Bloggang.com : OncE UPoN'-'a MaN : "OSCAR 2008" ... เมื่อ 'ชายแก่' มาชิลซิวใหญ่ ,'คนขุดน้ำมัน' เป็นพระเอก และ'นักร้อง' ทำเซอร์ไพรส์

"OSCAR 2008" ... เมื่อ 'ชายแก่' มาชิลซิวใหญ่ ,'คนขุดน้ำมัน' เป็นพระเอก และ'นักร้อง' ทำเซอร์ไพรส์

กลายเป็นบล็อกประจำ(แกมบังคับ)ในทุกปีก็ว่าได้สำหรับผม ...เมื่อว่าถึง รางวัลออสการ์ กับการประกาศผลความยอดเยี่ยมในรอบปีในแวดวงภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ด(ซึ่งถ้าจะเหมารวมทั้ง โลก ด้วยก็ไม่ผิดอะไร) ซึ่งในปี 2008 หรือที่นับว่าเป็นครั้งที่ 80 ของเวทีรางวัลนี้ ก็คงเป็นที่รับทราบของใครต่อใครแล้วว่า สาขาไหน ใครได้ไป ...ถึงกระนั้นก็อาจไม่จำเป็นสักเท่าไหร่หรอก ที่ผมจะเพิ่งมาตั้งบล็อกสรุปผลเอาในตอนนี้ (ล่วงมาเป็นสัปดาห์กว่าแล้วนะนั่น)

แต่ช้าแต่...กระนั้นแล้ว ถ้าจะไม่วิจารณ์ถึงผลที่ออกมา อย่างที่เคยๆทำ มันก็เหมือนจะขาดหายอะไรไปยังไงชอบกล ...ด้วยเหตุฉะนั้นจึงต้องขอสักกะบล็อกละกัน ที่อยากจะมีไว้เอื้อนเอ่ยแสดงความรู้สึกของผมต่อผู้ชนะในแต่ละรางวัล ...อย่างน้อยๆ สำหรับผมก็คงได้ระบาย ส่วนคุณผู้อ่าน ก็ถือว่าเข้ามาอ่านกันเล่นๆให้เพลินๆละกันนะครับ

(ขอเรียงตามลำดับถึงภาพยนตร์ที่ได้รับจำนวนรางวัลมากที่สุด ไปหาน้อย...)

"No Country for Old Men" : 4 รางวัล
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=27-02-2008&group=2&gblog=115

1) ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ... คู่ควรและเหมาะสม ที่ "ชายแก่ไร้ดินแดน" จะมาวินคว้าไปได้ชิลๆ ...ตัวหนังทำออกมาได้เยี่ยมยอดผักบุ้งกรอบ (เบื่อ...ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง แล้ว) กลมกล่อมกำลังดีทั้งในส่วนของหน้าหนังที่ขายความเป็นทริลเลอร์ระทึกใจ เดินหน้าไปพร้อมกับอารมณ์มนุษย์ที่ซ้อนสอดการสะท้อนวิพากษ์สังคม และเรื่องราวของคนดี คนชั่ว และคนกลาง(กึ่งดีกึ่งชั่ว) ...โดยส่วนตัวมองว่า หนังเรื่องนี้ คงจะมีที่มาที่ได้ออสการ์ ประมาณเดียวกับ Crash เมื่อสองปีก่อน คือมันเป็นหนังที่ทำออกมาได้ถูกจริตของคนดูชาวมะกัน พูดถึงความเป็นอเมริกันบนประเด็นสากลโลก จึงมีส่วนทำให้เลือดรักชาติอันเข้มข้นของคนที่นั้นลุกฮือกันปลาบปลื้มหนังเรื่องนี้โดยยกใหญ่

ปล. แต่ถ้าสมมติ ลองให้ผมได้เป็นหนึ่งในกรรมการคัดเลือกผู้ชนะออสการ์ในสาขานี้แล้วละก็ ...ผมขอฟันธงว่าหนังยอดเยี่ยมเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องที่ผมเลือกให้ได้ไปแน่นอน ...เพราะโดยส่วนตัว ผมกลับปลาบปลื้ม Atonement และ There Will Be Blood เสียมากกว่าอีก

2) กำกับยอดเยี่ยม : "โจล & อีธาน โคเอน" ... อันนี้ คู่ควร เหมาะสม และผมก็ยินยอมจะมอบรางวัลให้เลย ...กับการทำหนังเนิบนาบ ดำเนินเรื่องล่าช้า แต่สามารถกระตุ้นพลังอยากติดตามได้ทุกนาที ด้วยฉากไล่ล่าชวนระทึก(ไม่ต้องพึ่งดนตรี ไม่มีแสตนด์อิน ...เล่นจริง เจ็บจริง ใจเต้นตุ้มต่อมจริงๆ) บวกกับการเล่าที่มีชั้นเชิง เพื่อบอกถึงสิ่งที่สื่อสารได้อย่างมีความหมายทั้งจบสรุปทุกอย่างได้เรียบร้อย (อาจจะถึงไม่ถึงหมดจด ...แอบขัดนิดๆน้อยๆ ที่ตอนจบมันห้วนชอบกล) ...ถ้าจะให้คำนิยามความเยี่ยมของสองพี่น้องคู่นี้ ผมขอบอกสองคำนี้ คู่ควรและเหมาะสมที่สุด ..."เก๋า..เจ๋ง" (โปรดอ่านอย่างระมัดระวัง... มิใช่ เก๋าเจ๊ง นะ)

3) บทหนังดัดแปลงยอดเยี่ยม : "โจล & อีธาน โคเอน" ... งานกำกับที่ว่าเจ๋ง ก็เป็นไปได้ด้วยบทที่เก๋า ...ฉะนั้นแล้ว รางวัลนี้จึงเป็นคู่แพ๊คเก็จ ของสองพี่น้อง ที่รับเหมาเอาทั้งสองส่วนมารับไว้เป็นเครดิตตัวเองถ้วนๆ

4) นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม : "ฆาเวียร์ บาร์เด็ม" ... ต้องขอโทษที่ คิดว่าอาจยัง น้อยไปเสียด้วยซ้ำ ที่ตัวร้ายโคตรโดดเด่นเกินหน้าตาตัวละครนำ จะได้รางวัลประจำปีมาเป็นตัวยืนยันความเนียนเพียงเท่านี้ ...เพราะ ความเหี่ยของคาแรกเตอร์ "อันตอน ชิการ์" และหน้าเย็นชา ในดวงตาอำมหิต (อาจต้องประกอบรวมกับทรงผมฮาเพี้ยนผิดบุคลิกอีกด้วย) ของพี่ฆาเวียร์ มันควรค่าจะเทียบเคียงกับอีกหนึ่งตัวร้ายอมตะสุดคลาสสิคอย่าง "ฮันนิบาล เลคเตอร์" ได้เลยทีเดียว

ปล. ถ้าสมมติ ลองให้ผมได้สวมบทเป็นตัวละครนี้ แล้วเกิดมีคนมาชมว่า "นายมันเหี่ยพอๆกับ ฮันนิบาล เลยนะนั่น" ...ผมคงจะยิ้มปลื้มใจอย่างใจเย็น แล้วจึงยกถังออกซิเจน จับไกขึ้นมาเล็งที่หน้าผากหมอนั่นแล้ว...(นึกภาพเอาเอง)

"The Bourne Ultimatum" : 3 รางวัล
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=20-08-2007&group=2&gblog=82

1) ตัดต่อภาพยอดเยี่ยม ... หนังมันส์ เรื่องเร้า ฉากสมจริง ...ทุกอย่างดูลงตัว และตื่นตาตื่นใจไปพร้อมกันด้วย งานตัดต่อที่กำกับความน่าติดตามและอารมณ์ได้ทุกฉากทุกตอน (อาจจะติดมึนๆความไวนิดหน่อยไปถึงมาก...ก็แล้วแต่คนดูจะปรับตัวได้มากหรือน้อยอีกเรื่องหนึ่ง)

2) ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม ... เฉกเช่นเดียวกับสาขาบน

3) ผสมเสียงยอดเยี่ยม ... เฉกเช่นเดียวกับสองสาขาข้างบน ...หรือพูดกันตรงๆ เหมาะสมกับสุดยอดหนังมหามันส์แห่งปีก่อน เรื่องนี้แล้วล่ะ

"There Will Be Blood" : 2 รางวัล
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=03-03-2008&group=2&gblog=117

1) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม : "แดเนียล เดย์-ลูอิส" ...นักแสดงคุณภาพคับตัว ที่นานๆทีจะรับงานหนังสักเรื่อง และเมื่อได้เลือกจะเล่นแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าป๋าเขาจะไม่เอาจริง ...และคราวนี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิ กับความสุดยอดชั้นอ๋องขั้นเทพ ในบทคนขุดน้ำมัน "แดเนียล เพลนวิว" ที่ร้ายได้โล่ห์ เหี่ยได้กระสุน ...ลองถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้ เพียงฉากจบอันทรงพลังแค่ฉากเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องย้อนไปดูหนังทั้งเรื่อง เพื่อพิสูจน์ความเจ๋งของป๋าแดเนียลผู้นี้อีกเลย

ปล. "I Drink Your Milkshake!!!" ... คำพูดนี้ อาจดูเหมือนมุขตลกเน้นเอาฮา แต่ถ้าคนพูดบังอาจทำให้ผมขนลุกได้ ...เขาคนนั้น ควรค่าจะเจ๋งพอมั้ยล่ะ?

2) กำกับภาพยอดเยี่ยม ... ด้วยเนื้อภาพที่ดูดิบๆ บวกกับบรรยากาศอันแห้งแล้ง ไร้หวัง ของภูมิประเทศทะเลทราย ...ถึงกระนั้นมันก็แฝงซึ่งความงดงามได้อย่างมีพลัง และเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมในความเป็นหนังได้อย่างยิ่งยวด ทั้งการ
สร้างความน่าติดตามตรึงใจ เป็นตัวขับเรื่องราว และสร้างแรงกระตุ้นต่ออารมณ์คนดูได้ถึงที่ ...นี่แหละ คือ ความทรงพลังของหนังสักเรื่อง ที่เกิดได้ด้วยการสร้างภาพ

"La Vie en Rose" : 2 รางวัล

1) นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม : "แมเรียน โคติลลาร์ด" ...เซอร์ไพรส์ประจำปี ที่ไม่ได้คิดว่าเธอคนนี้จะคว้าไป (ผมคาดว่าเต็งหนึ่ง จูลี่ คริสตี้...น่าจะได้) โดยส่วนตัวยังไม่ได้เห็นการแสดงเต็มๆของเธอ เลยยังบอกไม่ได้ว่าเธอสุดยอดมั่กๆ จริงหรือหลอก? ...แต่ไม่นาน จะรีบแจ๋นไปหาแผ่น(เถื่อน)มาดูโดยแน่

2) แต่งหน้ายอดเยี่ยม ... เขาว่ากันว่า การแสดงของแมเรียน เกิดได้ด้วย ความเก่งของเธอ บวกกับ การแต่งหน้าที่เปลี่ยนคนสวยเช้งในวัยสาว ให้พัฒนาไปเป็น หญิงชราหน้าเยินชวนรันทด ...และจากที่เคยมีคนเล่าขานว่า ออสการ์ ชอบนักแสดงที่ยอมเปลี่ยนตัวเองให้ดูแปลกจากปกติ ก็ท่าจะมีส่วนจริงอยู่ไม่น้อย ...ฉะนั้นแล้ว ถ้าการแต่งหน้าของหนังเรื่องนี้จะสามารถเปลี่ยนคนได้ดูสมจริง ...ก็ไม่น่าจะผิดอะไรที่ได้ไป (จริงหรือหลอก? ค่อยกลับมาบอก ตอนที่ดูแล้วละกัน)

"Micheal Clayton" : 1 รางวัล
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=21-11-2007&group=2&gblog=96

นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม : "ทิลด้า สวินตัน" ...ตอนที่ผมดูจบจากโรง เคยรู้สึกแค่ว่า เธอทำหน้าที่ได้ดี ทำได้ถึงเท่าที่บทจะให้เวลาเอื้ออำนวย แต่เมื่อเอาไปเทียบกับสองตัวเอกของ ทอม วิลคินสัน กับ จอร์จ คลูนีย์ ยังรู้สึกชอบและน่าลุ้นรางวัลมากกว่า ...แต่หลังจากที่เธอได้รับรางวัลแล้วในตอนนี้ ผมมองย้อนกลับไปนึกอีกที ก็คงเถียงกรรมการไม่ได้ว่าเธอมิจุดตำหนิใด สกัดไม่ให้คู่ควรกับออสการ์ตัวนี้

"Ratatouille" : 1 รางวัล
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=30-07-2007&group=2&gblog=77

ภาพยนตร์การ์ตูน/อนิเมชั่นยอดเยี่ยม ... ไม่ผิดพลาดจากการที่เป็นตัวเต็งโดดๆ และก็โคตรดีใจที่ไม่มีพลิกโผ (แบบปีก่อน...เพราะส่วนตัวไม่ค่อยปลื้ม Happy Feet ซะเท่าไหร่) ...นี่เป็นอีกหนึ่งงานพิกซาร์ที่ผมว่าออสการ์อาจน้อยค่าเกินไป เรียกว่า คลาสสิค ดูจะเหมาะกว่า

"Atonement" : 1 รางวัล
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=18-02-2008&group=2&gblog=112

ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ... (พูดด้วยความปลาบปลื้มจนเกินเลย) ...เอาแค่เสียงพิมพ์ดีด ก็คู่ควรจะชนะเลิศได้แล้ว

"Juno" : 1 รางวัล

บทหนังดั้งเดิมยอดเยี่ยม ... ยังไม่ได้ดู เลยยังพูดอะไรไม่ได้ ...ตอนนี้ก็ได้แต่รอว่า จะมีใครคนไหนเห็นใจเอาเข้าโรงบ้าง (หรือฉะนั้นแล้ว... จุดจบตามธรรมเนียมนิยมของหนังฟ็อกซ์ประเทศไทย ก็คงได้ลงเอยเป็นแผ่น ด้วยประการฉะนี้)

"Sweeney Todd : The Demon Barber of Fleet Street" : 1 รางวัล
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=04-02-2008&group=2&gblog=108

กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม ... บรรยากาศโกธิกหมองหม่น ของลอนดอนในยุควิคตอเรียนในหนังเรื่องนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ทำหน้าที่ได้โดดเด่น เทียบเคียงกับ ป๋าเดปป์ และเจ๊คาร์เตอร์ ได้อย่างไม่เคอะเขิน... ถ้ามองว่านี่เป็นคนๆหนึ่ง ซึ่งมีบทบาทต่อหนังทั้งเรื่องแล้ว ก็คุ้มค่าที่กรรมการออสการ์จะมองเห็น และหยิบยื่นรางวัลให้

"Once" : 1 รางวัล
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/data/onceupon/picture/1204951947.jpg

เพลงประกอบหนังยอดเยี่ยม : "Falling Slowly" ...ถึงตัวหนังจะยังไม่ดู แต่(ก็ดิ้นรน)หาตัวเพลงมาฟังแล้ว ...อย่างหนึ่งที่ยอมรับว่าเหมาะจะเป็นเพลงออสการ์ ก็คือ ส่วนของเนื้อร้องที่เขียนได้สวย มีความหมายที่หลักแหลมปนซาบซึ้ง จะขาดก็แต่ว่าตัวดนตรียังไม่โดนใจมากเท่าไหร่นัก ...หรือนี่จะยังเป็นเพียงความรู้สึกที่ทำได้แค่ฟังก็ได้มั้ง (ขอลองไปดูหนังจริงๆก่อน ...อาจจะตายคาจอก็ย่อมเป็นไปได้)

ปล. ผมกะไว้แล้วว่า "Enchanted" ต้องแป๋วแน่นอน... เพราะการเข้าชิงถึง 3 เพลง เคยเกิดกรณีต้องถ่ายเทคะแนนกันเอง อย่างปีก่อนหน้า "Dreamgirls" ก็เพิ่งประสบมาแหม่บๆ ...ถ้ากรรมการไม่โลภเกินไป แล้วเลือกมาสักเพลง ก็คงมีแววได้คว้ารางวัลไปแล้วล่ะ

"Elizabeth : The Golden Age" : 1 รางวัล

ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม ... คงไม่ผิดอะไร ถ้าผมจะบอกว่าสาขานี้ แทบไม่จำเป็นต้องหาผู้ชนะอะไรอีกต่อไป หากมีหนังพีเรียดสักเรื่อง ที่มีงานคอสตูมอลังการดาวล้านดวงได้เข้าชิง ...เพราะเท่าที่จำได้(และต้องจำไม่ผิดด้วย) ก็ไม่เคยเห็นแนวๆนี้
เรื่องไหน พลาดไปเลยสักครั้ง(ละมั้ง)

"The Golden Compass" : 1 รางวัล
ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=18-12-2007&group=2&gblog=100

วิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ยอดเยี่ยม ... (ถ้าพูดแบบไม่คิดถึงหนังทั้งเรื่อง) ยังมีเรื่องอื่น (อย่าง Transformers) ที่เหมาะจะได้รางวัลมากกว่า...(แต่ถ้าพูดในทางตรงกันข้าม) ขอยอมศิโรราบมอบรางวัลไปด้วยใจจริง

ปล. หนังเปิดมหากาพย์เรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่น่าจดจำเลย ...นอกไปจากงานเอฟเฟกต์ ซีจี แบบ "สตรีมพังค์" อันตรึงตา และบรรดาสิงสาราสัตว์ที่ลื่นไหล ออกแบบมาดียกพวก

สรุปรวมทั้งหมด 19 รางวัลที่ได้วิจารณ์ผ่านพ้นไปนั้น ก็เป็นอันครบถ้วนกระบวนความอยากระบาย (ส่วนหนังต่างประเทศ กับสาขาเล็กๆ อย่างสารคดี หนังสั้น ซึ่งขาดหายไปนั้น ต้องขออภัยที่ขอข้ามไปไม่พูดถึงนะครับ...) ...และความเห็นโดยมวลรวมของผมต่อออสการ์ในครั้งที่ 80 นี้ อาจถือได้ว่ามีค่าเท่ากับ เพลงหนี่งในอัลบั้มใหม่ของป้าแอม เสาวลักษณ์ ที่มีเนื้อความว่า "ถือว่าเป็นอีกปีที่ฉันพอใจ...."

ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกัน...
1 Comment ของคุณ คือ 1 Happy ของเจ้าของบล็อก ขอบคุณมากครับ

Create Date : 05 มีนาคม 2551

Last Update : 23 มีนาคม 2551 11:52:55 น.

4 comments

Counter : 1390 Pageviews.

เข้ามาอ่านครับ

โดย: dj booboo

วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:15:59:22 น.

ดี จ๊ะ ชอบ ขอบคุณ มากมาย

โดย: บ้าได้ถ้วย

วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:20:17:30 น.

+ เป็นปีนึง (ในช่วงหลายๆ ปีหลังๆ) ที่รางวัลใดรางวัลนึงของออสการ์ ไม่มีเสียงตำหนิติติง (ก็ยี้นั่นแหละ) ตามหลังมา แทบทุกรางวัลควรค่าแก่รางวัลที่ได้รับไปอ่ะครับผม

+ โดยส่วนตัว ถึงพี่จะชอบ Atonement ที่สุดใน 4 เรื่องเข้าชิงออสการ์ที่ได้ดูไป ... แต่ถ้าถามใจพี่ พี่อยากยกรางวัล ผกก. ให้ 2 พี่น้องโคเอ็นเช่นเดิม (คงถึงเวลาแล้ว เพราะอนาคตข้างหน้าเค้าอาจสร้างสรรค์ผลงานไม่ได้ถึงระดับขึ้นหิ้งเช่นนี้อีก) ... แต่ หนังยอดเยี่ยม อยากยกให้ Blood อ่ะครับ เพราะสเกลที่ทำได้ยากของหนัง รวมทั้งความ 'ทรงพลัง' ของการกำกับ, บทภาพยนตร์ และการแสดงของ 2 ดารานำ จนเหมือนกับหนังเรื่องนี้เป็นภูเขาไฟกำลังคุกรุ่น ที่พร้อมจะระเบิด พ่นเพลิงเถ้าถ่านลาวาออกมาได้ทุกเวลา (แล้วก็มาระเบิดจริงๆ เอาซะตอนจบของเรื่อง) อ่ะครับผม

+ ส่วน มาริยง จาก La vie en rose ... ถ้านัทได้ดูจบ แล้วอาจเปลี่ยนใจ ยื่นออสการ์ให้เธอทันทีเลยก็ได้นะครับ เพราะตอนพี่ได้ดูเรื่องนี้ (ในงาน BKK IFF ปีที่ผ่านมา) จบลง พี่ก็อยากทำเช่นที่ว่านี้เหมือนกัน แต่ไม่นึกว่าเธอจะได้จริงๆ (จากหนังฝรั่งเศสเรื่องเล็กๆ ที่แทบไม่มีใครรู้จักเรื่องนี้) อ่ะครับ

โดย: บลูยอชท์

วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:18:32:21 น.

ได้ดูเพียงไม่กี่เรื่องเองค่ะ

อ่านแล้วอยากดู There will be blood จัง

โดย: BoOKend

วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:12:01:51 น.