เมษายน 2564

 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
 
 
บุปผาคืนเมือง ฝานลั่ว เขียน
 

แตก Group Blog ใหม่นะคะ ระบบแจ้งว่า Group Blog อันเดิมใส่ไม่ได้ เนื้อหาเต็มแล้ว ถ้าอยากดูนิยายในหมวดYaoi/MM ที่โอรีวิวไว้อันก่อน ๆ คลิก





รีวิวเมื่อ 5/4/64


 


 



บุปผาคืนเมือง (2 เล่มจบ) 

ฝานลั่ว เขียน  จือหลี่ แปล 

สำนักพิมพ์ Fin 

พิมพ์ครั้งที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 

729 บาท  725 หน้า 




*นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักระหว่างชายกับชาย 

#yaoi #BoysLove #นิยายวาย #นิยายแปล #แปลจีน #บุปผาคืนเมือง #ฝานลั่ว #FinPublishing #Fin #รีวิวนิยาย #ออโอ


 

หลังปกเล่ม 1 

 

หนึ่งคือท่านอ๋องผู้ดำรงยศแม่ทัพหนุ่มองอาจห้าวหาญ 

หนึ่งคือคุณชายเจ้าสำราญที่ทำตัวเสเพลมากรักมาทั้งชีวิต 

 

คนทั้งสองที่แต่เดิมไม่เกี่ยวพัน กลับบังเอิญต้องมาร่วมทางเผชิญความเป็นตายร่วมกัน ความเกลียดชังอีกฝ่ายเมื่อแรกเริ่มกลับกลายเป็นความเข้าขารู้ใจ
 

น่าเสียดายที่เมื่อความจริงค่อย ๆ เปิดเผย อันตรายระหว่างทางก็ยิ่งเพิ่มขึ้น มิอาจแยกแยะว่าผู้ใดมิตรผู้ใดศัตรู  
 

กระทั่งฐานะของคนรักที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา ยังแปรเปลี่ยนเป็นวุ่นวายซับซ้อน  
 

เชื่อหรือไม่เชื่อ ช่างยากที่จะเลือกนัก 

 


 

คุยกันหลังอ่าน 

 

อ่านตัวอย่างแล้วชอบลักษณะตัวละครพระนาย (ถึงจะสับสนว่าใครพระใครนาย) เลยสอยมาค่ะ 

 

เรื่องโพเนี่ย เหมือนเป็นจุดให้ลุ้นของเรื่องประมาณหนึ่งเลยนะ ขอไม่บอกโต้ง ๆ ในรีวิวนี้นะคะ ใครอยากรู้โอใส่ให้ด้านล่างน้า 

 

มู่เยี่ยนเฟยเป็นท่านอ๋องแม่ทัพ (อ่านแล้วโอเข้าใจว่าเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋องจากการดำรงตำแหน่งแม่ทัพนะ ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ แต่ถ้าโอเข้าใจผิดแย้งได้เลยนะคะ) มีอาวุธเป็นดาบสีดำขนาดใหญ่ เขาได้รับบาดเจ็บทำให้ใช้กำลังภายในไม่สะดวก มาพักฟื้นที่วัดชิงเฟิงชั่วคราวก่อนจะไปทำภารกิจทตามที่ฮ่องเต้สั่ง แต่ดันมาเจอเข้ากับเถาหราน คุณชายเจ้าสำราญเสียก่อน 

 

เถาหราน คุณชายรองของบ้านคหบดีที่ทำธุรกิจด้านผ้าสิ่งทอ นิสัยไม่เอางานเอาการต่างจากพี่ชายคนโต ชอบไปขลุกตัวอยู่หอคณิกาและหอชายงาม (เถาหรานได้ทั้งหญิงและชายค่ะ) ดื่มเหล้าเที่ยวเตร่ไปวัน ๆ พ่อก็โกรธสิ สั่งโบยและลงโทษให้ไปอยู่วัด และบังเอิ๊ญ ไปเจอกับมู่เยี่ยนเฟยคนงามเข้าพอดี  

เถาหรานเมา ๆ เคลิ้ม ๆ เห็นมู่เยี่ยนเฟยอยู่ใต้ต้นท้อก็นึกไปว่าต้องเป็นเซียนดอกท้อแหง ก็คนเมาอะเนอะ บวกกับนิสัยเจ้าชู้ พี่ก็จีบกะลิ้มกะเหลี่ยเลย มู่เยี่ยนเฟยก็ไม่พูดอะไร ปรายตารังเกียจเถาหรานพร้อมสะบัดก้นหนีไป เหมือนจะไม่อะไร แต่ที่จริงท่านแม่ทัพอาฆาตค่ะ กลับที่พักแล้วก็สั่งองครักษ์ว่า เจื๋อนมันทิ้งซะ  

ลางมรณะมาเยือนเถาหรานแล้ว แต่ค่ะแต่ เถาหรานไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ฝีมือก็พอรับประทานได้ แทนที่จะโดนเล่นงาน พี่ท่านเลยเล่นงานคนของท่านแม่ทัพกลับมา (แถมยังมีหน้ามาจีบท่านแม่ทัพต่ออีก) มู่เยี่ยนเฟยก็รู้สึกว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา ก็ส่งคนไปแอบสืบประวัติเถาหราน แต่ก็สืบไม่ค่อยได้อะไรเท่าไรนักค่ะ แต่มู่เยี่ยนเฟยต้องออกเดินทางต่อแล้ว ก็เลยชวนเถาหรานไปด้วยกันเสียเลย มู่เยี่ยนเฟยไม่ได้ไว้ใจเถาหรานนะคะ แต่คิดว่าคนคนนี้รู้เรื่องเส้นทางดี มีฝีมือ (เถาหรานเดินทางไปตรวจสาขาร้านที่อยู่ต่างเมืองบ่อย ๆ) ก็น่าจะใช้งานได้ เถาหรานก็อิดออดถามว่ามีข้อตอบแทนอะไรล่ะ เงินไม่ค่อยสนนะเพราะรวยแล้ว ท่านแม่ทัพก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นตัวเขาเองเป็นไง เถาหรานน้ำลายหก ตอบตกลงคนงาม ใจง่ายไปเสียอย่างนั้นเลยเชียว 

ระหว่างเดินทางมู่เยี่ยนเฟยก็โดนคนลอบฆ่าหลายครั้ง ก็ได้เถาหรานช่วยให้รอดพ้นไปได้ สองคนนี้ก็เริ่มสนิทกัน เห็นนิสัยใจคอมากขึ้น เถาหรานจากเดิมที่รู้สึกว่ามู่เยี่ยนเฟยเป็นพวกบ้าอำนาจ ถนัดแต่สั่งการ ไม่ถนัดปฏิบัติงานจริง แต่พอได้ร่วมเดินทางจริง ๆ ก็เห็นฝีไม้ลายมือของมู่เยี่ยนเฟยก็อดยอมรับนับถือในใจไม่ได้ ส่วนมู่เยี่ยนเฟยก็เห็นความสามารถของเถาหราน ก็ได้รู้ว่าคนคนนี้ไม่ได้เป็นแค่คุณชายที่เอาแต่เล่นอย่างเดียว เถาหรานมีความสามารถพึ่งพาได้กว่าที่คิด และถึงแม้เถาหรานจะทำเหมือนโอ้โลมจีบมู่เยี่ยนเฟยตลอด แต่ก็ไม่ทำอะไรเกินขีดความอดทนของท่านแม่ทัพ โดยรวมสองคนนี้ก็เลยอยู่ด้วยกันรอดจนไปถึงจุดหมาย 

เอาละ ทุกคนน่าจะรู้ พอถึงจุดหมาย แล้วคำสัญญาของมู่เยี่ยนเฟยล่ะ สรุปเขาได้กันยัง ฮ่า ๆ ยังค่ะยัง เรื่องยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร แต่ว่าสองคนนี้ก็สนิทแนบชิดกันประมาณหนึ่งแล้วค่ะ แถมกลายเป็นว่าตั้งแต่แนบเนื้อกัน มู่เยี่ยนเฟยก็มีท่าทีต่อเถาหรานเปลี่ยนไปพอสมควร มีอาการรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมากขึ้น หวงประมาณหนึ่งเลย ส่วนเถาหรานก็เปลี่ยนค่ะ เปลี่ยนจากรุกเป็นถอยมากขึ้น เอิ๊ก 

โอคิดว่าเรื่องนี้เน้นตัวละคร เน้นความสัมพันธ์พระนายมากกว่าเน้นเนื้อเรื่อง คือมันมีเนื้อเรื่องนะคะ แต่ว่าจะไม่เล่าลงลึกถึงรายละเอียดว่าตัวละครทำอะไรบ้างหนึ่งสองสามสี่ จะไม่ละเอียดขนาดนี้ จะเล่าคร่าว ๆ ให้เห็นความเป็นไปมากกว่า จุดเด่นของเรื่องนี้คือการคาดเดา ตั้งแต่คาดเดาตำแหน่งพระนายแล้วล่ะ คาดเดาความลับที่แต่ละคนซ่อนไว้ บอกเลยว่าแต่ละคนไม่ธรรมดาเลยค่ะ เรื่องก็จะพลิกไปเรื่อย ๆ โอว่ามันไม่ถึงกับเป็นแนวหักมุมนะ คือก็เดาได้ประมาณหนึ่ง อย่างเถาหราน คนที่อ่านตัวอย่างก็น่าจะพอเดาอะไรบางอย่างได้ประมาณหนึ่งเลย แต่ก็ยังอ่านแล้วลุ้น ยังมีอะไรหลายอย่างที่ชวนแปลกใจ โดยรวมอ่านสนุกเลยค่ะ 

เรื่องหลักเกี่ยวกับการชิงอำนาจในวัง ตัวละครหลักเด่น ๆ มีฮ่องเต้ รัชทายาท และองค์ชายสี่ สามคนนี้ก็จะใช้มู่เยี่ยนเฟยที่กุมอำนาจทหารเป็นเบี้ยสำคัญ แต่มู่เยี่ยนเฟยเองก็ใช่ย่อย เขาเป็นคนเก่งและมีความสามารถคนหนึ่ง ไม่ปล่อยให้คนอื่นจูงจมูกง่าย ๆ 

 ก็ต้องเตรียมหนทางรอดไว้เผื่ออนาคตตัวเองเหมือนกัน  

 

ตัวเอกสองคนนี้นิสัยต่างกันพอสมควร 

มู่เยี่ยนเฟยจะเป็นคนพูดตรง บอกคำไหนคำนั้น เป็นคนซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเองจนอ่านแล้วตกใจ แต่โอชอบมากเลยค่ะ มีหลายคำพูดของเขาที่อ่านแล้วโดนใจสุด ๆ แต่ยกมาไม่ได้เพราะจะสปอยล์เนื้อเรื่อง 

ส่วนเถาหราน ตรงกันข้ามกับมู่เยี่ยนเฟยเลย ลื่นไหลไปตามสถานการณ์ ดูเป็นคนสบาย ๆ อะไรก็ได้ไปหมดทุกอย่างจนดูคล้ายขาดหลักการ เหมือนไม่เคยจริงจังหรือจริงใจกับอะไร แต่อ่านเนื้อเรื่องแล้วจะเข้าใจเหตุผลนะคะว่าทำไมเขาเป็นคนแบบนี้ เป็นคนที่อาจทำให้ขัดใจบ้างในบางเหตุการณ์ แต่ก็ทำให้นึกสงสารได้มากเช่นกัน 

โดยรวมโอชอบนิสัยทั้งคู่เลยค่ะ เป็นตัวละครในลักษณะที่โอชอบ ไม่งี่เง่า ไม่อ่อนแอ ไม่เจ้าอารมณ์ยึดตัวเองเป็นใหญ่ รู้จักมองภาพรวมไม่มองแค่ในมุมของตัวเอง และรู้จักทำความเข้าใจอีกฝ่าย 

 

โอว่าเรื่องนี้หวานนะ แต่จะหวานแบบโหด ๆ หน่อย ประโยคบอกรักคือการบอกฆ่า ฮ่า ๆ มีโมเมนต์พระนายค่อนข้างมาก ฉากมีพอประมาณเลย สองคนนี้เขาไม่มีขงเขิน แบบ อยากแล้วใช่มั้ย มาเลย อะไรงี้ พระนายทันกันดี คู่นี้รักร้อนแรง ดุดันค่ะ 

 

ด้านเนื้อหา ความหนัก โอคิดว่าด้วยความที่เขาไม่ได้เน้นรายละเอียดแผนการการห้ำหั่นชิงบัลลังก์หรือรูปแบบชิงไหวชิงพริบ มันก็เลยจะมีจุดที่รู้สึกว่า เอาง่าย ๆ ดื้อ ๆ เลย ตรงนี้โอก็เลยหักคะแนนไปหน่อย แต่ถ้าถามว่าโอชอบไหม โอชอบนะคะ และก็อยู่ในกลุ่มของนิยายที่อยากแนะนำบอกต่อค่ะ อย่างที่บอกชอบนิสัยพระนายทั้งคู่ ค่อนข้างประทับใจความรักของคู่นี้ แล้วเรื่องก็ไม่เชิงว่าเบา เรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกดรามาค่ะ โอให้ที่ 3.5 ดาว จริง ๆ เกือบจะปัดขึ้นสี่แล้วแหละ แต่มันก็มีจุดที่ยังทำให้ลังเลอยู่ 

 

สำนวน โอคิดว่าบางประโยคอ่านแล้วไม่แน่ใจความหมาย โอคิดว่ามันน่าจะเป็นความหมายอีกอย่างมากกว่า แต่ตรงนี้โอก็เดานะคะ อาจจะไม่ใช่อย่างที่โอคิดก็ได้ บางประโยคอ่านแล้วงง ๆ รูปประโยคบางประโยคจะแปลก เพราะมันไม่เป็นประโยค เหมือนเขาละประธานในจุดที่ไม่ควรละหรือละไม่ได้ แต่มีไม่มาก บางช่วงติดการเว้นวรรคไปหน่อยทำให้อ่านไม่ลื่น ส่วนคำผิด โอเจอจุดเดียวนะ และคิดว่าสามารถเกลาให้สละสลวยได้มากกว่านี้อีกนิด บางทีจะเจอคำซ้ำใกล้ ๆ กันที่ถ้าอ่านติดกันแล้วจะสะดุด จดมาบางส่วนไว้ข้างล่างนะคะ 

 

อ่านจนจบแล้ว โอเข้าใจว่าชื่อเรื่อง ‘บุปผาคืนเมือง’ น่าจะมีที่มาจากชื่อรองของ มู่เยี่ยนเฟย ที่ชื่อ เฟยฮวา  (บุปผาที่ปลิดปลิว) 

อ่านตัวอย่าง คลิก









 

 

 

โอเค สำหรับโพสิชัน ตำแหน่งบนล่าง 


.
.
.
.
.
.
.
ลากเมาส์คลุมหรือกด ctrl+A
.
.
.

 

พระเอก ฝ่ายรุกของเรื่อง ก็คือมู่เยี่ยนเฟย ท่านแม่ทัพนั่นเองค่า 

ส่วนนายเอก คือเถาหราน ซึ่งในเรื่องนี้ เขาไม่เคยรับมาก่อน ก็มายอมท่านแม่ทัพนี่แหละค่ะ ซึ่งฉากที่เขายอมฉากแรกนี่โออ่านหลายรอบเลย มันค่อนข้างลึกซึ้งในหลาย ๆ ความหมายน่ะนะ 

และเรื่องนี้ไม่สลับนะคะ แม้จะรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้ในทีแรกก็เถอะ ฮ่า ๆ 

 













 





 

จุดที่ติดขัด 

 

เล่ม 1 

 

127-128 เมื่อครู่นี้เถาหรานเคยพยายามปกปิดจุดอ่อนของตนเองอย่างเต็มที่ ทว่าเมื่อพบว่าไม่อาจปิดบังเอาไว้ได้แล้ว ก็กล่าวออกมาอย่างเปิดเผย ดูเบิกบานใจกว้าง ในความเป็นจริงแล้วกลับเป็นการทำให้ตนเองหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำโดยไม่รู้ตัว ความนึกคิดของคนผู้นี้ลึกล้ำกว่าที่แสดงออกมามากมายนัก มู่เยี่ยนเฟยพลันเกิดความคิดประการหนึ่งขึ้นมา บางทีหากตอนแรกตนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มเข้าหา เถาหรานเองก็คงสามารถหาคำแก้ตัวได้แล้ว 

 

โอคิดว่าคำว่า “ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ” น่าจะเป็น >>  “ตกเป็นรอง” 

และคำว่า “เริ่มเข้าหา” น่าจะเป็น >>  “เริ่มไถ่ถาม” หรือเปล่าคะ และ “คำแก้ตัว” ก็อาจเปลี่ยนเป็น “ข้ออ้าง” 

 

209  

มู่เยี่ยนเฟยไม่ได้ใส่ใจในท่าทางแปลก ๆ ของอาอี กล่าวเสียงเรียบ “เขาเป็นของข้า” 

“...ข้าน้อย” เถาหรานยังทำต่อไปอย่างสนิทสนม เมินสายตามีโทสะที่มู่เยี่ยนเฟยมองมาแล้วกล่าวว่า “ข้าหิวแล้ว กินข้าวเถอะ” 

 

ถ้าเป็น คำว่า “ข้าน้อย” แสดงว่าคนพูดคืออาอีหรือเปล่าคะ เพราะฉะนั้น ประโยคที่อธิบายถึงการกระทำของเถาหรานน่าจะอยู่คนละบรรทัด แต่ถ้าเถาหรานเป็นคนพูด น่าจะเรียกตนเองว่า ข้า 

แล้วประโยคที่ว่า เถาหรานยังทำต่อไปอย่างสนิทสนม นี่ก็อ่านแล้วไม่เข้าใจว่าทำอะไร  

น่าจะเป็นประมาณนี้ 

>> 

มู่เยี่ยนเฟยไม่ได้ใส่ใจในท่าทางแปลก ๆ ของอาอี กล่าวเสียงเรียบ “เขาเป็นของข้า” 

“...ข้าน้อย”  

เถาหรานยังแนบชิดสนิทสนมต่อไป ไม่สนใจสายตามีโทสะที่มู่เยี่ยนเฟยมองมาแล้วกล่าวว่า “ข้าหิวแล้ว กินข้าวเถอะ” 

 

228 

“ฝ่าบาทคิดเช่นไร ในฐานะที่เป็นขุนนาง ข้าไม่กล้าวินิจฉัย ทว่าข้ามาเตียนหนานในครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อสืบเรื่องท่านอ๋อง แต่ข้ามาหาคน” 

มู่เสี่ยนอวี้อึ้งไป เห็นได้ชัดว่าคำพูดของมู่เยี่ยนเฟยทำให้เขาตกใจไม่น้อย 

ภายในใจของมู่เยี่ยนเฟยสั่นไหววูบ ก่อนเขาออกเดินทางฮ่องเต้กำชับเขาไว้เช่นนี้จริง ๆ เมื่อครู่นี้เพื่อปลอบขวัญมู่เสี่ยนอวี้ จึงตั้งใจใช้เรื่องนี้มาขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน คิดไม่ถึงว่าที่ทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจกลับถูกมู่เสี่ยนอวี้เดาได้ถูกต้องตรงเผง กำลังคิดว่าจะรับมืออย่างไรดี ก็ได้ยินมู่เสี่ยนอวี้กล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “โอรสสวรรค์แห่งราชวงศ์ ถึงกับต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ หากข้าคิดช่วงชิงของกับเขาจริง คงแย่งชิงมาได้ตั้งนานแล้ว” 

 

โอคิดว่า ประโยค “กลับถูกมู่เสี่ยนอวี้เดาได้ถูกต้องตรงเผง” นี้ไม่น่าใช่ จากใจความคือ พอมู่เสี่ยนอวี้รู้ว่ามู่เยี่ยนเฟยมาหาคน ก็รู้ทันทีว่ามาหาใคร และหาไปทำไม จึงน่าจะเป็นประโยคประมาณว่า >> “กลับถูกมู่เสี่ยนอวี้เข้าใจได้ในทันที” 

 

237 “แต่งกายเช่นนี้ข้าถูกตาเฒ่าบังคับให้สวมมาตั้งแต่เด็ก จึงเคยชินตั้งนานแล้ว...” 

ตกคำว่า เครื่อง >> เครื่องแต่งกาย  (เพราะมีคำว่า ให้สวม) 

หรือไม่ก็ต้องแก้ประโยคใหม่ เป็นประมาณ >> “ข้าถูกตาเฒ่าบังคับให้แต่งกายเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก...” 

 

เล่ม 2 

 

143 ลมกรรโชกพัดผ่านไป >> ลมกระโชก 

ลมกระโชก น. ลมแรงที่เกิดในทันทีทันใดชั่วขณะหนึ่ง, ลมที่พัดแรงเป็นพัก ๆ 

 

382  

เถาหรานจับมู่เยี่ยนเฟยกดลงอยู่เบื้องล่าง มือข้างหนึ่งดันหน้าอกของเขาไว้ แล้วออกกำปั้นไปทางเขา 

มู่เยี่ยนเฟยไม่ได้ขยับเขยื้อน จดจ้องกำปั้นที่ใกล้เข้ามาอย่างเยียบเย็น จากนั้นลูบแก้มของตนพลางโจมตีลงที่เตียง นิ้วของเถาหรานเชยปลายคางของเขาขึ้นมา ยิ้มเพลางเย้าว่า “ใบหน้าที่น่ามองถึงเพียวนี้ ข้าจะหักใจทำร้ายได้อย่างไร?” 

 

อ่านแล้วงงค่ะ โดยเฉพาะ “จากนั้นลูบแก้มของตนพลางโจมตีลงที่เตียง” แบบ ใครทำอะไรนะ แล้วอยู่ในท่าไหนยังไง 

 

400 

 

มู่เยี่ยนเฟยชอบการกระทำที่สามารถควบคุมความรู้สึกของอีกฝ่ายได้เช่นนี้ เป็นฝ่ายโน้มนำอารมณ์และความปรารถนาในร่างกายของเขา ทำให้ตนเองสามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้อย่างสมบูรณ์ 

“จำไว้ว่าหลังจากนี้ ทุกวันต้องพูดหนึ่งครั้ง” เขาออกคำสั่ง 

อารมณ์ที่รุนแรงในการควบคุมและครอบครอง ไม่ยินยอมให้เขาได้ต่อต้านเลยแม้แต่น้อย เถาหรานรับรู้ได้แล้วแต่กลับไม่ได้ใส่ใจ ก็เหมือนกับนิสัยที่เคยชินกับการไหลไปตามกระแสของเขา เป็นเพราะต้องการให้คนมาแสดงความรู้สึกของตัวเองอย่างชัดเจน ถึงสามารถทำให้เขาสบายใจได้ มุมปากกลับยกยิ้มถามว่า “เพราะเหตุใด” 

“เพราะข้าเป็นคนพูด” มู่เยี่ยนเฟยให้เหตุผลที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิงกับเขา 

 

 

“อารมณ์ที่รุนแรงในการควบคุมและครอบครอง ไม่ยินยอมให้เขาได้ต่อต้านเลยแม้แต่น้อย” ตรงนี้ไม่ใช่ประโยค และโอว่าสามารถเรียบเรียงให้อ่านได้ง่ายมากขึ้น 

และประโยค 

“เป็นเพราะต้องการให้คนมาแสดงความรู้สึกของตัวเองอย่างชัดเจน ถึงสามารถทำให้เขาสบายใจได้” นี้น่าจะหมายถึงมู่เยี่ยนเฟยหรือเปล่าคะ มู่เยี่ยนเฟยชอบความชัดเจน จะสบายใจถ้าเถาหรานให้ความชัดเจนแก่ตน 

 

ลองนะ 

 

>> 

 

มู่เยี่ยนเฟยชอบการกระทำที่สามารถควบคุมความรู้สึกของอีกฝ่ายได้เช่นนี้ เขาต้องการเป็นฝ่ายโน้มนำอารมณ์และความปรารถนาในร่างกายของเถาหราน ทำให้ตนเองสามารถครอบครองเป็นเจ้าของอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์ 

“จำไว้ว่าหลังจากนี้ ทุกวันต้องพูดหนึ่งครั้ง” เขาออกคำสั่ง 

อารมณ์ความต้องการควบคุมและครอบครองของมู่เยี่ยนเฟยนั้นรุนแรง ไม่ยินยอมให้ต่อต้านเลยแม้แต่น้อย เถาหรานรับรู้ได้แล้วแต่กลับไม่ได้ใส่ใจ เช่นเดียวกับนิสัยที่เคยชินกับการไหลไปตามกระแสของตน แตกต่างจากมู่เยี่ยนเฟยที่แสวงหาการแสดงออกถึงความซื่อตรงต่อความรู้สึก เช่นนี้นี้จึงจะสามารถทำให้เขาสบายใจได้ มุมปากของเถาหรานกลับยกยิ้มถามว่า “เพราะเหตุใด” 

“เพราะข้าเป็นคนพูด” มู่เยี่ยนเฟยให้เหตุผลที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิงกับเขา 

 








 



ราคา Box Set 979 บาท 
กล่องจั่วปัง
มีโปสการ์ดลายปก 2 ใบ ที่คั่นลายปก 2 ใบ
โปสการ์ดลายกล่อง  แบบธรรมดา 1 ใบ แบบวิ้ง ๆ (กลิตเตอร์) 1 ใบ
ที่คั่นลายกล่อง 1 ใบ
จิบิไดคัท 3 ชิ้น (มู่เยี่ยนเฟยชุดขาว เถาหรานชุดดำ และกลม ๆ สีแดง)
แม็กเน็ต 1 ชิ้น
โปสเตอร์ลายปก 2 แผ่น
ที่รองแก้ว 2 ชิ้น



 

 

 

มีหลายครั้ง การจากลาหามิใช่เพราะรักลึกซึ้งแต่วาสนาตื้นเขิน หากเป็นเพราะว่าวาสนานั้น นอกจากมีความรักชอบแล้ว ยังจำเป็นต้องใช้ใจคอยดูแลจัดการ ซึ่งจิตใจส่วนที่ว่านี้ เขาไม่เคยมีมาก่อน แต่มู่เยี่ยนเฟยมี ดังนั้นทุกครั้งที่เขาคิดจะล่าถอยไป ล้วนต้องถูกลากกลับมา หากว่าตอนนั้นสิงหย่วนซินมีความยืนหยัดไม่ย่อท้อได้สักครึ่งของมู่เยี่ยนเฟย วันนี้พวกเขาก็อาจเดินอยู่ในเส้นทางที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง 

 

หน้า 238-239  บทที่ 8 

เล่ม 2   

 

เขานึกว่าตนเองใช้ชีวิตได้อย่างผ่าเผยตามที่ใจต้องการ แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น เขามีเรื่องมากมายยิ่งที่ไม่กล้าไปยอมรับ ให้คำมั่น และแบกรับ ด้วยเหตุนี้จึงทำได้เพียงใช้เปลือกนอกแบบนี้มาปกปิดตนเอง ที่สง่างามอย่างแท้จริงคือมู่เยี่ยนเฟย คนผู้นี้กระทำสิ่งต่าง ๆ เฉกเช่นทหาร เรื่องที่กำหนดแน่แน่วแล้ว ก็สามารถยึดมั่นต่อไปได้จนถึงที่สุด โดยไม่ลังเล และยิ่งไม่มีทางยอมแพ้ ทว่าหากเมื่อไรที่ปล่อยวาง ก็จะไม่หันกลับมาอีก ลักษณะของแม่ทัพใหญ่ ก็เป็นเช่นนี้เอง 

 

หน้า 273-274  บทที่ 9 

เล่ม 2 

 

.
.
.

 




Create Date : 05 เมษายน 2564
Last Update : 5 เมษายน 2564 17:45:35 น.
Counter : 5618 Pageviews.

6 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณSai Eeuu, คุณ**mp5**

  
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับคุณออโอ

เดี๋ยวนี้นิยายเค้าทำบ็อกเซ็ตกันสวยงามมากเลยนะครับ
โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 5 เมษายน 2564 เวลา:23:55:53 น.
  
นิยายรักไม่ว่าเพศไหน ยุคไหน
ก็น่าอ่านเสมอ
คุณออโอ หายไปนานเชียว
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 เมษายน 2564 เวลา:10:22:59 น.
  
มีกรุฟบล็อกเต็มด้วยเหรอคะเนี่ย

โดย: Sai Eeuu วันที่: 6 เมษายน 2564 เวลา:14:06:08 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 7 เมษายน 2564 เวลา:8:51:39 น.
  
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ
โดย: **mp5** วันที่: 13 เมษายน 2564 เวลา:8:13:07 น.
  
คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา ค่ะ เดี๋ยวนี้มีมากกว่าหนึ่งเล่มนิยมทำบ็อกซ์กันหมดแล้ว บางคนเขาชอบค่ะ หนังสือเลยเป็นมากกว่าการอ่าน กลายเป็นของสะสมสำหรับบางคน ขอบคุณที่โหวตให้นะคะ

คุณเริงฤดีนะ จะยังหายอย่างนี้อีกนานเลยค่ะ ขอบคุณที่โหวตให้นะคะ

คุณ Sai Eeuu ใช่ค่ะ จะมีแจ้งเตือนว่าลงอีกไม่ได้แล้วน้า ฮ่า ๆ ขอบคุณที่โหวตให้ค่ะ

คุณ**mp5** ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม สวัสดีปีใหม่ไทยเช่นกันค่ะ ขอบคุณที่โหวตให้นะคะ

คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ ขอบคุณสำหรับโหวตด้วยค่ะ

โดย: ออโอ วันที่: 23 เมษายน 2564 เวลา:13:14:28 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ออโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]



โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
New Comments