Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

ศิลปะหริภุญชัย ชวนหลงใหลที่ลำพูน

โดย ปิ่น บุตรี



     "หริภุญชัย" นามนี้คืออดีตอาณาจักรอันรุ่งโรจน์ ปัจจุบันคือจังหวัดลำพูน

เมืองหริภุญชัย ในตำนานยังเล่าว่าการเกิดขึ้นของเมืองหริภุญชัยสัมพันธ์กับความเชื่อทางพุทธศาสนา ซึ่งพระพุทธเจ้าเคยเสด็จเยือนเพื่อโปรดสัตว์ และทรงพยากรณ์ว่าในอนาคตจะเกิดเป็นเมืองหริภุญชัยขึ้น รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุของพระองค์ด้วย

จากนั้นอีกหนึ่งพันปีต่อมา ฤาษี 5 องค์ได้ร่วมกันสร้างเมือง พร้อมกับเชิญพระนางจามเทวีแห่งเมืองละโว้มาปกครอง

พระนางจามเทวี ท่านนี้เมื่อเสด็จมาได้นำช่างฝีมือและผู้มีความรู้แขนงต่างๆมาวางรากฐานทางการเมือง การปกครอง ความเชื่อ งานศิลปกรรม วัฒนธรรมประเพณี เอาไว้ จนผู้คนต่างยกย่องว่าหริภุญชัยในยุคพระนางจามเทวี คือยุคที่รุ่งเรืองสุดๆ

     เมืองหริภุญชัย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกวง ผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมเมืองทั้ง 4 มน จากหลักฐานระบุว่าเมืองนี้เริ่มต้นมีพัฒนาการมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 14 แล้วเจริญรุ่งเรืองเป็นเมืองศูนย์กลางทางภาคเหนือลง อย่างมากในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-17

กระทั่งในปี พ.ศ.1835 หริภุญชัยถูกพญามังรายแห่งเชียงรายเข้ายึดครอง ทำให้บทบาททางการเมืองการปกครองของเมืองนี้ยุติลง แต่ว่าก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาและศูนย์กลางด้านศิลปวัฒนธรรมอีกพักใหญ่ก่อนย้ายฐานมายังอาณาจักรล้านนา ราชธานีที่เกิดใหม่ในเวลาต่อมา

มาวันนี้ แม้เวลาจะผ่านมานับพันปีแล้ว แต่มรดกแห่งหริภุญชัยหลายๆอย่างยังคงอยู่ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษากัน โดยเฉพาะในด้านงานศิลปกรรมที่แนบแน่นกับพุทธศาสนาที่ยังคงความอมตะมาจนถึงทุกวันนี้

ใครที่อยากจะชื่นชมงานพุทธศิลป์ที่มีรูปแบบเฉพาะตัวของศิลปะหริภุญชัย ในลำพูนมีวัดที่โดดเด่นเป็นเอกอุอยู่ 2 วัดด้วยกัน ซึ่งวัดแรกผมขอแนะนำที่ วัดพระบรมธาตุหริภุญชัย ที่ขึ้นชื่อลือชาด้วยพระธาตุหริภุญชัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลำพูน

     พระธาตุหริภุญชัย สร้างใน ปี พ.ศ. 1607 โดย พระเจ้าอาทิตยราชเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ประกอบด้วย ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง

ตามตำนานพระธาตุหริภุญชัยกล่าวว่า ลักษณะขององค์พระธาตุที่สร้างแรกเริ่มเดิมทีเป็นไปตาม พุทธทำนาย คือ เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมทรงปราสาท สูง 12 ศอก มีซุ้มทวาร เข้า- ออกทะลุกันได้ทั้งสี่ด้าน มีปราสาทศิลาแลงสี่เหลี่ยมอยู่มุมละองค์

เมื่อพญามังราย ยึดเมืองหริภุญชัย ได้โปรดให้บูรณะซ่อมแซมองค์พระธาตุเสียใหม่ พร้อมเปลี่ยนรูปแบบจากทรงปราสาทกลายเป็นทรงเจดีย์ฐานกลมแบบทรงลังกา ก่อนที่จะบูรณะอีกอย่างต่อเนื่องจนเป็นเจดีย์ทรงกลมระฆังแบบล้านนามาจนทุกวันนี้

ความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุหริภุญชัยนั้นดูได้จากพุทธศาสนิกชนที่แวะเวียนกันมาสักการะไม่ได้ขาด โดยเฉพาะวันพระใหญ่นั้นจะเนืองแน่นทีเดียว ซึ่งที่นั่นมีชุดเทียนนพเก้าเอาไว้บริการผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายด้วย

     นอกจากพระธาตุหริภุญชัยแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีเจดีย์ศิลปะหริภุญชัยอีก 2 องค์สำคัญให้ทัศนากันอีก นั่นก็คือ

สุวรรณเจดีย์(ปทุมเจดีย์หรือพระธาตุเหลี่ยม) เจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งตามประวัติเล่าว่าพระนางปทุมเจดีย์ อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราชทรงสร้างเจดีย์องค์นี้พร้อมกับพระสวามีที่สร้างพระธาตุหริภุญชัย สุวรรณเจดีย์ มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนชั้นละ 3 ซุ้ม ลดหลั่นกันไปจำนวน 5 ชั้น

พระเจดีย์เชียงยืน(เจดีย์เชียงยัน) เป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม ทรงปราสาท 5 ยอด มีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ทั้ง 4 ด้าน โดยถัดจากเรือนขึ้นไปเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นสวยงาม

จากวัดธาตุหริภุญชัย วัดแรก ผมขอต่อด้วยวัดที่สองนั่นก็คือ วัดจามเทวีหรือวัดกู่กุด วัดนี้โดดเด่นไปด้วยพระเจดีย์กู่กุดอันเก่าแก่สวยงามจนได้รับการยกย่องให้เป็นอันซีนไทยแลนด์



     เจดีย์กู่กุดหรือสุวรรณจังโกฏ ตามตำนานพื้นเมืองล้านนาเล่าว่า พระเจ้ามหันญศ โอรสพระนางจามเทวีโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของพระราชมารดา

เหตุที่ผู้คนเรียกขานเจดีย์องค์นี้ว่า กู่กุด มี 2 ที่มา คือ เดิมเป็นเจดีย์มียอดเป็นปล้องไฉนแต่ตอนหลังชำรุดหักหายไป เลยถูกเรียกว่า กู่กุด ที่หมายถึง ยอดกุดด้วน ส่วนอีกสาเหตุหนึ่ง อาจจะกู่กุด หมายถึง เจดีย์ซึ่งเป็นกุฎิของพระสงฆ์ก็เป็นได้ ก่อนจะเรียกเพี้ยนมาเป็นกู่กุดจนทุกวันนี้

เจดีย์กู่กุด มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง มีซุ้มพระพุทธรูปยืนปางประธานอภัยประดิษฐานโดยรอบด้านละ 3 ซุ้ม ลดหลั่นกันไป 5 ชั้น รวมทั้งหมด 60 องค์ เช่นเดียวกับสุวรรณเจดีย์ ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย

นับเป็นงานพุทธศิลป์ที่มีลักษณะอันโดดเด่นซึ่งเป็นดังเอกลักษณ์ของศิลปะหริภุญชัย(เจดีย์แบบหริภุญชัย)อันทรงคุณค่ามาจนทุกวันนี้

นอกจากกู่กุดแล้ววัดจามเทวียังมีเจดีย์ที่น่าสนใจอีกองค์หนึ่งคือรัตนเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมที่ยอดหักหาย มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนทั้งแปดด้าน

     นอกจากวัดชื่อดังทั้งสองแห่งแล้ว ในลำพูนยังมีวัดที่มีงานศิลปะหริภุญชัยอันโดดเด่นให้ศึกษากันอีกที่ วัดพระยืน ที่ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองหริภุญชัย วัดนี้สันนิษฐานว่าสร้างสมัยพญาธรรมมิกราช ผู้ครองนครหริภุญชัย ในพุทธศตวรรษที่ 18 ต่อมาถูกทิ้งร้างจนกระทั่งใน พ.ศ. 1912 สมัยพระเจ้ากือนา(ที่มีลิ่วล้อบางคนพยายามเขียนภาพพระเจ้ากือนาให้ละม้ายคล้ายกับหน้าเหลี่ยมของใครบางคนอย่างตั้งใจ) ได้โปรดให้บูรณะเพื่อถวายเป็นที่จำพรรษาของพระสุมนเถระ วัดนี้มีเจดีย์พระยืน มีซุ้มจระนำประดิษฐานพระยืนสูง 9 ศอกอันสวยงามเป็นเอกลักษณ์

สำหรับงานพุทธศิลป์ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งนั้นก็คือ กู่ช้าง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเป็นที่ฝังศพช้างคู่บารมีของพระนางจามเทวี มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงลอมฟาง สูงราว 8 เมตร ส่วนปลายตัด คล้ายเจดีย์ที่พุกาม

     และนั่นก็คือบางส่วนที่น่าสนใจของงานพุทธศิลป์ ศิลปะหริภุญชัยอันโดดเด่นชวนหลงใหลสำหรับผู้ชื่นชอบในงานศิลปกรรมด้านนี้ ซึ่งการที่ลำพูนถูกเสนอให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น ก็เป็นการดีที่จะช่วยเก็บเมืองเล็กๆอันสงบงามที่ทรงคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมเมืองนี้ไว้

เพราะสำหรับลำพูนแล้ว นี่คือเมืองเล็กที่จัดอยู่ในประเภท

"Small is Beautiful"

ขอขอบคุณ
ที่มา :
ผู้จัดการออนไลน์ 1 เมษายน 2552


H O M E




 

Create Date : 30 ตุลาคม 2552
0 comments
Last Update : 30 ตุลาคม 2552 21:07:28 น.
Counter : 2426 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.