Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
30 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
ตลาดบก 10แหล่ง ย่านกรุงเก่า

ภูมิบ้านภูมิเมือง

ปรีดี พิศภูมิวิถี



*ปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่า ความนิยมเที่ยวตลาดบกและตลาดน้ำของคนเมืองจะมีเพิ่มมากขึ้นกว่าก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความโหยหาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอดีตที่เคยพบมาในชีวิต

หลายคนมีโอกาสท่องเที่ยวไปตามชุมชน หมู่บ้านทั้งในและต่างประเทศเพื่อเก็บเกี่ยวสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ในอดีตเคยใช้ชีวิตอยู่อย่างไร เคยหยิบใช้สิ่งของอะไรบ้าง สำหรับในประเทศไทยแล้วหากจะประมาณจำนวนของตลาดที่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วคงมีมากเกินคณานับ ทั้งตลาดบกและตลาดน้ำ ซึ่งกลายเป็นจุดขายของจังหวัดต่างๆ กันไปแล้ว

     ที่อยุธยาก็มีตลาดเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่าย้อนอดีตกลับไปกว่า 400 ปีนั้น อยุธยาเป็นตลาดที่มีความมั่งคั่งและคับคั่งมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกตะวันออก เอกสารหลักฐานที่พบที่ชื่อ คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม หรือเป็น คำพรรณนาภูมิสถานพระนครศรีอยุธยา ที่เขียนขึ้นก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างน้อยแสดงให้เราเห็นภาพความขวักไขว่ของคนเมืองดังนี้

“ครั้นถึงระดูลมสำเภาพัดเข้ามาในกรุง เปนมรสุมเทศกาลพวกลูกค้าพานิชสำเภาจีนแลลูกค้าแขกสลุปลูกค้าฝรั่งกำปั่น ลูกค้าแขกกุศราช และพวกลูกค้าแขกสุรัด แขกชวา มาลายู แขกเทศ ฝรั่งเศส ฝรั่งโลสง โปรตุเกศ วิลันดา อิศปันยอน อังกฤษ แลฝรั่งดำ ฝรั่งเมืองลังกุนี แขกเกาะ เปนพ่อค้าพานิชคุมสำเภาสลุปกำปั้นแล่นเข้ามาทอดสมออยู่ท้ายคู ขนสินค้าขึ้นมาไว้บนตึกห้างในกำแพงพระนครกรุงศรีอยุทธยา ตามที่ของตนซื้อแลเช่าต่างๆ กัน เปิดร้านห้างตึกฃายของตามเพศตามภาษา 1”

จึงแสดงให้เห็นว่าเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยานี้เป็นตลาดที่ใหญ่และมีสินค้ามากมายจากทั่วโลก

เมื่อมีเอกสารหลักฐานอยู่เช่นนี้ จึงน่าจะเผยแพร่ความรู้ให้เห็นว่าตลาดในอยุธยาตั้งอยู่ที่ใด เพราะการตั้งถิ่นฐานหย่อมย่านบ้านช่องของคนอยุธยาก็จะสอดคล้องกับแหล่งค้าขาย การคมนาคม ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่น่าสนใจทั้งสิ้น

     ดังนั้นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ในฐานะแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของประเทศจึงกำหนดจัดตลาดบกในพิพิธภัณฑ์ขึ้น เพื่อจำลองให้เห็นว่าย่านการค้าพาณิชย์และสินค้าที่ขายในสมัยอยุธยามีอะไรบ้าง สิ่งที่ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ตั้งใจแสดงก็คือข้อมูลจากเอกสารสำคัญเช่นคำให้การฯ นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากที่จำทำให้รู้จักตนเอง คือรู้จักอยุธยามากขึ้นว่าดำรงอยู่ได้อย่างไรกว่า 400 ปี

สุบงกช ธงทองทิพย์ ภัณฑารักษ์ ระดับชำนาญการพิเศษ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ความตั้งใจของพิพิธภัณฑ์มิได้จำกัดอยู่เพียงการจัดแสดงโบราณวัตถุอันมีค่าในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังต้องให้ความรู้เกี่ยวกับเมืองอยุธยาอย่างถูกต้อง โดยอาศัยหลักฐานสมัยอยุธยา และเพื่อให้คนทั่ว ไปได้รับรู้ว่าบ้านเรือนของคนในอยุธยาอยู่ที่ใด เส้นทางการคมนาคมคืออะไร มีตลาดที่ใด และสินค้าที่ซื้อขายกันคืออะไร ดังนั้นเพื่อให้คนอยุธยาและผู้ที่สนใจทั่วไปได้รับทราบข้อมูลที่ดีมีประโยชน์แล้วจึงจะได้จัดจำลองตลาดบกขึ้นโดยอาศัยข้อมูลจากคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม หรือคำพรรณนาภูมิสถานพระนครศรีอยุธยา”

ตลาดบกที่จะเกิดขึ้นเป็นตัวอย่างนี้ประกอบด้วยย่านการค้าในอยุธยา 10 แห่งคือ

1. ย่านประตูท่าช้างพระราชวังบวรฯ หรือย่านตลาดหน้าวังจันทร์เกษม ซึ่งเป็นตลาดที่ขายของสดเช้าเย็น มีกิจกรรมอาหารต่างๆ ขาย

2. ย่านป่าพร้าว ตามที่คำพรรณนาบันทึกไว้ว่า “ย่านป่ามะพร้าวขายมะพร้าวห้าวปอก มะพร้าวอ่อน มะพร้าวเผา 1” มีสินค้าที่เกี่ยวกับมะพร้าวและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เกี่ยวกับมะพร้าว และขนมต่างๆ ที่มะพร้าวเป็นส่วนประกอบ

3. ย่านป่าถ่าน พบข้อความในคำพรรณนาว่า “ถนนย่านป่าถ่าน มีร้านตลาดของสรรพผลไม้ ส้มกล้วยของสวนในแลสวนนอกต่างต่าง แลมีร้านฃายของสดเช้าเยน ชื่อตลาดป่าถ่าน” ดังนั้น จึงเป็นย่านซื้อขายผลไม้ และสรรพขนมในอยุธยา

4. ย่านหน้าวัดมหาธาตุ “ตลาดหน้าวัดพระมหาธาตุ มีร้านตลาดขายเสื่อตะนาวสีแลเสื่อแขกเครื่องอัฐ มุรีขาน” ขายข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเช่นไม้กวาด พัด เสื่อ

5. ย่านป่าโทน คำพรรณานาบันทึกว่า “ถนนย่านป่าโทน มีร้านขายทับ โทน เรไร ปีแก้วจังหน่อง เพลี้ย ขลุ่ย แลหีบไม้อุโลกไม้ตะแบกไม้ขนุนใส่ผ้า แลช้างม้ากระดาษอู่เปลศาลพระภูมิจะเวจ ขียนเทวรูปเสื่อลำแพน ปลาตะเพียนใบลานจิงโจ้ ชื่อตลาดป่าโทน 1” แสดงว่ามีทั้งเครื่องดนตรีและเครื่องใช้อื่นๆ รวมทั้งปลาตะเพียนใบลานที่มีขายกันทุกวันนี้ด้วย

6. ย่านป่าขนม มีข้อมูลบันทึกว่า “ถนนย่านป่าขนม ชาวบ้านย่านนั้นทำขนมฃาย แลนั่งร้านฃายขนมชะมดกงเกวียน สามเกลอ หินฝนทอง ขนมกรุบ ขนมพิมพ์ถั่ว ขนมสำปะนีแลขนมแห้งต่างๆ ชื่อตลาดป่าขนม 1” จึงกำหนดให้ขายขนมโบราณต่างๆ เช่นขนมสามเกลอและขนมไทยต่างๆ

7. ย่านขนมจีน ไม่ได้ขายขนมจีนน้ำยาน้ำพริกแต่อย่างใด แต่หมายถึงขนมของคนจีนเช่นขนมจันอับ ดังที่มีข้อความว่า “ถนนย่านขนมจีน มีร้านโรงจีนทำขนมเปีย ขนมโก๋ เครื่องจังอับ ขนมจีนแห้งฃายเปนร้านชำ ชื่อตลาดตลาดขนมจีน 1”

8. ย่านชีกุน เป็นย่านของพวกแขกมุสลิม มีอาหารของกลุ่มมุสลิม เช่น ล่อเตียง ข้าวบุเหร่า มาขาย

9.ย่านป่าตอง เป็นแหล่งใบตองสำคัญที่มีการซื้อขายกันทั่วอยุธยา และมีขนมต่างๆ ที่ใช้ใบตองห่องมาขาย

10. ย่านท่าขัน อยู่ทางเหนือของเกาะเมือง เป็นแหล่งขายข้าวปลาอาหารสำหรับผู้เดินทางไปมาหรือสำหรับขุนนางที่จะเข้าวัง จึงกำหนดให้ขายอาหารการกินเช่นข้าวแกงต่างๆ

การจำลองตลาดบกขึ้นมาครั้งนี้ ยังมีแผนที่เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาให้ได้สังเกตและเรียนรู้อีกด้วยว่า ย่านตลาด ที่ตั้งชุมชน และสิ่งสำคัญในพระนคร เช่นวัดหรือพระราชวังนั้นอยู่ที่ใด เท่ากับว่านอกจากจะรู้ว่าในสมัยอยุธยามีอะไรซื้อขายแล้ว ยังได้รับความรู้เรื่องภูมิสภานพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย

     พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา กำหนดจัดตลาดบกครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม ศกนี้ ตั้ง แต่เวลา 09.00 น. จึงน่าจะเป็นอีกแห่งหนึ่งที่สมาชิกในครอบครัวและผู้สนใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สามารถไปหาความรู้และความเพลิดเพลินได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้มีการเสวนา สาธิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกมาก


ขอขอบคุณ
ที่มา :
ข่าววันที่ 29 กันยายน 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ
ภาพประกอบจาก www.phasathai.212cafe.com



H O M E



Create Date : 30 กันยายน 2552
Last Update : 30 กันยายน 2552 20:45:12 น. 2 comments
Counter : 1588 Pageviews.

 
การแสดงของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

น่าสนใจมากครับ

นำตลาดบกของกรุงศรีอยุธยาให้กลัมมามีชีวิตอีกครั้ง


โดย: Insignia_Museum วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:21:49:05 น.  

 
whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him


โดย: DA IP: 124.122.247.144 วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:18:29:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.