lozocat
ใส่ข้อความที่ต้องการให้เลื่อนๆๆที่นี่
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
สองสาวเปรี้ยว เที่ยวปารีส3



กว่าจะหาทางออกจากมิวเซียมมาได้ ก็ใช้เวลาพอสมควร เดินมองหาเพื่อนสาวก็เห็นคุณเธอกำลังนั่งอาบแดดอย่างสบายใจ ก็เข้าใจว่าชอบอาบแดด แต่ทำไมต้องนั่งโพสท่าอยู่หน้าลุฟท์ด้วยฟระ เห็นแล้วไม่กล้าเดินเข้าไปหา ก็เลยยืนโบกมือให้มันเดินมา ซึ่งแม่นางก็กวักมือเรียกให้มานั่งข้างคุณเธออีก เออ! ไปก็ได้ อ้าว..แล้วนั่นเอาลูกใครมานั่งด้วยล่ะ “เห็นน้องเข้าน่ารักดี ก็เลยหยิบมาถ่ายรูปด้วย ขอพ่อเขาแล้ว” คุณเธอตอบหน้าตาเฉย ไม่ได้ดูหน้าตาน้องเขาเลย ว่ากลัวแกแค่ไหน ก็เลยรีบถ่ายรูปให้เพื่อน เพื่อคุณเธอจะได้ปล่อยให้น้องเขาเป็นอิสระ





ไปไหนต่อดี...หันมองหน้าเพื่อน เธอก็บอกว่า ไปเรื่อยๆ อืม...เข้าท่า ก็เลยออกจากพิพิธภัณฑ์เดินตามทางไปเรื่อยๆแวะเข้าร้านขายของที่ระลึกบ้างประปราย เดินมาได้สักพัก ก็พบพี่คนไทย ทักสวัสดีขึ้น เราก็รีบเข้าไปคุยด้วยทันที เพราะหายากที่ว่าคนไทยจะทักกันในยุโรป พี่สาวคนนี้ขายของที่ระลึกอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว เราก็เลยถามถึงร้านอาหารไทย เพราะอยากกินส้มตำอย่างแรง พี่เขาก็แนะนำให้ เลยอุดหนุนของที่ระลึกของเขาไปนิดหน่อย เพราะเช็คราคาแล้วร้านพี่เขาถูกกว่าหลายร้านที่เดินผ่านมา อาจเป็นเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ก็เลยลดราคาและแถมให้อย่างใจดี พี่เขายังบอกอีกด้วยว่า นึกว่าพวกเราจะอยู่อีกหลายวัน พี่จะพาไปเที่ยว และเลี้ยงข้าว ใจดีจัง ขอบคุณนะคะ เราเดินตามแม่น้ำแซนไปเรื่อยๆ เพื่อนสาวบอกว่าอยากไปวิหารแซงต์ชาเปล เราก็ถามว่าไปทำไม เธอก็บอกว่ามันสวย เราถามอีกว่า สวยยังไง เธอก็บอกว่า ในหนังสือบอกว่าสวย... โอเค รู้เรื่อง!





เมื่อเดินไปถึงตัววิหารแซงต์ชาเปล ก็ต้องเสียค่าเข้าชม 7.5 Euro โห เสียแพงอย่างนี้ต้องสวยมากแน่ๆ เพราะคนต่อคิวเยอะมาก เมื่อจ่ายค่าเสียหายเรียบร้อยก็เข้าไปชมความงามภายใน ซึ่งก็สวยงามอย่างที่หนังสือเขาว่านั่นแหละ สวยตรงกระจกโมเสกที่ประดับอยู่บนผนัง และถ้าได้ฟังประวัติด้วยแล้วก็คงจะคุ้มกับค่าเข้าชม แต่สำหรับพวกเรา ประวัติที่มัคคุเทศก์คอยเล่าให้นักท่องเที่ยวตัวเองฟังนั้น มันไม่ค่อยจรรโลงเท่าไหร่ ไว้ค่อยหาอ่านเอาเองในหนังสือก็ได้ อารมณ์นี้มันต้องยืนชมความงามด้วยตาตนเอง หลังจากเข้าไปชื่นชมความงามอยู่สิบห้านาที พวกเราก็เดินออกมา แล้วแอบบ่น สวยแต่เปลืองว่ะ...





จากนั้นก็เดินไป Notro Dame ไม่เสียค่าเข้าชมแฮะ แต่ถ้าจะขึ้นไปข้างบนต้องเสียเงิน แต่คิวยาวมากมาย ก็ตัดสินใจไม่ขึ้น แต่เข้าไปเดินดูภายในวิหารอันอลังการ และสวยงาม ภายในมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่เสียค่าเข้าชมซึ่งจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ไม่แพงมาก ซึ่งเรายอมจ่ายเพื่อเขาไปดู เป็นพวกของเก่า เช่นชุดเก่าเก็บของพระสันตะปาปา มงกุฎ คทา พระคัมภีร์ เป็นต้น เดินไปเดินมาท้องเริ่มหิว จึงเข้าร้านอาหารเล็กๆ แถวนั้น เพื่อหาอะไรรองท้อง มองเห็นรูปไส้กรอกหน้าร้านก็เลยสั่งไส้กรอกกับซุปร้อนๆ มากิน แต่พออาหารมา เป็นขนมปังใส่ไส้กรอกไว้ข้างใน (จริงๆ อยากกินไส้กรอกอย่างเดียวอ่ะป้า) หลังจากจัดการกับอาหารเรียบร้อย ก็เปิดแผนที่ ว่าจะไปไหนต่อดี เพื่อนก็บอกว่าอยากไปย่าน Marais แต่เราไม่ถามแล้วว่าไปทำไม เพราะรู้คำตอบแล้วว่าเอามาจากหนังสือ ก็เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึง...คนประท้วง โอ้แม่เจ้า... ถือว่าเป็นไฮไลท์เลยนะเนี่ย เห็นว่าประท้วงกันเป็นว่าเล่นที่ฝรั่งเศส พอมาเจอของจริงแล้ว ตื่นเต้น แต่ที่ไม่ประทับใจเล็กน้อยก็ตรงที่ มายืนประท้วงขวางทางเข้าหน้าห้างสรรพสินค้าที่เรากำลังจะเดินเข้าไปนี่น่ะสิ แต่ก็มิเป็นปัญหาใหญ่หลวง พวกเราก็ทำเนียนเดินผ่านไปกลางวงประท้วงนั่นแหละ พวกคุณพี่ทั้งหลายก็ยื่นเอกสารมาให้มากมาย เฮ้อ...ไม่ได้ดูเลย ว่าชะนีเอเชียพวกนี้ช่วยอะไรยูไม่ได้...

















เมื่อถึงเวลาช๊อบปิ้ง ก็รู้สึกกระปรี้ประเปร่าขึ้นมาทันที เดินไม่รู้สึกเหนื่อย แล้วก็เดินผ่านโซนสีม่วง ซึ่งเป็นย่านชายรักชายกันทั้งถนน ตอนแรกยังไม่รู้ แต่เพื่อนสาวสะกิดให้ดูธงสีสันหลายสี หน้าร้านอาหารและบาร์ต่างๆ อันเป็นสัญลักษณ์ของพวกเขา ผู้ชายหน้าตาดีมากมาย อยู่ในร้านบาร์ ชะนีต่างถิ่นสองคน ยืนมองอย่างเซ็งจิต เฮ้อ...เสียดายของ หรือผู้หญิงในโลกนี้ไม่มีประสิทธิภาพกันหมดแล้วนะ พวกเขาถึงได้รักกันเอง... เห็นแบบนี้แล้วหิวขึ้นมาทันที (เพิ่งกินไปไม่ใช่เหรอ) เพื่อนสาวอยากกินยำรวมมิตร เราอยากกินส้มตำ เอาวะ...เมื่ออยากกินมันต้องได้กิน เราเชื่อมั่นว่า ครัวไทยไปทั่วโลก ยังไงก็มีสักร้านในแหล่งแบบนี้นั่นแหละขายดีนักแล ว่าแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาหาร้านอาหารไทย แล้วก็สมใจอยาก เจอร้านอาหารตกแต่งสไตล์ไทย มองเห็นพี่สาวในชุดไทยคล้ายแอร์การบินไทยเดินไปเดินมาก็รีบเข้าไปถามว่าเปิดร้านหรือยัง เพราะเห็นพวกพี่นั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่ พี่สาวคนหนึ่งก็หันมาบองชูว์ แล้วใส่ภาษาจีนไม่ยั้ง เอ่อ...ฝรั่งเศสกับจีนพูดไม่ได้ ถามภาษาอังกฤษไปคุณพี่ก็ทำหน้างง เพื่อนสาวเลยลากเราออกจากร้าน มายืนงงกันอยู่สักพัก อารายฟระเป็นคนจีนแต่งตัวเป็นคนไทย เปิดร้านอาหารไทย นี่มันจะก๊อบปี้ไปซะทุกอย่างเลยหรือไง ว่าแล้วก็แอบเคือง แต่แล้วก็โมโหได้ไม่นานเพราะคราวนี้มายืนอยู่หน้าร้านอาหารไทยอีกร้าน เจ้าของร้านเห็นพวกเราเป็นคนไทยก็เลยออกมาทักทายอย่างอัธยาศัย เราก็ไม่รอช้า นั่งลงแล้วสั่งอาหารเป็นโต๊ะแรกของร้านทันที มันต้องอย่างนี้ ออริจินัลไทย ร้านอาหารไทยมันต้องคนไทยทำ มันถึงจะได้รสชาติ! ได้กินส้มตำสมใจ แต่ไม่แซ่บเท่าที่บ้านเรา ยำรวมมิตรก็ใช้ได้ ร้านอาหารเขาก็ตกแต่งสวยงาม หลังจากท้องอิ่ม เมื่อไม่รู้จะไปไหนต่อก็กลับมานอนเอาแรงที่ห้อง เพราะคืนนี้จะตระเวนท่องราตรีกรุงปารีส

แต่งตัวสวยงามออกจากห้อง ไปถ่ายรูปที่หอไอเฟลยามค่ำคืน แล้วนั่งเมโทรกลับมาชองป์ส เอลิเซ่ส์ เจอผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวท่าทางจะไปเที่ยวเหมือนกันก็เลยถามว่าจะไปไหน ขอติดไปด้วยได้หรือเปล่า เพราะไม่รู้จักที่เที่ยวกลางคืนเลย เธอก็บอกว่าได้ เดี๋ยวเธอจะพาไป พอไปถึงก็ต่อคิว ยืนอยู่เกือบยี่สิบนาที ก็มีพนักงานออกมายืนกันสามสี่คน เพื่อคัดตัวลูกค้า! คนไหนจองไว้ก็ได้เข้า คนไหนดวงดีก็ได้เข้า แต่อีกหลายคนไม่ได้เข้าไป พวกเราก็เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยสาเหตุว่า NO ENGLISH! อยากสวนมันเลยเกินว่า กรูคนไทยเฟ้ย...ในเมื่อเรื่องมากนักก็ไม่เข้า เปลี่ยนที่มาอีกแห่งหนึ่งใกล้โรงแรมที่เราพัก คนยืนคอยเป็นร้อย เต็มไปหมด ที่นี่ก็เลือกคนเข้าไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ที่เลือกให้เข้าไปเป็นนักท่องเที่ยวต่างถิ่น อย่างพวกเรา สองสาวถูกการ์ดชายหนุ่มเชิญให้เข้าไปในคลับฯ หลังจากแทรกตัวเข้าไปยืนอยู่ได้สิบนาที ท่ามกลางสายตาอิจฉาของบรรดาชะนีฝรั่งเศส การเดินบนพรมแดงซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยผู้คน และมีชายหนุ่มร่างใหญ่หลายคนคอยคุ้มกันมันก็รู้สึกดีเหมือนกันนะเนี่ย ที่นี่เสียค่าเข้า 25 Euro ได้สองดริ้งค์ แล้วก็มีสองชั้น กว้างขวางมากคนก็เยอะใช้ได้ เพลงก็เปิดสนุกดี ไม่น่าเบื่อเหมือนซูริค เมื่อพวกเราได้พื้นที่ส่วนตัว อันกว้างขวาง ก็เริ่มออกสเต็ปอย่างสนุกสนาน ไม่ได้สนใจใครหน้าไหน เต้นเสร็จ ตีสี่เริ่มเหนื่อยก็กลับโรงแรม เดินออกมามองประตูชัยฝรั่งเศสแว่บนึง แล้วยิ้มให้พลางสวัสดีตอนเช้าปารีส...











Create Date : 16 สิงหาคม 2553
Last Update : 16 สิงหาคม 2553 21:31:18 น. 10 comments
Counter : 960 Pageviews.

 
แวะเข้ามาชมครับ...เห็นแล้วอยากได้มีโอกาสไปอีกครั้งจัง


โดย: เจี๊ยบ (เต่าไซเคิล ) วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:0:50:42 น.  

 
หอไอเฟิลยามค่ำคืนงามจิงๆ


โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:8:40:53 น.  

 
คิดถึงหอไอเฟล ขอไปเที่ยวด้วยคนค่า


โดย: apple.007 วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:13:34:09 น.  

 
หอไอเฟลผมมารอตั้งแต่ไก่โห่เลยแหล่ะครับ เลยได้เป็นชุดแรกๆเลยที่ขึ้นไป แต่น่าเสียดาย ไม่มีเพื่อนถ่ายรูปให้เลย


โดย: Louisson วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:2:08:59 น.  

 
ป.ล. ผมอยู่อุปซอล่าครับ


โดย: Louisson วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:2:09:57 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่า รูปสวยดีค่ะ

อยากไปหอไอเฟลตอนกลางคืนมั่งจัง
ไปคนเดียว ไม่กล้าไปตอนกลางคืนง่ะ


โดย: vuitton วันที่: 20 สิงหาคม 2553 เวลา:10:31:12 น.  

 
..ฮัลโหลลล..คุงลูก.. กะลังง่วง..เข้ามาอ่านแย้วตาสว่างเรยอะ.. เหมือนด้ายเข้าปายสัมผัสกรุงปารีสด้วยจิงๆ..ถ่ายรูปหอไอเฟล..สวยจัง..หม่ามี๋..ชอบบบ..555..

..ช่วงนี้อาคุงแม่เพลี๊ย..เพลีย..ต้องดูแลอ้ายตูบ 10 ชีวิต..เมื่อยปายหมด..

good night ..จร้า..
Photobucket


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:20:37:42 น.  

 


โดย: ก (Sanhachutha ) วันที่: 23 สิงหาคม 2553 เวลา:13:59:40 น.  

 
^
^
^
มือโดนปุ่ม อิอิ

อยากไปเที่ยวบ้างจังเลย


โดย: กิฟ เกร้กสัน (Sanhachutha ) วันที่: 23 สิงหาคม 2553 เวลา:14:00:31 น.  

 
..ฮั่นแน่..คุงลูก..ช่วงนี้งานยุ่งมั๊ยจร้า.. หรือว่า
กะลังเที่ยวเพลิน..ช่วงนี้คุงแม่รับบทหนัก เลี้ยงคุงหมาๆตั้ง 10 ตัว เหนื่อยจังเยย.. คนช่วยเลี้ยงเค้าปายทำงาน ตจว.Photobucket


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:19:29:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

naririn
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ.....

lozocat

ข้อความและรูปภาพทั้งหมดในBlog นี้ขอสงวนลิขสิทธิ์นะคะ ไม่นำออกเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตนะคะตัวเอง

เพลง
MusicPlaylistView Profile
Create a playlist at MixPod.com
Friends' blogs
[Add naririn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.