ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
กันยายน 2558
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
20 กันยายน 2558
 
 
Inescapable? สุดห้ามใจรัก? ตอนที่ ๑๓ (Yuri)

๑๓

โยธกาออกจากลิฟต์ชั้น ๑ ตรงไปยังโถงรับรองด้านหน้า พร้อมสอดส่ายสายตาหารองประธานสาวกับลูกน้อย แต่ไร้ร่องรอย ดูเหมือนเธอจะมาถึงก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย จึงทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้นวมหนาสีแดงที่อยู่ไม่ไกล

แล้วเสียงไลน์โปรแกรมแชทยอดฮิตจากมือถือก็ดังขึ้น เธอจึงหยิบเอามือถือราคาแพงออกมาอ่าน เป็นข้อความจากจุฑามาศที่ดูจะว่างกว่าทุกวัน ปกติเวลานี้อีกคนจะยุ่งมาก เพราะเป็นช่วงมีลูกค้าเข้าร้านเยอะ

Sweet Cake : เย็นนี้ว่างปะ มากินข้าวกัน

โยโย่ : ไม่ว่างอ่ะ มีนัดแล้ว

Sweet Cake : กับใคร?

โยโย่ : ดาวเดือน

Sweet Cake : ที่ไหน?

โยโย่ : บ้านคุณสิทธา

Sweet Cake : เจ้าของจีคอส?

โยโย่ : ใช่

Sweet Cake : (ส่งสติกเกอร์ตัวประหลาดอ้าปากค้างมาให้) อย่าทำอะไรน่าเกลียดให้ได้ซองขาวละ

โยโย่ : เออน่า ฉันรู้แล้ว

สาวร่างสูงถอนหายใจยาวเหยียดออกมา ดูเหมือนว่าเกือบทุกคนเชื่อมั่นมากว่า เธอคงไม่พ้นคืนนี้ไปแน่ๆ

'ให้กำลังใจกันดีจริงๆ ให้ตายเถอะ'

โยธกาคิดบ่นในใจ

Sweet Cake : ฉันจะเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ แล้วกัน ถ้าตกงานฉันรับเป็นลูกมือที่ร้าน

โยโย่ : ขอบใจเพื่อน ตื้นตันมากจริงๆ

Sweet Cake : เงินเดือนเจ็ดพันห้า ฟรีข้าวสามมื้อกับของหวาน

'งกชะมัด เค็มจนจะแซงน้ำทะเลแล้ว'

ร่างสูงคิดในใจ

โยโย่ : ชิส์ (ส่งสติกเกอร์แลบลิ้นปลิ้นตา)

ขณะที่โยธกากำลังนั่งพิมพ์ข้อความสุดท้ายแล้วกดส่ง หนึ่งในเด็กแฝดเอื้อมมาสะกิดมือของเธอ จึงเงยหน้าจากอุปกรณ์ในมือ และเห็นสาวสวยยืนห่างไปสองสามก้าว

สายตาหลายสิบคู่ของพนักงานแถวนั้นจับจ้องอย่างสนใจ ตอกย้ำเรื่องเมื่อกลางวันให้เป็นจริงเป็นจังมากขึ้น เกือบทุกคนเชื่อว่า ‘โยธกาเป็นคนรักของแพรวาจริงๆ’

“ขอโทษที่ลงมาช้าค่ะ” แพรวาพูดเสียงแผ่ว ที่ลงมาช้าไปเกือบห้านาที เพราะติดสายคู่ค้ารายหนึ่งของบริษัท

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเพิ่งลงมาเหมือนกัน” โยธกาตอบ แล้วเก็บมือถือใส่กระเป๋า แล้วลุกยืนเต็มความสูง โดยมีเจ้าหญิงน้อยประกบสองข้างจูงมือทั้งคู่ของเธอเอาไว้ ซึ่งเธอก็กุมมือเล็กๆ ไว้

'เจอแม่โยปั๊บ ทิ้งแม่แพรเลยเหรอคะลูกขา'

หล่อนคิดน้อยใจนิดๆ ที่ลูกของตนเห่อแม่คนใหม่เหลือเกิน แทบไม่เห็นแม่คนนี้อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ

“รถอยู่ไหนคะ?” นักวิจัยสาวถาม หลังเห็นแพรวายืนเฉยไม่มีทีท่าว่าจะไปสักที

“ทางนี้ค่ะ” ร่างบางหลุดจากภวังค์ เดินนำแม่โยกับลูกๆ ออกจากตึกไปยังลานจอดรถที่มีป้ายระบุไว้ว่าเป็นที่จอดสำหรับ ‘รองประธาน’

'ว้าว!'

โยธกายืนอึ้งเมื่อได้เห็นพาหนะของอีกฝ่าย รถเบนซ์อเนกประสงค์สีดำป้ายแดง ยี่ห้อที่เธอไม่กล้าแม้จะฝันถึง เกิดมาไม่เคยจะได้นั่งเลยสักครั้ง นอกจากสองประตูยี่สิบหน้าต่างของ ขสมก.

แพรวากดเปิดล็อค แล้วเปิดประตูหลังอุ้มลูกทั้งคู่ขึ้นรถ โดยไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยให้ ก่อนเชิญให้โยธกานั่งเบาะหน้าคู่กับตน ติดเครื่องแล้วขับออกไปอย่างช้าๆ

โยธกาลอบมองใบหน้าสวยด้านข้างของคนขับเป็นระยะ บอกไม่ถูกว่าทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงเกือบทุกครั้งที่ได้เห็นหน้า แถมกลิ่นน้ำหอมที่โชยออกมาก็ดึงดูดเสียเหลือเกิน ร่างสูงลดสายตาลงสำรวจเรียวคอระหง ไล่เรื่อยต่ำลงมองหัวไหล่ที่สวมเสื้อสูทสีเข้ม ก่อนไปหยุดชะงักงันตรงช่วงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ แล้วภายในลำคอของนักวิจัยสาวก็แห้งผากกะทันหัน จนเผลอกลืนน้ำลายเอื๊อก

'ตัวก็ดูบางๆ แต่ทำไมถึงได้...เหลือเฟือนักนะ'

เธอแอบคิดเปรียบเทียบขนาดของอีกฝ่ายกับตนเอง ที่มีน้อยกว่ามาตรฐานไปสักหน่อย

แล้วใบหน้าคมก็ร้อนผะผ่าวขึ้นมา เมื่อรู้สึกว่าตนเองมีพฤติกรรมและความคิดเข้าข่าย ‘คนโรคจิตระยะแรก’ จึงเบนสายตามองออกไปทางซ้ายมือของตนเองแทน พยายามสลัดความคิดบ้าๆ ออกจากหัว

'ทะลึ่งมากเกินไปแล้ว คุณโย'

แพรวาอมยิ้มให้หน้า หล่อนทันสังเกตเห็นท่าทีแปลกๆ ของเพื่อนร่วมทางผ่านทางหางตา แม้จะยังไม่แน่ใจว่าอีกคนคิดอย่างไรกับตน แต่อย่างน้อยข้อสมมติฐานแรกก็เริ่มเห็นคำตอบลางๆ แล้ว

...เรื่องสเปคของโยธกา

‘หากผู้หญิงคนใดให้ความสนใจกับหน้าอกของหญิงอื่น มากจนผิดสังเกต ให้สมมติฐานเบื้องต้นว่า มีโอกาสชอบเพศเดียวกันมากกว่า ๕๐%’ – แพรวาเคยอ่านเจอบทความนี้ในอินเตอร์เนต

ขณะที่ผู้ใหญ่สองคนกำลังหยั่งเชิงกันอยู่นั้น เด็กแฝดก็นั่งปรึกษาแผนที่จะเล่นกันกับแม่โยในค่ำคืนนี้อย่างจริงจัง แม้จะมีความเห็นขัดแย้งกันบ้าง แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ตกลงกันได้ด้วยดี

“ชวนแม่โยเล่นทั้งสองอย่างเลยดีไหม?” พิมพ์ดาวสรุปด้วยท่าทางแบบผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งลอกแบบมาจากแพรวา

“ดีสิ พวกเราจะได้เล่นเยอะๆ” แฝดน้องเห็นดีเห็นงามด้วย

โยธกาได้ยินเสียงเล็กๆ กล่าวพาดพิงถึง จึงเอี้ยวตัวมองเบาะหลัง

“แม่โยเล่นกับพวกหนูนะ” พิมพ์เดือนเอ่ยชวนทันที

“นะคะ” พิมพ์ดาวอ้อนบ้าง พร้อมส่งสายตาปริบๆ

“ก็ได้ค่ะ” สาวร่างสูงใจอ่อนอีกตามเคย

“เย้” / “ดีใจจัง” สองเสียงพูดเสียงดังลั่นอย่างร่าเริงยินดี

“คุณแพรไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ? กับการรับมือเจ้าคู่นี้” โยธกาหันไปถามคนขับด้วยความสนใจใคร่รู้ เพราะลิ้มรสความซุกซนของสองแสบมาบ้างแล้ว…ตัวแค่นี้ แต่มีฤทธิ์ไม่น้อย

สาวสวยหัวเราะเบาๆ ออกมา

“ฉันรักเดือนกับดาวมากค่ะ มากพอที่จะทำได้ทุกอย่าง” เจ้าหล่อนตอบเสียงหวานอย่างมั่นอกมั่นใจ ไม่คิดว่าลูกเป็นภาระหรือตัวปัญหา

“ก็จริงนะ” เธอเห็นด้วย เพราะคนเป็นแม่ส่วนใหญ่มักเป็นแบบนี้

“เด็กๆ ติดคุณโยธกามากเลยนะคะ บ่นถึงทุกวัน วันละหลายหน” หล่อนพูดขึ้น ชำเลืองมองคนนั่งเบาะข้างๆ ก่อนมองถนนข้างหน้าตามเดิม แพรวาขับรถอย่างระมัดระวังและรอบคอบมาก

“คงเหงาน่ะค่ะ เล่นกันแค่สองคนทุกวัน” ร่างสูงตอบเสียงแผ่ว จากประสบการณ์ตรงที่เคยได้รับ

หล่อนเผลอถอนหายใจเบาๆ ออกมา รับรู้ถึงความโดดเดี่ยวที่แฝงมาพร้อมกับคำพูดนั้น...ความรู้สึกที่แพรวาคุ้นเคยเป็นอย่างดี

“อีกสักปี ฉันคงจะส่งเดือนดาวเข้าโรงเรียนค่ะ อยากให้ช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากกว่านี้ก่อน” ร่างบางไม่อยากให้ลูกน้อย ต้องถูกกดดันมากเกินไปกับการแข่งขันในโรงเรียน

“ค่ะ” งึมงำตอบ หญิงสาวไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเด็กสมัยนี้มากนัก รู้แต่เพียงว่าค่าเทอมบางแห่งที่แพงมหาโหด ยิ่งโรงเรียนนานาชาติด้วยละก็ไม่ต้องพูดถึง สอนเรียนสองสามภาษาตั้งแต่ชั้นประถมชั้นอนุบาล คิดแล้วก็สงสารและเครียดแทนเด็กสมัยนี้จริงๆ

แต่ที่น่าห่วงกว่าคือ กระเป๋าสตางค์ของพ่อแม่ ที่ต้องอาบเหงื่อต่างน้ำหาสตุ้งสตางค์ไม่รู้เท่าไหร่ เพื่อส่งลูกรักเรียนจนจบปริญญา การเป็นพ่อแม่ต้องมีคุณธรรมสูงมากจริงๆ

โยธกาคิดฟุ้งซ่านไปหลายนาที จนกระทั่งรถยนต์เลี้ยวเข้าซอยที่ห่างจากที่ทำงานไปประมาณห้าหกซอยได้ แล้วอาการประหม่าตื่นเต้นก็ย้อนกลับมาทักทายอีกรอบ สองมือบางเย็นเฉียบ เมื่อคิดว่าตนเองต้องเจอบอสใหญ่กับศรีภรรยาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

'เอาไงดีโยธกา?'

ถามตัวเองในใจแบบสั่นๆ

“ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ พ่อแม่ฉันใจดี” กล่าวอย่างอ่อนโยนและให้กำลังใจ ก่อนเลี้ยวเข้าประตูรั้วอัลลอยด์ที่เลื่อนเปิดด้วยรีโมต

“ค่ะ” เธอตอบด้วยเสียงสั่นๆ ไม่มั่นใจนัก

'โห! บ้านใหญ่ชะมัด'

โยธกาอุทานในใจ

ตื่นตาตื่นใจกับคฤหาสน์หลังใหญ่เบื้องหน้า ที่ดูแล้วเหมือนหลุดเข้าไปในฉากบ้านคุณหญิงหรือท่านชายในละครหลังข่าวภาคค่ำ ซึ่งมีน้ำพุใหญ่บริเวณด้านหน้าด้วย จะว่าไปบ้านหลังใหญ่นี้จัดตามหลักฮวงจุ้ยเป๊ะ...‘น้ำหน้า เขาหลัง’

เมื่อรถยนต์จอดสนิทตรงหน้าทางเข้าประตูของคฤหาสน์ หล่อนดับเครื่องแล้วหันมาบอกเพื่อนร่วมทางที่ยังนั่งนิ่งเป็นรูปปั้น

“เชิญค่ะ”

“อา ค่ะ” ร่างสูงตอบตะกุกตะกัก ก่อนก้าวลงจากรถ ยืนรอเด็กสองคนที่วิ่งมาเกาะมือซ้ายขวา แล้วกึ่งจูงกึ่งลากเธอเข้าไปในบ้าน โดยทิ้งคุณแม่ตัวจริงไว้เบื้องหลัง

“คุณยายขา” พิมพ์ดาวร้องเรียกผู้หญิงอายุห้าสิบเศษ ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาไม้แบบคลาสสิกกลางห้องรับแขก

“มาแล้วเหรอลูก” เพียงขวัญวางหนังสือในมือ แล้วโอบเด็กสองคนที่วิ่งมาหา หอมแก้มคนละสองทีเป็นการทักทาย แล้วเงยหน้าขึ้นมองแขกที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่

“สวัสดีค่ะท่าน” โยธกาพูดเสียงสั่นๆ หลังยกมือทำความเคารพอย่างสวยงามตามที่ถูกฝึกมา

“สวัสดีค่ะหนูโยธกา” ผู้อาวุโสทักตอบ หลังรับไหว้ “เชิญนั่งค่ะ”

ร่างสูงค่อยๆ ทรุดตัวนั่งเก้าอี้เดี่ยวอย่างช้าๆ รู้สึกตัวเล็กลีบเกร็งไปหมด ไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ ใจเต้นรัว ชำเลืองมองคนตรงหน้าที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับแพรวามาก ถ้าอ่อนวัยกว่านี้สักยี่สิบปี อาจจะสวยกว่าลูกสาวเลยทีเดียว

“เอ่อ เรียกโยเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”

“ค่ะหนูโย” อีกฝ่ายรับคำ รู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงอ่อนวัยตรงหน้าตั้งแต่แรกเห็น ไม่ว่าจะเป็นกิริยามารยาท รวมถึงการวางตัว

เพียงขวัญถือโอกาสสำรวจวงหน้าของโยธกาอย่างละเอียด สะดุดตากับความงามแบบคมๆ องค์ประกอบของทุกอย่างดูได้สัดส่วนลงตัว ไม่ว่าจะเป็นจมูกรั้นๆ หรือริมฝีปากบางเฉียบ ที่แต่งแต้มสีสันแค่เพียงบางๆ ไม่เยอะเหมือนสาวออฟฟิศทั่วไป เสียแต่ขมวดคิ้วเรียวบางดูกังวลเกินไปสักหน่อยเท่านั้น

'เด็กคนนี้จัดว่าสวยเลยทีเดียว'

อดนึกชมไม่ได้

“แม่คะ” แพรวาที่เพิ่งทรุดตัวนั่งใกล้ๆ เอ่ยเรียกมารดาที่จ้องหน้าแขกเขม็ง จนหล่อนเกรงว่า โยธกาจะตื่นเต้นจนสลบไปซะก่อน

“เอ่อ ขอโทษทีลูกรัก แม่แค่มองหนูโยเพลินไปหน่อย” เธอหันไปคุยกับลูกสาว “หนูโยสวยเหมือนที่พ่อเขาบอกไว้จริงๆ นะ”

แพรวาเหลือบมองโยธกาแวบหนึ่ง ผุดยิ้มสวยที่มุมปาก

“ค่ะแม่”

โยธกาไม่ชินเลยกับคำชมซึ่งหน้า เขินอายจนใบหน้าและใบหูขึ้นสีแดงเข้มจนเห็นได้ชัดเจน ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาด้วย

'อย่าชมกันแบบนี้สิคะ หนูไม่ชิน'

นักวิจัยสาวแอบบ่นในใจ

'ขี้อายจริงๆ...หุหุ'

แพรวานึกขำกับท่าทางตลกของอีกคน ที่ดูไปก็น่ารักดี แต่หล่อนยังไม่อยากกลั่นแกล้งอะไรตอนนี้...แปะเอาไว้บวกดอกเบี้ยภายหลัง

“ขอบคุณที่ช่วยดูแลพิมพ์เดือนกับพิมพ์ดาววันก่อนนะคะ” แม่ของแพรวาเอ่ยด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาตอบ

“ไม่รู้ว่าหนูโยชอบทานอาหารแบบไหน แม่เลยให้แม่ครัวเตรียมไว้หลายอย่างเลย” เพียงขวัญหาเรื่องชวนคุย เพื่อศึกษานิสัยใจคอของอีกคน เธอเชี่ยวชาญเรื่องการดูลักษณะคนมาก สนทนาด้วยแค่ไม่กี่นาที ก็มองออกว่า คนนั้นน่าคบหาสมาคมด้วยหรือไม่?

...การแสดงออกบางอย่างมันตบตากันไม่ได้

“เอ่อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ” โยธกานึกอะไรไม่ออก ประหม่าสุดๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ก่อนที่เธอจะโดนกดดันจนร่างแหลกเหลว เสียงระฆังช่วยชีวิตก็ดังขึ้น

“แม่โยไปเล่นกันเถอะ” พิมพ์เดือนชวนอย่างอดรนทนไม่ไหว หลังนั่งเงียบอยู่นานหลายนาที

“ไปนะคะ” อีกเสียงเล็กคะยั้นคะยอ

โยธกาทำท่าลังเล เกรงว่าจะเสียมารยาทกับเจ้าของบ้าน

“ไปเถอะค่ะ” แพรวาเอ่ยสนับสนุน หล่อนนึกสงสารและไม่อยากให้แขกรู้สึกเกร็งเกินไป จึงเปิดทางหนีให้

“ขออนุญาตนะคะ” สาวร่างสูงเอ่ยขออนุญาตจากเพียงขวัญ

“เชิญค่ะ” ผู้อาวุโสพูดยิ้มๆ

สาวร่างสูงจึงลุกยืน แล้วโดนเด็กแฝดจูงมือให้ไปเล่นด้านหนึ่งของห้องรับแขกที่ปูพรมแดงไว้ ซึ่งจัดเป็นโซนของเล่นที่มีสารพัดอย่างให้เลือกโดยเฉพาะพวกตัวต่อคล้ายเลโก้หลายชุดวางเกลื่อน มีที่ต่อเสร็จเป็นเมือง ปราสาท บ้าน และอีกมากมาย

'โอ้! เด็กตัวแค่นี้ เล่นของแบบนี้เนี่ยนะ...สุดยอดมากจริงๆ'

นักวิจัยสาวแอบทึ่งในวิธีการเลี้ยงลูกของร่างบาง ที่เลือกของเล่นสร้างสรรค์แบบสุดๆ ไม่แปลกใจที่เด็กน้อยคู่นี้จะฉลาดเกินวัย

สองพิมพ์เล่นกับโยธกาอย่างสนุกสนาน ขอให้ต่อนั่นต่อนี่ให้ ซึ่งเธอก็ตามใจ หยอกล้อบ้าง แกล้งยอมแพ้ให้บ้าง เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากเด็กๆ ดังเป็นระยะ

...แต่คำที่ได้ยินบ่อยที่สุดคือคำว่า ‘แม่โย’

“หนูโยเข้ากับหลานแม่ได้ดีจริงๆ” เพียงขวัญเอ่ยกับลูกสาวที่ดูจะไม่ยอมละสายตาไปจากภาพที่เห็นนัก เพียงแต่เธอไม่แน่ใจว่า แพรวามองใครอยู่?...ลูกๆ หรือโยธกา

“ค่ะ เล่นซะลดอายุเป็นเด็กเลย” หล่อนพูดติดตลกอารมณ์ดี ไม่นึกว่าจะได้เห็นมุมเด็กๆ ของนักวิจัยสาวที่เหมือนเด็กโข่งไม่ยอมโต ผิดกลับตอนอยู่ในจีคอสที่ดูเข้ม ซีเรียสซะเหลือเกิน

“น่ารักดีนะ” มารดาพูดขึ้นลอยๆ ด้วยหวังผลบางอย่าง “แล้วไม่มีใครจีบหนูโยบ้างหรือไง? ลูกพอรู้บ้างไหม?”

แพรวาอึ้งไปนิดนึงที่จู่ๆ เจอคำถามแบบนี้ เผลอขมวดคิ้วทำหน้าเครียดเมื่อนึกถึงหนึ่งหญิงหนึ่งชายในห้องแล็บ ๔

“เท่าที่ทราบ ในที่ทำงานมีอยู่สองสามคนมั้งคะ”

'อืม รู้ลึกขนาดนี้เชียว ชักน่าสงสัย'

คนเป็นแม่คิดอย่างคลางแคลงใจ ด้วยรู้ว่าแพรวาเป็นพวกบ้างาน น้อยครั้งที่จะยุ่งเรื่องส่วนตัวคนอื่นโดยเฉพาะคนที่เพิ่งรู้จัก การรู้ลึกในเรื่องที่ไม่ควรรู้ ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติวิสัยของลูกสาว

เมื่อเห็นใครบางคนเฉื่อยชาเกินไป วางมาดเกินไป จำเป็นต้องใส่ ‘สารเร่ง’ เพื่อ ‘กระตุ้น’ ให้เกิดผลลัพธ์รวดเร็วขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเพียงขวัญเชี่ยวชาญเรื่องนี้เป็นพิเศษ

“ไว้แม่เจอหนุ่มๆ ที่น่าสนใจ จะแนะนำให้หนูโยสักคนสองคนน่าจะดี” เพียงขวัญพูดทีเล่นทีจริง...โยนหินถามทาง แต่ทำเอาคนฟังสะดุ้ง

'อะไรนะ?'

หล่อนตกใจกับคำพูดทีเล่นทีจริงของมารดา หันขวับไปมองคนพูดนัยน์ตาคู่ดุวาววับเป็นประกาย รู้สึกหงุดหงิดร้อนใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ไม่ใช่ธุระของตนเลยสักนิด

'หืม?'

ผู้เป็นแม่เลิกคิ้วเป็นเชิงถามลูกสาว แต่ในใจกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างพึงพอใจ ที่ได้เห็นปฏิกิริยาบางอย่างของแพรวา…ความไม่พอใจ

การสนทนายุติลงเมื่อสิทธาเดินเข้ามา เขากลับบ้านเร็วกว่าปกติ กระตือรือร้นที่จะได้คุยกับนักวิจัยสาวอย่างมาก

“หนูโยธกามาหรือยัง?” ถามหาแขกทันทีที่มาถึง

“มาแล้วค่ะ เล่นกับเด็กๆ อยู่ตรงโน่นค่ะ” แพรวาตอบ

เขามองไปยังโซนของเล่นที่ ‘เด็ก’ สามคนกำลังเล่นแบบไม่สนใจใคร พิมพ์ดาวนั่งอยู่บนตักของหญิงสาว ขณะที่พิมพ์เดือนนั่งอยู่กับพื้นพรมข้างๆ โยธกาที่กำลังง่วนกับการต่อตัวต่อเป็นบ้าน สิทธาอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“เข้ากันได้ดีจริงๆ”

“เข้ากันดีมากค่ะ” ผู้เป็นภรรยาเสริมขึ้น แล้วสบตากันกับสามีแวบหนึ่ง โดยที่แพรวาไม่ทันสังเกต “ตั้งโต๊ะเลยนะคะ”

“เอาสิ ขืนรอให้เล่นเสร็จคงอีกยาว” เจ้าของบ้านพูดติดตลก

แพรวาจึงรับหน้าที่ไปเชิญแขกและจูงลูกๆ ที่กำลังเล่นติดลมให้มาทานข้าว

สาวร่างสูงรีบทำความเคารพเจ้าของบ้านทันทีที่เห็น และถูกเชิญไปนั่งโต๊ะอาหารโดยสองพิมพ์ขอนั่งขนาบข้างแม่โย ซึ่งร่างบางก็ตามใจปล่อยภาระทั้งหมดให้อีกคนรับผิดชอบเด็กน้อยเต็มที่

กับข้าวหลายจานถูกวางบนโต๊ะกลมที่หมุนได้ เพื่อให้สะดวกในการตัก อาหารส่วนใหญ่ค่อนไปทางรสจืดเหมาะสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก มีสารอาหารครบห้าหมู่ อาทิ แกงเลียง ไข่เจียวหมูสับ ผัดข้าวโพดอ่อน ปลานิลทอด น้ำพริกอ่องและผักต้มหลายอย่าง

สองพิมพ์โชว์ตักข้าวทานเองต่อหน้าแม่โย ยิ่งได้รับคำชมยิ่งภูมิใจในตัวเองมากขึ้น

ขณะที่โยธกาตักอาหารทานอย่างระมัดระวัง พยายามให้ดูเป็นผู้ดีที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้อาหารทุกอย่างจะอร่อยถูกปาก แต่เป็นมื้อที่เธอทานได้น้อยมากๆ

'สงสัยกลับไปบ้าน ต้องต้มมาม่ากินสักหน่อยน่าจะดี'

สาวร่างสูงแอบคิดปลอบใจตัวเอง

ช่วงแรกเป็นสิทธาชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ ค่อนไปทางสนุกสนานเป็นกันเอง หลังทุกคนทานข้าวไปได้เกือบหมด เพียงขวัญยิงคำถามที่ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนถูกถามที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่เกือบสำลัก

“หนูโยเป็นคนน่ารักมาก ไม่ทราบว่ามีแฟนหรือยังคะ?”

OoXoO

ข่าวดีค่ะ!! อัพนิยายเรื่องนี้ขึ้น MEB ไปแล้วนะคะ คาดว่าจะโหลดได้ใน 1-2 วันนี้
ถ้ามีข่าวคืบหน้า ไรท์จะรีบมาแจ้งทันทีค่ะ

อ่านแล้วเป็นอย่างไร อย่าลืมมาเล่าให้ไรท์ฟังด้วยนะคะ ...งด Spoil เรื่องนะคะ

ขอบคุณที่กรุณาติดตามนะคะ

นาง

OoXoO



Create Date : 20 กันยายน 2558
Last Update : 20 กันยายน 2558 14:10:48 น. 1 comments
Counter : 822 Pageviews.

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:18:19:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com