Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
8 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
ยูเนสโกให้"ปราสาทพระวิหาร" เป็นมรดกโลก-ตามคำขอเขมร


     กก.มรดกโลกประกาศให้ปราสาทพระวิหารของกัมพูชาเป็นมรดกโลกพร้อมตั้งกรรมการจาก 7 ปท. รวมทั้งไทย บริหารจัดการร่วมกับกัมพูชา สารพัดม็อบกดดัน"นพดล" รับผิดชอบ ศาล รธน.ชี้ขาดแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เข้าข่าย ม.190 หรือไม่ 8 ก.ค. ด้าน ผบ.สส.อัดด่วนสรุปกรณีต่างชาติหนุนเขมรเพราะไทยปฏิวัติ

     ในที่สุดที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยที่ 32 ที่เมืองควิเบกประเทศแคนาดา ประกาศให้ปราสาทพระวิหารของประเทศกัมพูชาเป็นมรดกโลกแล้ว โดยเมื่อเวลา 23.09 น. สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า คณะกรรมการพิจารณามรดกโลกขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) ได้ประกาศให้ปราสาทพระวิหารของกัมพูชาอายุนับพันปีเป็นมรดกโลก พร้อมกับเมืองเมลากา และเมืองจอร์จ ทาวน์ เมืองที่อยู่ติดช่องแคบมะละกาในมาเลเซีย และเขตเกษตรกรรมคุก เออร์ลีในปาปัวนิวกีนี ซึ่งนับเป็นพื้นที่แรกของประเทศที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

กรรมการมรดกโลกหนุนกัมพูชา

     นายปองพลอดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ให้สัมภาษณ์จากเมืองควิเบกว่า คณะกรรมการมรดกโลก 21 ประเทศมีเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารตามที่กัมพูชาเสนอ เพราะเข้าหลักเกณฑ์ 1 ใน3 ข้อสำหรับทางออกของไทย คณะกรรมการมรดกโลกจะตั้งคณะกรรมการจาก 7 ประเทศโดยมีไทยร่วมด้วย เข้ามาบริหารจัดการร่วมกับกัมพูชา ส่วนการพัฒนาพื้นที่พิพาทนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการมรดกโลก เพราะว่าการขึ้นทะเบียนทำเฉพาะแค่องค์ปราสาทเท่านั้น


     "การพิจารณาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร จากเดิมถูกจัดเป็นวาระพิจารณาลำดับที่ 4 แต่ได้เลื่อนเป็นลำดับท้ายสุดเพื่อให้ไทยและกัมพูชาได้มีเวลาหารือกันโดยไทยยังยืนยันในการขอเลื่อนการพิจารณาตามที่นายนพดลได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบ และประเด็นที่สองไทยยังยืนยันที่จะเสนอให้ขึ้นทะเบียนร่วมกัน เพื่อทำให้ความเป็นมรดกโลกสมบูรณ์ยิ่งขึ้น คณะกรรมการมรดกโลกได้ให้น้ำหนักกับคำชี้แจงของฝ่ายไทย จากก่อนหน้านี้มีการแจกเอกสารแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา แต่เมื่อมีการแจ้งเรื่องคำสั่งของศาลปกครองกลาง ก็มีการเรียกเก็บเอกสารดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนขึ้น โดยคณะกรรมการมรดกโลกใช้รายงานของสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ หรืออิโคโมส ในการพิจารณา ซึ่งการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจะต้องผ่านการพิจารณา 1 ใน6 ข้อที่กำหนดไว้และกัมพูชาได้ผ่านหลักเกณฑ์ข้อ 1 แล้วโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาความร่วมมือจากไทย" นายปองพลกล่าว



     นายปองพลกล่าวต่อว่าคณะกรรมการมรดกโลกยังเสนอทางออกให้แก่ไทย โดยให้เสนออุทยานปราสาทพระวิหารและพื้นที่ป่าสมบูรณ์เทือกเขาพนมดงรักซึ่งอยู่ในเขตไทยและให้สำรวจจัดทำข้อมูลแหล่งโบราณสถานในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อขอเสนอเป็นมรดกโลกให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตามที่ไทยส่งหนังสือการคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองให้คณะกรรมการมรดกโลกได้พิจารณา ซึ่งที่ประชุมแจ้งว่า ได้รับทราบ แต่การจะให้เลื่อนการพิจารณาปราสาทพระวิหารออกไปคงไม่ได้ เพราะได้เลื่อนมาครั้งหนึ่งแล้ว

นายปองพลกล่าวอีกว่าในการประชุมครั้งนี้มีกลุ่มคนไทยในแคนาดามาชูป้ายประท้วงนายนพดล กรณีกระทำไม่เหมาะสมเรื่องปราสาทพระวิหารด้วยโดยไม่ได้มีการยื่นหนังสือแต่อย่างใด


ชี้รมว.ต่างประเทศต้องรับผิดชอบ

     ม.ล.วัลย์วิภาจรูญโรจน์ นักวิจัยสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะกลุ่มประชาชนไทย กล่าวว่า หากคณะกรรมการมรดกโลกมีมติขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา ก็จะต้องมีการเคลื่อนไหวต่อให้รัฐบาลยกเลิกแถลงการณ์ร่วมที่นายนพดลทำไว้กับกัมพูชา เพราะหากไม่ยกเลิกแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยจะกระทบพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารที่เป็นฝั่งไทย แม้จะขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทก็ตาม


ม.ล.วัลย์วิภากล่าวว่ารัฐบาลต้องเร่งพิจารณาอย่างรวดเร็วแล้วว่าจะยกเลิกอย่างไร โดยเฉพาะนายนพดลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งกรมแผนที่ทหารที่เข้าไปแถลงรับรอง ก็ต้องร่วมรับผิดชอบ ส่วนยูเนสโกที่ไม่มีหนังสือตอบภาคประชาชนที่ยื่นเรื่องคัดค้าน แสดงเห็นว่ายูเนสโกเพิกเฉยต่อความคิดเห็นของประชาชนชาวไทยซึ่งน่าตำหนิมาก


     ด้านนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หากคณะกรรมการมรดกโลกมีมติขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยกัมพูชาฝ่ายเดียว สิ่งที่จะเคลื่อนไหวในส่วนของนักวิชาการและภาคประชาชนจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ต้องดำเนินการในทางระหว่างประเทศ ซึ่งมีหลายช่องทางที่จะทำหนังสือไปสอบถามเหตุผลว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทอย่างเดียวถือว่าไม่สมบูรณ์ จึงต้องการเหตุผลจากคณะกรรมการมรดกโลก และ 2.ในส่วนการเคลื่อนไหวในประเทศ เรื่องแถลงการณ์ร่วม ต้องทำให้ไม่มีผล ถ้ามีผลให้เสียดินแดน ครม.และนายนพดลต้องรับผิดชอบ


ศาลรธน.ชี้ขาด ม.190 วันที่ 8 ก.ค.

     วันเดียวกันคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีนายชัช ชลวร เป็นประธาน มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของ ส.ว. 77 คนและคำร้องของประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ส่งความเห็นของ ส.ส. 151 คนเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ว่าคำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาลงวันที่ 18 มิถุนายน 2551 เป็นหนังสือสนธิสัญญาตามรัฐธรรมนูญมาตรา190 วรรคสองซึ่งต้องรับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนหรือไม่


     นายไพบูลย์วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาคือ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศเข้าชี้แจงด้วยตนเอง และเสนอเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็มีการอภิปรายและนัดอภิปรายด้วยวาจา เพื่อนำไปสู่การลงมติในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้เวลา 08.30 น. ทั้งนี้ การพิจารณาของคณะตุลาการฯ เป็นการวินิจฉัยภายในกรอบอำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ให้ไว้ ไม่ได้มีการนำปัจจัยอื่น เช่น เรื่องที่คณะกรรมการมรดกโลกกำลังพิจารณาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารมาร่วมพิจารณาด้วย


ส่วนที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงถึงสถาบันตุลาการนั้น นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครอง กล่าวว่า ไม่ขอพูดอะไรในเรื่องนี้ ถึงเวลาค่อยพูด เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะตอบโต้กัน จะเป็นการละเมิดศาลหรือไม่ต้องพิจารณา ส่วนจุดยืนต่อสถานการณ์ทางการเมืองนั้น คือ ศาลต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะศาลอยากให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย


ม็อบบุกบ้าน"นพดล" หวิดวางมวย


     เมื่อเวลา10.30 น. วันที่ 7 กรกฎาคม กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.นครราชสีมา กว่า 200 คน นำโดยนายอิทธิ ขวัญอุดมพร ได้เดินทางด้วยรถกระบะ 9 คัน และรถบรรทุกหกล้อ 1 คัน ไปยังบ้านเลขที่ 79 หมู่ 3 บ้านแฝก ต.สามเมือง อ.สีดา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และปัจจุบันบ้านหลังดังกล่าวมีนางสำเนียง ปัทมะ พี่สาวของนายนพดลอาศัยอยู่ ทันทีที่กลุ่มพันธมิตรลงจากรถ ก็นำป้ายข้อความโจมตีนายนพดลออกมาเพื่อประท้วง ทันใดนั้น นายสุนทร ปะวะขัง กำนันตำบลสามเมือง ได้ประกาศผ่านหอกระจายข่าวเรียกชาวบ้านในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงออกมาต่อต้าน และขับไล่กลุ่มพันธมิตรออกไป ทำให้ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน


     จากนั้นชาวบ้านทยอยมารวมตัวกันประมาณ300 คน ส่วนกลุ่มพันธมิตรมีประมาณ 200 คน มีการตะโกนต่อว่ากันไปมา โดยกลุ่มชาวบ้านยื่นคำขาดว่าภายในเวลา 30 นาที ให้กลุ่มพันธมิตรออกจากหมู่บ้านไป ถ้าไม่เช่นนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัย ต่อมาตำรวจ สภ.สีดา และปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สามเมือง ได้เข้ามาห้ามและเกลี้ยกล่อมให้กลุ่มพันธมิตรออกจากหมู่บ้านไปก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย เพราะมีชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านกำลังเดินทางรวมตัวที่บริเวณดังกล่าวมากขึ้น แต่กลุ่มพันธมิตรพยายามจะฝ่าวงล้อมของประชาชนไปยังบ้านนายนพดลให้ได้ จึงทำให้เกิดการชุลมุน ยื้อยุดผลักกันไปมา นายอิทธิเห็นท่าไม่ดีจึงพากลุ่มพันธมิตรขึ้นรถถอยออกจากหมู่บ้านไปตั้งหลักอยู่ที่ทำการ อบต.สามเมือง แต่กลุ่มชาวบ้านส่วนหนึ่งได้ขับรถยนต์บรรทุกชาวบ้านตามไปไล่ กลุ่มพันธมิตรจึงหนีไปอย่างรวดเร็ว

นายอิทธิ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อต้องการเรียกร้องให้ญาติพี่น้องของนายนพดล ไปเกลี้ยกล่อมให้นายนพดลลาออกจากตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ เพราะทำให้ไทยเสียประโยชน์กรณีเขาพระวิหาร



ไม่สนคำตัดสินม็อบยันปักหลักต่อ


     ที่จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุขุม วงศ์ประสิทธิ์ ผู้ประสานงานสหธรรมมิกเพื่อประชาธิปไตย หรือขบวนการธรรมยาตราทวงคืนเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา ที่ปักหลักทวงคืนเขาพระวิหารบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร กล่าวว่า แม้ว่าผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกจะออกมาอย่างไร จะมีการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกหรือไม่ ก็จะปักหลักทวงคืนอธิปไตยต่อไป เพราะประเด็นการขึ้นทะเบียนมรดกโลกไม่ใช่ประเด็นหลักของกลุ่มเรียกร้อง เนื่องจากประเด็นหลักคือการทวงคืนปราสาทพระวิหาร และที่ผ่านมาพบว่ามีชาวกัมพูชากว่า 500 หลังคาเรือน ปักหลักอาศัยอยู่ในเขตแดนของไทย ถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน ต้องมีการผลักดันให้กองทัพออกมาดำเนินการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 พร้อมทั้งจะระดมสมาชิกเพื่อทวงคืนพื้นที่เขาพระวิหารเพิ่มขึ้นอีก


     ทหารพรานนายหนึ่งที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยประตูเหล็กทางขึ้นเขาพระวิหาร สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 กล่าวว่า ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เขาพระวิหารมานานกว่า 10 ปี รู้จักมักคุ้นกับชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่แถบนี้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาก็พูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันเรื่อยมา แม้มีคำสั่งให้มีการปิดประตูเหล็กทางขึ้น ก็เป็นแค่เพียงการปิดประตูเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายยังคงแน่นแฟ้น และยอมรับว่ารู้สึกลำบากใจหากในอนาคตรัฐบาลมีคำสั่งให้มีการผลักดันชาวกัมพูชาออกนอกพื้นที่บริเวณทางขึ้น


ส่วนความเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชาหลังม่านประตูเหล็กก็มีการดำเนินชีวิตกันตามปกติ บางรายก็จับกลุ่มนั่งเล่นไพ่กันอย่างสนุกสนาน โดยไม่สนใจการปิดเปิดของประตู เพราะส่วนใหญ่ชินกับเหตุการณ์ปิดเปิดประตู เพราะที่ผ่านมามีคำสั่งปิดเปิดประตูทางขึ้นเขาพระวิหารมาแล้วหลายครั้ง


     ขณะที่บรรยากาศอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเป็นไปอย่างเงียบเหงาไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมเหมือนช่วงที่ผ่านมา คงมีเพียงทหาร เจ้าหน้าที่อุทยาน และแม่ค้าที่ขายสินค้าอยู่บริเวณลานจอดรถเท่านั้น โดยแม่ค้าบางรายระบุว่า แทบจะไม่ได้ขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวเลย แต่ยังดีที่ได้ขายสินค้าให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และกองทัพนักข่าวที่มาทำข่าวเขาพระวิหารแทน


ผบ.สส.อัด"ปองพล"สรุปง่ายเกินไป

     พล.อ.บุญสร้างเนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวถึงกรณีที่นายปองพลระบุว่าเรื่องปราสาทพระวิหารขาดความต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยเกิดการปฏิวัติว่า ปัญหาพวกนี้ดูไปก็ซับซ้อน ถ้าพูดแบบนี้อาจจะทำให้สับสน และสรุปอะไรที่ง่ายเกินไป บางคนก็อาจจะต้องตกเป็นจำเลยของสังคม โดยที่ไม่ได้คิดอย่างดี ไม่อยากพูดอะไรให้ลงลึกขนาดนั้น และไม่ได้ผู้รับผิดชอบโดยตรง


เมื่อถามว่านายปองพลออกมาอ้างว่า ประเทศมหาอำนาจสนับสนุนกัมพูชา เพราะไทยมีการปฏิวัติ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่าไม่ทราบ เพราะไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับกองทัพโดยตรง ต้องมีความเชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพราะเขาต้องศึกษา ในการพูดจาอะไรต้องระมัดระวัง ต้องเชื่อมั่นจนกว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าเชื่อมั่นไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง


     หากปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกจะกระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศหรือไม่พล.อ.บุญสร้างระบุว่าถ้าประชาชนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผลกระทบก็จะไม่มาก แต่หากนำไปสู่ความแตกแยก หรือใช้ความรุนแรงซึ่งกันและกัน ผลกระทบก็จะมีมากมาย ทุกอย่างอยู่ที่ความรู้สึกของคน ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยของคนไทยในกัมพูชา ได้ประสานงานและดูแลกันอยู่แล้ว ซึ่งผู้นำของกัมพูชาก็สามารถพูดกันได้ เขาเข้าใจปัญหาเหมือนกัน


     ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า เรื่องปราสาทพระวิหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อน รัฐบาลของ 2 ประเทศ ต้องเป็นผู้แก้ปัญหาในการหาข้อยุติ ส่วนเรื่องของประชาชนคิดว่า ประชาชนทั้ง 2 ประเทศต้องมีความเข้าใจในเรื่องของความสัมพันธ์ของบ้านเมือง ประเทศที่อยู่ติดกันต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะเราต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติ รวมทั้งการใช้กลไกกฎหมายแก้ปัญหาในส่วนนี้โดยกลไกของรัฐบาล

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวอีกว่ามีการประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาสถานการณ์ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่ให้เกิดปัญหาหรือความรุนแรงเกิดขึ้น ขณะนี้ในพื้นที่มีการดำเนินการ คาดว่าไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น


"อภิสิทธิ์"จี้ครม.เผยมติ"พระวิหาร"

     ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ที่มีแนวโน้มว่ากัมพูชาจะขอจดทะเบียนได้ฝ่ายเดียวว่า คงต้องย้อนกลับมาดูว่าความรับผิดชอบควรจะเป็นของใคร ไม่ว่าจะเรื่องเกี่ยวกับการปกครองหรือกฎหมาย ตนได้มอบหมายให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กทม. ดูข้อกฎหมายและกำลังเตรียมการอยู่หากพิจารณากฎหมายอาญา เบื้องต้นนายนพดลมีความชัดเจนที่สุด เพราะเป็นผู้ไปลงนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรายงานทางวิชาการ ข้อเสนอของกัมพูชาอ้างอิงการไปลงนามของนายนพดลในวันที่ 22 พฤษภาคมก็คงปฏิเสธไม่ได้ ส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) คงต้องมาดูอีกที เพราะการตรวจสอบค่อนข้างยาก จนถึงวันนี้ ครม.ก็ยังไม่เปิดเผยมติครม.ที่เกี่ยวข้องว่าถ้อยคำเป็นอย่างไร


ขอขอบคุณ
ที่มา :
คม ชัด ลึกออนไลน์

H O M E



Create Date : 08 กรกฎาคม 2551
Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 0:13:47 น. 0 comments
Counter : 1312 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.