10 ข่าวอาชญากรรมฉาวแห่งปี ของนิตยสารไทม์ ตอนที่ 2
คดีที่ 6 ฆ่าหิ้วหัวบนรถบัสเกรย์ ฮาวนด์ (A Bus Beheading)
คดีนี้ถือว่าเป็นคดีสยองขวัญจานด่วนเชียวแหละ เมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ (1 ส.ค.) ตามเวลาเมืองไทย ขณะที่รถโดยสารเกรย์ ฮาวนด์ กำลังวิ่งรอบที่ราบทางตะวันตก ในเมืองเอดมอนตัน เมืองวินนิเปก จังหวัดมานิโตบา ประเทศแคนาดา จู่ๆผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งขึ้นรถมากลางทางก็ควักมีดแรมโบ้ขนาดใหญ่ แทงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งสวมหูฟังและกำลังนอนหลับโดยเอาหัวพิงกระจกรถ ที่นั่งคู่กับเขาที่อยู่ติดหน้าต่าง ชายคนนั้นกระหน่ำ 50-60 ครั้ง ท่ามกลางความแตกตื่นของผู้โดยสารและคนขับรถ รวม 37 คน เด็กหนุ่มคนนั้นชื่อ ทิม แมคลีน อายุ 22 ปี หนุ่มน้อยที่มีความสุขในความโชคดีหลังเพิ่งได้งานทำในเอดมอนตัน และกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เขาก็พบความตายที่มาเยือนแบบไม่รู้ตัว นายแกร์เน็ต แคตัน พยานเล่าว่าผู้ต้องสงสัย ชายรูปร่างใหญ่สวมแว่นกันแดด เพิ่งขึ้นมาบนรถบัสราว 1 ชั่วโมงและทีแรกไม่ได้นั่งใกล้ แมคลีน ทว่าระหว่างรถหยุด ผู้ต้องสงสัยควักบุหรี่มาสูบและย้ายไปนั่งข้างๆ แมคลีน เมื่อเห็นว่าที่นั่งตรงนั้นว่างลงพร้อมกับเก็บประเป๋าไว้ที่ช่องเก็บด้านบน ครึ่งชั่วโมงต่อมา เขายืนขึ้นและจ้วงแทง แมคลีน ขณะที่ผู้โดยสารต่างพากันกรีดร้องด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ ก่อนจะวิ่งหนีลงจากรถไปหลบอยู่ริมถนน ขณะที่คนขับรถปิดประตูขังผู้ก่อเหตุไว้บนรถระหว่างคอยตำรวจให้มาระงับเหตุสยองขวัญ หลังเกิดเหตุสักพัก เขาและคนขับได้ย้อนกลับเข้าไปดูลาดเลาที่รถก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าผู้ก่อเหตุยังคงตัดร่างเหยื่อเป็นชิ้นๆ อยู่ โดยเหยื่อไม่เพียงถูกตัดศีรษะเท่านั้น แต่ยังถูกคว้านท้องด้วย จากนั้น ชายคนก่อเหตุได้เดินไปยังด้านหน้ารถบัสอย่างใจเย็นโดยที่มือยังถือมีดกับศีรษะของผู้ตาย ก่อนจ้องมองอย่างเลือดเย็น แล้วทิ้งศีรษะของผู้ตายลงบนพื้นต่อหน้าต่อตาคนอื่นๆ หลังได้รับแจ้ง ตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุแล้วล้อมรถโดยสารเอาไว้ ก่อนจะจับตัวคนร้ายได้หลังเผชิญหน้ากันนานเกือบ 3 ชั่วโมง แล้ว พบว่าฆาตกรโหดเป็นชาวจีนอพยพชื่อ วินซ์ เหว่ยกัง ลี่ อายุ 40 ปี ทั้งคู่ไม่รู้จักและไม่มีความแค้นกันมาก่อน ระหว่างปรากฎตัวต่อหน้าศาลระยะเวลาสั้นๆ ใบหน้าของ ลี มีรอยถลอกแต่ดูไม่สะทกสะท้าน มือขวาของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล ไม่ปริปากพูดและตอบคำถามของศาลเพียงใช่-ไม่เท่านั้น หลายนาทีต่อมา ศาลได้เลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 5 สิงหาคม ที่คาดหมายเพื่อให้อัยการได้มีเวลาขอให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินสภาพทางจิตของผู้ถูกกล่าวหาเสียก่อน
คดีที่ 7 คดีฆ่าโหดผู้ประกาศข่าวสาว (The Killing of the Anchorwoman)
ตำรวจเมืองลิตเติ้ลร็อค รัฐอาร์คันซอเชื่อว่า เหตุฆาตกรรมผู้ประกาศข่าวสาว Anne Pressley วัย 26 ปี เป็นเหตุฆาตกรรมแบบสุ่มฆ่า ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการทำงานของเธอ คนฆ่าไม่ได้เจตนาฆ่าเธอโดยตรง แต่เธอบังเอิญโชคร้าย ...มีข่าวลือใน Blog ด้วยว่า เธอถูกฆ่าเพราะเคยเป็นผู้ชายมาก่อน แต่ไม่มีใครออกมายืนยัน เธอเป็นคนดังผู้เป็นที่รู้จักกันดีของท้องถิ่น และเธอยังมีบทบาทเล็กๆในหนังชีวประวัติของประธานาธิบดี George W Bush ของผู้กำกับคนดัง Oliver Stone ด้วย โดยเธอรับบทเป็นนักวิเคราะห์ข่าวฝ่ายรีพับลิกัน ผู้กล่าวชื่นชมตอนที่ Bush ประกาศเพราะเข้าใจผิดว่า บรรลุภารกิจในสงครามอิรักแล้ว หรือ "mission accomplished" เธอถูกทำร้ายหลังจากหนังออกฉายได้เพียง 2 วัน Pressley เพิ่งกลับมาจากการไปดูหนัง ตอนที่ถูกทุบตีทำร้ายอย่างทารุณและถูกแทงที่บ้านของเธอในเมืองอาร์คันซอ กระดูกบนใบหน้าของเธอทุกชิ้นแตกยับเยิน บริเวณกรามถูกทุบตีจนกระดูกโผล่ออกมา แม่ของเธอเป็นคนไปพบลูกสาวจมกองเลือดอยู่บนเตียงในตอนเช้า เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่เธอจะต้องอ่านข่าวภาคเช้า และเธอสิ้นใจหลังจากนั้น 5 วัน ตำรวจฟ้องผู้ชายชื่อ Curtis Lavelle Vance ในฐานะผู้ต้องสงสัย โดยอ้างว่ามี DNA แต่เขายืนกรานว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง
คดีที่ 8 คดีเทรดเดอร์อัจริยะผลาญเงิน 7000 ล้านดอลลาร์ในฝรั่งเศส (France's $7 Billion Bank Bust)
ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคมปีที่แล้ว ธนาคารใหญ่สุดอันดับสองของฝรั่งเศส คือ โซซิเอเต้ เจอเนอรัล ต้องหาคำอธิบายว่า เหตุใด ถึงมีช่องโหว่ ให้พนักงานระดับกลางของตน ซึ่งเป็นเทรดเดอร์หนุ่มวัย 31 ปี ชื่อ Jerome Kerviel ผู้มีเงินเดือนไม่ถึง 150,000 ดอลลาร์ ต่อปี (ราวๆ 5 ล้านบาท) ทำให้ธนาคารสูญเงินไปถึง 7,000 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ 245,000 ล้านบาท) โดยที่คนเก่งๆในธนาคารไม่มีใครรู้ หนุ่มคนนี้ได้สมญานามว่าเทรดเดอร์ อัจฉริยะ เพราะเขาซึ่งทำงานอยู่ที่แผนกตราสารอนุพันธุ์หุ้นยุโรปที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารในกรุงปารีส ใช้ความสามารถในเรื่องระบบควบคุมความเสี่ยงของทางธนาคาร แอบนำเงินของทางธนาคารไปทำธุรกรรมกับดัชนีในตลาดหุ้นยุโรปอยู่นานหลายเดือนโดยไม่มีใครในธนาคารรู้เรื่อง และในที่สุด ก็ทำให้ธนาคารสูญเงินมากถึง 7,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อต้องปิดฐานะการลงทุนท่ามกลางภาวะผันผวนของตลาดหุ้นในช่วงต้นปีนี้ จนถึงปัจจุบัน ยังไม่รู้ว่า Kerviel' ทำแบบนั้นทำไมเพราะดูเหมือนเขาจะไม่ได้ผลประโยชน์ทางการเงินโดยตรงใดใดจากเรื่องนี้เลย และอันที่จริง เขายืนยันมาโดยตลอดด้วยว่า เขาไม่เคยซุกซ่อนสิ่งที่ทำจากเจ้าหน้าที่ธนาคารคนอื่นๆเลยด้วยซ้ำ
คดีที่ 9 ทายาทเก๊ตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ (The Con Man)
Clark Rockefeller อ้างตัวว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลรอคกี้เฟลเลอร์ อันยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ เขาเข้าเป็นสมาชิกสโมสรระดับสูงต่างๆ มีบรรดาเพื่อนฝูงเป็นชั้นสูง และแต่งงานกับสาวในวงสังคมชั้นสูง เขาสะสมงานศิลปะราคาแพง มีชีวิตสดวกสบายอยู่ในรัฐเวอร์มอนต์กับภรรยา คือ ซานดรา บอสส และเรห์ ลูกสาววัย 7 ขวบ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากเขาหย่ากับภรรยา ในปี 2550 และในเดือนกรกฏาคมปีนี้ ผู้ชายคนที่เรียกตัวเองว่า Clark Rockefeller ก็ถูกตำรวจจับกุมตัว หลังจากมีข้อกล่าวหาแปลกๆ ที่ว่าเขาลักพาตัวลูกสาว ในระหว่างที่เธอไปเยี่ยมเยียนเขาตามสิทธิ์หลังการหย่าร้างที่นครบอสตัน หลังจากนั้น ตำรวจก็พบว่าเขาไม่ใช่คนที่เขาอ้างว่าเป็น แต่เป็นผู้ชายนเยอรมนีชื่อ Christian Gerhartsreiter หรืออีกชื่อว่า Chris Chichester เขามีประวัติฉ้อโกง แถมตำรวจยังเชื่อมโยงเขากับการหายตัวไปเมื่อปี 2528 ของสามีภรรยาชาวรัฐแคลิฟอร์เนียคู่หนึ่งในอพาร์ตเมนต์ที่หนุ่มคนนี้เช่าอยู่ด้วย แต่เขาปฏิเสธทั้งสองข้อหา
คดีที่ 10 คดีฆ่าล้างครัวกับวิกฤตการเงิน (Murder and the Financial Crisis)
คดีนี้อาจไม่ได้มีเกี่ยวข้อโดยตรงกับวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำที่กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลกในตอนนี้ แต่คดีนี้เป็นข่าวเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่บริษัท Lehman Brothers จะล้มละลาย ตามมาด้วยการที่รัฐบาลสหรัฐฯต้องเข้าไปให้เงินช่วยสถาบันการเงินและภาคธุรกิจต่างๆไม่ให้ล้มละลาย ตลาดหุ้นตกหนัก และทุกคนเริ่มเป็นห่วงกลัวตัวเองจะตกงาน กลัวบ้านจะถูกยึดฯลฯ Karthik Rajaram เป็นผู้อพยพเชื้อสายอินเดีย ที่เดินทางมาขุดทองที่อเมริกาแบบ American dream ที่อเมริกา ในตอนแรกชีวิตดูดี เขามีหน้าที่การงาน ทำงานเป็นนักวิเคราะห์ทางการเงิน รายได้ก็มาก และเขาลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ จนมีบ้านหลังใหญ่ มีรถยนต์ราคาแพง ไว้อวดเพื่อนบ้าน แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ ส่งผลให้ต้องตกงานและสูญเงินไปกับการลงทุนเพราะตลาดหุ้นตกฮวบ ทำให้ล้มละลายและเมื่อหาทางออกไม่ได้สิ่งที่เขาคิดเวลานี้คือ ฆ่าตัวตาย แต่ไปคนเดียวคงเหงาๆ เขาเลยฆ่าคนในครอบครัวด้วย Rajaram ตัดสินใจฆ่าเมีย แม่ยาย กับลูกชายที่เขารักมากสามคน อายุ 19 ปี 12 ปี และ 7 ปี และ ฆ่าตัวตายตามครอบครัว
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2553 8:34:52 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2199 Pageviews. |
|
|