+-+ OncE UPoN'-'a MaN +-+
รักนะ.. คนอ่าน
เข้ามาดู.. โดนใจ
ออกไป.. อย่าลืมกัน
Summary for Best of the Year 2012 ..Please CLICK!!
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ <The Best of 2007> #5 : "10 หนังดูที่โรง" ที่สุดแห่งความประทับใจ ของผมคือ...?
ยินดีต้อนรับ ทุกๆท่านเข้าสู่การสรุปทุกความรู้สึกของผม OncE UPoN'-'a MaN ที่มีต่อเรื่องราวของภาพยนตร์ ใน 365 วัน และ 1 รอบปีที่ผ่านมา ...กับ "ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ [ภาคพิเศษ]" ตอน "The Best of 2007" ครับ...
8. หนังต่างประเทศในชื่อไทย สาขา จรรโลงสังคมยอดเยี่ยม ...ได้แก่ "ศึกโค่นบัลลังก์วัง*ทอง (Curse of the Golden Flower)" ...อย่างน้อยๆแล้วเด็กที่ฉลาดๆก็คงจะอ่านว่า "ศึกโค่นบัลลังก์วังดอกจันทน์ทอง"
* Music & Lyrics - เป็นหนังที่น่ารักมากมาย เพลงก็เพราะ ทำเอา Way back into love ฮิตกันไปค่อนเมือง พระเอก (ถึงจะเหี่ยวไปหน่อย) กับนางเอกก็จับคู่ด้วยเคมีที่ลงตัวทีเดียว
* Bridge to Terabithia - ทำได้ซึ้ง และเหวอไปเลยกับความเป็น Drama / Coming-of-age ที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกของหนัง Fantasy
ถ้าให้นึกหนังที่อยากกลับไปดูอีกรอบก็คงจะประมาณ Knocked up, Rescue Dawn, รักแห่งสยาม, The Fountain, Hot Fuzz, Planet Terror, A Guide to Recognizing your Saint, Superbad, Once (เอาเป็นปีที่แล้วละกัน), This is England
ผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย
ส่วนเรื่องพ่อครัวหนู (เรียกยังงี๊ล่ะกัน เรียกชื่อมันยาว) ผมไม่ได้ดูในโรง แต่ซื้อดีวีดีมาดูเพราะส่วนตัวพยายามเก็บหนังของ Pixar อยู่ ซึ่งพอดูจนจบแล้ว...อื่ม ประทับใจนะ คือชอบฉากตอนจบมากที่ว่าตัวที่น่าจะเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่กลับกลายเป็นคนที่เข้าใจมากที่สุดนี่แหละ แล้วฉากจบก็เป็นอะไรที่ประทับใจพอ ๆ กับฉากเริ่มที่ประทับความฮาไว้นั่นแหละครับ
ส่วนเรื่องบอร์น อันนี้ผมกะเพื่อนจะเห็นต่างกับคนอื่นมาก ๆ คือ ภาคนี้ผมว่าห่วยที่สุดเลย แล้วพูดกันตรง ๆ ผมว่า Doug Liman กำกับได้ดีที่สุดแล้ว เพราะภาคแรกเป็นภาคที่ประทับใจมากกว่าภาค 2 และ 3 เยอะ ภาค 2 ก็ยังถือว่าดีนะถ้าฉากต่อสู้ในบ้านมันไม่ห่วย (มันอาจจะดูดีในสายตาหลาย ๆ คนแต่ถ้าเทียบกับฉากต่อสู้จากภาคแรก...มันห่วยมาก) แต่การดำเนินเรื่องที่ดีใช้ได้ ส่วนมุมกล้อง ไม่ไหว ใคร ๆ อาจจะว่ามันแปลกดี ใช่ มันแปลก แต่มันทำให้ทนดูหนังมันไม่ไหวพาลอยากอ๊วกเสียก่อน ดูไหวก็ดูไม่รู้เรื่อง เพราะฉากมันสั่น ๆ แล้วมั่ว ๆ พิกล ไม่เหมือนภาคแรกที่มุมกล้องจะค่อนข้างเรียบเนียนและมีการสอดแทรกวิธีการถ่ายแบบถือกล้องไว้บ้างแต่ก็ไม่เยอะและทำได้ดีกว่า ภาพสวยกว่า หนังของนาย Greengrass ผมเลยขอดูแค่ 2 เรื่องนี้แหละ เรื่องอื่นนี่คงไม่เอา ทนมุมกล้องมันไม่ไหว ภาค 3 ฉากต่อสู้ทำได้ดีนะ แต่การดำเนินเรื่องห่วยมากที่สุดในบรรดาทั้ง 3 ภาค เหตุการณ์ต่าง ๆ อิงกับความบังเอิญมากเกินไป และก็ดำเนินเรื่องแบบสูญเปล่ามากเกินไป ก็เลยทำให้เรื่องมันจบแบบไม่มีความเคลียร์อะไรเท่าไหร่เลย แถมยังทำท่าเหมือนจะลากไปต่อภาค 4 ยังงั้นอ่ะ หนังเรื่องนี้เลยได้ตำแหน่งผิดหวังมากไปโดยปริยาย
ที่เหลือก็ไม่มีอะไรประทับใจเท่าไหร่ เพราะเรื่องดี ๆ ที่น่าประทับใจอย่าง Stardust ก็ไม่ได้ดู ไปดู The Golden Compass ก็น่าผิดหวังมาก ๆ ซะอีก