Group Blog All Blog
|
เมื่อรุ้งทำกงเป่าจีติงแบบพิศดาร มันก็เลยออกมาพิกลพิการแบบนี้แหละ (มีรูปเยอะนะ) ก่อนจะเล่าว่าทำอีท่าไหน ก็ขอท้าวความก่อนว่าตอนอยู่เมืองจีนแรกๆ อาหารการกินลำบากเหลือเกิน ดันอยู่ในดงคนต่างชาติ ร้านอาหารแถวบ้านล้วนแล้วแต่ไฮโซหมด แถมส่วนใหญ่เป็นอาหารเกาหลีบ้าง ญี่ปุ่นบ้าง ฝรั่งบ้าง พอไปกินที ก็อิ่มจุกชะมัด สุดท้ายก็ต้องไปฝากท้องกับเซี่ยวหลงเปาและก็เกี๊ยวนึ่งที่ร้านระหว่างบ้านกะมหาลัย ไอ้อร่อยมันก็อร่อย ไอ้ถูกมันก็ถูก แต่ว่ามันไม่ไหวแล้ว มันเกิน ผักก็ไม่ค่อยมี ขาดสารอาหาร ท้องผูกและอื่นๆ ออกไปซื้ออาหารกินก็หนาว วันๆ นั่งต้มแกงจืดอยู่บ้านเพราะทำอะไรไม่เป็น โชคดีข้างล่างของแฟลตมีเพลิงขายผักเล็กๆ ก็เลยไปถามเขาว่าทำอะไรกินดีที่ง่ายๆ เขาก็เลยแนะนำกงเป่าจีติง กงเป่าจีติงก็คือไก่ผัดเม็ดมะม่วงนั่นเอง แต่สไตล์จีน อร่อยเป็นบ้าเลย (ตอนไปกินที่ร้าน) จขบ.ชอบมากๆ แต่พอทำกินเองที่แฟลต เพื่อนบอกว่า ไอ้นี่บ้านมันเรียกว่าผัดผัก -_-' ก็พอเข้าใจ เล่นเปลี่ยนส่วนผสมตามใจฉัน แหะแหะ ![]() ส่วนผสมของกงเป่าจีติงก็มี (ตามสายตาคร่าวๆ นะ) -ไก่ (หั่นเป็นลูกเต๋า) -แครอท (หั่นเป็นลูกเต๋า) -มันฝรั่ง (หั่นเป็นลูกเต๋า) -พริกหวาน (หั่นเป็นชิ้นๆ ให้ใกล้เคียงลูกเต๋า) -แตงอะไรก็ไม่รู้ แต่ที่เมืองจีนเรียกว่า Huanggua ยาวกว่าแต่ความอ้วนพอๆ กะแตงกวา ผิวจะขรุขระ ไม่เรียบ และก็ไม่มีกลิ่นฉุนเหมือนแตงกวา -ถั่วลิสง (มั้ง) เม็ดใหญ่ๆ เม็ดมะม่วงก็ได้ แต่มันแพง - หอมหัวใหญ่ - พริกแห้ง (น่าจะแห้งมั้ง) ![]() ถ้าจำไม่ผิดก็มีประมาณนี้ๆ ผัดๆๆๆๆๆๆๆ แบบแห้งๆ ใส่เครื่องปรุงแบบจีน ออกมาก็อร่อยเหาะ ไม่มันเยิ้ม ร้านประจำที่กินก็จำชื่อไม่ได้ แต่ไปอีกก็จำได้ ^^" ![]() ภาพจะขึ้นไหมหนอ ^^" เอาภาพมาจากเวปนี้ค่ะ //static.flickr.com/79/243870948_9a3ce67ecf.jpg?v=0 สรุปว่า นั่นแหละ ก็อยากกิน วันนี้เดินๆ ตลาดนัด เหลือบไปเห็นแครอทกะมั่นฝรั่ง ก็เลยซื้อมาเลย ไม่ดูตาม้าตาเรือเล้ย เดินไปร้านขายไก่ ก็เห็นเขาวางขายน่อง ปีก อก ไม่เห็นเป็นเนื้อๆ พูดง่ายๆ ซื้อไม่เป็น ก็เลยไปซื้อหมูมาแทน ![]() หมูก็ไม่รู้จะซื้อยังไง ก็เลยเลือกๆ อันที่ไม่ติดมันเพราะไม่ชอบกินมัน ขอซื้อเขา 20 บาท นึกว่าจะไม่ขาย แหะแหะ เลยได้ของมา 3 อย่าง 2 อย่างอยู่ในส่วนผสม อีกอย่างก็ไปหามาใส่เอง แล้วมันจะได้เรื่องเหรอเนี่ย ![]() เอาล่ะ ลองมาทำมั่วๆ ดูละกันเนอะ 1. เอาหมูมาหั่นเป็นลูกเต๋า จขบ. ชอบให้มันใหญ่ๆ จะได้เต็มปากเต็มคำ ก็หั่นออกมาแล้วก็เอาซีอี้ว น้ำปลา พริกไทย เหยาะมันลงไป เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เหยาะมั่ว กลัวเค็มชะมัด เอามือลงไปคลุกๆๆๆๆๆ มันจะได้เข้ากัน เอาเข้าตู้เย็น (ปล. รูปจากมือถือสุดห่วย แสงเลยอนาถหน่อยนะคะ) ![]() 2. เอาผักต่างๆ ที่มี (พูดเหมือนเยอะเลยเนอะ) มาหั่นเป็นลูกเต๋า และแน่นอนว่า ต้องชิ้นใหญ่ๆ ![]() ![]() อ๊ะ จขบ. กลัวมีด ปอกเปลือกอะไรพวกนี้ไม่ค่อยเป็นด้วย เนื้อเลยติดเปลือกไปซะเยอะ แต่ไม่เป็นไร เรามีหน่วยกำจัดขยะสดอยู่ในบ้านเยอะ ![]() แต่รู้สึกว่าผักจะน้อยเกินไปซะหน่อย ไปคุ้ยๆ ตู้เย็นได้หอมใหญ่มา 1 ลูก แต่ จขบ.ไม่ชอบกิน เลยหั่นมาแค่ 1/4 ลูกก็พอ แล้วก็เหมือนเดิม หั่นชิ้นใหญ่ๆ พอเวลาที่จะเขี่ยมันออก จะได้สะดวก (แล้วจะใส่ทำไมเนี่ย) ![]() ![]() 3. รู้สึกหมูจะชิ้นใหญ่จัง เอาเข้าเตาอบอบก่อนท่าจะดี หมักหมูอยู่ได้แค่ 15 นาที มันจะอร่อยเหรอเนี่ย ![]() ![]() 4. ระหว่างที่อบหมู เราก็ตั้งกะทะ เอาน้ำใส่พอประมาณ แล้วเอาพวกแครอทกะมันลงไปต้ม เพราะจขบ. ชอบกินแครอทกะมันนิ่มๆ (แก่แล้วกินของแข็งๆ เดี๋ยวสุภาพฟันจะแย่) ![]() 5. หั่นไปดูน้องหมู ก็พบว่าเตาอบดังติ๊งแล้ว ลองเขี่ยๆ ดูก็รู้ว่าหมูข้างในๆ ยังไม่สุกดี แต่ไม่เป็นไร ผัดๆ เอาเดี๋ยวก็สุกเองแหละ แต่ปัญหาก็คือ พอหันกลับไปดูน้องผัก น้ำระเหยหมด ติดกะทะหมดเลย ![]() ![]() 6. ช่างมัน แงะๆ ผักออกใส่จาน แล้วหันไปล้างกะทะ ตั้งเตาอีกที ใส่น้ำมันเล็กน้อยที่สุดเท่าที่จะเล็กน้อยได้ เอาหมูน้อยลงไปผัดๆๆๆๆๆ ![]() 7. พอผัดเสร็จก็ใส่น้ำลงไป เพราะว่า จขบ. ชอบขลุกขลิก (มันไม่ใช่กงเป่าจีติงแล้วล่ะ มันควรจะเป็นหมูผัดตามใจจขบ.) ![]() 8. พอซักพัก ไม่รู้ว่าพักละเท่าไหร่ เอาเป็นว่าใส่ผักที่เมื่อกี้ติดกะทะลงไปละกัน ใส่ไปก็คนๆ มันไป ![]() 9. ก็คนๆๆๆ มันไปเรื่อยๆ แล้วก็ปรุงรส แต่ว่า ตอนที่หมักหมูแล้วอบ มันมีน้ำหมูที่เค็มใช้ได้เลย (คือว่าใส่เยอะเกิน) ก็เลยปรุงแค่นิดหน่อยเอง ที่ทำไปกินไปนะเนี่ย เครื่องปรุงก็มี น้ำปลา ซีอิ้ว ซอสหอยนางรมแล้วก็พริกไทย ถ้าใส่ครบก็รับรองได้เลยว่า เค็มปี๋ ![]() เลือกๆ ใส่ละกันน้อ แต่รู้สึกว่าจะพลาดใส่พริกไทยไป 2 รอบ เผ็ดแหงๆ -__-' 10. กี๊ซซซซซซซซซซซซซซ ลืมหอมใหญ่ โกยใส่แทบไม่ทัน ก็เอากระบวยคนๆ มันหน่อย เดี๋ยวมันจะน้อยใจ เกือบไปแล้ว -_-' 11. ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยมีรูป เพราะตื่นเต้น ถ้าถ่ายไปทำไป สงสัย คงดับอนาถแหงๆ เอาเป็นว่าเล่าละกัน ก็คิดว่าอยากให้มันเหนียวๆ หน่อยๆ ก็เลยเปิดหาแป้งข้าวโพด (ไม่รู้ว่าแป้งมันหรือแห้งข้าวโพดดี แต่ชอบข้าวโพดมากกว่ามันเลยเลือกแป้งข้าวโพด) ปัญหาคือเข้าใจว่าคอฟฟี่เมตคือแป้ง เกือบใส่ลงไปแล้ว โชคดีเคยดูรายการครัวอาโนเนะ แล้วเห็นผู้เข้าแข่งขันใส่แป้งผิดประจำเลยตะโกนไปถามแม่ ยังถือว่าบุญยังพอเหลือเก็บนะเนี่ย ![]() 11. แม้ว่าจะสามารถใส่แป้งได้ถูกต้อง แต่ทว่าใส่เยอะเกิน เหนียวหนึบเลย แย่ชะมัด ![]() 12. กินไปได้ 3 คำ ฝืดคอเป็นบ้า ไม่ถูกจริต เลยเอาน้ำลงไปคั่วๆ มันหน่อยแล้วปรุงรสเพิ่ม ดันพลาดใส่พริกไทยลงไปเป็นครั้งที่ 3 ![]() ไม่มีภาพถ่ยตอนท้ายเพราะหิว พอได้ก็ฟาดซะ ทีเหลือก็เข้าตู้เย็นไม่ให้ใครกิน กลัวชาวบ้านท้องเสีย ![]() สรุปว่าอาหารที่ได้มีคอมเม้นท์ดังต่อไปนี้ 1. หมูเหนียวชะมัด 2. มันไม่ค่อยถูกใจ 3. แครอทกะหอมใหญ่รสชาติดีมากๆ โชคดีนะเนี่ยที่มาใส่หอมตอนท้าย ขนาดไม่ชอบหอมยังกินเรียบ เสียดายไม่ใส่ซักครึ่งลูก 4. เผ็ด ก็ประสบความสำเร็จ (คิดเอาเอง) อย่างดี แต่แนะนำว่า ถ้าอยากทำ ไปหาในเวปดูที่เขามีวิธีให้จะดีกว่า สารภาพว่าทำอาหารไม่เป็นเลย ไอ้วิธีทั้งหมดที่ทำคือ มั่วหมด ขอย้ำว่า มั่วหมด คือคิดเอาเองว่า อยากให้แครอทนิ่มก็ต้มก่อน ไม่รู้ชาวบ้านเขาทำยังไง กงเป่าจีติงก็กลายเป็นหมูผัดอะไรก็ไม่รู้ซักอย่าง แม้ว่าจะไม่ได้เรื่อง แต่ก็ประทังความหิวไปได้แหละน่า ![]() ชื่อเมนูแปลกดีค่ะ ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่น่ากินดีจัง
![]() โดย: Complicatedgirl
![]() หมูก็ไม่เป็น กินได้ ก็กิน กินไม่ได้ก็ไม่กิน แต่ดูมาก็น่ากินนะคร้าบ....เป็นหมูกังเป่า เราก็ไม่แคร์กินได้ๆ
![]() โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง
![]() |
peiNing
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เป็นเด็กกรุงเทพแท้ๆ แต่อยู่บ้านนอกของกรุงเทพน่ะนะ ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษนอกจากแกล้งสัตว์เลี้ยงที่บ้าน นั่นคือนกฮู้ผู้มีอายุ 10 ปีได้ (นกแก่มีหนวด) (แต่ตอนนี้ในที่สุดนกฮู้ก็จากไปอย่างสงบ ไม่รู้อายุรวมเท่าไรแต่มาอยู่ที่บ้านได้ 11 ปี ขอไว้อาลัยปู่ฮู้ ขอให้ไปสู่สุขคตินะ T^T) ขอชี้แจงอีกอย่าง ชื่อ peiNing นี้ เป็นชื่อที่พี่กะน้องใช้ร่วมกันสองคน ดังนั้นอย่างงว่าเดี๋ยวก็แทนตัวว่ารุ้งบ้างหนิงบ้าง ก็มันคนละคนนิ (รุ้งน่ะคนพี่ หนิงน่ะคนน้อง)
FB สำหรับคนชอบงานเขียน peiNing ค่ะ
FB สำหรับคนชอบบทความสอนห้องเรียนนิยายค่ะ
|