Group Blog All Blog
|
Not today, he said เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้ Ms.Ambiguous เขียน Not today, he said เขาบอกผมว่าไม่ใช่วันนี้ (2 เล่มจบ) Ms.Ambiguous เขียน สำนักพิมพ์ Hermit Books พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2563 ราคาปก 899 บาท 875 หน้า ราคาอีบุ๊ก (meb) 765 บาท
หลังปกเล่ม 1
เด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดที่พยายามกระโดดสะพาน แต่ดันเจอมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง ขี่สกูปปี้ไอสีฟ้าเข้ามาขวาง ด้ายการหลอกล่อพาไปกินชองอร่อย หลังจากนั้นความพยายามฆ่าตัวตายของเด็กน้อยคนนั้นก็ลดลงเรื่อยๆ สวนทางกับความผูกพันที่มีให้มนุษย์เงินเดือน ผู้มีใจรักการสะสมหนังสือ และร้านเหล้าบนถนนช้าวสาร
คุยกันหลังอ่าน
ช่วงนี้โอป่วยและก็เปื่อย แต่เรื่องนี้ชอบเลยอยากเขียนรีวิว คงเขียนสั้น ๆ นะคะ (เดี๋ยวมาดูกันว่าจะสั้นได้จริงมั้ย 😛) เนื่องจากซื้อเป็นอีบุ๊กเลยดึงภาพมาเว็บของสนพ.ค่ะ โอเพิ่งเห็นปกหลังนะนี่ ฮ่า ๆ เรื่องนี้โอเห็นตั้งแต่ตัวเล่มเพิ่งออกใหม่ ๆ เลย ตอนนั้นสะดุดตาปกกับชื่อเรื่อง คิดว่าภาพปกน่ารักจัง ว่าจะไปหาตัวอย่างอ่านแล้วก็ลืมยาวจนมาถึงไม่กี่วันนี่แหละค่ะ เกิดได้ไปอ่านตัวอย่าง ตอนนั้นอ่านตัวอย่างไปนิดเดียวก็ปิ๊งเลย ชอบสำนวน มันมีเสน่ห์ แล้วเนื้อเรื่องก็น่าติดตาม ยิ่งอ่านยิ่งชอบ ก็เลยหาเล่ม คราวนี้เหมือนมันออกมานานพอสมควรแล้ว พวกร้านตัวแทนหนังสือหมด แล้วเราอยากอ่านทันทีเลยไง เลยซื้ออีบุ๊กก็ได้
เรื่องเล่ากับตัวนายเอกชื่อ ก้อง อายุสิบเจ็ดย่างสิบแปด น้องกำลังจะไปกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย แต่ได้คุณพี่อู๋ พระเอกมนุษย์เงินเดือนที่ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาเห็น เลยเรียกไว้ อู๋ชักชวนก้องให้ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ แรกเริ่มก็ชวนไปกินสตาร์บัค บอกว่า ลองกินก่อนมั้ย พี่จะเลี้ยง จะตายก็ได้ แต่ไม่ใช่วันนี้ แล้วน้องก็คิดว่า ลองสักหน่อยก็ได้ ก็ไปลอง วันต่อมา พี่อู๋ก็ชวนน้องไปทำอย่างอื่นอีก ทำไปเรื่อย ๆ ก้องจะตายก็ไม่ได้ตายสักที ในที่สุดพี่อู๋ก็สามารถดึงน้องไปหาหมอได้ เพราะก้องเป็นโรคซึมเศร้า ที่บ้านก็ไม่มีใคร ก้องอยู่คนเดียวโดยมีเพื่อนบ้านแถวนั้นช่วยเหลือตามกำลัง ไปหาหมอได้สักพัก บ้านก้องก็ไฟไหม้ อู๋ช่วยก้องไปแล้วก็ไม่อยากทิ้งครึ่ง ๆ กลาง ๆ ก็เลยชวนมาอยู่ด้วยกัน กลายเป็นความสัมพันธ์ของสองคนที่ไม่มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดแต่ค่อย ๆ ผูกพันจนขาดกันไม่ได้ในที่สุด
เรื่องจะเล่าแบบค่อยเป็นค่อยไป มีรายละเอียดยิบย่อยที่เสริมให้เรื่องมีน้ำหนัก จุดเด่นของเรื่องนี้คือตัวละครแต่ละตัวไม่มีใครดีสุดหรือร้ายสุด ทุกคนอยู่ตรงกลาง เป็นสีเทา ๆ ถ้าใครยังไม่อ่านเรื่องนี้แล้วอ่านที่โอเขียนไปตอนต้นแล้วรู้สึกว่าพี่อู๋เป็นพระเอกประเภทไฟฉายหรือประภาคาร คอยส่องทางสว่างให้น้อง โอขอตอบว่าไม่ใช่ อู๋ช่วยเหลือก้องจริง แต่อู๋ก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดา รักโลภโกรธหลงกลัวอิจฉาและทำผิดได้ เวลาอู๋หงุดหงิดอู๋ก็สามารถพูดจาร้าย ๆ ทำร้ายความรู้สึกก้องได้มากเลย ส่วนก้องก็ไม่ได้เป็นนายเอกแสนดี เขามีมุมร้าย เห็นแก่ตัว และทำผิดได้พอ ๆ กับทุกคน
โทนเรื่องจะหม่นหน่อยตอนแรกที่ก้องอยากตายตลอดเวลา ดิ่งง่าย แล้วก็ค่อย ๆ สดใสขึ้น โดยรวมคิดว่าค่อนข้างไปในทางค่อนข้างสดใสนะ มีมุกตลกสอดมาเรื่อย ๆ เหมือนคนพูดหน้านิ่งแต่ปล่อยมุกฮา ๆ ส่วนตัวถูกจริตกับความตลกลักษณะนี้ หลายฉากโอฮาก๊ากเลย
สองคนนี้ไม่ได้ชอบกันแบบคนรักแต่แรก อู๋คิดแค่ว่าอยากช่วยก้อง เพราะก้องทำให้นึกถึงน้องชาย ส่วนก้องก็รักอู๋ในแง่ของคนที่เข้ามาดึงเขาในวันที่แย่ เป็นคนที่คอยเป็นกำลังใจ สนับสนุน ช่วยเหลือทุกอย่างจนกระทั่งก้องลุกขึ้นยืนได้ด้วยตัวเอง ก้องจะมองอู๋เป็นพี่ เป็นพ่อ เป็นผู้ปกครอง จะมามีความรู้สึกแบบคนรักเอาตอนหลัง ๆ เลยค่ะ
โอคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดนะ ละเอียดอ่อน และก็ใส่รายละเอียดได้ดี ผู้เขียนสนใจในหลาย ๆ เรื่อง หลาย ๆ แวดวงเลยจะปรากฏให้เห็นชัดในเรื่อง
พูดถึงพระนายหน่อยดีกว่า อู๋ เป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นวัยสามสิบต้น ๆ (อ่านจากทอล์ก ถ้าเข้าใจไม่ผิดผู้เขียนน่าจะทำงานล่ามภาษาญี่ปุ่นเหมือนกันกับอู๋) ทำงานบริษัทอย่างทุ่มเทมาตลอด มาโดนเจ้านายเทตอนรู้จักก้องพอดี อู๋เป็นคนเก่งในการทำงาน แต่ในแง่การใช้ชีวิตบางอย่างก็ไม่ค่อยผ่านนะ อู๋ชอบอ่านหนังสือ ห้องของเขาเต็มไปด้วยหนังสือทุกประเภท และคุณพี่ไม่ขยันเก็บด้วย พอก้องมาอยู่ด้วยเลยต้องช่วยเก็บให้เป็นที่เป็นทางบ้าง ไม่งั้นไม่มีที่เดิน ก้อง เด็กอายุสิบเจ็ดที่อยู่คนเดียวเพราะแม่ตาย ส่วนพ่อทิ้งตั้งแต่เด็ก มีภาวะซึมเศร้าและไม่ต้องการมีชีวิตอยู่แล้ว จริง ๆ ก้องเป็นเด็กจิตใจดีนะ พอมาอยู่กับอู๋ก็จะเห็นแง่มุมดี ๆ ของเขามากขึ้น ก้องค่อนข้างเก่งงานบ้านงานเรือน คอยทำอาหารให้พี่อู๋ ดูแลการใช้ชีวิตของพี่บ้าง สองคนนี้ไม่ได้เข้ากันได้ตลอดเวลา ก็มีบางอย่างต้องปรับจูนกัน ทะเลาะกัน กว่าจะมาลงตัวกันได้ก็ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะเลย อู๋อายุมากกว่าก้องสิบสี่ปีค่ะ อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเรียล เพราะฉะนั้นเลยจะมีฉากที่เห็นก้องหนวดเคราขึ้น สิวตรึม หรืออู๋พุงออก หัวล้าน... แฮ่ม แต่นั่นก็เป็นเรื่องในอนาคตนะ อ่านแล้วฮาดี ชอบ ๆ เรื่องนี้มีฉากบนเตียงนะ ไม่มากประมาณสองสามฉากมั้ง โอชอบสำนวนคนเขียนอยู่แล้ว ฉากในเรื่องก็คิดว่าเขียนได้ดีเลย
ตอนพิเศษในเล่มและอีบุ๊กจะเป็นการเล่าเรื่องในมุมมองของอู๋ เล่าตั้งแต่ยังไม่รู้จักก้อง เล่าเรื่องเอม น้องชายของอู๋ ที่เรื่องหลักไม่เอ่ยถึง เล่าสิ่งที่อู๋คิด อู๋ทำ และอนาคตของอู๋กับก้องหลังจากนั้น
คิดไม่ออกแล้ว เขียนอะไรอีกดีละ อ๋อ โอชอบเล่มหนึ่งมากกว่าเล่มสอง เพราะเล่มสองมีจุดที่ส่วนตัวอึดอัดคือช่วงโดนคนในโลกโซเชียลรุมทึ้ง แต่เข้าใจประเด็นที่ผู้เขียนต้องการสื่อสารนะ
คือโอน่ะ คิดว่าอะไรที่อ่านหรือมองแล้วไม่จรรโลงใจมัน toxic น่ะ เหมือนขยะ เหม็นหึ่ง เพราะฉะก็อย่าไปดมเลย เดินเลี่ยงไปทางอื่นให้สบายตาสบายจมูกดีกว่า บางคนจมูกไวต่อกลิ่น ได้กลิ่นนิดเดียวก็มึนตึ้บ บางคนจมูกด้าน กลิ่นแรงแค่ไหนก็บ่ยั่น แต่มันก็เห็นอยู่ดีนะว่านั่นมันขยะ ฝืนฝ่าไป ขยะเหล่านั้นก็ติดตัว เราก็จะเหม็นหึ่ง ไม่สบายใจและกายไปด้วย ถึงตอนนั้นก็ต้องไปอาบน้ำ หาสบู่กลิ่นหอม ๆ ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยนะ
ให้ 5 ดาว โอประทับใจหลายส่วนในเรื่องนี้ ซื้ออีบุ๊กแล้วก็อยากได้เล่มอยู่อะ ทำไงดี ฮ่า ๆ เออ แต่บ่นได้มั้ย อ่านอีบุ๊กไฟล์ epub แล้วเหมือนเขาทำชื่อบทผิด คือมันรวบเนื้อหาต้นตอนเข้าไป ตอนแรกฉันงงเลยว่าทำไมอ่านไม่ค่อยเข้าใจ ดูดี ๆ อ๋อ มันดันดึงส่วนเนื้อหาเข้าไปในชื่อบทด้วยในบางตอน อ้อ มีภาพประกอบด้วยนิดหน่อย คนวาดเดียวกับคนวาดภาพปกค่ะ
คำผิด ตีตัวออกห่าง ไม่มีนะ หลายคนอาจคุ้นเคยกับอย่างนี้ แต่สำนวนที่ถูกจริง ๆ คือ ตีตัวออกหาก ตีตัวออกหาก ก. ห่างเหินไปไม่ร่วมมือร่วมใจเหมือนเดิม, ตีตัวจากไป, ปลีกตัวออกไป, เอาใจออกหาก ก็ว่า. สุนัขพันธุ์ทาง ที่ถูกต้องเป็น สุนัขพันทาง พันทาง น. เรียกไก่ที่พ่อเป็นอู แม่เป็นแจ้ ว่า ไก่พันทาง, ภายหลังเรียกเลยไปถึงสัตว์ที่พ่อแม่ต่างพันธุ์กัน (ยกเว้นปลากัด) จนถึงสิ่งต่างชนิดบางอย่างที่แกมกันหรือไม่เข้าชุดกัน เช่น สุนัขพันทาง เครื่องลายครามพันทาง.
ตัวอย่าง (?) คลิก อีบุ๊ก (meb) คลิก ตอนนี้มีโปรฯ อยู่ เหลือ 689 บาท หมดเขต 25/4/64 (อีก 2 วัน) รูปเล่ม คลิก
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 23 เมษายน 2564 เวลา:14:31:38 น.
ขอบคุณครับ
ชายรักชาย มีบทบน...ด้วย 5 ดาว น่าสนใจ ให้ชวนอ่านครับ โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 23 เมษายน 2564 เวลา:21:58:22 น.
สวัสดีครับคุณออโอ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ พล็อตเรื่องของ Not today he said น่าสนุกดีนะครับ ดูเป็นเรื่องราวชีวิตที่เกิดได้จริง ทำออกมาสองเล่ม แปลว่าต้องดึงดูดผู้อ่านได้มากพอควร และมีแฟนประจำด้วยใช่ไหมครับ ปกเค้าทำเป็น panorama สวยดีครับ โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 23 เมษายน 2564 เวลา:23:38:30 น.
เห็นคุณโอ อัพบล็อกหนังสือแล้ว
ยินดีนัก รักษาตัวค่ะ.. หายป่วยไวๆนะคะ.. ส่งกำลังใจค่ะ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 24 เมษายน 2564 เวลา:12:24:20 น.
คุณ **mp5** ขอบคุณสำหรับกำลังใจเช่นกันค่ะ
คุณสองแผ่นดิน จริง ๆ เรื่องนี้เขานำเสนอประเด็นค่อนข้างหลากหลายเลยค่ะ ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง อันนี้เขียนไปเพราะบางคนก็อยากรู้เนอะ มีประเด็นเรื่องโรคซึมเศร้าเป็นใจความหลักเพราะตัวเอกเป็นโรคนี้ (และคนเขียนก็มีประสบการณ์ตรง) นำเสนอเรื่องราวและความรู้สึกของคนที่เป็น และแนะนำแนวทางในการก้าวผ่าน นำเสนอความเครียดกดดันของปัญหาชีวิต การทำงาน การเรียน การบูลลี การยอมรับตัวตนและต้องการการยอมรับ การยอมรับถึงความผิดพลาด การเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่น มุมมองของคนในเรื่องก็จะขึ้นอยู่กับพื้นฐานลักษณะนิสัยและสังคมที่เติบโตด้วย ก็ได้อะไรหลายอย่างอยู่นะคะ ถ้าสนใจลองอ่านตัวอย่างดูก่อนได้ค่ะ คุณเริงฤดีนะ ขอบคุณมากค่ะ สุขภาพไม่ดี ช่วงนี้ก็กังวลเรื่องโควิดอีก ฮ่า ๆ รักษาสุขภาพเช่นกันนะคะ คุณ settembre โอก็ชอบชื่อเรื่องค่ะ เป็นอย่างแรกที่สะดุดตาเลย ขอบคุณสำหรับทุกโหวตและทุกกำลังใจค่ะ โดย: ออโอ วันที่: 25 เมษายน 2564 เวลา:16:59:00 น.
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 25 เมษายน 2564 เวลา:23:48:54 น.
|
โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
Friends Blog |