Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
เสรีภาพ การปฏิวัติประชาชน ธงไตรรงค์ และเมืองร้อน

คอลัมน์ eye wide open

โดย ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา


*นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเยือนพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ของฝรั่งเศสอาจจะพุ่งเป้าไปที่ภาพโมนาลิซา หรือ La Giocondo อันโด่งดังของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี เป็นหลัก หากแต่สำหรับชาวฝรั่งเศสแล้ว ภาพ Liberty Leading the People ของเออแชน เดอลาครัวซ์-Eugene Delacroix (1830) ดูจะมีนัยทางการเมืองที่เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์และพัฒนาการของประชาธิปไตยในประเทศที่เคยถูกปกครองด้วยระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์มายาวนานแห่งนี้อย่างยากที่จะหาภาพใดมาแทนได้

     หลังการปฏิวัติฝรั่งเศสในปี 1789 การเมืองฝรั่งเศสหาได้เดินหน้าเป็นเส้นตรงไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย หากแต่ต้องวกไปเวียนมาทั้งจากการสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิของ นโปเลียนมหาราช ในปี 1804 รวมทั้งความพยายามในการนำประเทศกลับเข้าสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อีกครั้งภายใต้การปกครองของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 หลังนโปเลียนร่วงหล่นจากอำนาจ

ในเดือนกรกฎาคม ปี 1830 ปารีสลุกเป็นไฟ เมื่อประชาชนพร้อมใจกันออกมาเดินขบวนประท้วงกษัตริย์ที่เริ่มปกครองบ้านเมืองอย่างไม่เป็นธรรมด้วยลืมไปว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ภายใต้ความยินยอมของประชาชน หาใช่กษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เช่นบุรพกษัตริย์ในอดีต

     การประท้วงนำไปสู่เหตุการณ์จลาจล ซึ่งเริ่มต้นในเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม เมื่อมีการก่อแนวรั้วกั้นระหว่างประชาชนและกองทหาร การเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองฝ่ายทวีความรุนแรงขึ้น หลังมีการเปิดฉากยิงเข้าใส่กันจนทำให้มีประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ในคืนนั้นแม้ปารีสจะเงียบงัน แต่หาได้หลับใหล เช้าวันที่ 28 กรกฎาคม สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นจนนายทหารต้องเร่งเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 ซึ่งกำลังพักผ่อนอยู่ในพระราชวังนอกกรุงปารีสเป็นการด่วน เพื่อแจ้งว่า 'มันไม่ใช่การจลาจลธรรมดา หากแต่เป็นการปฏิวัติพระเจ้าค่ะ'

     พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 และบรรดาเสนาบดีทั้งหลายต่างเก็บตัวเงียบ ไม่มีใครเดินทางมายังกรุงปารีส ขณะที่เหล่านักคิดและปัญญาชนในกรุงปารีสได้รวมตัวกันเพื่อเร่งหาทางออก ในวันที่ 29 กรกฎาคม กองกำลังปฏิวัติได้บุกยึดพระราชวังตุยเลอรีส์และพระราชวังอื่นๆ รวมทั้งพระราชวังลูฟวร์ ในที่สุดกองกำลังปฏิวัติได้บุกเข้ายึดศาลาว่าการกรุงปารีส โดยนักการเมืองสายเสรีนิยมได้จัดตั้งรัฐบาลรักษาการขึ้น แม้จะยังมีการต่อสู้หลงเหลืออยู่ในบางจุด แต่การปฏิวัติได้สำเร็จลุล่วงลงแล้วโดยกองทัพประชาชน

     เออแชน เดอลาครัวซ์ (Eugene Delacroix) ศิลปินฝรั่งเศสในยุคโรแมนติก เลือกที่จะบอกเล่าเรื่องราวของการปฏิวัติ ปี 1830 หรือที่เรียกกันว่า การปฏิวัติเดือนกรกฎาคม (July Revolution) โดยเจาะจงบรรยายเหตุการณ์ในวันที่ 28 กรกฎาคม 1830 ผ่านภาพ Liberty Leading the People เมื่อประชาชนจากหลายชนชั้นเข้าร่วมกันต่อสู้ จากชายหนุ่มชนชั้นกลางสวมหมวกทรงสูงผู้กำปืนยาวไว้แน่น กรรมกรใส่ เชิ้ตปลดกระดุมชูดาบโค้งในมือด้วยแววตามุ่งมั่น รวมถึงหนุ่มน้อยวัยเยาว์ผู้ถือปืนสั้นสองมือโดยไม่หวาดหวั่น

     ในวันนั้น ผู้คนกว่า 8,000 คนร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันหลังแนวรั้วกั้นโดยไม่มีผู้นำที่เด่นชัด หากแต่ในภาพเขียน เดอลาครัวซ์ เลือกเทพีกรีกโบราณในนามเสรีภาพให้เป็นสัญลักษณ์นำผู้คนลุกขึ้นสู้ หลังประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องสละชีพเพื่อ ปูทางไปสู่เสรีภาพอันยิ่งใหญ่

     ในภาพเขียนของเดอลาครัวซ์ เทพีเสรีภาพถือธงสีแดง ขาว น้ำเงิน ที่สืบทอดมาจากการปฏิวัติปี 1789 ธงไตรรงค์นี้คือสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้ของประชาชนฝรั่งเศส หากแต่ในปี 1815 เมื่อราชวงศ์บูร์บงส์ (Bourbons) กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ได้มีการนำธงสีขาวประจำราชวงศ์มาใช้แทน ดังนั้นในการปฏิวัติปี 1830 ธงไตรรงค์จึงถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อตอกย้ำให้ผู้คนระลึกถึงจิตวิญญาณการต่อสู้เพื่ออิสรภาพและเสรีภาพในอดีต

     ผลจากการปฏิวัติเดือนกรกฎาคม ทำให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 ถูกบีบบังคับให้สละราชสมบัติแก่พระญาติที่ชื่อ หลุยส์-ฟิลิป ดยุกแห่งออร์ลีนส์ จากนั้นพระองค์ต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ การปฏิวัติเดือนกรกฎาคมก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการปกครองขนานใหญ่ในฝรั่งเศส ไม่มีใครเอ่ยถึงกษัตริย์ ผู้มีศักดิ์และสิทธิ์จากเบื้องบนอีกต่อไป มีเพียงแต่กษัตริย์แห่งปวงชนเท่านั้นที่จะดำรงอยู่ได้ ก่อนที่ฝรั่งเศสจะเดินเข้าสู่การปกครองแบบสาธารณรัฐเต็มรูปแบบในเวลาต่อมา

     กษัตริย์จากไป แต่ศิลปะคงอยู่ ภาพ Liberty Leading the People ของเออแชน เดอลาครัวซ์ ถูกนำมาจัดแสดงครั้งแรก ในปี 1831 โดยรัฐบาลได้ซื้อไว้เป็นสมบัติของชาติในราคา 3,000 ฟรังก์ ภาพนี้ถูกแขวนไว้ในห้องแสดงภาพที่พระราชวังลุกซอมบูร์กอยู่ 2-3 เดือน ก่อนจะถูกปลดลงเนื่องจากมีภาพสื่อสารข้อความทางการเมืองที่โจ่งแจ้งและเป็นการกระตุ้นความรู้สึกมากเกินไป ต่อมาภาพนี้ถูกนำมาแสดงอีกครั้งเป็นระยะเวลาสั้นๆ ในปี 1848 และ 1855 ก่อนมันจะถูกนำไปแขวนไว้ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ตั้งแต่ปี 1847 เป็นต้นมา เพื่อให้ผู้คนทั่วโลก ได้ศึกษาในฐานะงานศิลปะชิ้นสำคัญแห่งการปฏิวัติ รวมทั้งได้ทึกทักในฐานะเป็นแรงบันดาลใจแห่งเสรีภาพอันยิ่งใหญ่ซึ่งมนุษยชาติล้วนโหยหา นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนั้นเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน ที่การปฏิวัติประชาชนยังคงถูกเรียกหาอยู่เสมอเมื่อการปกครองไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเขตร้อนที่อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีสูงกว่าปารีสในเดือนกรกฎาคม :D (หน้าพิเศษ DLIFE)

ขอขอบคุณ
ที่มา :
ประชาชาติธุรกิจ 8 กันยายน 2551 หน้า 8

H O M E




Create Date : 09 กันยายน 2551
Last Update : 9 กันยายน 2551 21:19:29 น. 0 comments
Counter : 1143 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.