lozocat
ใส่ข้อความที่ต้องการให้เลื่อนๆๆที่นี่
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
31 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
โรม...ปีนี้ ไม่มีเหงา

โรม...ปีนี้ ไม่มีเหงา
บทเริ่มต้นของการเดินทาง

เดือนมกราคม หลังคริสมาสต์ หมาดๆ
เรา : ที่รัก ซัมเมอร์นี้เธออยากไปเที่ยวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า
ที่รัก : เธอไม่อยากกลับเมืองไทยเหรอ
เรา : ฉันไม่อยากยืมเงินค่าตั๋วเครื่องบินจากเธอ เพื่อกลับบ้านเพียงคนเดียว เราเอาเงินค่าตั๋วนั้นไปเที่ยวกันสองคนดีกว่า มันยุติธรรมกับเธอดีนะ ฉันว่า..
ที่รักยิ้ม: ก็ได้..แล้วเธออยากไปไหนล่ะ
เรา : ไม่รู้สิ..ไปมาหมดแล้วอ่ะ ฉันให้เธอเลือกดีกว่า
ที่รักยิ้มกว้างกว่าเดิม : ถ้าอย่างนั้น ...เราไป...โรมกัน!


นี่คือบทสนทนาก่อนเดินทางจากประเทศสวีเดนไปยังประเทศอิตาลี ก่อนเจ็ดเดือน เราเริ่มจองตั๋วเครื่องบินก่อนเป็นอันดับแรก เลือกไปเลือกมา สรุปที่สวิสแอร์ ไม่ได้บินตรง ต้องเปลี่ยนเครื่องที่ซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ทั้งขาไปและกลับ แต่ไม่มีปัญหา เพราะราคาที่ได้ถูกกว่าหลายสายการบินที่เช็ค อีกอย่าง การได้ไปเยือนซูริคอีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน...บ้านหลังที่สอง ที่เราเคยได้ใช้ชีวิตอยู่เกือบสองปี

เราจองเที่ยวบินเช้า แวะพักที่ซูริคประมาณห้าชั่วโมง ซึ่งทำให้เรามีเวลานัดเพื่อนๆ ที่อาศัยอยู่ไม่ไกลจากซูริค มาพบปะสังสรรค์กันในชั่วเวลาอันไม่กี่ชั่วโมงนี้ จากนั้นจึงบินต่อไปยังกรุงโรม ประเทศอิตาลี

เมื่อได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว ต่อไปก็ที่พัก การหาที่พักเป็นอะไรที่...ขี้เกียจ...อย่างมาก ก็เลยให้คุณชายเป็นคนเลือก...เพราะเป็นคนดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ก็เลยเลือกได้โรงแรมระดับเกือบสี่ดาว ตกแต่งอย่างมีศิลป์ ห้องสวย มีระเบียงดาดฟ้าไว้ดูดาว รวมอาหารเช้า ลูกค้าคอมเม้นท์ไว้ดีเพอร์เฟค ใกล้เมโทร ที่สำคัญราคาโปรโมชั่นห้าวันสี่คืน เหลือเพียง สามร้อยกว่ายูโร...เลิศ!

เมื่อทำการจองที่พัก พร้อมซื้อตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย ทีนี้ก็ได้แต่นั่งนับวันรออีกไม่กี่(หลาย)เดือน ก็จะได้ไปเยือนกรุงโรมอีกครั้ง...


วันเดินทาง

สองเราตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อที่จะต้องไปรอรถเมล์ไปสนามบิน คุณชายจองตั๋วเรียบร้อยทั้งขาไปและกลับ ค่ารถเบ็ดเสร็จสองคน 488 Sek เมื่อไปถึงสนามบิน ก็ปรี่ไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อเช็คอิน ซึ่งพนักงานก็เตรียมพร้อมให้บริการอยู่แล้ว หลังจากนั้นจึงเดินเข้าไปที่ Gate (ประตู) เพื่อรอขึ้นเครื่อง แต่เรามาเช้าเกิน อีกตั้งชั่วโมงกว่า กว่าประตูจะเปิด จึงเดินเล่นดูของแพงๆ ให้มันอยากได้เล่นแต่ไม่มีเงินซื้อ ฆ่าเวลาให้มันหมดไป และแล้ว สวิสแอร์ก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ตรงเวลาแทบจะทุกไฟล์ต เราสองคนได้ที่นั่งหลังสุดติดห้องน้ำและห้องเตรียมเสบียง เราทั้งสองมองหน้ากันแล้วคิดว่า...ดี...ใกล้ห้องน้ำและของกิน ที่สำคัญพนักงานเริ่มเสริฟอาหารก่อนเป็นรายแรก! เครื่องเริ่มออกเดินทาง เก้าโมงสี่สิบห้า สิ่งที่เรากำลังคิดตอนนี้บนเครื่องก็คือ...วันนี้จะแจกอาหารอะไรวะ...เพราะหิวสุดๆ ตื่นแต่เช้า ข้าวก็กินมา แต่...มันก็ออกไปหมดแล้วเหมือนกัน เพราะว่าเช้าเกินไป



พนักงานเริ่มแจกอาหารและน้ำดื่ม อาหารที่ได้คือ พิซซ่ากล่องกับน้ำดื่มอะไรก็ได้ตามแต่จะออเดอร์ เราเลือกน้ำแอปเปิล กับชาร้อน ส่วนคุณชาย น้ำแอปเปิลกับน้ำเปล่า พิซซ่าในกล่อง คือแป้งพิซซ่าที่มีชีสยืดๆ อยู่ข้างใน อร่อยสุดๆ เราบินกับสวิสแอร์หลายครั้ง ทุกครั้งได้แต่แซนด์วิชแข็งๆ แต่ปีนี้ไอเดียสุดยอด ขอปรบมือให้ดังๆ

เมื่ออิ่มก็ต้องพักผ่อน เนื่องจากตื่นเช้าเกินไป จึงพยายามนอน แต่...เสียงน้องหมาตัวน้อยๆ ที่เจ้าของพาขึ้นเครื่องมาด้วย ครางหงุงหงิง น่าสงสาร โถ...คงกลัว ตอนแรกนึกว่าหมาตัวเล็ก แต่ที่ไหนได้ ลาบาดอร์รีทรีฟเวอร์ ประมาณสามเดือนถูกยัดเข้าถุงเดินทาง แล้วต้องเอาไว้ใต้เก้าอี้เท่านั้น...ไม่สามารถเอาออกมาวางบนเก้าอี้ว่างข้างๆได้ ตลอดการเดินทางสองชั่วโมง...น่าสงสารจริงๆ สองชั่วโมงบนเครื่องเลยได้แต่นั่งถอนหายใจ เอาใจช่วยหมาน้อยให้หายร้องไห้

และแล้วก็ได้เยือนนครซูริคอีกครั้ง เราพาคุณชายเดินทางออกจากสนามบินเพื่อเข้าเมือง โดยรถไฟเสียค่าตั๋วคนละสิบสองฟรังค์ เป็นตั๋วไปกลับ สามารถเดินทางได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง และสามารถใช้การคมนาคมภายในโซนที่กำหนดได้ไม่จำกัดจำนวน เมื่อซื้อตั๋วได้ ก็รีบไปดูว่ารถขบวนไหนไปซูริค ป้ายบอกว่าชานชลาที่สี่ รถกำลังจะออก เราทั้งสองใส่เกียร์สปีด วิ่งสุดชีวิต พอลงไป รถไฟยังไม่มา แต่เห็นคนลากกระเป๋าวิ่งขึ้นอีกขบวนในชานชลาที่สาม เลยวิ่งตามเค้าไปบ้าง...เอ่อ..ไม่คิดก่อนเล้ยว่าเค้าไปไหนกัน จะไปที่เดียวกันหรือเปล่า แต่ก็ลากกระเป๋าตามเค้าไป พอไปถึงที่ประตูรถของชั้นสอง(2nd class) ก็อ่านป้ายที่วิ่งอยู่ข้างรถ เขียนว่า Zurich HB เราก็รีบปรี่เข้าไปถามพนักงานตรวจตั๋ว ว่าไปซูริคหรือเปล่า เธอก็พยักหน้าแล้วตอบว่า ใช่ ซูริค แค่นั้นก็กระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้น เพราะกลัวรถจะออก ไม่รู้จะกลัวทำไม เพราะพนักงานยังยืนอยู่ข้างล่างชานชลาอยู่เลย เฮ้อ...ตื่นเต้นแต่เช้าอีกแระ พอได้ทีนั่ง คุณชายก็สะกิด บอกว่า นี่มันชานชลาที่สามนะ ไม่ใช่ที่สี่ เราก็บอกว่า ก็ชีบอกเองว่าไปซูริค มันก็ต้องไปซูริคสิ..หรือเปล่าวะ? เริ่มสับสนในตัวเอง เอาแล้วไง....คราวนี้จะไปถามใครก็ไม่ได้แล้ว รถก็ออกแล้วด้วย...แต่...รถไฟสวิสซะอย่าง ไฮเทคแบบนี้ เขามีตัววิ่งให้อ่านย่ะ โน่นไง เห็นไม๊นั่น เขียนตัวใหญ่ๆ ว่า Zurich HB คราวนี้ค่อยหายใจได้โล่งคอหน่อย



เรานัดเพื่อนๆ ที่สตาร์บัค ข้างๆ ที่ทำงานเก่า ทุกคนมากันพร้อมหน้า โดยเฉพาะคนพิเศษที่ทำให้เราต้องการมาพบมากที่สุดในวันนี้นั่นก็คือ หลานสาวผู้น่ารัก เธออายุขวบกว่าแล้วค่า เป็นเด็กน่ารัก และก็ฮาดี เรานั่งกันอยู่ที่ร้านจนกระทั่งเกือบหมดเวลา ก็พากันเดินมาส่งเรากับคุณชายที่สถานีรถไฟ เพื่อเดินทางไปสนามบิน และบินต่อไปยังกรุงโรม ประเทศอิตาลี ในเวลาห้าโมงสามสิบห้า


เมื่อมาถึงสนามบิน เราไม่ต้องเช็คอินอีกครั้ง เพียงแค่เดินผ่านพนักงานตรวจ (ในอดีตก็คือตรวจตราคนเข้าออกเมือง แต่ตอนนี้สวิสเซอร์แลนด์เข้าเป็นเชงเก้นแล้ว จึงได้ยกเลิกการตรวจตรา เหลือไว้เพียงพนักงานคอยตรวจว่า เรามีตั๋วเดินทางหรือไม่ เพื่อที่จะเดินทางไปขึ้นเครื่อง) หลังจากที่เข้ามาแล้ว คราวนี้ก็เช็คว่าต้องเดินทางด้วยเที่ยวบินอะไร Gate(ประตู)ที่เท่าไหร่ ก็เดินไปตามรายละเอียดที่ขึ้นตามนั้น แต่พอเดินไปได้สักพัก ไม่รู้อะไรดลใจคุณชาย เกิดอยากเช็คอีกครั้งขึ้นมา เลยวิ่งไปดูที่บอร์ด ก็ปรากฏว่าทำให้แทบอยากกรี๊ดดังๆ เพราะเล่นเปลี่ยน Gate กะทันหัน แล้วก็อยู่คนละซีกโลก แม่เจ้า วิ่งร้อยเมตรอีกแระ เมื่อไปถึงจุดสแกนสิ่งของและร่างกายก่อนที่จะเดินเข้าเกท ก็ต้องไปหยุดให้คุณป้าเจ้าหน้าที่แกลวนลามนิดหน่อย ก่อนจะปล่อยผ่านออกมาอย่างไม่มีข้อสงสัย เราทั้งสอง เดินจูงมือกันมารอที่ประตู เพื่อขึ้นเครื่อง ซึ่งครั้งนี้เราต้องนั่งรถออกไปเดินขึ้นบันไดเครื่องเอง ไม่มีงวงช้าง เหมือนไฟล์ตก่อนๆ อาจเป็นว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงจราจรติดขัด ทุกประตูจึงเต็มไปด้วยเครื่องบินที่รอรับผู้โดยสาร และการเปลี่ยนเกทกะทันหันก็ทำเอาป่วนไปเกือบทั้งสนามบิน



เราใช้เวลาเดินทางจากซูริคไปโรมเพียงแค่ หนึ่งชั่วโมง ห้านาที แต่สวิสแอร์ก็ยังแจกแซนด์วิชให้แก้หิว และก็ไม่ลืมแจกช๊อคโกแลต อันเป็นทั้งของหวานและของที่ระลึกให้ลูกค้าได้ประทับใจ เที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินค่อนข้างอลเวง เนื่องจากมีกรุ๊ปทัวร์อิตาลี ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวสวิส และกำลังจะเดินทางกลับประเทศตัวเองด้วยสายการบินเดียวกันนี้ ต่างคนต่างคุย เสียงดังลั่น แข่งกันคุย บางคนไม่สะใจ ลุกขึ้นมายืนคุยกัน เดินไปเดินมา ทำให้นึกถึงทัวร์จีน เฮ้อ...ปวดหัว แถมไม่พอ ยัยคุณป้าที่นั่งข้างหลังยังลุกมาคุยกับคุณยายที่นั่งข้างๆ โดยเอาก้นใหญ่ๆ ของแก นั่งบนที่วางแขน...ของเรา หน้าตาเฉย! ก้นย้วยๆ ของแกเลยชนแขนน้อยๆ ของเราเข้าอย่างจัง! เรื่องอะไรจะให้หยามศักดิ์ศรี อุตสาห์ข้ามถิ่นมาหาเรื่องกันถึงที่ หาได้กลัวไม่ จัดการเอาแขนเล็กๆ รวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ ดันก้นมหึมานั่นออกไปอย่างขัดใจ คุณเธอเซไปเล็กน้อย แล้วหันมาสบตาชะนีน้อยเอเชียคนนี้ที่กำลังพยายามบอกว่า...หากเมิงนั่งอีกทีเป็นเจอดีแน่ๆ...คุณยายคู่สนทนาสะกิดให้ป้ากลับไปนั่งที่เดิม แล้วหันไปบอกพวกพ้องรวมทัวร์ว่าให้พูดกันเบาๆ หน่อย เออ...ค่อยน่ารักหน่อยนะยาย แต่พอถึงเวลาแจกช๊อคโกแลต คุณยาย หยิบสามชิ้น เสร็จแล้วสะกิดบอกลุงให้หยิบอีกสามชิ้น ก่อนพนักงานจะเดินจากคุณยายไป แก่ก็หยิบอีกสองชิ้น เก็บเข้ากระเป๋า เฮ้อ...พยายามเข้าใจแกว่า คงเป็นขนมชนิดเดียวที่เหมาะกับฟันของแกล่ะ คุณยาย...






Create Date : 31 กรกฎาคม 2554
Last Update : 31 กรกฎาคม 2554 16:13:32 น. 2 comments
Counter : 736 Pageviews.

 
กำลังจะไปเที่ยวโรมค่ะ อยากได้ชื่อโรงแรมจัง แนะนำหน่อยได้ไหมค่ะ ? จะรอนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 2 สิงหาคม 2554 เวลา:20:33:15 น.  

 
ตามมาเที่ยวโรมค่ะ
เล่าเรื่องได้น่าอ่านและสนุกมากเลย
อิ อิ


โดย: หกพันไมล์ วันที่: 2 สิงหาคม 2554 เวลา:23:32:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

naririn
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ.....

lozocat

ข้อความและรูปภาพทั้งหมดในBlog นี้ขอสงวนลิขสิทธิ์นะคะ ไม่นำออกเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตนะคะตัวเอง

เพลง
MusicPlaylistView Profile
Create a playlist at MixPod.com
Friends' blogs
[Add naririn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.