|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
O กรรตุวาจก .. O
O ปัง ! -ค้อนขจร, รหัสะเลศ- ก็ลุ-เจตะแจ้งใจ โดยกฏและบท, ฉละสมัย- อุปไมยจะเปรียบเหมือน O กล่อมเห่และเล่หะก็สยาย เพาะอุบายะบิดเบือน พร้องคุณ-อดุลยะเสมือน- รวิเลื่อนประภาพล้อม O ไพศาลประการคุณะประดา บ ระอาจะอด-ออม เสียงแว่ว บ แล้วดุจะจะหลอม- คุณะย้อมกะวิญญาณ O เลอเลิศประเสริฐะบริบท ฤ ประพจน์จะเปรียบปาน ล้ำแถน ฤ แมน, สิริพิศาล- ก็ตระการะเกริกไกร O ปานเทพ, วิเลปนะประทิ่น รสะกลิ่นระโรยไกล พลิ้วผ่าน, สุมาลยะไฉน- มธุ-ใคร่จะเทียมเขา ? O โหมเห่ประเล่หะทิพะคีต- ะประณีตะกล่อมเกลา ภาพซึ่งคะนึงฉลุเฉลา ก็คละเคล้าประโลมขวัญ O ภาพซึ้งระรึงยุคะสมัย- ะประไพก็รำพัน พร้อมเสียงระเรียง, ภวะสวรรค์- ก็ถวัลยะวับวาม O เพ่งปากและพากยะประเมิน สรเสริญ สิ เกินงาม พลิกยุคะปลุกบุรพะยาม ฤ จะห้าม กะ ตามหา ? O โอ-โสตอุโฆษปะเหลาะเพราะคัม- ภิระคำ ผิ อ้อคา เอนลู่จะบูรณะสถา- นะสภาวะทาสตน O ฉาบฉวย .. เพราะด้วยตรรกะประมวล นยะจวนจะอับจน ภาพสร้าง .. ระหว่างพฤติวิกล ดุจะล้นเพราะแรงไหล O เอาทารประสาระมธุรส บริบทะเพี้ยงใบ- ไม้หล่นระคนคติพิสัย- ะจะไว้ประคองหวัง O เพียบแพงเพราะแปลงธิระจริต- ะกระบิดกระบวน, บัง- ร่มเยาวะเมาหะคละประดัง ฤดิคลั่ง ก็ ช่วยขาน O เสียงค้อนขย้อนขยะแขยง เพราะตะแบงนะเบ่งบาน เสียงคลั่งประนังนยะผสาน ก็สะท้านสะเทือนไท O พลุกพล่านบุราณคตินิยม- ะระดม, จะครื้นใด- เทียบเทียม-เพราะเปี่ยมมุหะ ณ นัย- ะนะใคร่จะอวดเขา O โยงยึดประพฤติปทัสถาน ก็ตระหง่าน สิ รูปเงา ล้อมวงประจงฉลุเฉลา คติเมาหะครอบเมือง O ใช่ผู้จะชูทิฐิวิภาษ บทะปราชญ์ นะ เปล่าเปลือง ใช่ผู้จะรู้นยะยะเยื้อง ฉละเปลื้อง มุ ปรักปรำ O โหมเห่ ก็ เล่หะทุพพล อนุสนธิด้วยธรรม ปรุงบทเหมาะรส .. เฉพาะจะสัม- ผัสะค้ำ กะ เคลือบแคลง O ขรมโข สิ โมฆะกรรมะบท อติพจนะเพียบแพง พร้อมเพ็ญก็เป็นยุวะแขนง- เหมาะตะแบง จะแทงใบ O ตั้งกองสนองคุรุมุหัน- ตะผจัญก็ปวดใจ หมอบคู้ บ รู้ฤตุ, อุทัย ชละไหล ฤ หม่นหลัว O โอ-เยาวะเคล้าพิษะขนบ ดุจะกบ นะ หมอบกลัว พู้นฟ้าวลาหกะ ฤ ถัว- นิละทั่วกะลาตน ? O เสียงค้อนสะท้อนพฤติวิกฤต ตรรกะ, คิด, วิถีคน ตอกย้ำกลัมพ-ระและฉล- ะกระวน นะ ไป่เว้น O เพียงค้อนขจรกฏะประหลาด บริภาษ ก็ เพียบเพ็ญ ฝุ่นฝนละหล่นนภะกระเซ็น รณะเข่น จะ เร้นคอย !
Create Date : 03 สิงหาคม 2560 |
Last Update : 30 ธันวาคม 2563 8:00:42 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1527 Pageviews. |
|
|
|
โดย: บุษบามินตรา IP: 178.2.77.22 วันที่: 7 สิงหาคม 2560 เวลา:15:08:45 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 7 สิงหาคม 2560 เวลา:19:51:35 น. |
|
|
|
โดย: บุษบามินตรา IP: 178.2.77.22 วันที่: 8 สิงหาคม 2560 เวลา:1:38:29 น. |
|
|
|
โดย: สดายุ... วันที่: 8 สิงหาคม 2560 เวลา:6:17:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|
"O เสียงค้อนขย้อนขยะแขยง
เพราะตะแบงนะเบ่งบาน
เสียงคลั่งประนังนยะผสาน
ก็สะท้านสะเทือนไท"
มินตราเรียนมาว่า ฉันท์ เป็นของ"ชนชั้นสูง" ในรั้วในวัง(เพราะมีโอกาสเรียนหนังสือ)
และใช้ภาษาสันสกฤต อันเป็นภาษาพวก"พราหมณ์" ( ผู้ท่องคัมภีร์พระเวท = นักวิชาการ)
ทึ่งมากที่เห็นสดายุใช้ภาษาไทยพื้นพื้น ประกอบเป็นฉันท์ได้ตามกฎเกณฑ์ในการสร้างฉันท์ แสดงว่า "แตกภาษา"ไทยมาก เก่ง...