที่จะกล่าวถึง O ให้สัตย์จะพัฒนะประเทศ ยุติเดชะเหนี่ยวดึง- ลาภยศและพจนะจะพึง- ระบุซึ่งประโยชน์สม O ชื่อชั้นเพราะบั่นฉละประโยชน์ จะอุโฆษะชื่นชม ผูกพันและมั่นคตินิยม ยุติก้มพะนอเงิน O เสนาพฤฒามุขะอมาตย์ นรชาติชวนเชิญ กิจจาประชาพิศะประเมิน ฤจะเกินสมรรถเขา O คือใจไฉนจะมุจะมั่น กิจะทันลุบันเทา- ขับข่มและล่มทุขะระเร้า ชนะเขลากำจัดเข็ญ O เมื่อวัตถุรัดกมละชน สุขะปรนก็เปลี่ยนเป็น- ลุ่มหลงพะวงระยะ ฤ เว้น ตละเห็นก็โหยหา O ไขว่ขวายตะกายกิติเมลือง จิตะเปลื้องเพราะปลอดปรา- รมภ์ควรกระบวนพิเคราะห์เหมาะภา- วะสถานะภาพตน O ควรหรือกระพือมุหะกระสัน ธนะคั้นนะใจคน ควรฉันทะมั่นประทุษะฉล ยุติกละกล้ำกลาย O เงินชาติปลาตะก็เพราะพิษ- ทุจริตะเรียงราย แดนไทยก็ไทยล่ะนะจะขาย ธนะถ่ายลุถังถุง O ปากพูดพิสูจนะ ฤ เห็น ฉละเป็นเพราะโฉดปรุง เงินชาติ ฤ อาจปะทะพยุง- ทุขะพุ่งจะเผาผลาญ O ชนเอยผิว์เผยบทะกลี กรรมะมีเพราะใจมาร ขอสัตย์พิพัฒนะจะคว้าน- วิญญาณะจองจำ O ชนเอยผิว์เผยฉละประดา คุณะค่าก็ควรคำ- หมู, หมา, ระกา-กุละระยำ เพราะกระทำกะแดนตน
Create Date : 27 ธันวาคม 2554
Last Update : 26 มิถุนายน 2561 6:57:41 น.
44 comments
Counter : 1514 Pageviews.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.156.148 วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:20:40:14 น.
โดย: medkhanun IP: 202.28.45.10 วันที่: 28 ธันวาคม 2554 เวลา:6:36:01 น.
โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 29 ธันวาคม 2554 เวลา:5:25:22 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:5:24:13 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.158.79 วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:20:08:13 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.169.222 วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:21:09:20 น.
โดย: พธู วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:22:32:41 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.169.222 วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:0:17:59 น.
โดย: น้องฟาง IP: 180.180.220.9 วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:12:20:21 น.
โดย: Peakroong วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:16:29:35 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.158.62 วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:16:37:40 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.158.62 วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:16:41:27 น.
โดย: medkhanun วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:21:15:49 น.
โดย: Witch IP: 118.172.111.184 วันที่: 3 มกราคม 2555 เวลา:10:59:04 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 3 มกราคม 2555 เวลา:21:19:13 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.159.217 วันที่: 4 มกราคม 2555 เวลา:0:37:13 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.159.39 วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:15:12:17 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:17:16:18 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.159.39 วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:21:03:58 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.159.39 วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:21:13:27 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:5:31:39 น.
โดย: Witch IP: 118.172.97.233 วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:9:13:35 น.
โดย: Witch IP: 118.172.97.233 วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:9:20:41 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:10:27:53 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.159.231 วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:14:29:57 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:15:43:08 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.159.231 วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:22:52:42 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:6:11:15 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.154.118 วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:14:47:56 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.147.227 วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:16:41:50 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:19:36:08 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.147.227 วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:22:05:27 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.147.227 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:0:40:52 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.147.227 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:3:06:44 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:9:46:11 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:10:21:46 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:16:59:46 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.151.221 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:23:21:04 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.151.221 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:23:28:22 น.
โดย: บุษบามินตรา IP: 79.221.152.114 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:12:08:41 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:21:33:11 น.
โดย: เอบีซี IP: 101.98.149.221 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:17:46 น.
โดย: L_ชฎิลมือใหม่ IP: 192.168.1.122, 171.96.12.165 วันที่: 20 พฤษภาคม 2555 เวลา:0:20:52 น.
โดย: สดายุ... วันที่: 20 พฤษภาคม 2555 เวลา:8:28:04 น.
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [? ]
O ใช่แน่หรือ ? .. O O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ? ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว- แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์ เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์ ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
"O ใจความจะลามนยะกระทบ
ดละภพะในดวง-
จิตผู้เสาะรู้รหัสะปวง
บทะหวงจะหวนหา"
"บทะหวงจะหวนหา"..555