DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
8 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
สุดยอด 5 คดีของ FBI

ประวัติความเป็นมาของเอฟบีไอ  


             FBI ย่อมาจาก Federal Bureau of Investigation สำนักงานสอบสวนกลางแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดยนายชาร์ลส์ โบนาปาร์ด รมว.ยุติธรรมและประธานาธิบดีธิวดอร์ รูสเวลต์ เมื่อ 26 ก.ค. 2451 ในนาม Special Agents of Department of Justice (หน่วยงานเฉพาะกิจแห่งกระทรวงยุติธรรม)


          รูสเวลต์และโบนาปาร์ตรู้จักกันก่อนหน้าที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญของประเทศ โดย 6 ปีก่อนการก่อตั้งนั้นทั้งสองเป็นสมาชิกของคณธกรรมการปฏิรูปหน่วยงานด้านพลเรือน Civil Service Reform ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวอเมริกันเรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพโดยให้มีคนที่เป็น"ผู้วชาญ"เข้ามาร่วมในกระบวนการด้วย 


                เมื่อรูสเวลต์ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐก็แต่งตั้งโบนาปาร์ตเป็นรมว.ยุติธรรม จากนั้นโบนาปาร์ตก็เริ่มปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ออกกฎหมายแยกอำนาจของกระทรวงยุติธรรมออกจากหน่วยงานด้านข่าวกรอง Secret Service และจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจสังกัดกระทรวงยุติธรรมขึ้นมาใหม่ ซึ่งนั่นก็คือเอฟบีไอในเวลาต่อมา ทั้งนี้ในช่วงต้นๆเอฟบีไอก็ได้อดีตเจ้าหน้าที่สืบส่วนและเจ้าหน้าที่สืบข่าวลับฝีมือดีมาเป็นทีมงานสำคัญและตอนนั้นหน่วยงานก็แบ่งเป็น24แผนก 


                ต่อมาในปี 2452 จอร์จ วิกเคอร์แมน ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นรมว.ยุติธรรมคนใหม่ได้เปลี่ยนชื่อกองกำลังเฉพาะกิจนี้เป็นสำนักงานสืบสวนสอบสวน Bureau of Investigation มีหน้าที่สืบสวนคดีที่ผู้ต้องหาละเมิดกฎหมาย ไม่ว่าโกงแบงก์ โกงที่ดิน โกงทรัพย์ จนกระทั่ง 1 ปี ต่อมาเมื่อพ.ร.บ.ทาสผิวขาวผ่านสภา เอฟบีไอก็มีอำนาจสืบสวนคดีอาชญากรรม จากนั้นไม่กี่ปี เอฟบีไอก็ขยายขอบเขตงานและหน่วยงานย่อยมากกว่า 300 แผนก มีสำนักงานตามรัฐต่างๆ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2475 เปลี่ยนชื่อเป็นเอฟบีไออย่างเป็นทางการ 


                ขอบเขตงานของเอฟบีไอแต่ละสมัยจะแตกต่างกันไม่มีตายตัว เพราะงานประเภทนี้ต้องเป็นงานที่ทันสังคมอย่างสมัยสงครามโลกก็เน้นคดีจารกรรม พอถึงยุคต่อมาก็เน้นคดีอันธพาลครองเมือง สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เน้นคดีสอบองค์กรคอมมิวนิสต์ ฟาสซิสต์ ต่อมาก็เน้นคดีอาชญากรรมการเงิน พอยุคปัจจุบันก็เน้นคดีอาชญากรรมข้ามประเทศ ผู้ก่อการร้าย ยาเสพติดและฟอกเงิน


                สำหรับนักสืบเอฟบีไอนั้นจะมาจากตำรวจที่เข้าฝึกที่สถาบัน FBI National Academy เพื่อให้มีความวชาญด้านต่างๆ ไม่ว่าการสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรม คดีการเงิน คดีก่อการร้าย ฯลฯ


5 คดีสุดยอดเอฟบีไอ 


            ในอดีตนั้นเอฟบีไอต้องเจออาชญากรตัวเอ้ๆ แบบสุดๆ เหมือนกัน จนแทบระดมทั้งกรมเพื่อตามล่า สืบสวนกันเลยที่เดียวครับ


            พวกเขาเหล่านี้อาจเป็นฮีโร่หรือตัวช่วยสร้างสีสันให้กับความฝันของผู้คนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่สำหรับรัฐแล้ว พวกนี้มันถูกหมายหัว เพราะมันทำให้ "รัฐ" เสียหน้า คนเหล่านี้จึงต้องถูกขึ้นบัญชีของ FBI ทำการลบชื่ออกไปจากสังคม


อัล คาโปน เจ้าพ่อที่เหนือเจ้าพ่อ



            อัล คาโปน เขาเป็นนักธุรกิจ หัวหน้าแก๊ง และจอมวายร้าย ในช่วงทศวรรษที่ 20-30 เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในทำเนียบ "เจ้าพ่อมาเฟีย"ในสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ที่ FBI มีแฟ้มประวัติอาชญากรรมของเขาหนานับพันหน้า แต่ไม่เคยเอาผิดเขาได้เลยสักครั้ง และความฉลาดเอาตัวรอดของเขา ต้องอัลคาโบนดันมาตายน้ำตื้นจากข้อหาที่เจ้าหน้าที่ที่ยัดความผิดข้อหาเดียวคือ "หลีกเลี่ยงภาษี" จนกระทั้งถูกส่งตัวไปยังคุกอัคาทราซแบบไม่เกิดเลย 


            แต่ถึงอย่างไร อัล คาโปน ยังมีนิสัยน่ารักอย่างหนึ่งคือเขาไม่เคยทำให้ผู้บริสุทธิ์เดือดร้อนเลยยกเว้นกับคู่อริที่เห็นเมื่อไหร่เป็นต้องยิงทิ้ง แต่เขาก็สั่งไม่ให้ฆ่าเด็ก ผู้หญิง คนแก่ และครอบครัวของคู่อริด้วย โอ้...ช่างน่ารักจริงๆ


จอห์น ดิลลิงเจอร์ สุภาพบุรษจอมโจร 


            อันนี้เป็นสื่อมวลชนตั้งฉายากันไปเอง เพื่อเป็นสัญลักษณ์การค้าครับ กับ จอห์น ดิลลิงเจอร์ หัวหน้าแก๊งโจรปล้นธนาคารที่โด่งดังที่สุดในเขตรัฐโอไฮโอ และอินเดียน่า ในช่วงทศวรรษที่ 1930 เพราะตลอดเพียงปีเดียวของการก่ออาชญากรรม จอห์น ดิลลิงเจอร์ และแก๊งของเขาปล้นธนาคารถึง 22 ครั้ง ได้เงินไปราว 3 แสนกว่าดอลลาร์ นอกจากนั้นยังยิงเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนบริสุทธิ์เสียชีวิตอีก 15 คน บาดเจ็บอีก 17 คน เขาเคยถูกจับ 3 ครั้ง แต่หนีออกมาได้ทุกครั้ง จนทำให้ผู้อำนวยการ FBI ถึงกับต้องออกประกาศทางวิทยุด้วยตนเองประกาศจับว่า "มันคือขุนโจรร้ายแห่งยุคและเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของชาติ"


บอนนี และไคลด์ คู่แท้จอมโจร



            พวกเขาเป็นสองคู่หูจอมโจรชื่อดังที่เคยสร้างความปั่นป่วนแก่ตำรวจทั่วทั้งเท็กซัสและละแวกรัฐใกล้เคียงมาตลอด 2 ปี วีรกรรมของพวกเขาน่ะสุดยอดเลย ทั้งยิงนายอำเภอและผู้ช่วยนายอำเภอ และฆ่าคนจำนวนมากเพียงแค่เงินจำนวนน้อยนิด แต่ถึงแม้พวกเขาจะตายไปนานแล้ว พวกคนในท้องถิ่นก็ยังไม่ลืมความทรงจำของพวกเขาได้ ถึงกับสร้างรูปปั้นเป็นวีรบุรุษในท้องถิ่นเลยที่เดียว


เพร็ทตี บอย ฟลอยด์ ฆาตกรหมู่ที่แคนซัส 


                เช้าตรู่วันที่ 17 มิถุนายน ปี ค.ศ. 1933 ประวัติศาสตร์ต้องจารึกว่านี้เป็นอาชญากรรมของ FBI ก็เป็นบันทึกลงในแฟ้มอาชญากรรมของ FBI เมื่อเจ้าหน้าที่ 3 คน สารวัตรสืบสวนตำรวจโอคลาโฮมา 1 นาย ถูกฆาตกรรมกลางแจ้งขณะควบคุมจอมอาชญากรที่ก่อคดีมากมายคนหนึ่งกลับสู่เรือนจำหลังจากหลบหนีมานานถึง 3 ปี


          คดีนี้ช็อกคนทั่วแคนซัส ซิตีทั้งเมืองเพราะมันเกิดขึ้นกลางเมืองต่อหน้าสาธารณชนมากมาย ทำให้นำไปสู่การจับตายมือปืนที่เป็นต้นเหตุนาม ชาร์ลส์ อาร์เธอร์ ฟรอยด์ หรือฉายา เพร็ตตี บอย ในเวลาต่อมา แบบไล่ล่าแบบพลิกแผ่นดินเลยครับ


คดีลักพาตัวหนูน้อย ลินด์เบริก



            หลังอาทิตย์ตกดินวันที่ 1 มีนาคม ปี ค.ศ. 1932 ราวสองทุ่มที่เย็นฉ่ำด้วยฝนตกโปรยปราย คฤหาสน์ของนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงชื่อ ชาร์ลส์ ออกุสตุส ลินด์เบิร์ก ใกล้กับโฮปเวลล์ นิวเจอร์ซี ถูกบุกรุกโดยคนแปลกหน้า มันเข้าไปลักพาตัวหนูน้อย ชาร์ลส์ เอ. ลินด์เบริร์ก จุเนียร์ วัย 1 ขวบ โดยที่ทุกคนในบ้านไม่รู้ตัว พร้อมมีจดหมายเรียกค่าไถ่เงินนับล้านดอลลาร์ถ้าไม่ทำไม่งั้นเด็กตาย 


            ตำรวจทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแลกตัวหนูน้อยแต่ผลสุดท้ายกับได้ศพสยองแทน หนูน้อยนั้นตายตั้งแต่วันที่รักษาตัวแล้วล่ะ 


            ดังนั้นทาง FBI จึงตั้งสืบสวนอย่างหนักเพื่อสืบสวนคดีที่ซับซ้อนนี้ให้ได้ด้วยการเดิมพันกับชื่อเสียงของ FBI เลยทีเดียว และมาถึงปัจจุบัน เอฟบีไอก็ยังพบอาชญากรตัวเอ้ทุกน่ะครับ เช่น บินลาเดน , ไดเวอร์ ขุนส่า ฯลฯ แต่งานของพวกเขาไม่มีทางจบลงง่ายหรอกครับ ตราบใดที่ยังมีมนุษย์อยู่บนโลกนี้....




Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 2:42:45 น. 3 comments
Counter : 1843 Pageviews.

 
ขอบคุณที่ให้ความรู้คะ


โดย: tempopo วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:41:59 น.  

 


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:37:19 น.  

 
แฮ่ ใช่เล่มหน้าปกเหลืองอ่อนอ่ะเปล่า แบล็ควาเลนไทน์...


โดย: คอมี๋ย่างแซ๊บแซ่บ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:38:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.