lozocat
ใส่ข้อความที่ต้องการให้เลื่อนๆๆที่นี่
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
27 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
หนีแม่เที่ยว ไปเปรี้ยวอิตาลี ตอนที่เจ็ด



ตื่นแปดโมงครึ่ง ลงไป Breakfast เหมือนเมื่อวานเลย 09.55 น. วันนี้จะไปโคลอสเซียม หลังจากที่เมื่อวานได้ไปสำรวจเส้นทางมาเรียบร้อยแล้ว พอไปถึงก็มองเห็นผู้คนยืนต่อแถวซื้อตั๋วเข้าชม จึงเดินไปต่อแถวกับเขาบ้าง ยืนต่อแถวอันยาวเหยียด จนเกือบหลับ ก็ได้เข้าไปชมหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งในความคิดส่วนตัวคิดว่ามันจะคล้ายๆ กับสนามฟุตบอลหรือลานประลองอย่างที่เคยเห็นในภาพยนตร์ แต่พอได้เข้าไปเห็นของจริงปรากฏว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น โคลอสเซียมของจริงนั้น ข้างในเป็นคล้ายเขาวงกต แอบได้ยินไกด์เล่าให้นักท่องเที่ยวฟังว่า สมัยก่อนจะใช้ที่นี่เป็นลานกีฬาให้คนและสัตว์เล่นซ่อนหากัน อ้าวเหรอ...ไอเราก็นึกว่าเป็นเหมือน Gladiator โกหกป่าวลุง! จริงเท็จแค่ไหนต้องไปหาอ่านเอา แต่ตอนนี้ต้องเก็บภาพสักร้อยภาพก่อน เดี๋ยวคนจะยิ่งเยอะ เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เดินวนไปวนมาให้คุ้มกับค่าเข้าชม ไปมันทุกซอกมุม แล้วก็ได้เวลา ช๊อบปิ้งอีกแล้ว วันนี้จะไปตลาดนัดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี (อ่านมาจากหนังสือ ไม่รู้จริงป่าว)













ออกจากโคลอสเซียมบ่ายโมง ก็มุ่งหน้าตามแผนที่ ที่ทางโรงแรมมอบให้ไว้เป็นที่ระลึก นี่ก็บ่ายโมงแล้ว ต้องรีบไป เนื่องจากตลาดมันมีเฉพาะวันอาทิตย์ และที่สำคัญ มันปิด บ่ายสองโมง!! ฮ่วย...จะรีบปิดไปไหนนิ ว่าแล้วก็เร่งฝีเท้า เดินไป แดดก็ร้อน เดินไป เดินไปเรื่อยๆ ทำไมมันไกลจังฟระ เดินประมาณครึ่งชั่วโมงก็เริ่มมองเห็นผู้คน นักท่องเที่ยว เดินกันเป็นฝูงไปในทิศทางเดียวกันก็ดีใจเพราะ ถึงแล้ว เฮ้อ....เหนื่อย





เมื่อเดินเข้าไปในตลาดกลางแจ้งของอิตาลี ก็ได้ภาพบรรยากาศเก่าๆ ยามเดินอยู่ตลาดนัดสวนจัตุจักร เพราะเพิ่งจะเห็นภาพแบบนี้ในประเทศแถบยุโรป ขายของทุกอย่าง เหมือนเจเจมาร์เก็ตบ้านเราเลย ทั้งสินค้ามือหนึ่งมือสอง สากกะเบือยันเรือรบ นี่ขนาดว่าตั้งท่าจะเก็บของปิดตลาดกันแล้วนะเนี่ย เดินไปเดินมาไปหยุดงมเสื้ออยู่ที่ร้านขายเสื้อผ้า ที่ต้องใช้คำว่า “งม” เนื่องจากว่าคนขายเอาสินค้ามาวางกองรวมกันไว้เยอะมาก แล้วติดป้ายเสนอขายว่า 1 Euro เห็นราคาแล้วก็ได้เสื้อกล้ามน่ารักมาหนึ่งตัว ใช้เวลาเดินจนถึงบ่ายสองกว่า ตลาดเริ่มวายแล้ว ก็เดินออกมาว่าจะหาทางกลับไปในเมือง แต่เป็นอันต้องสะดุดอยู่ที่ร้านขายรองเท้า Made in China ทุกคู่ราคา 10 Euro ก็เลยสอยรองเท้าส้นสูงปี๊ดมาอีกคู่หนึ่ง เฮ้อ...หิวข้าว มองตรงไปฝั่งตรงข้าม เห็นร้านอาหารจีนร้านใหญ่ทีเดียว ก็เลยเข้าไปหาอะไรรองท้องก่อน เมื่อเดินเข้าไปถึง พนักงานก็ยิ้มหวาน แล้วทักทายกับเราอย่างดีใจที่เห็นเพื่อนร่วมชาติเป็นภาษาจีนทันที ซึ่งเราก็ยิ้มหวานให้แล้วตอบว่า Sorry, I’m not China (คิ-น่า) ไม่ได้เขียนผิดหรือออกเสียงผิดแต่อย่างไร แต่เนื่องจากว่าบางคน เวลาเราตอบไปว่า Chinese (ไชนีส) มักจะทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจอย่างแรง แต่พอเราตอบตามภาษาที่เขาเข้าใจแล้วละก็ จะรีบพยักหน้ากันหงึกหงักๆ กลับมาที่พนักงานคนเดิม เธอทำท่าตกใจเล็กน้อยที่ทักผิด แต่ยังคงทำหน้าตาสงสัย เอาเข้าไป... ยังไม่เชื่ออีก... ก็เลยปล่อยให้ยืนงงไปอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้หิวมาก ลูกค้าอย่างเราจึงเดินไปหาที่นั่งเอาเอง แล้วรีบหยิบเมนูขึ้นมาดู พอพนักงานมาก็สั่งอาหารทันทีด้วยความคุ้นเคย ชี้ไปที่ฮะเก๋าออร์เดิร์ฟของโปรด ก็ได้ยินเสียงปฏิเสธกลับมาว่าหมด ชี้ไปที่ภาพก๋วยเตี๋ยวหลอด ก็หมดอีก คราวนี้พลิกหน้าเมนูไปอีกหน้าที่เป็นอาหารจานหลัก ชี้ที่ข้าวผัด ในใจคิดว่าถ้าเอ็งบอกว่าหมดอีก ข้าจะเดินออกจากร้านทันที แต่สวรรค์ก็เข้าข้างพนักงาน ซึ่งตอบอย่างภาคภูมิใจว่า รอสักครู่....พลางจดรายการอาหารที่สั่งใส่เศษกระดาษ แล้วเดินจากไป สักพัก มีพนักงานอีกคนเข้ามาถามว่ารับน้ำอะไรดีคะอยากกินน้ำส้มคั้น ก็บอกว่าไม่มี มีแต่น้ำส้มขวด เราก็ไม่เอา... ถ้าอย่างนั้นเอาแป๊บซี่ พนักงานมองหน้าแล้วบอกว่าไม่มีแป๊บซี่ มีโค้กจะกินไหม เออ...กินก็ได้ เอามาเถอะ หิวจะแย่

หลังจากข้าวผัดหมดจานก็เหลือบไปเห็นของหวานที่ฝรั่งโต๊ะข้างๆ สั่ง น่ากินแฮะ... ก็เลยสั่งมากินบ้าง เป็นขนมของคนจีน ไม่รู้ว่าชื่ออะไร แต่มีพุดทราจีนเชื่อมและลิ้นจี่ ใส่กับน้ำแข็ง เอามาเป็นของหวานปิดท้ายรายการ เมื่ออิ่มแล้ว คิดเงิน ทั้งหมดไม่เกินยี่สิบยูโร แถมอิ่มไปถึงเย็น

ก่อนเดินออกจากร้าน ก็แวะเข้าห้องน้ำที่ร้านอาหารก่อน คราวนี้ทั้งพนักงานและเจ้าของร้านต่างทักทายเป็นภาษาจีนและมองอย่างดีใจที่เจอเพื่อนร่วมชาติ เฮ้อ....ต้องให้บอกกี่ทีว่า... ไม่ใช่โว้ย!!






เดินข้ามถนน มารอรถแทรม (Tram) เนื่องจากเข็ดแล้ว ไม่อยากเดินทางไกล มันเหนื่อย! ยืนอยู่สักครู่ ก็ไม่รู้จะไปไหน ขอตั้งหลักก่อน เดินไปอ่านรายละเอียดของรถที่วิ่งผ่านสถานีนี้ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เอาล่ะ คงต้องใช้วิธีสุดท้าย จับตามองฝรั่งคุณตาคุณยายสองคนนั้นเอาไว้ แล้วค่อยขึ้นรถไปพร้อมกัน....เมื่อรถมาจอดสนิท ก็เสี่ยงก้าวขึ้นรถตามเป้าหมายทั้งคู่ไป แล้วทำเนียนเสมือนคนในพื้นที่ ทั้งที่จริงแล้ว ใจเต้นตึกตัก ๆ กรูจะไปโผล่ที่ไหนของกรุงโรมหว่า รถแทรมแล่นมาได้สักพักใหญ่ ก็มาถึงสถานี Agentine เห็นผู้คนในรถเดินออกจากรถกันหมด ก็รีบลงตามบ้าง แล้วต่อรถเมล์สาย 40 Express เปรี้ยวซะไม่มีอ่ะ ทำเหมือนรู้ทาง แต่จริงๆ แล้วก็ขึ้นไปเรื่อยนั่นแหละ ก็เราเสียค่าตั๋ว Full day มาแล้ว ขึ้นรถอะไรก็ได้ ถ้าผิดทางก็ขึ้นคันใหม่ ขอให้ไปเจอเมโทร (Metro) เท่านั้นเป็นอันใช้ได้ เห็นว่าบนรถเมล์มีตัวหนังสือเขียนบอกไว้ว่าไป Termini อันเป็นสถานีรถไฟหลัก เราก็ว่าจะไปตั้งต้นใหม่ที่นั่น แต่พอรถวิ่งมาได้สองสามป้าย ก็ปรากฏว่ามาโผล่ที่ Piazza Vanezia เห็นว่าสวยดีก็เลยลงไปเก็บภาพเอาไว้ จากนั้นก็มองเห็นโคลอสเซียมอยู่ไม่ไกล แล้วตั๋วที่ซื้อเมื่อเช้าตอนเข้าโคลอสเซียม มันยังสามารถเข้าไป Foro Roma ได้อีกด้วย เดินหาทางเข้าอยู่พักใหญ่ ก็เจอเจ้าหน้าที่เก็บตั๋ววัยรุ่นสามคนยืนอยู่ เราก็ยื่นตั๋วให้ เจ้าหน้าที่รับไป แล้วยิ้ม ส่วนอีกสองคน ที่ยืนข้างๆ ก็แอบพูดเบา แกมหยอกว่า ไปดื่มอะไรด้วยกันไหม ซึ่งเราก็ยิ้มให้ที่มุมปากอย่างปรามว่า อย่ามายุ่งกับกรู....











ข้างใน Foro Roma (เขียนตามภาษาอิตาลีที่มีอยู่ในแผนที่) ก็มีความรู้สึกคล้ายๆ อยู่ในซากเมืองเก่า แถวอยุธยาบ้านเรา (อยุธยาสวยกว่านะ เราว่า) เดินไปเดินมา เดินมาเดินไป ที่ทำเช่นนี้เพราะจะหาทางออกไปข้างนอกที่ไม่ซ้ำทางเดินเก่า แต่สุดท้ายก็ต้องออกทางที่เขากำหนดให้ ออกมานั่งพักมองโคลอสเซียมตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย ก็ต้องเดินจากมาอย่างจำใจ เพราะยังเหลืออีกหนึ่งสถานที่ นั่นคือ Piazza Novana ก็เดินตามทางและตามคนไปเรื่อยๆ ชักเริ่มเหนื่อย และท้อใจ แต่พอเริ่มเห็นร้านรวงที่มีเพิ่มขึ้นมากมายสองข้างทางก็ยิ่งตื่นเต้น เลือดในกายมันกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันตา หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง วิ่งเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ไปอย่างสนุกสนาน อย่างคนบ้าพลัง เดินผ่านบันไดสเปนไปเรื่อยๆ คราวนี้ถึงไหนก็ไม่รู้ พอเปิดแผนที่ดู อ้าว! ...คนละทิศละทางกับที่จะไปเลย ก็เลยต้องเดินย้อนกลับมาใหม่ ผ่านบันไดสเปนเหมือนเดิม มุ่งหน้าไปในทิศทางตรงกันข้าม ตอนนี้หกโมงกว่าแล้ว อีกประเดี๋ยวฟ้าก็เริ่มมืด แล้วมันจะถ่ายรูปไม่สวย ต้องเร่งฝีเท้าหน่อย เมื่อไปถึงก็หายเหนื่อยกาย แต่เหนื่อยใจแทน เพราะตั้งใจมาถ่ายรูปน้ำพุอันสวยงามแต่ปรากฏว่า ปิดซ่อม ซะอย่างนั้น เฮ้อ...ก็เลยเดินดูคนขายของ คนโชว์มายากล เด็กวัยรุ่นอิตาลีที่นัดเจอเพื่อนฝูงเพื่อทำกิจกรรมกัน เดินดูภาพเขียนที่มีศิลปินข้างถนนมากมายมานั่งวาดรูปและขายรูปของตนในบริเวณนี้อย่างอิสระ ยืนมองรูปที่วาดอย่างทึ่งในลายเส้น ก็ได้ภาพวาดมาเป็นที่ระลึกสามใบ ทั้งหมดในราคา 45 Euro มันอาจจะดูแพง ในตอนที่ต้องจ่ายเงิน แต่เมื่อเห็นลายเส้นที่คนวาด บรรจงวาดด้วยความตั้งใจ บวกกับความชำนาญแล้ว คุณค่าของภาพเหล่านี้มันเกินบรรยายจริงๆ เพราะมันเป็นทั้งความทรงจำของคนๆ หนึ่งที่ได้เดินทางมาที่นี่ แล้วไปเยือนตามสถานที่ต่างๆที่ปรากฏอยู่ในภาพ นี่แหละ คือของที่ระลึกที่มีค่ามากที่สุดในการเดินทางครั้งนี้










เมื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศเต็มอิ่ม ก็ได้เวลากลับไปพักแล้ว เดินมาขึ้นรถเมล์สาย 62 ที่พนักงานโรงแรมเขียนบอกไว้ให้ เพื่อกลับที่พัก นั่งรถไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ถึงไหนแล้วเนี่ย มองเห็นทางข้างหน้าคุ้นๆ นั่นโรงแรมเราอยู่ทางซ้ายมือ ตั้งท่าจะลง รถก็ขับต่อไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีป้ายรถเมล์ให้หยุดจอด เอาล่ะสิ เซ็งจิต เลยไปไกลแล้ว เอาวะ ป้ายหน้า....และแล้วก็มาถึงป้ายหน้า ป้ายสุดท้ายพอดี...โชคยังดีที่มี เมโทรอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ก็เลยต้องนั่งเมโทรกลับมาที่สถานีใกล้โรงแรมแล้วเดินต่ออีกสิบห้านาที เฮ้อ...เหนื่อย!! แต่ใช้ตั๋วรถคุ้มเลยวันนี้

กลับมาถึงโรงแรมก็บอกลุงที่หน้าเคาน์เตอร์ว่า รู้สึกไม่สบาย ขอน้ำร้อนหน่อยได้ไหม ลุงแกก็น่ารัก รีบหาน้ำร้อนใส่กาให้เราทันทีจากห้องอาหาร เราก็ขอบอกขอบใจใหญ่ แล้วเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องพัก ที่จริงมีลิฟท์ด้วย แต่ไม่อยากใช้ เพราะกลัวเปิดประตูไม่ได้ เนื่องจากลิฟท์เก่ามากแล้ว เวลาเปิดประตูก็เป็นประตูเหล็กเลื่อนเอาเอง เมื่อไปถึงก็หยิบมาม่าคัพต้มยำ ที่ติดตัวมาด้วยตั้งแต่ก่อนเดินทาง เนื่องจากกลัวไม่มีอะไรกินยามอยู่ต่างบ้านต่างเมือง เอามาจัดการเทน้ำร้อน แล้วออกไปทำลายหลักฐานไม่ให้เหลือซากที่ระเบียง เพราะหากกินในห้อง มันจะมีกลิ่นอย่างแรง เอาล่ะ ทีนี่กระเป๋าก็โล่งขึ้นอีกนิด เพราะไม่มีมาม่าแล้ว แต่ทว่า จัดโน่น รื้อนี่ ทำไมของมันเยอะอย่างนี้ฟระ และแล้วก็ลงตัว เป็นอันว่ากระเป๋าใบเล็กที่เอามาเต็มไปแล้วหนึ่งใบ ส่วนที่เพิ่มมาก็คือ ถุงใบใหญ่ที่ใส่กระเป๋า Guess ที่เพิ่งซื้อใหม่เมื่อวาน กับของที่ระลึกที่ได้มาในวันนี้อีกเต็มกระเป๋า หนักทั้งสองใบ กรรม!!










Create Date : 27 พฤษภาคม 2553
Last Update : 28 พฤษภาคม 2553 10:45:46 น. 8 comments
Counter : 998 Pageviews.

 
Very nice trip and lots of nice pictures. I hope I could go there one day. 555


โดย: PoomPim..TMB วันที่: 28 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:57:26 น.  

 
..คุณลูก...เปรี้ยวจิงๆเรย ..หนุกหนานมาก..

..แต่..ชอบทำคุณแม่ตื่นเต้นอยู่เรื่อย..555

..ยังไงๆ..ก้อดูแลตัวเองดีๆนะจร้า..สาวน้อย..


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:50:02 น.  

 
..เอางี้น๊า..เด้วคุณแม่ว่าง..จาหาบทความใหม่ๆ..มาลงไว้ให้อ่าน..ช่วงนี้งานยุ่งอะจร้า..เรยปิดblog ..ชั่วคราว
Photobucket


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 31 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:06:53 น.  

 
..คุณลูก..คุณแม่เปิด blogแย้วแต่อยากได้รูป อิตาลีสวยๆไปใส่บ้างอะ..เอาปายฝากแม่หน่อยนะจร้า..


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:23:14:52 น.  

 
..คุงลูกสาวที่รัก..งั้นคุงแม่ม่ายเกรงจายละนะ..ชอบรูปหนาย..จาหยิบปายวางห้ายแขกเชยชมเยยน๊า..


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:17:39:37 น.  

 
ได้ๆ ค่า เฉพาะคุงแม่นะค้า เหอๆๆ ขออภัย ลูกสาวไม่มีฝีมือเรื่องเทคโนโลยีเท่าไหร่ เหอๆๆ


โดย: naririn วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:23:06:48 น.  

 
..ตอนที่แปด..มาไวๆ..ไวๆ.. ม่ายทันจายคงแก่เยย..คิก คิก ..
Photobucket


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:21:16:28 น.  

 
..จาพยายามอัปเดท..ข้อความใหม่ใส่
ไว้ที่ห้องรับแขก..ลองปายเปิดๆดูนะจร้า
..Photobucket
Photobucket


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 7 มิถุนายน 2553 เวลา:20:56:30 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

naririn
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ.....

lozocat

ข้อความและรูปภาพทั้งหมดในBlog นี้ขอสงวนลิขสิทธิ์นะคะ ไม่นำออกเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตนะคะตัวเอง

เพลง
MusicPlaylistView Profile
Create a playlist at MixPod.com
Friends' blogs
[Add naririn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.