ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
 
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 สิงหาคม 2558
 
 

Inescapable? สุดห้ามใจรัก? ตอนที่ ๕ (Yuri)



โยธกายืนนิ่ง มองภาพวินาทีสิ้นสุดแห่งการพลัดพรากของสามแม่ลูกซึ่งอยู่ห่างเพียงไม่กี่เมตร เห็นหยดน้ำตาแห่งความปิติยินดีอาบใบหน้าสวยดุจนางแบบของหล่อน เธอพลอยนึกดีใจไปด้วยที่อีกฝ่ายได้คนสำคัญกลับคืนมา

'โล่งอกไปที...ในที่สุดก็เจอกันแล้ว'

แต่ทว่าหญิงสาวลืมไปว่า...ตนเองกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก

นายตำรวจนอกเครื่องแบบออกคำสั่งขึ้น ขณะถือกุญแจมือไว้เพื่อจับกุม 'คนร้าย'

“ผมขอจับกุมคุณ คุณโยธกา”

นักวิจัยสาวขมวดคิ้วนิ่วหน้า ไม่ยอมให้ถูกใส่ร้ายป้ายสีง่ายๆ จึงโวยวายเสียงดังขึ้น

“เดี๋ยวสิ นี่มันเรื่องเข้าใจผิดต่างหาก”

“ใช่ ทำไมพวกคุณตำรวจ ถึงไม่ถามให้ดีก่อน จู่ๆ จะมาจับคนส่งเดชได้ยังไงกัน” จุฑามาศรีบก้าวมาสมทบเพื่อนสนิททันที ไม่ยอมปล่อยให้คนของรัฐลุแก่อำนาจเด็ดขาด อย่างน้อยเธอก็พอรู้จักกับคนใหญ่คนโตกับสื่อมวลชนอยู่บ้าง

“คุณกับเพื่อนลักพาเด็กสองคนนี้ไปเมื่อวาน-” นายตำรวจอีกนายเริ่มเล่าต้นสายปลายเห็น แต่พูดไม่ทันจบก็ถูกนักวิจัยสาวพูดแทรกขึ้น

“ฉันเนี่ยนะลักพาตัวเด็ก” โยธกาพูดเถียงเสียงดังลั่น “เด็กสองคนนั้นตามฉันมาเองต่างหาก”

“ถ้าพวกเด็กๆ เป็นฝ่ายตามคุณ ทำไมคุณไม่แจ้งความ?” ตำรวจคนแรกตั้งคำถาม

“ฉันโทรไปแจ้งความแล้วเมื่อเช้า ทำไมพวกคุณไม่ลองโทรไปเช็คดูก่อนล่ะ?” เธอยืนยัน พลางย้อนถาม

“ใช่ พวกคุณจะมาจับคนบริสุทธิ์ไม่ได้นะ” จุฑามาศเสริมเสียงแข็ง

ตอนนี้พนักงานจีคอสและลูกค้าสามสิบกว่าคน เริ่มหันมองมาทางที่ตำรวจกับประชาชนกำลัง ‘เจรจาอย่างประนีประนอม’ ด้วยความสนอกสนใจ หลายคนชักมือถือมาบันทึกภาพและวีดีโอ เพื่อแชร์ในโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งอาจจะกลายเป็นข่าวดังได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง


ขณะที่ห้าคนกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น แพรวาก็กระซิบคุยกับลูกสาว

“เดือนดาว บอกแม่สิ ลูกรู้จักพี่คนนั้นหรือเปล่า?” ชี้นิ้วไปยังสองสาวที่ยืนเจรจากับตำรวจ

“ค่ะ” เด็กแฝดพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง

“แม่โยกับพี่มาศค่ะ” พิมพ์ดาวตอบมารดา

“แม่โยป้อนข้าว อาบน้ำ ให้พวกหนูด้วย” เสียงเล็กๆ ของแฝดคนน้องตอบอย่างฉะฉาน

“แม่โย?” แพรวาถามย้ำอย่างสงสัย กับคำเรียกขานแบบแปลกๆ ที่ลูกๆ ใช้กับสาวหน้าคมที่หล่อนเพิ่งนั่งฟังพรีเซนต์เมื่อสักครู่

'หายไปหนึ่งคืน มีแม่เพิ่มเลยเหรอคะลูกขา'

“แม่โยใจดี เหมือนแม่แพรค่ะ” พิมพ์ดาวตอบเสียงอ่อยๆ เกรงว่าผู้เป็นแม่จะไม่พอใจ

“ใจดีมาก” แฝดน้องเสริม

'ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่'

คนสวยคิดในใจ

หลังเห็นสองฝ่ายกำลังเจรจากันแบบ ‘ดุเดือดเผ็ดร้อน’ และไม่มีทีท่าจะยุติ จึงลุกขึ้นยืน จูงมือลูกแฝดไปใกล้ เพื่อสงบศึกก่อนจะบานปลายใหญ่โต หล่อนไม่อยากให้จีคอสต้องโด่งดังในโลกออนไลน์ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

“คุณตำรวจคะ คุณโยธกา และคุณคนนั้นด้วย รบกวนไปคุยกันที่ชั้นบนได้ไหมคะ ฉันเกรงว่าคุยตรงนี้คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”

คนทั้งห้ากวาดตามองไปโดยรอบ และเข้าใจได้ทันที

“ก็ได้ครับ” ตำรวจคนแรกรับคำ เพราะยังไงหัวหน้าของเขาก็อยู่ชั้นบนตึกนี้ ให้เป็นคนตัดสินใจจะเหมาะกว่า

โยธกากับจุฑามาศยืนนิ่งไม่ตอบรับ แต่ไม่ปฏิเสธ ดูเหมือนพวกเธอจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำตามโดยดี

“เชิญทางนี้ค่ะ” แพรวาพูดเชื้อเชิญคนทั้งหมด แต่ก่อนจะหมุนตัวเดิน พิมพ์เดือนปล่อยมือจากมารดา และชูสองแขนเล็กๆ ต่อหน้าโยธกา

“แม่โยอุ้ม” เด็กน้อยพูดเหมือนสั่งกลายๆ เช่นทุกที

นักวิจัยสาวก้มหน้ามองเด็กหญิง ก่อนส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

“ค่ะเจ้าหญิงน้อย” ถอนหายใจยาวเหยียด แล้วทรุดตัวลงแล้วอุ้มร่างเล็กๆ นั้นไว้ในวงแขนอย่างทะนุถนอมก่อนยืนขึ้น ขณะที่พิมพ์เดือนกอดคอของร่างสูงแน่น

'ทำไมเดือนถึงได้ดูสนิทกับคุณโยธกานัก?'

แพรวาคิดอย่างไม่เข้าใจ

หล่อนก้มลงอุ้มพิมพ์ดาว แล้วเดินนำขบวนขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น ๑๐ โดยสองสาวเดินตรงกลาง สามนายตำรวจคอยระวังหลัง

“ตกลงคุณคนนี้ เป็นแม่ของเดือนกับดาว?” จุฑามาศกระซิบถามเพื่อนสนิท

“คงงั้นมั้ง” โยธกาตอบพร้อมยักไหล่

เธอไม่ค่อยรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับบริษัทนี้ ไม่ต้องถามว่าผู้หญิงคนสวยเหมือนนางแบบตรงหน้าเป็นใคร? ชื่อจริงอะไรก็ไม่รู้? รู้แต่ชื่อเล่นว่า ‘แพร’ เท่านั้น ถ้าให้ตอบคำถามเกี่ยวกับบริษัทจีคอส คนไอคิวสูงแบบเธอคง ‘สอบตก’ อย่างไม่ต้องสงสัย

“หิวไหมคะ?” โยธกาถามเด็กน้อยในวงแขนขณะอยู่ในลิฟต์

“ยังอิ่มอยู่เลยค่ะ” พิมพ์เดือนส่ายหน้า

“แล้วอยู่กับน้ามาศสนุกไหมคะ?” สาวร่างสูงถามต่อ

“ค่ะ” เด็กหญิงผงกหัวแล้วอมยิ้ม

แพรวาลอบชำเลืองมองโยธกากับลูกแฝดของตนเป็นระยะ แลเห็นพิมพ์เดือนแสดงความใกล้ชิดกับสาวร่างสูง แบบที่ไม่ค่อยแสดงกับคนอื่น นอกจากคนในครอบครัว...แม้แต่กับพี่เลี้ยงก็ไม่ค่อยจะว่าง่ายแบบนี้ ถามอะไรก็ไม่ค่อยจะพูดด้วยซ้ำ

สาวสวยรู้สึกหงุดหงิดกับภาพที่เห็น เหมือนนักวิจัยสาวกำลังแย่งความรักจากเด็กน้อยไปจากตน…รู้สึกหวงลูกสาว

หล่อนไม่เข้าใจเลยสักนิดว่า เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นจู่ๆ ลูกแฝดหายตัวไปได้อย่างไร? แล้วโยธกาเกี่ยวข้องกับการหายตัวของเด็กทั้งคู่เมื่อวานยังไง? คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว และหล่อนต้องการรู้คำตอบทั้งหมดในวันนี้จากปากของโยธกา

'ฉันต้องรู้ให้ได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน?'

ติ๊ง!

เสียงลิฟต์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นบนสุดของอาคาร

“เชิญทางนี้ค่ะ” แพรวาบอกกับแขกทั้งหมด แล้วเดินนำออกจากลิฟต์ไปตามทางเดิน

'ว้าว!'

โยธกาอุทานในใจอย่างตื่นเต้น ไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีโอกาสได้ย่างกรายมายัง ‘ดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ ของจีคอส เธอกวาดตามองดูทางเดินที่ตกแต่งเรียบง่ายปูพื้นด้วยหินอ่อน ดูหรูหราสบายตาต่างกับชั้นทำงานอื่น

'ตกลงคุณแพรนี่...เป็นใครกัน?'

เธออดไม่ได้ที่จะสงสัยถึงสถานะของผู้หญิงที่เดินอยู่ข้างหน้า

แพรวาเดินผ่านห้องทำงานของฝ่ายบริหารหลายต่อหลายห้อง จนเข้าไปยังห้องด้านในสุดที่มีประตูกระจกกั้น มีป้ายชื่อตำแหน่งระบุชัดเจนตรงหน้าประตูทางเข้า ‘ห้องประธานบริษัท’ หล่อนใช้ไหล่ผลักประตูกว้างเพื่อให้ค้าง แล้วเอ่ยกับผู้หญิงวัยสี่สิบเศษที่เงยหน้าจากเอกสาร

“ขอพบคุณพ่อค่ะ” เสียงหวานๆ ของสาวสวยกล่าวอย่างสุภาพ

เลขาฯ สาวใหญ่รีบลุกขึ้นยืน แล้วพูดอย่างอ่อนหวาน

“เชิญค่ะ ท่านรอคุณแพรอยู่นานแล้วค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ” หล่อนตอบเสียงหวาน แล้วเดินไปยังประตูไม้บานใหญ่ ยกมือเคาะสองที เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจึงเปิดเข้าไป

“เชิญค่ะ” แพรวาหันมาเชิญแขกหลายคนที่เดินตามมา

'คุณพ่อ?...ซวยแล้วฉัน!'

โยธกาคิดทวนคำในใจ หน้าซีดเผือดไร้สีเลือดเมื่อรู้ว่า เจ้าหล่อนเป็นลูกเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ เป็นบอสของเธอโดยตรงอีกต่างหาก งานนี้โชคหลายชั้นหล่นใส่หัวเลยทีเดียว

“คนใหญ่คนโตซะด้วย” จุฑามาศพึมพำออกมาเบาๆ ตกใจไม่น้อยที่เด็กแฝดเป็นลูกหลานเศรษฐี...ไม่ใช่สิ หลานสาวของมหาเศรษฐีต่างหาก

สิทธาลุกยืนขึ้นทันทีที่เห็นหลานสาวสองคน ในวงแขนของแพรวากับผู้หญิงอีกคน ชายสูงวัยยิ้มกว้างอย่างยินดีเป็นที่สุดที่ได้ ‘แก้วตาดวงใจ’ กลับคืนมา เขาชูมือขึ้นตรงหน้า และพูดอย่างอ่อนโยน

“มาหาตาสิคะ เดือนดาว”

แพรวาย่อตัวลงปล่อยลูกสาวลงยืนกับพื้น พิมพ์ดาววิ่งไปหาญาติผู้ใหญ่ทันที โยธกาจึงทำบ้าง แล้วพิมพ์เดือนก็วิ่งตรงไปหาสิทธาเช่นกัน

“คิดถึงตาไหมคะ?” ชายสูงวัยถามอย่างอ่อนโยน หลังแฝดสองอยู่ในวงแขนคนละข้างของเขา

“คิดถึงค่ะ” สองเสียงตอบประสานกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“ตาก็คิดถึงเดือนกับดาวม๊ากมากค่ะ”

สิทธาฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข หอมแก้มของเด็กทั้งคู่ที่หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี เป็นภาพครอบครัวที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักมากมาย

แพรวายืนมองภาพแห่งความสุขอยู่ใกล้ๆ มีรอยยิ้มเปื้อนวงหน้าสวย นึกโล่งอกที่ลูกสาวปลอดภัยกลับมา น้ำใสๆ คลอเบ้าแทบเอ่อล้น สุขจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไรเป็นคำพูด

'โชคดีจริงๆ ที่เดือนดาวปลอดภัยกลับมา'

“ดูดีใจมากเลยนะนั่น” โยธกาพูดเปรยขึ้นเบาๆ เธอชอบที่ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กแฝดมาก ดูไร้เดียงสามีชีวิตชีวา เหมือนโลกใบนี้ไม่มีความทุกข์หรือเรื่องร้ายใดๆ

...คงจะดีมาก ถ้าในโลกแห่งความจริงเป็นแบบนั้นบ้าง

“นั่นสิ” จุฑามาศที่ยืนข้างๆ เพื่อนสนิทเห็นพ้อง และพลอยยินดีไปกับครอบครัวนี้ด้วย

เจนจิราที่นั่งอยู่ตรงโซฟารับแขกตัวใหญ่อีกมุมหนึ่งของห้อง มองผู้หญิงแปลกหน้าสองคนอย่างสงสัย จึงพยักหน้าให้ลูกน้องเดินมาหาเพื่อสอบถาม

“คุณสองคนนี้?”

“ผู้ต้องสงสัย ลักพาตัวเด็กสองคนครับผู้กอง” ตำรวจที่ยืนเถียงกับโยธการายงานอย่างฉะฉาน

ผู้กองสาวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ เหลือบมองไปยัง ‘ผู้ต้องสงสัย’ อีกรอบ ก่อนหันกลับมามองลูกน้อง

“เล่ามาสิ”

ชายหนุ่มเล่าตั้งแต่เห็นจุฑามาศจูงมือเด็กแฝดเข้ามาในตึก เขากับลูกน้องอีกสองคนจึงเข้าไปสอบถามได้ความว่า เธอมาหาโยธกา ซึ่งเป็นผู้ฝากเด็กทั้งคู่ไว้ที่ร้านเมื่อเช้า เขาจึงบอกให้จุฑามาศโทรตามเพื่อนให้ลงมาพบ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ทั้งคู่ปฏิเสธข้อหาลักพาตัวเสียงแข็ง และเป็นแพรวาที่ขอให้ขึ้นมาคุยที่ห้องนี้

“เข้าใจแล้ว” เจนจิราพยักหน้า ก่อนบอกลูกน้องให้เชิญหญิงสาวทั้งสองมานั่งที่โซฟาใหญ่ตรงข้าม

โยธกากับจุฑามาศนั่งตัวลีบจ๋องบนเก้าอี้รับแขก ตื่นเต้นประหม่ามากจนหัวใจแทบกระโดดออกมาเต้นนอกร่าง

ร่างบางไม่ได้เดินไปนั่งฟังด้วย เพราะไม่อยากยุ่งกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่เลือกนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของบิดาแทน ซึ่งเพียงพอจะได้ยินคำสนทนา โดยหันเก้าอี้ไปมองผู้ต้องสงสัยตรงๆ

“แนะนำตัว ชื่อนามสกุลด้วยค่ะ” ตำรวจสาวเอ่ยถามเสียงเรียบ ไม่แสดงท่าทีที่กดดันอีกฝ่ายจนเกินไป ก่อนกดเครื่องบันทึกเสียงเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี

นักวิจัยสาวเอ่ยชื่อ และนามสกุลของตัวเองออกมาเสียงแผ่ว

“ใครเป็นคนเจอเด็ก? ที่ไหน? เมื่อไหร่? กรุณาเล่าอย่างละเอียด” คำถามแรกถูกยิงออกไปทันที

“ฉันเป็นคนเจอค่ะ” โยธกาตอบ พยายามระงับความตื่นเต้นที่พุ่งพรวด ก่อนพูดอย่างช้าๆ แต่ชัดเจน “ฉันเจอเดือนกับดาวขณะเดินกลับบ้านเมื่อวาน สักเกือบหกโมงเย็นได้ พวกเธอสะกดรอยตามฉัน ฉันไม่รู้ว่าใคร ก็เลยเดินหนีไปที่ร้านสะดวกซื้อแถวนี้ใกล้กับสะพานลอย พอฉันถามว่าตามทำไม พวกเด็กๆ บอกว่าหิวข้าว ฉันสงสารเลยพากลับบ้าน ป้อนข้าว และก็อาบน้ำให้ค่ะ”

“มีพยานเห็นตอนเจอเด็กๆ หรือเปล่า?” เจนจิราถามต่อ

“มีค่ะ พนักงานชายสามคนในร้านสะดวกซื้อเมื่อวานเย็นค่ะ ฉันให้นามบัตรพวกเขาไว้ เผื่อมีใครมาตามหาเด็กสองคน”

“แล้วคุณแจ้งความหรือยัง?”

“แจ้งแล้วค่ะ ฉันโทรไป ๑๙๑ ตอนเจ็ดโมงกว่าๆ วันนี้”

ผู้กองสาวเงยหน้ามองลูกน้องเป็นเชิงสั่งให้ ‘ไปเช็คข้อมูล’ ซึ่งเขาก็รีบไปปฏิบัติตามคำสั่งทันที เจนจิราจึงหันมาซักโยธกาต่อ

“แสดงว่าคุณไม่รู้ว่า เด็กสองคนนี้เป็นลูกเจ้านายตัวเอง?”

โยธกาส่ายหน้าลอกแลก

“ไม่ทราบค่ะ ฉันทำงานอยู่แต่ในห้องแล็บ ไม่เคยติดต่อกับระดับบริหาร”

'ให้ตายเถอะ!'

ตำรวจสาวถอนหายใจยาวเหยียดอย่างเซ็งๆ ไม่นึกว่าจะเจอคนไอคิวสูง แต่ความรู้รอบตัวต่ำแบบนี้

“ทำไมพวกเด็กๆ ถึงได้ไปอยู่กับเพื่อนของคุณได้?” เจนจิราซักโยธกาต่อ

“ฉันเอาพวกเด็กๆ ไปฝาก เพราะวันนี้ฉันต้องมาพรีเซนต์งาน ไม่ว่างดูแลค่ะ” นักวิจัยสาวเล่าถึงเหตุผลที่ทำเช่นนั้น

“ขอบคุณค่ะ” เจนจิราหันไปจ้องผู้ต้องสงสัยอีกคน ก่อนพูดเสียงเรียบ “แนะนำตัวด้วยค่ะ”

จุฑามาศเอ่ยชื่อนามสกุลออกมา

“ทำไมคุณถึงได้พาพวกเด็กๆ มาที่นี่?” ผู้กองสาวถาม

“เด็กสองคนร้องไห้หาแต่ ‘แม่โย’ เอ่อ หมายถึงโยธกา ฉันก็เลยอดสงสารไม่ได้น่ะค่ะ” ตอบเสียงสั่นๆ รู้สึกกดดันและตื่นเต้นจนแทบจะเป็นลม เกิดมาไม่เคยถูกตำรวจสอบปากคำแบบนี้เลย...เป็นประสบการณ์ที่ไม่อยากเจออีกเป็นครั้งที่สอง

ระหว่างที่ซักนั้น เจนจิราจดข้อมูลสำคัญไว้ทั้งหมด โดยไม่ลืมเช็คบัตรประชาชนเพื่อจดที่อยู่ ไว้ตรวจสอบทีหลัง ลางสังหรณ์ของเธอบอกว่า สองสาวไม่ใช่คนร้ายแน่ๆ แต่ก็ทำตามระเบียบทุกอย่างจนครบ

ดูตามรูปการแล้ว คดีนี้เกิดจากความซุกซนของเด็กแฝด ที่แอบหนีคนขับรถกับพี่เลี้ยงเด็กไปซ่อน แล้วพลัดหลงกัน จนไปเจอกับโยธกาที่ยื่นมือเข้าช่วยดูแลหนึ่งคืน...แต่กลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด คิดว่ามีการเรียกค่าไถ่เกิดขึ้น

'เด็กสองคนโชคดีมาก ที่เจอกับคนแบบนี้...ไม่งั้นคงแย่'

ตำรวจสาวคิดในใจ

ไม่นานลูกน้องสองคนของเจนจิราก็เข้ามาพร้อมกับรายงานว่า

“ผู้กองครับ มีคนแจ้งความไปที่สายด่วนเรื่องพบเด็กสองคนครับ ตรวจสอบแล้วเป็นเบอร์ ๐๘๑-xxx-xxxx ของคุณโยธกาครับ” ลูกน้องคนแรกพูดอย่างจริงจัง

เจนจิราพยักหน้าเหลียวมองไปยังผู้ชายอีกคนที่สั่งให้ไปทำงาน

“ว่าไง?”

“กล้องวงจรปิดที่ร้านสะดวกซื้อเมื่อวานตอนเย็น มีภาพของคุณโยธกากับเด็กสองคนปรากฏด้วยครับ พนักงานชายที่ทำงานช่วงนั้นสามคนให้การตรงกันครับว่า คุณโยธกาให้นามบัตรไว้จริงเผื่อมีคนมาสอบถามเรื่องเด็ก ผมขอก๊อปปี้เทปช่วงนั้นมาด้วยครับ” เขายื่นแฮนดี้ไดร์ฟที่มีภาพหลักฐานให้กับเจ้านายตัวเอง

“ขอบคุณนะจ่า” ตำรวจสาวรับหลักฐานมาถือไว้ โดยไม่ลืมกล่าวกับจ่าสองคน เธอหันกลับมามองสองสาว ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว “ขอบคุณพวกคุณมากเลยนะคะ ที่ให้ความร่วมมือกับเราเป็นอย่างดี ตอนนี้พวกคุณไปได้แล้วค่ะ”

โยธกากับจุฑามาศยิ้มกว้าง ยินดียิ่งที่รอดจากการเป็นผู้ต้องสงสัย

“ขอบคุณค่ะ” นักวิจัยสาวพูดกับเจนจิรา ขณะที่เพื่อนสนิทแค่ส่งยิ้มให้ ทั้งสองลุกขึ้นยืนเพื่อออกจากห้องนั้น โดยไม่รอให้ใครเตือนเป็นครั้งที่สอง

ร่างสูงแทบอยากจะออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีที่ถูกสายตาดุๆ ของแพรวาจ้องเขม็งตลอดเวลาที่ถูกสอบปากคำ

'ไม่ต้องจ้องกันขนาดนั้นก็ได้ค่ะ'

แต่ก่อนจะออกจากห้องนั้น โยธกาหันไปมองเจ้าของห้องแล้วยกมือทำความเคารพอย่างอ่อนน้อม แม้จะไม่ใช่กุลสตรีไทยทุกกระเบียดนิ้ว แต่ก็ถูกแม่อบรมสั่งสอนมาดี

“สวัสดีค่ะท่าน” เธอกล่าวกับชายผู้มีอำนาจสูงสุดของบริษัท

“ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยดูแลหลานสองคนของผม” สิทธาพูด หลังรับไหว้ เดินมาใกล้หญิงสาว พร้อมส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี

“ยะ ยินดีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ตอบแบบประหม่า ไม่ชินที่ต้องคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่

“เชิญครับ” เขาว่า

เธอสูงหมุนตัวไปสบตากับแพรวา แล้วทำความเคารพอย่างงามที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นเจ้านายคนหนึ่งของเธอ

“สวัสดีค่ะ”

แพรวารับไหว้ แล้วก้าวเท้าไปยืนใกล้ๆ กับโยธกา แล้วสวมกอดอีกคนไว้

“ขอบคุณคุณโยธกามาก และขอโทษที่พวกเด็กๆ ทำคุณยุ่งยาก” หล่อนพูดอย่างนุ่มนวลอ่อนหวาน รู้สึกติดค้างบุญคุณของอีกคนมากมาย ที่ช่วยชีวิตลูกๆ ของตนไว้ หากไม่ได้โยธกาช่วย ไม่รู้ว่าลูกๆ ของหล่อนจะไปตกระกำลำบากอย่างไรบ้าง

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” ตอบตะกุกตะกัก ไม่รู้ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงผิดจังหวะขึ้นกะทันหัน หน้าแดงร้อนผะผ่าว ไม่เคยเลยจะตื่นเต้นเวลากอดกับใครแบบนี้ แล้วก็ต้องก้มหน้าลง เมื่อโดนเด็กสองคนมาเกาะขากางเกง จึงค่อยๆ ผละจากอ้อมกอดของหล่อน ย่อตัวลงคุยกับสองแสบ “มีอะไรคะเจ้าหญิงน้อย?”

“แม่โยจะไปแล้วเหรอคะ?” พิมพ์ดาวถามเสียงแผ่ว

“ใช่ค่ะ ฉันจะไปทำงานน่ะ” นักวิจัยสาวตอบ ยกมือเรียวยาวขึ้นลูบศีรษะของเด็กน้อยตรงหน้า

“ว่างๆ แม่โยมาเล่นกับเดือนดาวอีกนะคะ” พิมพ์เดือนชวน

โยธกาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนรับปาก

“ค่ะ ไปนะคะ”

“บายค่ะ” / “บาย” เด็กสองคนกล่าวพร้อมๆ กัน

“บาย” ร่ำลาเสร็จโยธกาก็ลุกยืนเต็มความสูง แล้วกล่าวกับแม่ของเด็กๆ “ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

“ค่ะสวัสดีค่ะ” แพรวาส่งยิ้มชวนละลายเต็มหน้าให้ผู้มีพระคุณเป็นครั้งแรก

'โอ้...'

โยธกายืนตะลึงงันอยู่กับที่ เหม่อมองวงหน้าสวยจนลืมหายใจไปหลายวินาที รับรู้แต่เสียงหัวใจที่เต้นแรงจนกลัวอีกคนจะได้ยิน จนกระทั่งจุฑามาศเรียก

“โยไปเถอะ”

นักวิจัยสาวกระพริบตาถี่ๆ หลายครั้งเมื่อหลุดจากมนต์สะกด ยกมือเกาต้นคออย่างเขินๆ ใบหน้าขึ้นสีเรื่อ ยิ้มแหยๆ ให้หล่อน ก่อนเดินตามเพื่อนสนิทออกจากห้องไป

แพรวายืนมองร่างสูง จนกระทั่งประตูไม้บานใหญ่ปิดสนิทลง แล้วผุดรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมริมฝีปาก

'เป็นคนที่แปลกดีจริงๆ'

“ดูเหมือนคดีนี้จะปิดแล้วนะคะ ทุกอย่างเป็นความเข้าใจผิด เมื่อไม่มีอะไรแล้วดิฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน” เจนจิรากล่าวกับประธานบริษัทด้วยสีหน้าผ่อนคลาย ยินดีที่ปิดคดีได้ โดยไม่มีคนบาดเจ็บล้มตาย ตอนนี้เธอเหนื่อยมาก และต้องการพักผ่อนหลังไม่ได้นอนมาเกือบ ๒๔ ชั่วโมง

“ขอบคุณผู้กองมากครับ” สิทธากล่าวอย่างเกรงใจ หลังเห็นอีกคนทุ่มเททำงานเต็มที่...เป็นตำรวจที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน

“เป็นหน้าที่ของดิฉันค่ะท่าน” ผู้กองสาวตอบอย่างเป็นทางการ

“ขอบคุณค่ะ” แพรวาพูดบ้าง ขณะที่พิมพ์เดือนนั่งเล่นบนตักของหล่อน

“ยินดีค่ะ” เจนจิราพูดยิ้มๆ ค่อมหัวแล้วออกจากห้องนั้นไป พร้อมกับลูกน้องที่ขนอุปกรณ์ทั้งหมดที่เอามาด้วย

เมื่อภายในห้องทำงานเหลือเพียงแค่สมาชิกในครอบครัว

“พ่อคิดว่า เราควรตบรางวัลให้คุณโยธกา เป็นการขอบคุณที่ช่วยเดือนกับดาวไว้ แต่ว่าควรเป็นอะไรดีล่ะ คุณโยธกาถึงจะชอบ?” ผู้เป็นบิดาถามความเห็นของลูกสาว

ร่างบางนิ่งคิด ดูจากท่าทางการแสดงออกของนักวิจัยสาว หากให้เป็นเงินสด ขึ้นเงินเดือน หรือเลื่อนตำแหน่ง อีกฝ่ายน่าจะไม่ชอบเท่าไหร่ ตามประสาคนเก่งที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง...ที่น่าจะมีอีโก้สูงตามไปด้วย

'อะไรดีนะ?'

“แม่โยชอบทานเค้กค่ะ” พิมพ์ดาวที่นั่งเล่นอยู่บนตักคุณตาเอ่ยขึ้น ตามที่เธอได้ยิน ในตอนเช้าที่โยธกาพูดกับจุฑามาศว่า ‘ฉันชอบขนมเค้กร้านเธอที่สุด’

“ใช่ๆ เค้กร้านน้ามาศอร่อย” แฝดน้องเสริม ยังคงติดใจขนมเมื่อเช้าอยู่เลย

แพรวามองลูกสาวสองคนสลับไปมา แม้จะรู้ว่าพวกเด็กๆ ฉลาดมาก แต่หายไปอยู่กับเธอคนนั้นแค่หนึ่งคืน ทำไมถึงได้ทำเหมือนรู้จักอีกฝ่ายดีนักนะ?

'จะรู้ดีเกินไปหรือเปล่าคะลูกๆ ขา'

สิทธากลอกตาคิด แล้วก็ได้ไอเดียที่ผ่านเข้ามาในหัว

“เชิญคุณโยธกาไปทานข้าวเย็นที่บ้านเราสักมื้อ ลูกว่าดีไหม?”

“ก็ดีค่ะ พ่อสะดวกเมื่อไหร่ก็บอกนะคะ แพรจะได้นัดเธอ”

หล่อนเห็นด้วยกับบิดา รู้ดีว่า ‘ไม่ใช่ทุกคนที่เงินซื้อได้’ และหากเจอคนส่วนน้อยแบบนั้น ควรที่จะ ‘ผูกมิตร’ เอาไว้ให้ดี เพราะจะเป็นเพื่อนแท้ตลอดไป

“เออใช่ พ่อลืมโทรไปบอกแม่ว่าเจอหลานสุดที่รักแล้ว ป่านนี้ไม่รู้เป็นลมไปแล้วกี่รอบ” เขาพูดติดตลก หยิบมือถือมาโทรออกไปหาภรรยา โดยไม่ลืมเปิดลำโพงให้สองตัวซนได้คุยกับคุณยายด้วย

ความทุกข์ที่บังเอิญพัดผ่านมาทักทายครอบครัวนี้ในเวลาสั้นๆ ได้สลายไปจนเกือบหมด เหลือแต่บทเรียนทิ้งไว้ ให้รอบคอบและระมัดระวังมากยิ่งขึ้น...บางครั้งความประมาทเล็กน้อย ก็อาจนำมาซึ่งความสูญเสียใหญ่หลวงได้

ขณะที่สิทธาและลูกๆ กำลังสนใจกับการคุยโทรศัพท์ แพรวากลับคิดถึงหญิงสาวใบหน้าคมเมื่อกี้

'ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ...คุณโยธกา'

OoXoO
ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ

นาง

OoXoO




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2558
1 comments
Last Update : 31 สิงหาคม 2558 17:52:40 น.
Counter : 952 Pageviews.

 

ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 25 สิงหาคม 2560 18:30:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com