ต้องมนตร์พระพาย Andra
เนื่องจากตอนนี้ฟีน่าเปิดเวบเองแล้ว ขอย้ายรีวิวไปที่เวบนะคะ ใครอยากอ่านรีวิวนิยายเล่มอื่นๆ ที่ฟีน่ายัายไปลงหรือรีวิวนิยายใหม่ๆ ไปอ่านได้ที่เวบ philiciana.com นะคะ สำหรับเรื่องนี้กดไปอ่านได้เลยนะคะ รีวิวต้องมนตร์พระพาย
เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่เป็นนิยายเปิดตัวของนิยายในหัวใหม่ของแจ่มใสไม่ได้เกี่ยวกับชุดอื่นใดของหัวนี้นะคะ หากเป็นเล่มแรกของชุดต้องมนตร์ที่ออกเล่มนี้มาก่อน คาดว่าจะมีสามเล่มนะคะเพราะท้ายๆเล่มเปิดตัวหนุ่มเพิ่มมาอีกสองคนไว้รอแล้วเป็นความรักแบบออกจะเปรี้ยวมากกว่ารสหวานความรักและความวุ่นวาย แฝงด้วยปมทางครอบครัวเอาไว้ พระเอกผู้มีความประหลาดในตัวเกิดถูกอกถูกใจอะไรแม่สาวมาดห้าวหาญชาญชัย ตัวเล็กแต่ใจใหญ่จนถึงขั้นโกหกพกลมคำโตเพื่อไปขอสมัครในสวนส้มนางเอกที่แม้ว่าเธอจะสงสัยในคนงานหน้าใหม่ว่ายังไงมาดก็ไม่ให้ที่จะเป็นคนรับจ้างไปวันๆแต่เมื่อความจำเป็นบังคับก็จำต้องรับไว้เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรักษาสวนส้มไว้ให้ได้ไม่งั้นการเดิมพันที่มีชีวิตเธอและสวนส้มจะจบลง แต่เพื่อความสบายใจเธอจำต้องจับตาดูคนงานพิเศษนี้ตลอดและความหวาดระแวงต่างๆที่มีให้กับพระเอก มันก็เหมือนการให้ความสนใจที่พิเศษจนหลายครั้งตัวตนที่ซ่อนเร้นไว้เผยมาให้เห็นและถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยพอใจในเรื่องโกหกที่จับไม่ได้แต่อีกใจเธอก็รู้สึกเหมือนมีเพื่อนร่วมคิดไว้เคียงข้างท่ามกลางภาวะที่บีบคั้นต่างๆ ความจริงก็แตก แม้จะพยายามหลอกตัวเองที่มันทำให้เธอเป็นเช่นนี้ก็เพราะพระเอกทำลายความไว้วางใจกัน แต่แท้จริงมันมีมากกว่านั้นทั้งเสียใจและน้อยใจผสมกันไป หากแต่จะเป็นเช่นไร เธอต้องยอมรับหากพิจารณากันดีพระเอกคือคนที่พร้อมจะดูแลเธออย่างเต็มใจเพราะความที่อารมณ์เพิ่งอ่านงานของ Andraจบไปไม่นานนี้ อารมณ์คนอ่านก็เลยแบบว่าอยากอ่านแบบนั้นอีกแต่ปรากฏว่ามากันคนละขั้วกันเลยทีเดียวนะคะ เพราะเล่มนี้ออกแนววัยรุ่นมาก คู่กัดคู่กวน พระเอกออกแนวกวนประสาทนิดๆสรรหาเรื่องแหย่นางเอกตลอด ส่วนนางเอกก็เป็นพวกห้าวหาญเข้าข่ายตัวเล็กใจใหญ่ก็ว่าได้ค่ะซึ่งใครชอบแนวนี้ก็คงจะสนุกกับสารพัดฉากที่พระเอกกับนางเอกต่อปากต่อคำกันส่วนในแง่ของความรักระหว่างพระเอกนางเอกต้องบอกเลยว่า เพราะความที่พระเอกเป็นฝ่ายที่พึงพอใจนางเอกก่อนจากอุปนิสัยลุยๆของเธอ ซึ่งพระเอกรู้สึกว่าสนใจดี เราจะเห็นกันว่าส่วนใหญ่แล้วพระเอกจะค่อนข้างพยายามจะช่วยนางเอกอยู่เนืองๆ แต่ตรงข้ามกับนางเอกเพราะเธอระแวงพระเอกเป็นทุนเดิมแล้ว จะพบบทบาทการคอยจับผิดพระเอกตลอดเวลาประมาณว่าปลงใจแล้วว่าอีตานี้ต้องคิดไม่ดีชัวร์เขาต้องเป็นคนร้ายในทุกเรื่องที่เกิดในสวนส้มจนบางครั้งรู้สึกว่านางเอกออกจะน่าจะรำคาญในหลายๆครั้งเหมือนเด็กที่ดันทุรังว่าคิดผิดแต่ไม่ยอมรับว่าผิด ประมาณว่าก็นายน่าสงสัยฉันจะสงสัยจะเป็นไรไป ทำแรกๆก็ไม่เท่าไร แต่ทำบ่อยๆเข้าเลยรู้สึกไปเองว่านางเอกไม่น่ารักเท่าไร พระเอกทำประโยชน์ให้เท่าไรก็ไม่ค่อยจะเห็นความดี จะมาค่อยยังชั่วเข้ากลางๆเรื่องที่ความดีของพระเอกเริ่มเข้าตา แต่ก็ยังจัดไว้ประเภทว่าต่อให้ทำดี แต่ฉันก็ยังไม่เชื่อมั่นในตัวนายทั้งหมดหรอกนะดังนั้นความรู้สึกส่วนตัวหลังจากอ่านเล่มนี้จบเป็นเช่นไร ฟีน่าขอออกตัวก่อนถ้ามองกันในแง่ของการสร้างเรื่อง เหตุผลต่างๆที่เป็นตัวละคร ต้องยอมรับว่าใช่ค่ะพระพายไม่ใช่นางเอกแบบนิยายเล่มอื่นของเขา อย่างเช่นคุณเพชรจอมนางเอกจากรักร้ายละลายใจเมื่อเธอคือเด็กสาวที่ลึกๆลงไปมีความกดดันจากความรู้สึกว่าไม่เป็นที่ต้องการของพ่อเลยแม้แต่น้อยเธอถูกหล่อหลอมแบบนี้ พระพายย่อมไม่ใช่นางเอกประเภทอ่อนหวาน สนิมสร้อยต้องคอยให้คนมาดูแล นางเอกเลยกึ่งๆ ทอมบอยเสียหน่อย เพราะเธอต้องมาดูแลสวนส้มแบบคนไร้ประสบการณ์พอๆกับพระเอกที่เป็นน้องหลงของครอบครัวเขาจึงมีนิสัยค่อนข้างประหลาดเล็กน้อย แต่หนึ่งในนั้นคือกวนประสาท เรื่องนี้จึงไม่ใช่นิยายแนวรักหวานๆหรือลับสมองกันทางด้านธุรกิจ หักเหลี่ยมกันอย่างเข้มข้น จะมาแนวลูกทุ่งๆหน่อยจนในบางฉากมันเหมือนแนวนิยายแบบวัยรุ่นมากๆค่ะฟีน่าซึ่งไม่ค่อยแนวเอะอะมะเทิ่งอยู่แล้วก็เลยรู้สึกว่านี้ไม่ใช่แนวที่ฟีน่าชอบเท่าไรดังนั้นความรู้สึกในเรื่องนี้จึงมาจากรสนิยมส่วนตัวล้วนๆนะคะที่มันค่อนข้างไม่ใช่สำหรับตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ามนุษย์ป้าแบบฟีน่า ยังคงมีพิมพ์นางเอกแบบพิมพ์นิยมคลาสสิคคือนางเอกต้องน่ารัก อ่อนหวาน ไม่จำเป็นต้องสวยล้ำหยาดฟ้ามาดิน ไม่ใช่เบญจกัลยานีก็ไม่ว่ากันขอให้มีความเป็นผู้หญิงบ้าง แต่ถ้ามาพร้อม เรือนสาม น้ำสี่พัดวีว่าที่สามีได้ครบถ้วน ก็ยินดีอ้าแขนรับนะคะซึ่งนางเอกเรื่องนี้คือขั้วตรงข้ามหมด เราต้องยอมรับว่านางเอกเป็นคนสู้ชีวิต อดทนต่อโชคชะตาที่เข้ามาในชีวิตติดแค่นางเอกออกจะขาใหญ่เกินไปที่มนุษย์ป้าแบบฟีน่าจะแนว อย่างที่บ่นไปข้างต้นว่าบางครั้งออกจะรู้สึกว่าเธอเยอะไปกับการเอาแต่จับผิดพระเอก ไม่ว่าจะกระดิกตัวทำอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น ต้องโทษพระเอกก่อน จนกลายเป็นว่าเธอน่าเบื่อตรงนี้จะเอาแต่มองคนในแง่ร้ายไปถึงไหน แต่สิ่งที่เรียกว่าป้าฟีน่าขอศาลาจริงๆคืออาการข่มพระเอกตลอดทั้งเล่ม ในช่วงแรกที่เขาเป็นลูกน้องเราก็พอเข้าใจว่าต้องปกครองคน แต่นางเอกปกครองพระเอกแบบข่มด้วยพระเดชกันสุดๆ ไม่ได้รู้สึกน่ารักเอาเสียเลย ซึ่งจุดนี้เข้าใจแต่มันก็มาพร้อมกับสิ่งที่ฟีน่าบอกว่านางเอกจะมองพระเอกแง่ร้ายตลอดดังนั้นเธอจึงพยายามข่มเขาตลอดทั้งเล่มปกติฟีน่าก็ไม่ค่อยแนวนิยายที่นางเอกจิกพระเอกด้วยคำว่า นายนั่น นายนี้อยู่แล้วเล่มนี้จริงๆมันก็ไม่รอดด้วยคำพูดนี้เสียแล้ว เรียกแบบข่มพระเอกให้อยู่ใต้อาณัติตลอดเวลาว่าฉันคือเจ้านายเธอนะฉันต้องกดเธอเอาไว้ตลอด ไม่ว่าเขาจะมีประโยชน์ต่อสวนส้มแค่ไหนน้ำเสียงหรือคำพูดอะไรมันก็ไม่เปลี่ยน เรียกว่าจริงๆแล้วเหมือนน้ำเสียงแบบนี้จะเป็นจนจบเรื่อง มันไม่ให้ความรู้สึกอ่อนหวานแบบคนรักกันทั้งๆที่นางเอกก็อายุน้อยกว่าพระเอกมันดูกระด้างๆ หรือเราจะรู้สึกไปเองว่าอารมณ์แบบหวานฉ่ำหรือหอมหวานไปอยู่ตรงไหนกันอาจจะเพราะเรื่องไม่ได้ตั้งใจจะเล่าแบบนิยายรักหวานๆแต่มาในแง่เปรี้ยวเข็ดฟันหรือเปล่า เราเป็นคนอ่านที่ต้องการหวานเลยหยิบนิยายมาผิดทางตัวเองเสียนี้และอีกประการที่รู้สึกว่าไม่ใช่สำหรับตัวเองจริงๆคืออาการข่มพระเอกสุดๆที่ปรากฏในเล่มแม้ว่าฉากนั้นมันจะมาพร้อมกับความเข้าใจผิดที่นางเอกคิดว่าพระเอกจะลวนลามก็ตามทีแต่ฟีน่าเป็นคนหัวเก่ามาก เรียกได้ว่ามนุษย์ป้าตัวจริงฟีน่าไม่ค่อยจะแนวกับฉากที่นางเอกใช้เท้าถีบหลังพระเอกเพราะต้องการเอาคืนที่บังเอิญกอดเธอ แต่เธอคิดว่าเขาจงใจพอพระเอกอึ้งกับการกระทำของนางเอกเลยแก้เผ็ดจนเธอเจ็บตัวจากความไม่ตั้งใจก็เลยจะถีบหน้าซ้ำให้ อันนี้ไม่ไหวจริงๆนะคะถ้านางเอกชกหน้าเลือดกบปากหรือต่อยจะรู้สึกดีกว่าด้วยซ้ำไป ทำแบบนี้จากที่รู้สึกว่านางเอกไม่ใช่แล้วสำหรับตัวเอง หรือแม้แต่ฉากตอนประมาณว่าตกลงเป็นแฟนกันแล้วรักกันแล้ว ยังมาไล่เตะพระเอกแก้เขินมันก็รู้สึกว่าเป็นฉากที่ไม่ค่อยเข้ากับสไตล์การอ่านนิยายของฟีน่าไปแล้วเนื่องจากรู้สึกว่าเหมือนนิยายแนวเพื่อนรัก รักเพื่อน คือถ้ารุ่นราวคราวเดียวกันก็พอทำใจแต่นี้คนละรุ่นกัน ฟีน่าก็เลยถอนหายใจแล้วพูดได้เลยว่า ไม่ใช่แนวเราแล้วล่ะเล่มนี้แต่ใช่ว่าจะรู้สึกว่ามีปัญหาแต่กับนางเอกนะคะสำหรับพระเอก จริงๆเขาเป็นคนมีความสามารถค่อนข้างเยอะการจีบของพระเอกอาจจะดูทีเล่นทีจริงไปนิดหนึ่ง เราก็ดันชอบแนวผู้ใหญ่ปราบเด็กดื้อแต่เล่มนี้เป็นแนวว่าเด็กดื้อต้องยั่วโทสะ ปั่นหัวให้สนุกมันก็เลยกลายเป็นพระเอกก็เด็กตามนางเอกไปด้วย คนชอบพระเอกนิ่งๆเป็นผู้ใหญ่กว่าแบบเราเลยไม่ได้ปิ๊งหรือกรี๊ดพระเอกสักเท่าไรนะคะ เหมือนคู่นี้เป็นเพื่อนคู่หูกันเสียมากกว่าแถมตอนท้ายเล่มมีตัวละครที่ดูจะนิ่งกว่าพระเอกมา ฟีน่าเลยไม่ค่อยสนใจตัวพระเอกนางเอกสักเท่าไรแล้ว หันไปสนใจตัวละครตัวนี้แทนค่ะเขาดูมีเสน่ห์กว่าสำหรับเราขึ้นมาทันทีก็เลยกลายเป็นว่าเล่มนี้นะคะไม่ใช่นิยายในแนวที่ตัวเองชอบสักเท่าไร แต่อย่างที่บอกว่าเหตุผลของตัวนิยายน่ะเข้าใจได้มีเหตุมีผลในการกระทำของตัวละครอย่างนิสัยของนางเอกที่ต้องแข็งจนไม่ค่อยน่ารัก หรือประเด็นอ่อนไหวในครอบครัวนางเอก แต่ประเด็นนี้บอกตรงๆว่าจริงแอบงงเล็กน้อยว่าตกลงแล้วพ่อนางเอกไม่รักนางเอกจากสาเหตุใดบ้าง เพราะกลายเป็นว่าจริงๆก็เป็นห่วงสรุปแล้วความรู้สึกระหว่างกันคืออะไรหรือมันคือความเหินห่างเย็นชาที่มีให้กันมานานแล้ว เลยเรียกว่าก็รักแต่แสดงออกไม่เป็นแล้วพ่อนางเอกเกลียดนางเอกหรือเปล่าที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายในชีวิตมีงงเล็กน้อยนะคะเรื่องนี้ถ้าพูดกันแบบแฟร์ๆมันก็เหมือนว่านิยายเหมือนรสชาติอาหาร อาหารแบบนี้มันต้องรสชาติเผ็ดร้อนจึงจะถูกปากคนชอบแนวนี้แต่เราเป็นคนไม่ชอบอาหารรสนี้ แต่ไม่รู้ แล้วไปกินเข้าแน่นอนว่ามันย่อมไม่มีวันถูกปากเราได้หรอกค่ะ เพราะมันสร้างมาเพื่อคนที่ต้องเสพรสเช่นนี้เราก็พูดได้ในแง่ว่า เราไม่แนวนิยายสไตล์นี้ ไม่ใช่เพราะนิยายเขียนมาได้ย่ำแย่ในด้านความสมเหตุสมผลหรืออะไรก็ตามที เพราะมันเป็นรสนิยมในการเสพสิ่งต่างๆ ใครชอบนิยายแนวนี้ก็คงต้องบอกว่าสนุก สำหรับเราผู้ไม่ใช่คนนิยมทางนี้ก็คงบอกได้คำเดียวสำหรับฟีน่าแล้วต้องมนตร์พระพายไม่ใช่คำตอบของการอ่านนิยายที่ตามหานะคะ มันไม่หวานไม่โรแมนติคแบบที่ชอบ นางเอกดูแข็งกระด้างในบางฉากพระเอกยังไม่มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล เนื้อเรื่องไม่สนองความต้องการความฟินความจิ้นของมุมอ่อนโยนมากนัก รู้ว่าพระเอกรักและห่วงนางเอกหากแต่โทนเรื่องมันเอะอะโวยวายมากเกินไปสำหรับตัวเอง ซึ่งใครชอบแนวนี้ก็ลองกันดูนะคะ แต่ถ้าคนที่คอคล้ายๆกับฟีน่าอาจจะไม่แนวแบบฟีน่าก็เป็นไปได้ค่ะ
เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่เป็นนิยายเปิดตัวของนิยายในหัวใหม่ของแจ่มใสไม่ได้เกี่ยวกับชุดอื่นใดของหัวนี้นะคะ หากเป็นเล่มแรกของชุดต้องมนตร์ที่ออกเล่มนี้มาก่อน คาดว่าจะมีสามเล่มนะคะเพราะท้ายๆเล่มเปิดตัวหนุ่มเพิ่มมาอีกสองคนไว้รอแล้ว
เป็นความรักแบบออกจะเปรี้ยวมากกว่ารสหวานความรักและความวุ่นวาย แฝงด้วยปมทางครอบครัวเอาไว้ พระเอกผู้มีความประหลาดในตัวเกิดถูกอกถูกใจอะไรแม่สาวมาดห้าวหาญชาญชัย ตัวเล็กแต่ใจใหญ่จนถึงขั้นโกหกพกลมคำโตเพื่อไปขอสมัครในสวนส้มนางเอกที่แม้ว่าเธอจะสงสัยในคนงานหน้าใหม่ว่ายังไงมาดก็ไม่ให้ที่จะเป็นคนรับจ้างไปวันๆแต่เมื่อความจำเป็นบังคับก็จำต้องรับไว้เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรักษาสวนส้มไว้ให้ได้ไม่งั้นการเดิมพันที่มีชีวิตเธอและสวนส้มจะจบลง แต่เพื่อความสบายใจเธอจำต้องจับตาดูคนงานพิเศษนี้ตลอดและความหวาดระแวงต่างๆที่มีให้กับพระเอก มันก็เหมือนการให้ความสนใจที่พิเศษจนหลายครั้งตัวตนที่ซ่อนเร้นไว้เผยมาให้เห็นและถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยพอใจในเรื่องโกหกที่จับไม่ได้แต่อีกใจเธอก็รู้สึกเหมือนมีเพื่อนร่วมคิดไว้เคียงข้างท่ามกลางภาวะที่บีบคั้นต่างๆ ความจริงก็แตก แม้จะพยายามหลอกตัวเองที่มันทำให้เธอเป็นเช่นนี้ก็เพราะพระเอกทำลายความไว้วางใจกัน แต่แท้จริงมันมีมากกว่านั้นทั้งเสียใจและน้อยใจผสมกันไป หากแต่จะเป็นเช่นไร เธอต้องยอมรับหากพิจารณากันดีพระเอกคือคนที่พร้อมจะดูแลเธออย่างเต็มใจ
เพราะความที่อารมณ์เพิ่งอ่านงานของ Andraจบไปไม่นานนี้ อารมณ์คนอ่านก็เลยแบบว่าอยากอ่านแบบนั้นอีกแต่ปรากฏว่ามากันคนละขั้วกันเลยทีเดียวนะคะ เพราะเล่มนี้ออกแนววัยรุ่นมาก คู่กัดคู่กวน พระเอกออกแนวกวนประสาทนิดๆสรรหาเรื่องแหย่นางเอกตลอด ส่วนนางเอกก็เป็นพวกห้าวหาญเข้าข่ายตัวเล็กใจใหญ่ก็ว่าได้ค่ะซึ่งใครชอบแนวนี้ก็คงจะสนุกกับสารพัดฉากที่พระเอกกับนางเอกต่อปากต่อคำกัน
ส่วนในแง่ของความรักระหว่างพระเอกนางเอกต้องบอกเลยว่า เพราะความที่พระเอกเป็นฝ่ายที่พึงพอใจนางเอกก่อนจากอุปนิสัยลุยๆของเธอ ซึ่งพระเอกรู้สึกว่าสนใจดี เราจะเห็นกันว่าส่วนใหญ่แล้วพระเอกจะค่อนข้างพยายามจะช่วยนางเอกอยู่เนืองๆ แต่ตรงข้ามกับนางเอกเพราะเธอระแวงพระเอกเป็นทุนเดิมแล้ว จะพบบทบาทการคอยจับผิดพระเอกตลอดเวลาประมาณว่าปลงใจแล้วว่าอีตานี้ต้องคิดไม่ดีชัวร์เขาต้องเป็นคนร้ายในทุกเรื่องที่เกิดในสวนส้มจนบางครั้งรู้สึกว่านางเอกออกจะน่าจะรำคาญในหลายๆครั้งเหมือนเด็กที่ดันทุรังว่าคิดผิดแต่ไม่ยอมรับว่าผิด ประมาณว่าก็นายน่าสงสัยฉันจะสงสัยจะเป็นไรไป ทำแรกๆก็ไม่เท่าไร แต่ทำบ่อยๆเข้าเลยรู้สึกไปเองว่านางเอกไม่น่ารักเท่าไร พระเอกทำประโยชน์ให้เท่าไรก็ไม่ค่อยจะเห็นความดี จะมาค่อยยังชั่วเข้ากลางๆเรื่องที่ความดีของพระเอกเริ่มเข้าตา แต่ก็ยังจัดไว้ประเภทว่าต่อให้ทำดี แต่ฉันก็ยังไม่เชื่อมั่นในตัวนายทั้งหมดหรอกนะ
ดังนั้นความรู้สึกส่วนตัวหลังจากอ่านเล่มนี้จบเป็นเช่นไร ฟีน่าขอออกตัวก่อนถ้ามองกันในแง่ของการสร้างเรื่อง เหตุผลต่างๆที่เป็นตัวละคร ต้องยอมรับว่าใช่ค่ะพระพายไม่ใช่นางเอกแบบนิยายเล่มอื่นของเขา อย่างเช่นคุณเพชรจอมนางเอกจากรักร้ายละลายใจเมื่อเธอคือเด็กสาวที่ลึกๆลงไปมีความกดดันจากความรู้สึกว่าไม่เป็นที่ต้องการของพ่อเลยแม้แต่น้อยเธอถูกหล่อหลอมแบบนี้ พระพายย่อมไม่ใช่นางเอกประเภทอ่อนหวาน สนิมสร้อยต้องคอยให้คนมาดูแล นางเอกเลยกึ่งๆ ทอมบอยเสียหน่อย เพราะเธอต้องมาดูแลสวนส้มแบบคนไร้ประสบการณ์
พอๆกับพระเอกที่เป็นน้องหลงของครอบครัวเขาจึงมีนิสัยค่อนข้างประหลาดเล็กน้อย แต่หนึ่งในนั้นคือกวนประสาท เรื่องนี้จึงไม่ใช่นิยายแนวรักหวานๆหรือลับสมองกันทางด้านธุรกิจ หักเหลี่ยมกันอย่างเข้มข้น จะมาแนวลูกทุ่งๆหน่อยจนในบางฉากมันเหมือนแนวนิยายแบบวัยรุ่นมากๆค่ะฟีน่าซึ่งไม่ค่อยแนวเอะอะมะเทิ่งอยู่แล้วก็เลยรู้สึกว่านี้ไม่ใช่แนวที่ฟีน่าชอบเท่าไร
ดังนั้นความรู้สึกในเรื่องนี้จึงมาจากรสนิยมส่วนตัวล้วนๆนะคะที่มันค่อนข้างไม่ใช่สำหรับตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ามนุษย์ป้าแบบฟีน่า ยังคงมีพิมพ์นางเอกแบบพิมพ์นิยมคลาสสิคคือนางเอกต้องน่ารัก อ่อนหวาน ไม่จำเป็นต้องสวยล้ำหยาดฟ้ามาดิน ไม่ใช่เบญจกัลยานีก็ไม่ว่ากันขอให้มีความเป็นผู้หญิงบ้าง แต่ถ้ามาพร้อม เรือนสาม น้ำสี่พัดวีว่าที่สามีได้ครบถ้วน ก็ยินดีอ้าแขนรับนะคะซึ่งนางเอกเรื่องนี้คือขั้วตรงข้ามหมด เราต้องยอมรับว่านางเอกเป็นคนสู้ชีวิต อดทนต่อโชคชะตาที่เข้ามาในชีวิตติดแค่นางเอกออกจะขาใหญ่เกินไปที่มนุษย์ป้าแบบฟีน่าจะแนว อย่างที่บ่นไปข้างต้นว่าบางครั้งออกจะรู้สึกว่าเธอเยอะไปกับการเอาแต่จับผิดพระเอก ไม่ว่าจะกระดิกตัวทำอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น ต้องโทษพระเอกก่อน จนกลายเป็นว่าเธอน่าเบื่อตรงนี้จะเอาแต่มองคนในแง่ร้ายไปถึงไหน แต่สิ่งที่เรียกว่าป้าฟีน่าขอศาลาจริงๆคืออาการข่มพระเอกตลอดทั้งเล่ม ในช่วงแรกที่เขาเป็นลูกน้องเราก็พอเข้าใจว่าต้องปกครองคน แต่นางเอกปกครองพระเอกแบบข่มด้วยพระเดชกันสุดๆ ไม่ได้รู้สึกน่ารักเอาเสียเลย ซึ่งจุดนี้เข้าใจแต่มันก็มาพร้อมกับสิ่งที่ฟีน่าบอกว่านางเอกจะมองพระเอกแง่ร้ายตลอดดังนั้นเธอจึงพยายามข่มเขาตลอดทั้งเล่มปกติฟีน่าก็ไม่ค่อยแนวนิยายที่นางเอกจิกพระเอกด้วยคำว่า นายนั่น นายนี้อยู่แล้วเล่มนี้จริงๆมันก็ไม่รอดด้วยคำพูดนี้เสียแล้ว เรียกแบบข่มพระเอกให้อยู่ใต้อาณัติตลอดเวลาว่าฉันคือเจ้านายเธอนะฉันต้องกดเธอเอาไว้ตลอด ไม่ว่าเขาจะมีประโยชน์ต่อสวนส้มแค่ไหนน้ำเสียงหรือคำพูดอะไรมันก็ไม่เปลี่ยน เรียกว่าจริงๆแล้วเหมือนน้ำเสียงแบบนี้จะเป็นจนจบเรื่อง มันไม่ให้ความรู้สึกอ่อนหวานแบบคนรักกันทั้งๆที่นางเอกก็อายุน้อยกว่าพระเอกมันดูกระด้างๆ หรือเราจะรู้สึกไปเองว่าอารมณ์แบบหวานฉ่ำหรือหอมหวานไปอยู่ตรงไหนกันอาจจะเพราะเรื่องไม่ได้ตั้งใจจะเล่าแบบนิยายรักหวานๆแต่มาในแง่เปรี้ยวเข็ดฟันหรือเปล่า เราเป็นคนอ่านที่ต้องการหวานเลยหยิบนิยายมาผิดทางตัวเองเสียนี้
และอีกประการที่รู้สึกว่าไม่ใช่สำหรับตัวเองจริงๆคืออาการข่มพระเอกสุดๆที่ปรากฏในเล่มแม้ว่าฉากนั้นมันจะมาพร้อมกับความเข้าใจผิดที่นางเอกคิดว่าพระเอกจะลวนลามก็ตามทีแต่ฟีน่าเป็นคนหัวเก่ามาก เรียกได้ว่ามนุษย์ป้าตัวจริงฟีน่าไม่ค่อยจะแนวกับฉากที่นางเอกใช้เท้าถีบหลังพระเอกเพราะต้องการเอาคืนที่บังเอิญกอดเธอ แต่เธอคิดว่าเขาจงใจพอพระเอกอึ้งกับการกระทำของนางเอกเลยแก้เผ็ดจนเธอเจ็บตัวจากความไม่ตั้งใจก็เลยจะถีบหน้าซ้ำให้ อันนี้ไม่ไหวจริงๆนะคะถ้านางเอกชกหน้าเลือดกบปากหรือต่อยจะรู้สึกดีกว่าด้วยซ้ำไป ทำแบบนี้จากที่รู้สึกว่านางเอกไม่ใช่แล้วสำหรับตัวเอง หรือแม้แต่ฉากตอนประมาณว่าตกลงเป็นแฟนกันแล้วรักกันแล้ว ยังมาไล่เตะพระเอกแก้เขินมันก็รู้สึกว่าเป็นฉากที่ไม่ค่อยเข้ากับสไตล์การอ่านนิยายของฟีน่าไปแล้วเนื่องจากรู้สึกว่าเหมือนนิยายแนวเพื่อนรัก รักเพื่อน คือถ้ารุ่นราวคราวเดียวกันก็พอทำใจแต่นี้คนละรุ่นกัน ฟีน่าก็เลยถอนหายใจแล้วพูดได้เลยว่า ไม่ใช่แนวเราแล้วล่ะเล่มนี้
แต่ใช่ว่าจะรู้สึกว่ามีปัญหาแต่กับนางเอกนะคะสำหรับพระเอก จริงๆเขาเป็นคนมีความสามารถค่อนข้างเยอะการจีบของพระเอกอาจจะดูทีเล่นทีจริงไปนิดหนึ่ง เราก็ดันชอบแนวผู้ใหญ่ปราบเด็กดื้อแต่เล่มนี้เป็นแนวว่าเด็กดื้อต้องยั่วโทสะ ปั่นหัวให้สนุกมันก็เลยกลายเป็นพระเอกก็เด็กตามนางเอกไปด้วย คนชอบพระเอกนิ่งๆเป็นผู้ใหญ่กว่าแบบเราเลยไม่ได้ปิ๊งหรือกรี๊ดพระเอกสักเท่าไรนะคะ เหมือนคู่นี้เป็นเพื่อนคู่หูกันเสียมากกว่าแถมตอนท้ายเล่มมีตัวละครที่ดูจะนิ่งกว่าพระเอกมา ฟีน่าเลยไม่ค่อยสนใจตัวพระเอกนางเอกสักเท่าไรแล้ว หันไปสนใจตัวละครตัวนี้แทนค่ะเขาดูมีเสน่ห์กว่าสำหรับเราขึ้นมาทันที
ก็เลยกลายเป็นว่าเล่มนี้นะคะไม่ใช่นิยายในแนวที่ตัวเองชอบสักเท่าไร แต่อย่างที่บอกว่าเหตุผลของตัวนิยายน่ะเข้าใจได้มีเหตุมีผลในการกระทำของตัวละครอย่างนิสัยของนางเอกที่ต้องแข็งจนไม่ค่อยน่ารัก หรือประเด็นอ่อนไหวในครอบครัวนางเอก แต่ประเด็นนี้บอกตรงๆว่าจริงแอบงงเล็กน้อยว่าตกลงแล้วพ่อนางเอกไม่รักนางเอกจากสาเหตุใดบ้าง เพราะกลายเป็นว่าจริงๆก็เป็นห่วงสรุปแล้วความรู้สึกระหว่างกันคืออะไรหรือมันคือความเหินห่างเย็นชาที่มีให้กันมานานแล้ว เลยเรียกว่าก็รักแต่แสดงออกไม่เป็นแล้วพ่อนางเอกเกลียดนางเอกหรือเปล่าที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายในชีวิตมีงงเล็กน้อยนะคะ
เรื่องนี้ถ้าพูดกันแบบแฟร์ๆมันก็เหมือนว่านิยายเหมือนรสชาติอาหาร อาหารแบบนี้มันต้องรสชาติเผ็ดร้อนจึงจะถูกปากคนชอบแนวนี้แต่เราเป็นคนไม่ชอบอาหารรสนี้ แต่ไม่รู้ แล้วไปกินเข้าแน่นอนว่ามันย่อมไม่มีวันถูกปากเราได้หรอกค่ะ เพราะมันสร้างมาเพื่อคนที่ต้องเสพรสเช่นนี้เราก็พูดได้ในแง่ว่า เราไม่แนวนิยายสไตล์นี้ ไม่ใช่เพราะนิยายเขียนมาได้ย่ำแย่ในด้านความสมเหตุสมผลหรืออะไรก็ตามที เพราะมันเป็นรสนิยมในการเสพสิ่งต่างๆ ใครชอบนิยายแนวนี้ก็คงต้องบอกว่าสนุก สำหรับเราผู้ไม่ใช่คนนิยมทางนี้ก็คงบอกได้คำเดียวสำหรับฟีน่าแล้วต้องมนตร์พระพายไม่ใช่คำตอบของการอ่านนิยายที่ตามหานะคะ มันไม่หวานไม่โรแมนติคแบบที่ชอบ นางเอกดูแข็งกระด้างในบางฉากพระเอกยังไม่มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล เนื้อเรื่องไม่สนองความต้องการความฟินความจิ้นของมุมอ่อนโยนมากนัก รู้ว่าพระเอกรักและห่วงนางเอกหากแต่โทนเรื่องมันเอะอะโวยวายมากเกินไปสำหรับตัวเอง ซึ่งใครชอบแนวนี้ก็ลองกันดูนะคะ แต่ถ้าคนที่คอคล้ายๆกับฟีน่าอาจจะไม่แนวแบบฟีน่าก็เป็นไปได้ค่ะ