จากเทพสูงสุดเป็นธรรมสูงสุด
พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา ได้ตรัสรู้ ค้นพบความจริง เข้าถึงกฎธรรมชาติแห่งความเป็นไปตามเหตุปัจจัย และอสังขตสภาวะที่ไม่ขึ้นต่อเหตุปัจจัยนั้นแล้ว พระองค์ก็ทรงมาแสดงธรรม เท่ากับทรงเที่ยวบอกแก่ประชาชนทั้งหลายว่า ท่านทั้งหลาย อย่ามัวแต่มองออกไปข้างนอกเลย อย่ามัวไปหวังผลจากการดลบันดาลของเทพเจ้าโดยไปขอให้ท่านช่วยโน่นช่วยนี่กันเลย ที่แท้นั้น สิ่งทั้งหลายมันเป็นไปตามความจริงของมันเอง ที่เป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน ขอให้เราหันมามองดูความจริงกันเถิด
คำสอนของพระพุทธเจ้าย้ำเตือนว่า อย่ามัวแต่มองไปที่เทพเจ้าแล้วร่ำร้องว่าเราจะเอาโน่นเอานี่โดยขอให้ท่านทำให้เลย ขอให้เรามามองดูความจริงที่อยู่รอบตัวเรานี่แหละ ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราว่า สิ่งทั้งหลายเป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน ผลที่เราต้องการจะเกิดขึ้นด้วยการกระทำของเราที่ตรงตามเหตุ ถ้าเราทำเหตุปัจจัยให้ตรงให้พร้อม ผลก็จะเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยนั้น นี่คือความเป็นไปตามเหตุปัจจัย
รวมความว่า พระพุทธเจ้าทรงชี้ชวนประชาชน ให้หันเหเบนความสนใจจากการดลบันดาลของเทพเจ้า ซึ่งเป็นอำนาจภายนอกที่เลื่อนลอย ที่ตัวเองมองไม่เห็น และไม่สามารถบังคับควบคุม ให้หันมาดูความจริงของสิ่งทั้งหลายที่เป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน คือ ธรรม
ความเป็นไปตามเหตุปัจจัย หรือตัวความจริงนี้ เรียกง่ายๆด้วยศัพท์สั้นนิดเดียว เป็นคำๆเดียว คือ ธรรม เท่านั้นเอง
จากเทพเจ้าที่ดลบันดาล พระพุทธเจ้าเบนความสนใจของประชาชนมาสู่ความจริงแห่งกฏธรรมชาติ คือ ธรรม เพราะฉะนั้น พุทธกิจสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงกระทำ สรุปได้ง่ายๆ คือ ดึงประชาชนจากเทพมาสู่ธรรม จากการถือว่าเทพสูงสุด มาเป็นธรรมสูงสุด
(จากริกบุญ จารึกธรรม หน้า ๑๗๙)
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2566 |
|
0 comments |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2566 18:01:04 น. |
Counter : 132 Pageviews. |
|
|
|