@@@///--มุ่งมั่นต่อไปก็เพื่อชีวิต--///@@@
Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 มกราคม 2549
 
All Blogs
 

รถโบก โบกรถ..

เอกรัตน์ Topic : ฝากให้แอ๋ม สคล (เรื่องโบกรถ)

ค่ำคืนหนึ่งในฤดูหนาวของเดือนพฤศจิกายนปลายปีที่แล้ว ราว ๆ ตี 1 ริมถนนแถว ๆรังสิต นิสิต-นักศึกษากลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันประมาณ 10 คน บ้างก็แบกเป้ในใหญ่มาด้วย บ้างก็มีทั้งถุงนอน เต้นท์ และอุปกรณ์สำหรับเตรียมพร้อมออกต่างจังหวัดในฤดูหนาว พวกเขาเหล่านี้บางคนก็เพิ่งรู้จักกัน บ้างก็มาต่างมหาวิทยาลัย ต่างที่ทำงานกัน ทั้งมาจาก มหิดล ศิลปากร รามคำแหง เกษตรศาสตร์ สำนักงานองค์กรเครือข่ายงดเหล้า แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันอย่างไร แต่ทั้งหมดก็มีจุดหมายเดียวกัน อุดมการณ์เดียวกัน พวกเขากำลังจะไปไหน แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ไปถามน้อง ๆ เค้ากันดีกว่า

พวกเรากำลังจะไปร่วมงานรำลึกวีรชน ประชาชน ที่ภูพยัคฆ์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่านกัน แปลกใจละซิ จะไปน่าน ทำไมถึงไม่ไปที่สถานีขนส่งหมอชิต อย่าแปลกใจไปเลย ถ้าไปกันสบาย ๆ ก็ไม่ได้บรรยากาศซิ พวกเรากำลังจะโบกรถไปน่านกัน ถูกต้องแล้ว โบกรถกันนี่แหละ ได้บรรยากาศดี จะไปงานรำลึกวีรชน ประชาชนทั้งที ไปกันสบาย ๆ ได้ยังไง นี่ยังดีกว่าเยาชนสมัยเดือนตุลาคม เมื่อเกือบ ๆ 30 ปีที่แล้วนะ พวกเขาก็เหมือนพวกเราตอนนี้แหละ เดินทางจากกรุงเทพฯไปน่าน แต่พวกเขาลำบากกว่าเราอีก ต้องเดินทางด้วยการหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากรัฐบาล บางทีเข้าป่าก็ต้องเดินเท้ากันเป็นวัน ๆ

การโบกรถคันแรกใช้เวลากันนานมาก ๆ เพราะว่าสภาพของคนในกรุงเทพฯกับคนต่างจังหวัดต่างกันในเรื่องของน้ำใจ แต่ถึงยังไง คนกรุงเทพฯก็ยังไม่แล้งน้ำใจกันไปหมดซะทุกคน รถคันแรกที่จอดให้พวกเราได้อาศัยเดินทางด้วยเป็นคู่สามี-ภรรยาคู่หนึ่งที่ใจดี เป็นพ่อค้าแม้ค้าผัก การเดินทางกับสามี – ภรรยาคู่นี้ ได้เดินทางระยะทางใกล้ ๆ คือมาลงที่ตลาดไทยก็ยังอยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพฯอยู่ดี แต่พวกเราก็รู้สึกดีมากกับน้ำใจไมตรีที่มีให้กัน

เอาล่ะ พวกเราเริ่มทำงานกันต่อ ผลัดเปลี่ยนกันโบกรถใครมีกำลังก็มาโบกกันต่อ ใครเหนื่อยกันพักกันก่อนก็ได้ งานนี้ผู้หญิงผู้ชายไม่น้อยหน้ากันเลย มีแรงแค่ไหนลงทุนลงแรงร่วมด้วยช่วยกันเต็มที่ เย้ ๆ มีคนใจดีจอดรถให้เราได้อาศัยเดินทางกันต่อแล้ว คราวนี้ล่ะ ออกมากจากกรุงเทพฯได้สำเร็จ คราวนี้พวกเราได้มาลงที่สี่แยกนครสวรรค์ มองดูเวลา เกือบ ๆ ตีสี่แล้วล่ะ ถ้าเป็นคนอื่นๆ คงกำลังนอนหลับฝันดีอยู่บนที่นอนนุ่ม ๆ หรือไม่ถ้าพวกเราไปกับรถทัวร์ก็คงได้นอนอยู่บนแบะนุ่ม ๆ แอร์เย็น ๆ แต่ อย่าคิดว่าพวกเราจะไม่มีความสุขนะครับ พวกเราถึงแม้ว่าจะมีการง่วงกันบ้าง แต่ใจทุกคนเต็มร้อยและยังสู้ ๆ กันต่อ และที่สำคัญรู้สึกสนุกกับการเดินทางที่แสนจะทรหดครั้งนี้ด้วยซิ เอาล่ะ เริ่มงานอีกรอบแล้วนะ เอ้า โบก ๆ ช่วยกันโบกหน่อย ใครมีลีลาดี ๆ มาช่วยกันโบกและ โบก ๆ ไม่นานก็มีรถจอดมาสอบถามเราอยู่เรื่อย ๆ ไม่นานก็มีรถให้เราได้อาศัยกันต่อ นี่แหละน้า ความแตกต่างของคนต่างจังหวัดกับคนในเมือง ในเมืองอ่ะกว่าจะจอดแต่ละคันเป็นชั่วโมง ๆ แค่ได้เห็นน้ำใจของรถแต่ละคันพวกเราทุกคนมีกำลังใจขึ้นเป็นกองเลย ซึ้ง ๆ ในน้ำใจของพี่น้องไทย พวกเราเดินทางกันเป็นทอด ๆ ไม่ได้เดินทางด้วยรถคันใดคันหนึ่งเพียงคันเดียว รถที่พวกเราได้อาศัยเดินทางด้วยในเวลาต่อมา มีทั้งรถบรรทุกสินค้า รถตำรวจ รถพ่อค้าแม้ค้า รถขนสัตว์ รถขนสัตว์จริง ๆ ยังมีกรงสัตว์อยู่ที่กระบะหลังตรงที่พวกเรานั่งอัด ๆ กันอยู่เลย บางคันแทบจะไม่มีพื้นที่ให้เรานั่ง แต่ด้วยความเกรงใจในน้ำใจที่เจ้าของรถมอบให้ พวกเราก็ต้อง ๆ อัด ๆ ๆ กันไปยิ่งกว่าปลากระป๋องซะอีก อากาศก็เย็นถึงใจจริง ๆ กับบรรยากาศของการนั่งกระบะหลังไม่มีอะไรบังลมลมก็แรง อากาศก็หนาว ยิ่งอยู่ในช่วงเช้ามืดอีก แต่ละคนหน้าตาตอนนี้มีทั้งเหงื่อแหนะหนะ มีทั้งฝุ่นเกาะ แต่พวกเราไม่สนใจกันหรอก ขอแค่ได้รับน้ำใจจากผู้คนในท้องถนนก็พอแล้ว

จากกรุงเทพฯถึงน่าน ระยะทางก็ แค่นี้ ๆ พวกเราใช้รถเดินทางกันเปลืองมาก ๆ หาได้ที่ไหน รวม ๆ ทั้งหมด เดินทางด้วยรถจำนวน 9 คัน กับเวลาหนึ่งคืน กับ อีกหนึ่งวัน จริง ๆ อาจจะต้องเดินทางด้วยรถมากกว่า 9 คันและก็อาจจะไปไม่ถึงจุดหมายก็ได้ ถ้าพวกเราไม่โชคดีที่ได้เจอกันรถคันสุดท้ายที่พวกเราได้อาศัยมาด้วย นั่นคือ รถของหมอเพลิง หมอเพลิงกำลังจะไปงานเดียวกับพี่พวกเรากำลังจะไปพอดี พวกเราเจอหมอเพลิงที่ปั้มน้ำมันในตัวจังหวัดน่าน จะไม่เรียกว่าโชคดีได้ยังไงล่ะ อาจจะเรียกว่าโชคดีสองชั้นเลยก็ได้ เพราะตอนกลับจากจังหวัดน่านเข้ากรุงเทพฯก็กลับกับหมอเพลิงนี่แหละ นอกจากนี้หมอเพลิงยังเลี้ยงดูพวกเราอย่างดีทั้งค่าอาหาร ขนม ผลไม้ ต่าง ๆ ต้องขอขอบคุณมาไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะครับ

เมื่อเข้าไปสู่งานรำลึกวีรชน ประชาชน ที่ภูพยัคฆ์ แล้วพวกเราได้รับการต้อนรับจากสหายทุก ๆ ท่านเป็นอย่างดี

การเดินทางครั้งนี้ถือได้ว่าจะกลายเป็นความทรงจำดี ๆ ที่พวกเราจะไม่ลืมได้เลยทั้งการเดินทางที่แสนจะทรหดแต่ก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานอิ่มเอิบใจกับน้ำใจของเพื่อนผู้ใจดีในท้องถนน ซึ่งไม่สามารถเจอได้ตามที่ต่าง ๆ ที่เจริญแล้วมากเท่าใดนัก หลังจากกลับมาถึงกรุงเทพฯ พวกเราก็มองหน้ากัน พลางบ่นคิดในใจ อย่าให้มีโอกาสนะ คราวหน้าเอาอีก ๆ ๆ

ที่มา :: //www.stopdrink.com/webboard/public/view.php?id=210




 

Create Date : 14 มกราคม 2549
7 comments
Last Update : 14 มกราคม 2549 10:34:03 น.
Counter : 761 Pageviews.

 

 

โดย: naigod 14 มกราคม 2549 10:54:46 น.  

 

อิอิ blog น่ารักดีครับ เชิญแวะเข้าไปทักทายหรือแลก link กับผมได้นะครับที่ //chongchang.blogspot.com/

 

โดย: นายโฉ่งฉ่าง ช่างขีดและเขียน IP: 158.108.133.9 14 มกราคม 2549 14:42:09 น.  

 

เป็นประสบการณ์ และความคิดที่มีอุดมการณ์ดีมากครับ ในบทความนี้

ผมเองก็เคยจอดรับเด็กนักเรียนประถมที่โบกมาเหมือนกันนะ แต่นานมากล่ะ

 

โดย: noom_no1 (ป่ารักน้ำ ) 14 มกราคม 2549 19:30:45 น.  

 

ไม่เคยโบกรถค่ะ เคยแต่ตกรถ

 

โดย: Chapter 1-17 IP: 61.47.120.91 15 มกราคม 2549 14:22:38 น.  

 

 

โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) 8 สิงหาคม 2554 11:03:15 น.  

 

 

โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) 8 สิงหาคม 2554 12:02:48 น.  

 

 

โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) 12 สิงหาคม 2554 12:56:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


naigod
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพราะชีวิตมีความฝัน..
..จึงเป็นความงดงามของการมีชีวิต
Friends' blogs
[Add naigod's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.