การสอนสไตล์พ่อ - อนุรักษ์ผืนป่า
ประมาณหลายวันก่อน เราเห็น feed ในเฟสบุ๊ค ที่ขึ้นเนื้อหา
ข่าวของสามีภรรยาชาวบราซิลคู่หนึ่งที่ทำโครงการทวงคืน
ผืนป่ากลับคืนให้บราซิล โดยการนำเงินส่วนตัวมาลงในช่วงแรก

ตัวสามีเขานั้น เป็นช่างภาพระดับโลก สรรค์สร้างผลงานมากมาย
เป็นช่างภาพด้านสารคดีด้วย เรียกว่า เป็น Legend เลยก็ได้
เขาและภรรยาได้ลงทุนลงแรง จ้างคนจำนวน 20 กว่าคนในขั้นแรก
ช่วงที่เริ่มโครงการ และต่อมาก็มีผู้คนหลากหลายมาร่วมด้วย
ระดมทุนได้มาก และอาสาสมัครจำนวนมากแห่มาร่วมโครงการ
จนผ่านมา 20 ปี ผืนป่าที่เหลือเพียงไม่กี่ % ของบราซิล 
กลับฟื้นคืนมาเกือบทั้งหมด ทำให้ฝนตกมากขึ้น อากาศดีขึ้น
อุณหภูมิที่เคยสูงลิบลิ่ว ลดลงมาจนอยู่ในระดับที่เย็นสบาย
เขาและภรรยา และอาสาสมัครทั้งหลายประสบความสำเร็จ
ในการทวงคืนผืนป่า

เราก็เลยนึกถึงสิ่งที่พ่อเคยเล่าให้ฟัง ตอนที่เรายังเรียน ป.ตรี อยู่
เราเคยถามพ่อว่า พ่อเจอแม่ได้ยังไง ในเมื่อตอนที่ทำงานใหม่ๆ
พ่อโดนส่งไปบรรจุ รร.บนยอดดอย พ่อก็บอกว่า พ่อเจอแม่
ตอนย้ายลงมาแล้ว แล้วมาอยู่ในเขตเดียวกัน แต่คนละโรงเรียน
แล้วพ่อก็เลยเล่าบรรยากาศสมัยเมื่อครั้งบรรจุครูใหม่ๆ ให้ฟัง

พ่อเล่าว่า ตอนนั้น พ่ออายุ 19 ปี มาเป็นครูเพราะหลักสูตร
เร่งผลิตครู เด็กรุ่นแรกที่สอน ก็อายุ 15 ปี อ่อนกว่ากันแค่ 4 ปี
ตอนมาใหม่ๆ ทำตัวไม่ถูก แต่ก็สนุกสนานดี เพราะเด็กๆ
นักเรียน (น่าจะเฮี้ยวพอๆ กัน อายุไล่ๆ กัน) พาพ่อเดินสำรวจป่า
พากันเดินไปทุกสัปดาห์ จนพ่อได้ไปเจอ "หล่มภูเขียว"
ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว unseen ของ อ.งาว จ.ลำปาง
ในปัจจุบัน

พ่อเคยไป เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน บรรยากาศริมทางนี่คือ
มีแต่ต้นไม้สูงใหญ่ ป่าดิบชื้น คือ สดชื่นมาก (เลยรู้ที่มาว่า
ทำไมพ่อถึงชอบสูดอากาศเวลาไปเที่ยว) พ่อชอบการสำรวจ
และพอได้ไปเห็น หล่มภูเขียว ในสมัยที่ยังเอ๊าะๆๆ อยู่นั้น
มันไม่เหมือนกับในปัจจุบันนี้หรอกนะ เห็นพ่อว่า เคยมีคน
ดำมุดลงไปใต้น้ำ แล้วโผล่ลงไปอีกที่ด้านล่างได้ด้วย
แต่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้แล้ว เส้นทางมันตันไปหมดแล้ว

ล่าสุดที่ไปกันมา คือ พ่อก็ไปแล้วก็เล่าบรรยากาศไปว่า
ริมทางเมื่อก่อนมันไม่ใช่ไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แบบนี้
นี่มันรุกพื้นที่ป่า มาทำเป็นไร่ข้าวโพดหมดเลย น่าเสียดาย
บรรยากาศเดิมๆ สวยกว่านี้มาก อากาศดีกว่านี้มากๆ
แล้วตอนที่ไปกัน พ่อก็ได้เจอกับลูกศิษย์รุ่นแรกด้วย
ถึง 2 คนด้วยกัน ก็เจอกันที่ทางเข้าหล่มภูเขียวนั่นแหละ

พ่อเล่าว่า เมื่อก่อนนะ เวลาดึกๆ ผู้ชายบนเขาไม่ใช่หลับ
ใช่นอนไว จะมานั่งเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้าน แล้วร้องเพลง
แซวสาวๆ ที่ผ่านไปๆ มาๆ กันถึง 2 -3 ทุ่มเลย ไม่เหมือน
ยุคนี้ ที่คนแซวสาวเป็นคนเมา คนสมัยนั้นเป็นแค่นักดนตรี
ร้องเล่นกันสนุกสนาน เป็นแบบนี้ทุกคืน มีความสุขมาก

และจากการที่เด็กนักเรียนรุ่นแรกของพ่อ พาพ่อไปเสพย์ติด
ธรรมชาติรอบๆ ตัวแล้ว แน่นอนว่า หลักสูตรการสอนของพ่อ
ก็ต้องเสพย์ติดด้วยเช่นกัน 5555555555555555555555
เมื่อก่อนครูน้อยมาก ครูคนเดียว สอนเกือบทุกวิชาอยู่แล้ว
แต่พ่อเราก็สไตล์พาลุย สอนตรงวิชาทุกอย่างแหละ แต่
จะมีอยู่วิชานึง ที่พาเด็กหนีออกจากโรงเรียน แล้วเดินเข้าป่า
5555555555555555555555555555555555555555

แล้วพ่อไม่ได้ทำแค่นั้น พ่อพาเด็กๆ เอาเมล็ดต้นไม้ใบหญ้า
จากหลายๆ ที่มาให้เด็กปาเข้าป่าไป ตามรายทางที่เดิน
และต้นไม้พวกนั้นก็ออกเป็นต้น ในปีถัดๆ มา ยิ่งสอน
ก็ยิ่งพอกพูนต้นไม้ในผืนป่ามากขึ้นทุกวัน เมื่อพ่อถูกย้าย
มาสอน รร.ใหม่ พ่อก็ยังไม่เลิกหลักสูตรเดิมๆ ของตัวเอง
พ่อก็ยังคงพาเด็กหนี รร. ไปเข้าป่า ปาเมล็ดพันธุ์เหมือนเดิม
แล้ว รร. ทุก รร. ที่พ่อสอนก็ต้องพากันแปลกใจ ว่าทำไม
ครูคนนี้ คนเดียว ที่เด็กๆ โหวตให้เป็นครูดีเด่นติดต่อกัน
ทุกปี แล้วครูคนอื่นไม่เคยได้เลย มีแต่พ่อที่ได้

แหม พ่อ ก็เล่นพาเด็กโดดเรียน หนีเข้าป่ากันทุกรุ่น
เด็กมันจะไม่ชอบได้ยังไง 5555555555555555555+
ได้โดดเรียนนี่เป็นลาภอันประเสริฐสำหรับเด็กๆ เลยนะ
แล้วได้ไปเที่ยวตลอดทั้งปี ใครมันจะไม่ชอบ 555555+
สุดท้ายเขาพอรู้สาเหตุ พ่อเลยโดนจับไปสอนอยู่วิชาเดียว
คือ คณิตศาสตร์ ชั้นประถม สอนแม่งแต่ในห้องเรียนแหละ
ไม่ได้พาเด็กหนีเที่ยวอีก 555555555555555555555+
(แต่ก็ทำลายสถิติพ่อไม่ได้นะ เพราะสุดท้ายพ่อไปทำงาน
แทน ผอ. ตลอดทั้งปี เพราะ ผอ.ไม่ทำงาน วันๆ หนีเที่ยว
เด็กๆ เลยมีเวลาว่างมาก ได้เล่นกันเยอะ พ่อก็ได้โหวตอยู่ดี 55)

แต่เราคิดว่า มันเป็นหลักสูตรสไตล์พ่อเรา ที่ดีมากเลยนะ
รร.ไหน อยู่ใกล้ป่า ก็ให้พาเด็กไปปลูกป่า ปาเมล็ดพันธุ์
ตลอดทั้งปี เราคิดว่า ถ้ามันสามารถปรับเอามาใช้ในปัจจุบัน
ประเทศเราในอีกไม่กี่ปี เราจะฟื้นป่าได้มากมายเลยด้วย
ไม่ต้องหาอาสาสมัคร แต่ใช้เด็กรุ่นใหม่ในพื้นที่เป็นคนดูแล
รร. ทั่วประเทศมีตั้งหลายที่ บนเขาก็มี ถ้าดูแลพื้นที่ของตัวเอง
ไปทั้งปี ทำเรื่อยๆ ทุกปี เราคิดว่า ประเทศเราจะเย็นขึ้นกว่านี้
อากาศ และฝุ่นจะน้อยลงกว่านี้มาก

ไม่นับจากประเทศเพื่อนบ้าน คือ ถ้าแค่ป่าบ้านเราฟื้นคืน
ความชื้นในอากาศมันเพิ่มขึ้น ฝนก็จะตกบ้านเราเพิ่มมากขึ้นด้วย
มีฝน มันก็ต้องมีลม อากาศที่เย็นสบาย อยู่ส่วนไหนก็เย็นสบาย
ไม่ใช่ร้อนจนไขมันละลายแบบทุกวันนี้อ่ะ 44 องศาเข้าไปแล้ว
แล้วก็แข่งกันสูงขึ้นไปอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่า นักข่าวแม่งจะนำเสนอทำไม
ที่ไหนสูงที่สุดในวันนี้ มันควรจะกระตุ้นให้คนคิดได้แล้วไหม?
ถึงเวลาแล้วไหม? ที่บ้านเรามันควรจะเห็นค่าของต้นไม้
และผืนป่า ทวงคืนผืนป่ากลับคืนสู่ประเทศของเราสักทีอ่ะ
คืนธรรมชาติที่ถูกรุกรานเพิ่มขึ้นทุกปีให้มันกลับเป็นป่า
เอาธรรมชาติ เอาความสวยงาม เอาความสดชื่นและอากาศเย็นๆ
กลับคืนมาได้แล้ว ไม่ใช่เพื่อตัวเราหรอกนะ เพื่อคนรุ่นลูกหลาน
และรุ่นต่อๆ ไป 



Create Date : 01 พฤษภาคม 2562
Last Update : 1 พฤษภาคม 2562 0:51:08 น.
Counter : 674 Pageviews.

4 comments
  
คุณพ่อเป็นครูบนดอยนี่เอง... ผมว่าคนไทยจำนวนมากรักป่า ต้นไม้
ลำห้วยซซ

ยกเว้นพวกที่ เห็นประโยชน์ส่วนตัวเผาป่า เพื่อปลูกพืช... บางทีก็ปลูก
บ้านบนดอยเพื่อมองดูอ่างเก็บน้ำใหญ่ มีคนรู้ข่าวก็กระพือข่าว อยู่ไม่ได้
ให้คนอื่นออกข่าวว่า มิได้มีเจตนา โถ..ใช้เงินไหนมาตัดถนนขึ้นภู

นึกถึงคุณพ่อของคุณแล้วนึกดึบ ดาบตำรวจที่ปลูกต้นไม้วันละต้น
น่าชื่นชม ทำให้ดินเก็บน้ำได้ดี ดูรื่นร่ม..

ว่าแต่ว่า ชอบโดดงาน หนีเที่ยวแบบคุณพ่อหรือเปล่าครับ 555
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 พฤษภาคม 2562 เวลา:5:49:17 น.
  
ข่าวที่บราซิลพี่ก๋าก็อ่านครับ
น่าทึ่งเนาะ
ปลูกจนขึ้นเป็นป่าอีกครั้งในชั่วชีวิตของเขาเลย

เชียงใหม่เมื่อสามสิบปีที่แล้วตอนที่พี่ก๋ามาอยู่ใหม่ๆ
อากาศดีมากๆ
เย็นสบายตลอดทั้งปี
หน้าร้อนตอนกลางคืนยังเย็นๆอยู่เลย

ตอนนี้ร้อนๆๆๆๆๆๆๆๆและร้อน
บวกควันเข้าไปอีก 5555

คุณพ่อน้องเหม่งน่าจะเป็นครูที่เด็กต้องชอบมากๆในยุคนั้นเลยนะครับ
แต่ยุคนี้เด็กคงจะชอบครูที่ให้เล่นคอม 5555


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:33:31 น.
  
ทัั้งอากาศและผู้คนเปลี่ยนไปเยอะครับ
ไม่เหมือนเดิมแน่นอน
พี่ก๋าเห็นความเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด

ทั้งหมดมันเปลี่ยนแบบรวดเร็วมากด้วยนะ
จนเรารับมือกับความเปลี่ยนแปลงไม่ทัน

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:38:09 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องเหม่ง

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:29:43 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Princezz Matcha Latte
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มะมะมะเหม่ง เองงับ!!! ทุกวันนี้ไม่เดิน เพราะกลิ้งได้
^_^
พฤษภาคม 2562

 
 
 
2
3
7
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog