ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
 
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 สิงหาคม 2558
 
 

Inescapable? สุดห้ามใจรัก? ตอน ๒ (Yuri)



'โคลงหลงทาง'

สงสารเจ้าคู่แก้ว........กานดา ยิ่งเอย
พลัดถิ่นหลงทางมา...ต่างคุ้ม
เคยอกอุ่นมารดา........อนาถ ยิ่งแฮ
เย็นค่ำแม่คงกลุ้ม .......ร่ำไห้ ถวิลหาฯ

ณ บ้านหลังใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งหากจะเรียกว่า ‘คฤหาสน์’ ก็คงไม่ผิด ตั้งอยู่ในทำเลทองของกรุงเทพฯ ย่านที่อาศัยของเศรษฐีมหาเศรษฐีทั้งนั้น มองจากภายนอกรอบบ้านมีต้นไม้และสวนดอกไม้ ตกแต่งสวยงามร่มรื่นน่าอยู่...เป็นบ้านในฝันของหลายต่อหลายคนเลยทีเดียว

บ้านหลังใหญ่ที่ผู้พักพิงน่าจะมีความสุข หากแต่ตอนนี้จิตใจของผู้คนในบ้านกลับร้อนรุ่มพลุ่งพล่าน เหมือนมีเพลิงกองโตมาแผดเผา

“ว่าไงคะคุณพ่อ ได้เรื่องไหมคะ?” แพรวาถามบิดา ด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ ผิดจากบุคลิกปกติที่สุขุมเยือกเย็น แต่จะให้หล่อนใจเย็นอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้ลูกสาวสุดที่รักหายตัวไปทั้งคู่ เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ ทำเอานั่งไม่ติดมาตั้งแต่ทราบข่าว

แพรวาสาวสวยวัย ๒๗ ปีมีลูกแฝดที่กำลังน่ารักน่าชังอายุย่าง ๔ ขวบในอีกไม่กี่เดือน หล่อนเป็น Working Woman เป็น Single Mom ที่เลี้ยงลูกๆ เพียงลำพัง และเป็นรองประธานบริษัทจีคอสที่บิดาเป็นผู้ก่อตั้ง

“ท่านอธิบดีฯ รับปากว่าจะระดมกำลังตำรวจค้นหาให้ แต่ตอนนี้ขอให้ทางเรารอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน” สิทธาตอบเสียงเรียบแทบเหมือนปกติ

แม้จะเป็นห่วงพิมพ์ดาวกับพิมพ์เดือนไม่น้อย แต่เขายังคงควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี...ไม่เหมือน ‘เพียงขวัญ’ ภรรยาของเขาที่เป็นลมล้มพับไปจนต้องปฐมพยาบาลกันยกใหญ่

โดยประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว คนขับรถกับพี่เลี้ยงเด็กมาบอกว่า เด็กสองคนหายตัวไปขณะจะพาไปหาแพรวาที่ออฟฟิศ โดยทั้งคู่สารภาพว่า ได้แวะจอดรถใกล้กับสำนักงานใหญ่ เพื่อซื้อของใช้ในร้านสะดวกซื้อ โดยสตาร์ทรถเปิดแอร์ทิ้งไว้ พอกลับมาที่รถอีกทีเด็กๆ ก็หายไปแล้ว

“ท่านบอกว่าจะส่งตำรวจมาที่นี่ เพื่อติดตั้งเครื่องดักฟังโทรศัพท์เผื่อว่า คนร้ายจะโทรมาเรียกค่าไถ่” ผู้เป็นพ่อบอกต่อ

“ค่ะ” หล่อนได้แต่รับคำไปอย่างนั้น ยิ่งฟังก็ยิ่งเป็นห่วงลูกแฝดของตนมากขึ้น รู้สึกผิดที่ดูแลลูกได้ไม่ดีพอ เชื่อใจพี่เลี้ยงมากเกินไป จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

'แม่ขอโทษนะลูก...ดาวเดือน'

แพรวาคิดตำหนิตัวเอง แล้วน้ำตาก็เอ่อระรื้นซึมออกมาจนแทบจะล้นเบ้า ก่อนจะรีบยกหลังมือป้ายออกอย่างเร็ว ตั้งสติระลึกว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมานั่งโศกเศร้าคร่ำครวญ แต่ต้องคิดอ่านหาวิธีนำเด็กๆ กลับมาต่างหาก

'ไม่ว่าอย่างไร แม่ก็จะหาลูกๆ ให้เจอให้ได้'

บอกกับตัวเอง หล่อนไม่มีทางยอมรามือถอดใจง่ายๆ แน่

“ตอนนี้เราคงทำได้แค่รอครับ” ธีรศิลป์ที่นั่งอยู่ติดกับแพรวาพูดขึ้น พลางยกมือหนาของตนไปกุมมือบอบบางที่กำลังสั่นเทาของหญิงสาว แล้วบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ

“ค่ะพี่ธีร” แพรวาหันไปสบตาเขา แล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ

ตอนที่รู้ข่าวว่า พวกเด็กๆ หายตัวไป หล่อนตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก โชคดีที่ธีรศิลป์อยู่ในห้องทำงานด้วย เขาจึงอาสาขับรถมาส่งที่บ้าน และนั่งอยู่เป็นเพื่อนมาตลอดพักใหญ่

แต่แล้วธีรศิลป์ต้องจำใจกลับบ้าน หลังแพรวาขอร้องกึ่งบังคับ โดยหล่อนสัญญาว่า

“ถ้ามีข่าวอะไร แพรจะโทรไปบอกพี่ธีรค่ะ”

“งั้นก็ได้ครับ” แล้วเขาก็กลับไป

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ตำรวจสามนายมาถึงคฤหาสน์ และทำการติดตั้งเครื่องดักฟังกับโทรศัพท์และมือถือหลายเครื่องของคนในบ้าน เผื่อคนร้ายจะติดต่อมา

เพียงขวัญแม่ของแพรวาขอตัวไปนั่งสวดมนต์ในห้องพระ โดยหวังว่า คุณพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลกจะช่วยคุ้มครองหลานๆ ของเธอ ให้กลับมาอย่างปลอดภัย

ภายในห้องรับแขกจึงมีเพียงสิทธา แพรวา และตำรวจสามนายนั่งอยู่เท่านั้น ซึ่งหนึ่งในสามของผู้รักษากฎหมายเป็นผู้หญิง

“ถ้าคนร้ายโทรมาพยายามชวนคุยถ่วงเวลานานที่สุด เท่าที่จะนานได้นะคะ เครื่องแกะรอยจะรู้ตำแหน่งหากคุยเกินสามสิบวินาทีค่ะ” เจนจิราผู้กองสาวที่ถูกส่งมาทำคดีนี้บอกกับผู้เสียหาย เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ITฝีมือดีของกรมตำรวจ

“เข้าใจแล้วครับ” เจ้าของบ้านรับคำ

ขณะที่สาวสวยแม่ลูกสองแค่พยักหน้าน้อยๆ ด้วยสีหน้าขรึมๆ

'น่าสงสารจัง'

เจนจิราคิดในใจ มองรูปของเด็กแฝดสองที่ยิ้มร่าอยู่ในวัยน่ารักน่าชัง นึกสงสารและเห็นใจหล่อนที่ขอบตาแดงก่ำ คาดว่าคงร้องไห้มาแล้วหลายรอบ เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ เวลาเห็นลูกเดือดร้อนมักจะทุกข์ใจ บางทีทุกข์มากกว่าลูกเสียอีก ขณะที่คนเป็นลูกมักไม่ค่อยรับรู้หรือเห็นอกเห็นใจบุพการีเท่าไหร่

หลายครั้งที่เจนจิราต้องทำคดีคล้ายๆ แบบนี้ โอกาสที่ตัวประกันรอดปลอดภัยกลับมามีน้อยมากแค่ ๑๐ % เท่านั้น ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมคนสมัยนี้ถึงได้ใจคอโหดร้ายกันนัก นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่เกรงกลัวบาปกรรมกันเลย ไม่พอใจขึ้นมาก็ฆ่าแกงกันเป็นผักเป็นปลา...ไม่สมกับเป็นชาวพุทธ เมืองพุทธเลยจริงๆ

ในเวลานี้คนร้ายคนชั่วล้นตะราง สร้างคุกเท่าไหร่ก็ไม่พอ สงสัยว่าภายในกรงขังนั้นคงจะน่าอยู่กว่าโลกภายนอก ถึงได้แย่งกันเข้าไป ‘เสวยสุข’ กันนัก

'หวังว่าเด็กสองคนนี้ จะโชคดีกว่าคนอื่น'

เจนจิราคิดอวยพรในใจ

ไม่นานก็มีสายโทรเข้ามาจำนวนสี่ครั้ง แต่หาใช่คนร้ายที่รอคอยไม่ ทุกคนได้แต่ผิดหวัง และเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกเด็กๆ มากขึ้น โดยเฉพาะแพรวาที่ทำหน้านิ่งเครียดราวกับรูปสลัก

ร่างบางคิดถึงแต่ลูกๆ แทบจะทุกลมหายใจเข้าออก หากสามารถเลือกได้หล่อนพร้อมจะรับเคราะห์ร้ายนี้แทนเด็กทั้งสอง หัวใจของแพรวาแทบจะแตกสลายเป็นพันชิ้นหมื่นชิ้น

'เดือนดาวลูกแม่ ใครก็ได้...ได้โปรดช่วยลูกฉันที'


โยธกาพาแขกตัวน้อยสองคนเข้าไปในบ้านทาวเฮ้าส์เล็กๆ สองชั้นที่มีสวนต้นไม้ใหญ่ไม่ถึงสิบต้น เธอเปิดประตูรั้วซี่เหล็กสีขาวที่ดูโดดเด่นแตกต่างจากบ้านหลังอื่น เด็กแฝดพากันวิ่งเข้าไปด้านในอย่างตื่นเต้นร่าเริงเมื่อเห็นตุ๊กตากันดั้ม RX-78-2 ตัวใหญ่ที่ยืนจังก้าถือดาบและโล่อยู่หน้าประตูไม้ชั้นในของบ้าน

“ว้าว!” พิมพ์เดือนอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น แล้วถลาเข้าไปกอดหุ่นยนต์ยักษ์ที่สูงกว่าตัวเธอเกือบสิบเซนติเมตร ราวกับสนิทสนมคุ้นเคยกันมานาน “ชอบๆ”

พิมพ์ดาววิ่งตามน้องสาว แล้วเอามือไปจิ้มหุ่นตัวนั้นเล่นบ้าง แต่แค่เพียงเบาๆ ไม่กล้าเล่นรุนแรง

“สวยเนอะ” แฝดน้องพูดกับพี่สาว

“อือ...” เด็กหญิงอีกคนเห็นพ้องด้วย ค่อยๆ ใช้มือเล็กบางลูบแขนใหญ่หนาของตุ๊กตาตรงหน้า

“ต้องขอให้แม่แพร ซื้อไว้ให้เล่นที่บ้านบ้าง” พิมพ์เดือนเสนอ

“นั่นสิ” พี่สาวยิ้มกว้างขึ้น ถูกใจกับความคิดของน้องสาว

โยธกาที่ปิดล็อคประตูรั้วเสร็จได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก เธออยากให้พวกเด็กๆ มีความสุข...แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

'แล้วฉันจะไปหาแม่ของพวกเธอที่ไหน?'

คำถามที่สาวร่างสูงอยากรู้คำตอบมากที่สุดในตอนนี้

“ไปเข้าบ้านกันค่ะ ฉันจะทำข้าวไข่เจียวกับข้าวไข่ตุ๋นให้ทาน” เธอชวนขึ้น หลังเปิดประตูไม้ชั้นในออก

“โยใจดีจัง” แฝดน้องพูดชมขึ้น

“ใช่...ใจดีมาก” พิมพ์ดาวเสริม

หญิงสาวเลิกคิ้วเรียวขึ้นเล็กน้อย เมื่อได้ยินเด็กสองคนพูดถึงตน แต่ไม่ชอบใจตรงที่ไม่มีสรรพนามนำหน้า...ฟังแล้วเหมือนไม่เคารพกัน

“เรียก ‘พี่โย’ สิคะ” เธอบอกกับเด็กๆ

พิมพ์เดือนสบตากับพิมพ์ดาวแวบหนึ่งเหมือนถาม แล้วหันมาส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่ค่ะ”

'ไม่ดื้อเลยจริงๆ เฮ้อ!'

เธอได้แต่ทำหน้าอ่อนใจกับความเอาแต่ใจของเด็กทั้งคู่ แล้วเดินนำเข้าไปภายในบ้านที่ไม่ค่อยมีแขกมาเยือนบ่อยนัก แต่สะอาดเอี่ยมอ่องมาก แม้จะมีของเยอะไปสักหน่อยก็ตาม

“โห!”

เด็กทั้งสองอุทานออกมาพร้อมกัน และทำตาโตเท่าไข่ห่าน เมื่อเห็นสิ่งล่อตาล่อใจวางเรียงรายบนพื้นตรงหน้า ชุดเลโก้หลายชุดที่ประกอบเสร็จ และอีกสองสามกล่องที่ยังไม่ได้ต่อ และมีชิ้นส่วนวางกองอยู่ เหมือนหลุดเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเลยทีเดียว

“ขอเดือนเล่นได้ไหมคะ?” แฝดน้องหันมาถามเจ้าของบ้าน พร้อมส่งสายตาอ้อนวอน เธอถูกสอนมาให้ขออนุญาตก่อนเสมอ

“ขอดาวเล่นด้วยค่ะ?” อีกคนขอบ้างด้วยท่าทางเหนียมอาย

โยธกายิ้มน้อยๆ เธอไม่ใจแข็งกับแววตาแบบนี้ Puppy’s eyes

“ได้สิ แต่อย่าทำพังล่ะ ฉันขี้เกียจต่อใหม่”

“ค่ะ” สองเสียงรับปากแข็งขันพร้อมกัน แล้วถลาไปหากองของเล่นที่อยู่ตรงหน้า แล้วคุยกันกระหนุงกระหนิงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หัวเราะคิกคักเป็นระยะ

โยธกาชำเลืองมองเด็กสองคนอย่างโล่งใจ อย่างน้อยก็เลี้ยงไม่ยากเท่าไหร่ เอาข้าวของที่ถือมาไปวางที่โต๊ะรับแขก หยิบเฉพาะแพ็คไข่ไก่เดินเข้าไปโซนครัวที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อเตรียมทำอาหารเย็น ไม่นานข้าวสวยร้อนๆ พร้อมกับข้าวตามสั่ง คือ ไข่เจียวกับไข่ตุ๋นก็เสร็จเรียบร้อย

“ดาวเดือนทานข้าว” ร่างสูงออกมาตามแขกสองคน ที่ยอมลุกเดินตามไปโต๊ะอาหารอย่างว่าง่าย

แต่พอถึงเก้าอี้ พิมพ์ดาวก็ยื่นแขนทั้งสองออกมาตรงหน้า

“อุ้ม”

โยธกาอุ้มแขกตัวน้อยทั้งสองนั่งเก้าอี้ที่สูงเกินไปสำหรับเด็กๆ

“ใครทานอะไรคะ?” หญิงสาวถามเพราะจำไม่ได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังแยกไม่ออกนักว่าใครชื่ออะไร

“ไข่ตุ๋นค่ะ” พิมพ์ดาวตอบ

“ไข่เจียวค่ะ” แฝดน้องพูดบ้าง

“โอเค” โยธกาเลื่อนจานกับข้าวมาวางตรงหน้า แล้วพิมพ์เดือนก็อ้าปากเหมือนลูกนกตัวเล็กๆ

'ป้อนข้าว...ให้ตายเถอะ!'

นักวิจัยสาวสบถในใจ

แล้วทำหน้าที่ป้อนข้าวเด็กแฝดสลับไปมาจนทั้งสองอิ่มแปล้ เธอจึงปล่อยเด็กๆ ไปเล่นต่อ ก่อนตนเองจะทานข้าวบ้าง กว่าจะทานอาหารและล้างจานเสร็จปาเข้าไปเกือบสองทุ่ม

“บ้านของพวกเธออยู่ที่ไหน?”

ทั้งคู่ส่ายหน้า

'เฮ้อ! เอาไงดีเนี่ย'

สาวร่างสูงคิดอย่างอ่อนใจ

“พวกหนูอยู่กับแม่แพร คุณตา แล้วก็คุณยาย ในบ้านหลังใหญ่ๆ” พิมพ์ดาวเล่า

“แล้วคุณพ่อล่ะ?” ถามต่อ เผื่อจะได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์ในการตามหาผู้ปกครองของเด็กๆ

“เราไม่มีพ่อ” พิมพ์เดือนตอบเสียงเศร้า ก่อนยิ้มน้อยๆ ออกมาเมื่อพูดถึงมารดา “แต่แม่แพรสวยมากๆ สวยกว่าโยอีก”

คนฟังแอบค้อนนิดๆ ที่โดนเปรียบเทียบแบบนั้น

'จ้า แม่แพรสวยที่สุดในโลก...อยากเจอจังแม่แพรคนสวยนี่จริงๆ'

โยธกามองเด็กๆ ที่อยู่ในสภาพมอมแมมทั้งตัว เหมือนลูกหมาตกโคลน เห็นแล้วทนไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า

“ไปอาบน้ำกันดีกว่าค่ะ”

“ค่ะ” เด็กๆ พยักหน้าไม่อิดออด เธอจึงอุ้มทีละคนพาขึ้นไปชั้นสอง ก่อนจัดการพาไปลงอ่างพร้อมกัน

...ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

“เอ๊ะ! อย่าสาดน้ำสิ” โยธการ้องห้าม แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ

“นี่แน่ะ” พิมพ์เดือนวักน้ำใส่หญิงสาว และอีกคนก็เลียนแบบ ทั้งคู่ช่วยกันวักน้ำเล่นอย่างสนุกสนาน

“นี่พวกเธอ!”

หญิงสาวเอ็ดพร้อมทำหน้าดุ แต่คำห้ามปรามล้วนไม่เป็นผล เธอโดนพวกเด็กๆ สาดน้ำใส่จนเปียกปอนไปหมดทั้งตัว สุดท้ายจึงรีบอาบน้ำให้พิมพ์ดาวแล้วอุ้มออกไปก่อน แล้วมาอาบอีกคนก่อนพาไปเช็คตัว ปะแป้งเด็ก ใส่เสื้อกล้ามสีขาวที่ใหญ่ยาวโคร่งจนเหมือนชุดนอนให้ทั้งคู่ แทนชุดเดิมที่มอมแมมเหลือเกิน ก่อนอุ้มจอมซนขึ้นเตียงใหญ่เพื่อให้พักผ่อน

“ดาวคิดถึงแม่แพรค่ะ” พิมพ์ดาวพูดอู้อี้ด้วยความง่วงเต็มแก่

“โยหาแม่แพรให้เดือนกับดาวทีนะ” แฝดน้องพูดกึ่งสั่งผู้ใหญ่กว่า

“ค่ะ” เธอรับคำเบาๆ ยกมือลูบหัวของเด็กทั้งสองอย่างทะนุถนอม รู้สึกถูกชะตากับพวกเด็กๆ อย่างบอกไม่ถูก “นอนซะนะคะ”

“หอมก่อนค่ะ” พิมพ์เดือนบอก พลางชี้นิ้วเล็กๆ ไปที่แก้มตัวเอง

“หา?” ทำหน้าตกใจกับคำขอประหลาดนั้น

“หอมก่อนนอน และกล่าวราตรีสวัสดิ์ด้วยค่ะ” แฝดน้องย้ำ คล้ายเป็นเรื่องสำคัญมาก

'เผด็จการจริงๆ...ลูกใครเนี่ย?'

โยธกาลอบถอนหายใจออกมา ก้มหน้าลงจูบเบาๆ ที่แก้มนุ่มของเด็กน้อย เมื่อเธอเงยหน้าก็สบตากับแฝดพี่ที่มองเขม็ง จึงโน้มตัวไปหอมแก้มของพิมพ์ดาวด้วย

“ราตรีสวัสดิ์ค่ะเดือนดาว” เธอพูดเบาๆ กับเด็กน้อย

เด็กแฝดหลับตาลง เพียงไม่นานก็หลับสนิทด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังผจญภัยมาทั้งวัน

เมื่อเห็นสองพิมพ์หลับ โยธกาจึงย่องออกมาจากห้องเอาชุดสวยๆ ของเด็กเข้าเครื่องซักผ้า แล้วอาบน้ำเปลี่ยนชุด และนั่งทำสไลด์ที่เตรียมเสนอวันพรุ่งนี้ กว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน จึงกลับขึ้นไปนอนที่ห้อง โดยปูผ้าห่มนอนกับพื้นหน้าเตียงที่โดนสาวๆ ตัวน้อยยึดไป

เธอเหลือบมองไปยังแขกบนเตียง ก่อนหลับตาลงและสัญญากับตัวเองในใจ

'พรุ่งนี้ฉันจะช่วยพวกเธอหาพ่อแม่ให้เจอ...ฉันสัญญา'

OoXoO

หวังว่าคงไม่มีใครฝันเห็นงูแบบนี้นะคะ ตื่นเต้นสุดๆ อิอิ

ช่วงนี้เดินทางไปไหน ขอให้ปลอดภัยมีแต่เรื่องดีๆ ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ เป็นห่วงค่ะ

ขอบคุณสำหรับการติดตาม และกำลังใจที่มีให้กันตลอด

นาง

OoXoO




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2558
0 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2558 11:11:05 น.
Counter : 785 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com