ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
 
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 สิงหาคม 2558
 
 

Inescapable? สุดห้ามใจรัก? ตอน ๑ (Yuri)



ท่ามกลางความมืดมิดในอุโมงค์กว้างแห่งหนึ่ง ที่รกทึบเต็มไปด้วยต้นไม้สูงซึ่งไม่คุ้นเอาเสียเลย โยธกาในสภาพหวาดกลัวเอาแต่วิ่ง วิ่ง และวิ่งสุดชีวิต เธอรับรู้แต่ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังไล่ล่าอยู่ด้านหลัง...อะไรที่น่าสะพรึงกลัวและชวนขวัญหนีดีฝ่อ

'ช่วยด้วย...ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย...ช่วยที'

เธอคร่ำครวญในใจแบบนั้น แม้จะเหนื่อยแทบขาดใจแต่ก็ไม่กล้าหยุดพักหายใจ ก่อนสะดุดรากไม้ที่ยื่นออกมาเกะกะ แล้วร้องออกมาอย่างเจ็บปวด คาดว่าข้อเท้าพลิก

“โอ๊ย! เจ็บจัง”

และไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น ไม่ทันจะลุกยืนเต็มความสูง ร่างของเธอก็ถูกอะไรบางอย่างกอดรัดแน่นจนขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ รัดตรึงร่างไว้หลายต่อหลายรอบ และตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเห็นเจ้าสิ่งนั้นชัดๆ ผ่านแสงจันทร์ที่ส่องมากระทบ

'โอ้แม่เจ้า!'

โยธกาอุทานในใจ อ้าปากค้าง เบิกตากว้าง

งูขาวตัวยักษ์ที่มีนัยน์ตาสีแดงดุจสีโลหิต กำลังแลบลิ้นยาวเหยียดราวกับแสดงความพึงพอใจที่จับโยธกาได้

“ปล่อยสิ ปล่อยฉัน...ปล่อย...”

พอตั้งสติได้ โยธกาโวยวายและพยายามดิ้นสุดกำลังแบบไม่คิดชีวิต แต่ก็ไม่อาจขยับเขยื้อนจากอสรพิษตรงหน้าที่กระชับลำตัวมากขึ้น จนเธอแทบหายใจไม่ออก ศีรษะของสัตว์ร้ายก้มต่ำลงมา แลบลิ้นสองแฉก ขู่ฟ่อเบาๆ ใส่ใบหน้าของหญิงสาวที่ห่างเพียงไม่กี่นิ้ว ทำให้เธอตกใจขวัญกระเจิง หลับตาปี๋ เมื่อคิดว่าตนกำลังจะตาย

'ตายแน่ฉัน ไม่รอดแล้ว'

แต่แล้วความรู้สึกที่ถูกรัดตรึงแน่นคลายตัวลง ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านลูบไล้เคล้าคลึงนัวเนียเรือนร่างของเธอแทน แล้วอะไรบางอย่างก็สัมผัสแตะต้องยังหน้าท้อง แล้วค่อยๆ เลื้อยต่ำลงไปยังเนินเนื้อเบื้องล่าง

“ว้าย! ทะลึ่ง” สะดุ้งตกใจ ลืมตาขึ้นมอง แต่ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด แม้จะออกแรงดิ้นแต่ก็ไม่อาจรอดพ้นจากบ่วงพันธนาการไปได้กลับทำให้ได้รับสัมผัสจากเจ้าสิ่งแปลกปลอมนั้นมากขึ้น แล้วสิ่งที่กำลังบุกรุกแตะต้องสัมผัสลูบไล้ ได้ปลุกอะไรบางอย่างในกายสาวให้ตื่นขึ้น

“ยะ อย่า...” โยธกาไม่แน่ใจว่า จริงๆ แล้วต้องการบอกให้เจ้าสิ่งนั้นหยุด...หรืออย่าหยุดกันแน่? แต่เจ้าสัตว์ร้ายนั้นไม่ฟังเสียงคัดค้าน ซุกสอดใต้กางเกงชิ้นน้อย คืบคลานเข้าใกล้พื้นที่ต้องห้ามมากขึ้นเรื่อยๆ

เธอเริ่มควบคุมตนเองไม่ได้มากขึ้นทุกขณะ ความรุ่มร้อนในกายทวีสูงขึ้น จนเผลอหลุดร้องครางออกมา

“อา...”

'บ้าที่สุด! นี่ฉันต้องมาเสียสาวให้งูเหรอเนี่ย'

หญิงสาวคิดอย่างท้อแท้สิ้นหวัง ไร้พละกำลังที่จะต่อสู้กับอสรพิษร้ายนั้น ได้แต่ยอมรับชะตากรรมของตนโดยดี

กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

เสียงนาฬิกาปลุกดังสนั่น โยธกาสะดุ้งสุดตัว ตื่นจากนิทราทันที หายใจแรงเหนื่อยหอบราวกับเพิ่งไปออกกำลังกายมา เอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกา แล้วนั่งทบทวนฝันที่เสมือนจริงนั้น

'ฉันกำลังจะถูกงูโรคจิตข่มขืน...บ้าสุดๆ'

“น่าขยะแขยงชะมัด” พึมพำกับตัวเอง ยกหลังมือปาดเหงื่อที่ซึมท่วมหน้า หลังฝันคล้ายๆ กันแบบนี้มาสามคืนติดกันทำเอาหวาดผวาไม่น้อย หญิงสาวไม่ใช่พวกชื่นชอบสัตว์เลื้อยคลาน โดยเฉพาะงูเงี้ยวเขี้ยวข้อนี่ ทางใครทางมันดีที่สุด

“อ๊าย! สายแล้ว” ร้องลั่นหลังเหลือบมองเวลา แล้วกระวีกระวาดไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อทำงานที่คั่งค้างให้เสร็จโดยเร็ว

“เฮ้อ! อะไรกันนักหนา?” โยธกาบ่นกับตัวเองเป็นครั้งที่ร้อยอย่างหงุดหงิด เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ในห้องทำงานตัวเอง สายตาจับจ้องแฟ้มกองโตที่วางตรงหน้า แฟ้มข้อมูลที่ต้องนำเสนอฝ่ายบริหาร เพื่อเสนอของบวิจัยในวันพรุ่งนี้

โยธกาหรือโย สาววัย ๒๕ ปี สีผิวค่อนไปทางขาว รูปร่างสูงโปร่งเฉียด ๑๗๐ เซนติเมตร ริมฝีปากบาง ใบหน้าสวยคม ผมบ๊อบสั้นดำสนิท เป็นนักวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความสวยงาม หรือพวกครีมบำรุงผิว ให้กับบริษัท Gorgeous Cosmetic ที่มีชื่อย่อว่า G Cos. หรือ ‘จีคอส’ บริษัทผลิตเครื่องสำอางชั้นนำแห่งหนึ่งของไทยที่ก่อตั้งขึ้นโดยคนไทย ถึงแม้ว่าจะดำเนินกิจการเพียงเจ็ดปีกว่าเท่านั้น มียอดขายสูงเฉียดร้อยล้านบาทต่อปี ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ใน Top ๑๐ ของธุรกิจนี้เลยทีเดียว

เธอเป็นพวกนักเรียนหัวกะทิ จึงได้รับทุนเรียนฟรีตั้งแต่ตรียันโท และมีหลายบริษัทใหญ่เสนองานให้ตั้งแต่เรียนไม่ทันจบ แต่สาเหตุที่เลือกทำงานที่นี่ เพียงเพราะย่ารหัส ‘ปาลิน’ ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าห้องแล็บ ๔ ชักชวน เธอจึงหลวมตัวรับปากทันทีตั้งแต่ก่อนเรียนจบ

สาวร่างสูงทำงานที่จีคอสมาเกือบสองปี สนุกและชอบที่นี่มาก...ยกเว้นตอนนี้ ตอนที่ปาลินหนีไปพักร้อนต่างประเทศหนึ่งอาทิตย์ แล้วปล่อยให้ต้องไปนำเสนอโปรเจคงานวิจัยใหม่เพียงลำพัง ทั้งที่ในแล็บมีคนที่อาวุโสมากกว่าเธออยู่อีกคน

'รู้ว่าไม่ชอบ ยังโยนงานมาให้ทำอีก...นี่มันแกล้งกันชัดๆ'

หญิงสาวทำหน้าหงิกงอ และบ่นหัวหน้าในใจ

งานวิจัยที่แล็บ ๔ จะนำเสนอ เป็นครีมบำรุงผิวที่อยู่ในรูป Vitamin Mask ที่จะบำรุงผิวก่อนนอนให้กระจ่างใส ต่อต้านริ้วรอยและลดเลือนรอยสิว ฝ้า รอยแดง กระ และจุดด่างดำทั้งหลายบนใบหน้า โดยนำ Growth Factor มาเป็นส่วนผสมเพื่อยกกระชับใบหน้าให้เต่งตึง ทำให้สินค้าชนิดนี้เป็นที่ต้องการของตลาดมาก เป็นการต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ขายดีอันดับต้นๆ ของจีคอส ซึ่งปาลินเป็นผู้คิดค้น และทำให้ปาลินได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าห้องแล็บ ๔ สองปีก่อน

ห้องแล็บ ๔ เป็นห้องปฏิบัติการที่มีขนาดเล็กที่สุดของบริษัทจีคอส มีนักวิจัยหลักเพียงสี่คน กับเลขานุการอีกหนึ่งคนเท่านั้น

“คุณโยคะ นี่แฟ้มที่ให้พี่หาค่ะ” พัทธมนเลขาฯ ของแล็บ ๔ บอก แล้ววางแฟ้มบางๆ นั้นที่มุมโต๊ะทำงานของอีกฝ่าย โต๊ะใหญ่ที่เคยสะอาดเอี่ยม ซึ่งมีของเล่นกับหุ่นยนต์ตั้งอยู่หลายตัว ตอนนี้รกเกลื่อนไปด้วยแฟ้มและกระดาษจำนวนมากมาย

“ขอบคุณค่ะพี่มน” โยธกาเงยหน้าขึ้นพูดเบาๆ อย่างเกรงใจ

“รับกาแฟสักแก้วไหมคะ?” ผู้หญิงอายุมากกว่าพูดอย่างใส่ใจ หลังเห็นสาวร่างสูงอยู่ในสภาพอ่อนเพลียเคร่งเครียด กับการเตรียมเสนองานมาเกือบตลอดทั้งอาทิตย์

“ขอบคุณค่ะ” ตอบรับความหวังดีของอีกฝ่าย

“สักครู่นะคะ” แล้วเลขาฯ สาวก็ออกไปโดยไม่ลืมปิดประตูห้องให้

'ตั้งใจหน่อยโยธกา'

เตือนตัวเองในใจ แล้วก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้า สรุปสาระสำคัญเพื่อเรียบเรียงเป็นคำพูด และทำสไลด์ประกอบด้วยโปรแกรม PowerPoint

อันที่จริงแล้ว งานนำเสนอชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องยากเกินสติปัญญาและความสามารถของหญิงสาวแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมเธอถึงต้องมารับผิดชอบงานนี้ต่างหาก?


อาทิตย์ที่แล้ว

“ทำไมพี่ลินถึงไม่ให้พี่รุจนาทำละคะ? โยไม่อยากข้ามหน้าข้ามตาพี่เขา” โยธกาเอ่ยถามปาลิน ตอนที่อีกคนเรียกเธอไปพบเพื่อมอบภาระอันใหญ่ยิ่งนี้ให้

“ถ้าอยากได้เงินทำวิจัย พี่ว่าครั้งนี้เราเหมาะสุดนะโย” อดีตย่ารหัสตอบพร้อมยิ้มเกลื่อนหน้า ตบไหล่ของรุ่นน้องเบาๆ เหมือนให้กำลังใจ “เอาน่ามั่นใจหน่อย พี่ว่าเราทำได้อยู่แล้ว”

“แต่โยไม่รู้จักบอร์ดบริหารฯ เลยสักคน” พูดเสียงอ่อยๆ

“ก็วันๆ เรามัวแต่มุดหัวอยู่แต่ในแล็บนี่ จะไปรู้จักใคร” หัวหน้าเอ่ยต่อว่ากลายๆ ด้วยรู้จักอุปนิสัยของอีกคนเป็นอย่างดี

“โธ่! พี่ลินก็รู้ว่าโยไม่ชอบเจอคนเยอะๆ”

ปาลินส่ายหน้าอย่างระอา ที่โยธกาชอบหมกตัวอยู่ในห้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จนผิวขาวเริ่มซีดเพราะวันๆ แทบไม่เจอแสงแดด...สงสัยจะกลัวละลาย ไม่ก็เกรงผิวจะเสียหยาบกร้าน

“ไม่รู้ล่ะ ยังไงพี่ขอสั่งให้โยรับผิดชอบงานนี้ ถ้าอยากได้โบนัสเพิ่ม ก็เอางบนี้มาให้ได้” ปาลินข่มขู่ตบท้ายโดยใช้ Skill ขั้นสูงสุดบังคับให้อีกฝ่ายยอมจำนน...โบนัส

สาวร่างสูงยืนอ้าปากค้าง หลังโดนไม้ตายของรุ่นพี่เข้าไป ได้แต่ก้มหน้าทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างไม่เต็มใจนัก


“เยอะจัง! เมื่อไหร่จะเสร็จล่ะเนี่ย” นั่งบ่นกระฟัดกระเฟียด แต่ก็ฝืนใจนั่งทำหน้าที่ของตน พลางจิบกาแฟร้อนที่เลขาฯ สาวเอามาให้ นั่งอ่านเพลินจนลืมมองเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีก็ปาเข้าไปเกือบห้าโมงครึ่ง เธอพลิกอ่านเอกสารทั้งหมดผ่านสายตา เหลือแค่คืนนี้ทำแผ่นสไลด์อีกสักสิบแผ่นทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ

“คุณโยพี่กลับก่อนนะ ฝากปิดห้องด้วยนะคะ” พัทธมนชะโงกหน้ามาบอก

“ค่ะพี่มน พรุ่งนี้เจอกัน” โยธการับคำ

“ขอบคุณค่ะบาย” พูดจบก็เดินออกไป ได้ยินแต่เสียงฝีเท้ากระทบพื้น และตามด้วยเสียงประตูปิด

“เมื่อยชะมัด” ลุกบิดตัวไปมา เพื่อขับไล่ความเมื่อยขบบนต้นคอและหัวไหล่ ก่อนเก็บข้าวของ และคว้าแฟ้มเอกสารที่จะใช้พิมพ์คืนนี้

สาวร่างสูงหิ้วของที่ต้องใช้ เดินผ่านประตูหน้าของห้องแล็บ ๔ ที่ตอนนี้เงียบเหงา เพราะคนอื่นกลับไปหมดแล้ว กดล็อคประตู แล้วลงลิฟต์ไปยังชั้นหนึ่ง ออกประตูหน้าอาคารสำนักงานที่มีกล้องวงจรปิด และรปภ.ยืนประจำอยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

อาคารสำนักงานใหญ่ของจีคอส สูงสิบชั้นตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ตรงหัวมุมถนนใจกลางเมืองหลวง ภายนอกอาคารทาด้วยสีขาวขลิบทอง ซึ่งได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง ‘มนรดา’ จาก Finest Corp. ซึ่งสร้างเสร็จก่อนโยธกาจะเข้ามาทำงานไม่นาน

แสงไฟนีออนหลายสิบดวงบนตึกเปิดอยู่ บ่งบอกว่ามีพนักงานอีกหลายชีวิตทุ่มเททำงานอย่างขะมักเขม้น ตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต เพื่อสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกสู่สังคม โดยเสริมความงามอย่างแนบเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีใดๆ ที่เป็นอันตรายในผลิตภัณฑ์ ตามสโลแกนของบริษัทจีคอสที่ว่า

‘เราผลิตสินค้า เพื่อให้ผู้หญิงสวย และปลอดภัย’

แต่ตอนนี้สินค้าของจีคอส มีผู้ชายรักสวยรักงามเป็นลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ...คาดว่าอีกไม่นานบริษัทคงต้องเปลี่ยนสโลแกนใหม่

โยธกาเดินเลี้ยวขวาไปตามฟุตบาท บ้านของเธออยู่ห่างจากตึกนี้สองซอยแต่ต้องเดินลึกเข้าไปเกือบหนึ่งร้อยเมตร ไม่ไกลสำหรับการเดิน ถือว่าเป็นการออกกำลังกาย และประหยัดค่าเดินทางไปพร้อมๆ กัน

'หิวชะมัด ซื้ออะไรกลับไปกินดีกว่า'

สาวร่างสูงคิดในใจ เธอเป็นพวกแม่บ้านอาหารถุง มากกว่าจะเข้าครัวทำกับข้าวเอง การฝากท้องไว้กับร้านสะดวกซื้อ หรือร้านอาหารตามสั่งหน้าปากซอยจึงเป็นเรื่องปกติ

...เพียงแต่วันนี้ ชีวิตของโยธกาจะเปลี่ยนไปตลอดกาล


“นี่เดือน เค้าหิวแล้วอ่ะ” เสียงเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น พลางยกมือเล็กๆ ลูบท้องของตนเองที่ร้องโครกคราก

“เค้าก็หิวเหมือนกัน” อีกเสียงหนึ่งที่เล็กแหลมตอบ

ขณะที่ทั้งคู่ยืนอยู่ใกล้กับป้ายโฆษณาริมถนน โดยสวมเสื้อผ้าชุดกระโปรงบานที่คล้ายกัน เพียงแต่คนละสี หน้าตาน่ารักน่าชังดูมอมแมมเปรอะเปื้อนเหมือนเพิ่งไปคลุกฝุ่นมา ผมยาวสีดำสนิทผูกโบว์สีเดียวกับชุดที่สวมใส่ จากการแต่งกายพอบอกได้ว่า เด็กสองคนต้องมาจากครอบครัวมีฐานะแน่

“ทำไงดี?” เสียงคนแรกของเด็กหญิงที่ชื่อ ‘พิมพ์ดาว’ ถาม

“ตามพี่คนนั้นไปไหม? พี่สาวคนนี้น่าจะใจดี เราค่อยขอข้าวพี่เขากิน” พิมพ์เดือนเสนอแบบไม่คิดอะไรมาก

“อะ เอางั้นเหรอ?” เด็กหญิงคนแรกถามอย่างลังเลและกลัวๆ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน

“ไปเถอะเร็ว” พูดจบ ก็ดึงแขนเล็กๆ ของพิมพ์ดาว ตอนนี้เธอหิวจนตาลายไปหมดแล้ว

เด็กทั้งสองตามติดโยธกาไป กลายเป็น Stalker ที่แอบตามไม่ห่างมากนัก...เหมือนเล่นซ่อนแอบกับพี่เลี้ยงอย่างไรอย่างนั้น

โยธกาในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้ากางเกงสแลคสีดำเดินทอดน่องอยู่ รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเดินตาม จึงตัดสินใจหยุดที่หน้าแผงขายผลไม้ข้างทาง ทำทีเป็นดูมะม่วงดอง แต่เอี้ยวตัวเหลือบมองไปทางด้านหลัง ก็เห็นสองเงาเล็กๆ หลบหลังถังใบใหญ่ที่อยู่หน้าร้านขายพลาสติกที่เพิ่งเดินผ่านเมื่อสักครู่

'เด็ก?...แล้วมาเดินตามฉันทำไม?'

ร่างสูงคิดแบบสงสัย

เกิดมาหญิงสาวเคยเจอแต่ผู้ชายตามตื้อตามจีบ แต่ไม่เคยเจอเด็กตัวเล็กๆ ไล่ตามมาก่อน เสน่ห์ของเธอใช้ไม่ค่อยได้ผลกับเด็กน้อยนัก

...โยธกามี Skill ในการทำให้พวกเด็กๆ ร้องไห้หาแม่มากกว่า

นักวิจัยสาวกลอกตาคิดแผนที่วูบเข้ามาในหัว ก่อนก้าวเท้าอย่างเร็วต่อไป ซึ่งมั่นใจว่า อีกฝ่ายขาสั้นกว่าคงตามไม่ทันแน่ แล้วแวบหายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไม่ไกลนัก

“ไปยัง?” พิมพ์เดือนกระซิบถาม

“ไปแล้ว” พิมพ์ดาวตอบ

“ไหน?” คนน้องถามด้วยน้ำเสียงตกใจ ที่จู่ๆ คนที่พวกเธอเดินตามหายไปเฉยๆ

“ตรงนั้น” อีกคนชี้นิ้วไปที่ร้านสะดวกซื้อ ทันเห็นโยธกาหายเข้าไปแวบๆ

ทั้งสองรีบวิ่งออกจากที่ซ่อนจนกระโปรงปลิวไสว เห็นกางเกงในสีขาววับๆ แวมๆ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดของเด็กหญิงทั้งคู่คือ...หาพี่สาวคนนั้นให้เจอ พอเด็กๆ ก้าวเท้าไปตรงหน้าร้าน ประตูกระจกเลื่อนเปิด พร้อมเสียงกระดิ่งไฟฟ้า

“สวัสดีครับ” พนักงานขายหนุ่มเอ่ยทักลูกค้าตัวน้อยพร้อมรอยยิ้ม เขาเคยเห็นเด็กสองคนนี้มาก่อนหลายหน “อ้าว แล้วคุณแม่ล่ะ?”

“คุณแม่ไม่อยู่...” พิมพ์ดาวพึมพำตอบเสียงหงอยๆ

“อยู่ไหนนะ?” เด็กหญิงอีกคนกวาดตามองหาโยธกา

แล้วทั้งคู่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว ที่จู่ๆ คนที่หาก็โผล่พรวดมาตรงหน้า

“พวกเธอเดินตามฉันทำไม? ต้องการอะไร?” ร่างสูงถามด้วยเสียงดุๆ พร้อมยืนกอดอก จ้องมองเด็กหญิงทั้งคู่ที่สูงไม่ถึงเอวของเธอ

“นะ น่ากลัวจัง” พิมพ์ดาวพึมพำ เดินถอยหลังสองสามก้าวแสดงอาการหวาดกลัว ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา

“อย่าดุสิ เดี๋ยวดาวร้องไห้” พิมพ์เดือนหันไปเอ็ดโยธกา ก่อนโอบกอดปลอบพี่สาวของตนเอง “โอ๋ๆ อย่าร้องนะดาว พี่สาวเขาไม่ดุหรอก”

สาวร่างสูงเห็นเด็กหญิงสองคนที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกันมาก ราวกับหลุดออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน

'ฝาแฝด?'

“ฉันชื่อโย พวกเธอชื่ออะไรคะ?” ถามอย่างอ่อนโยนกว่าเดิม หลังทรุดตัวลงนั่งยองๆ เพื่อมองทั้งคู่ในระดับสายตา

เด็กหญิงที่ดุโยธกาเงยหน้าขึ้นมองคนถาม และตอบอย่างฉะฉาน พร้อมชี้นิ้วแนะนำตัว

“เดือนกับดาวค่ะ”

'ชื่อน่ารักดี...เข้าใจตั้ง'

หญิงสาวคิดในใจ ก่อนถามคำถามต่อไป

“แล้วพวกเธอเดินตามฉันทำไม?”

“พวกเราหิวค่ะ” พิมพ์ดาวที่ทำท่าจะร้องไห้เมื่อกี้ตอบ คลายความกลัวผู้ใหญ่ตรงหน้าไปบ้างแล้ว

“แล้วคุณพ่อคุณแม่ไปไหนคะ?” โยธกาถามอย่างสงสัย เด็กตัวขนาดนี้ไม่น่าที่จะปล่อยให้เดินตามลำพัง

ทั้งสองทำหน้าเศร้า ส่ายหน้าไปมา

' นี่มันเวรกรรมอะไรของฉัน...ทำไงดี?'

ได้แต่นึกบ่นในใจ ยังคิดหาทางออกไม่เจอ

“แล้วพวกเธอ อยากทานอะไรกันล่ะ?” หญิงสาวเอ่ยถามถึงความต้องการของทั้งคู่ พลางมองเด็กแฝดสลับไปมา

“ข้าวไข่เจียว” / “ข้าวไข่ตุ๋น” สองเสียงตอบขึ้นพร้อมกัน

“ไม่น่าถามเลยฉัน” พึมพำออกมา ยกมือขึ้นตีหน้าผากตัวเอง ดูท่าตอนนี้เธอคงต้องเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นให้เด็กสองคนไปก่อน จนกว่าจะหาพ่อแม่ของทั้งคู่เจอ ไม่ใจร้ายไส้ระกำพอที่จะปล่อยเด็กตาดำๆ หิวโหยโดยไม่ทำอะไรเลย

'ช่วยไม่ได้...เฮ้อ!'

“ตามมาสิ ฉันจะทำอะไรให้ทาน บ้านฉันอยู่แถวนี้” บอกอย่างใจดี

แม้ภายนอกจะดูเคร่งขรึม แต่โยธกาก็เป็นคนใจดีใจอ่อน ชอบให้ข้าวหมาแมวในซอยแถวบ้านเป็นประจำ

“จริงนะ?” พิมพ์ดาวถามอย่างรวดเร็ว

“จริงสิค่ะ” นักวิจัยสาวตอบอย่างหนักแน่น แล้วเอ่ยชวน “ไปหาอะไรทานกันดีกว่า จะได้ไม่เป็นโรคกระเพาะ”

'ใจดีจริงๆ ด้วย'

เด็กแฝดพี่คิดในใจ

'ใจดีเหมือนแม่แพรเลย'

พิมพ์เดือนคิดเปรียบเทียบคนตรงหน้ากับมารดาของตน

ดวงตาคู่สวยของเด็กหญิงทั้งสองเป็นประกายเจิดจ้า รีบพยักหน้ารับคำอย่างเร็ว แล้วมองหน้ากันอย่างมีความหวัง

หญิงสาวลุกยืนขึ้นเต็มความสูง และบอกกับพนักงานหนุ่มหนึ่งในสามคนของร้านสะดวกซื้อ พร้อมยื่นนามบัตรของเธอให้เขา

“ถ้ามีใครมาถามหาเด็กผู้หญิงสองคน รบกวนช่วยโทรหาพี่ด้วยนะคะ...นี่เบอร์พี่”

“ได้ครับพี่” พนักงานคนนั้นรับคำ เขาคุ้นหน้าคุ้นตาของโยธกาเป็นอย่างดี ลูกค้าที่แวะมาใช้บริการเกือบทุกวัน และเดาว่าเธอคงพักอยู่ใกล้ๆ แถวนี้

“ขอบคุณนะ” ร่างสูงบอกกับเขา ก่อนก้มหน้าลงมองเด็กแฝด “จะทานอะไรรองท้องก่อนไหม?”

“ไอติม” พิมพ์เดือนบอก และชี้นิ้วไปยังตู้แช่ที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้า

“เอาด้วยไหมคะ?” โยธกาหันไปถามอีกคนที่ยืนนิ่งเฉย แต่ดูออกว่าอยากทานเหมือนกัน

พิมพ์ดาวที่ขี้อายกว่าพยักหน้าเล็กน้อยอย่างกระมิดกระเมี้ยน

“ค่ะ” เสียงเล็กๆ ตอบรับเบาๆ

โยธกาให้เด็กทั้งคู่เลือกรสชาติที่ต้องการ พร้อมซื้อไข่ไก่หนึ่งแพ็ค เพื่อทำเป็นอาหารเย็น หลังชำระค่าเสียหาย จึงออกจากร้านนั้นไป โดยมีเด็กหญิงสองคนดูดไอติมคนละแท่งเดินตามต้อยๆ อย่างอารมณ์ดี

ด้วยความที่ไม่อยากให้เด็กๆ เมื่อยขา โยธกาจึงโบกแท๊กซี่แล้วพาแขกตัวน้อยกลับบ้านอย่างจำใจ

'วันนี้ฉันมีโชค ได้สัตว์สองเท้ากับบ้านตั้งสองตัว...สุดยอดมาก!'

OoXoO

เริ่มต้นตอนแรกก็ขอยั่วเย้ากันนิดหน่อย ถือว่าทักทายกันนะคะ คิดถึงทุกคนนะคะ
และหวังว่าตอนนี้จะถูกใจนักอ่านบ้างไม่มากก็น้อย อิอิ

สำหรับหนังสือที่มีคนสอบถามมาเป็นระยะ สรุปคือ
เหลือแค่เรื่อง Again? เรื่องของคุณกานต์กับนัทชานะคะ แค่ไม่กี่เล่มเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย
...สนใจก็สอบถามมาได้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ และขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันได้นะคะ ในเฟซบุค อีเมล์ หรือที่นี่ก็ได้ค่ะ ตามสะดวก

nuinang321@gmail.com

https://www.facebook.com/datchanee.nang

คัมออน และ yuriread ที่ลงนิยายสำรองค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

นาง

OoXoO




 

Create Date : 17 สิงหาคม 2558
0 comments
Last Update : 24 สิงหาคม 2558 19:33:09 น.
Counter : 604 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com