DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
10 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 

ฆ่าเมียนายกอบต. ประกบยิง-คารถ!


       2 มือปืนประกบรัว 11 ม.ม. สังหารเมียนายกอบต. ปากพลี นครนายก ตายสยอง ขณะขับรถจะเลี้ยวเข้าที่ทำงานสาธารณสุขอำเภอ ตร.สอบพบประเด็นร้อนเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายสงสัยสามีไปมีกิ๊กเป็นนักการเมืองหญิงท้องถิ่น ถึงขั้นบุกไปมีปากเสียงกับหญิงคู่กรณีหลายหน นายกอบต.สามีผู้ตายชี้ ภรรยาตัวเองรู้ตัวล่วงหน้าถูกปองร้าย บอกว่าถ้าเป็นอะไรไปก็เพราะเรื่องชู้สาว


            เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 3 มิ.ย. ร.ต.ท.สุทธินันท์ รอดคำวงศ์ ร้อยเวร สภ.ปากพลี จ.นครนายก รับแจ้งเหตุยิงกันที่ทางเข้าโรงพยาบาลปากพลี มีผู้เสียชีวิต จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.วันชัย เกศวรรัตน์ ผกก.สภ.ปากพลี พ.ต.อ.มานพ เกสร รอง ผบก.ภ.จว.นครนายก เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์เวร ร.พ.ปากพลี พบรถยนต์กระบะแวนยี่ห้ออีซูซุ รุ่นแอดเวนเจอร์ สีเลือดหมู ทะเบียน กข 7996 ปราจีนบุรี กระจกหน้ารถแตกทะลุเป็นรู บนถนนพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม. จำนวน 3 ปลอกตกอยู่ที่พื้น


            ในรถบริเวณที่นั่งด้านคนขับพบร่างนางชุมพิศ จันทราช อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ที่ 2 ต.ปากพลี เจ้าหน้าที่พัสดุ ชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอปากพลี ภรรยานายธวัชชัย จันทราช นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปากพลี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ปลายคางทะลุเข้าศีรษะ กระสุนฝังใน และมีบาดแผลอีกแห่งบริเวณข้อมือด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยรีบนำส่งโรงพยาบาลปากพลีเพื่อช่วยชีวิต ก่อนญาติจะตัดสินใจนำตัวส่งต่อมาที่โรงพยาบาลนครนายก แต่นางชุมพิศทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจระหว่างทาง


            สอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ผู้ตายขับรถยนต์คันดังกล่าวกำลังจะเลี้ยวเข้าที่ทำงาน ซึ่งอยู่บริเวณร.พ.ปากพลี เมื่อมาถึงทางแยกมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำ ไม่ใส่หมวกกันน็อก นั่งคอยอยู่บนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก ไม่ทราบสีและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หนึ่งในสองคนร้ายชักอาวุธปืนยิงผู้ตาย 3 นัด จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไปตามเส้นทางที่จะไป จ.ปรา จีนบุรี


            จากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ผู้ตายเป็นคนที่มีนิสัยโผงผางไม่กลัวใคร ส่วนปมสังหารน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้ผู้ตายมีปากเสียงกับนักการเมืองท้องถิ่นหญิงคนหนึ่ง เนื่องจากสงสัยว่านักการเมืองหญิงคนดังกล่าวลักลอบมีสัมพันธ์กับสามีของผู้ตาย ซึ่งเรื่องนี้ผู้ตายได้บีบบังคับให้สามีเลิกกับนักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าว และบังคับให้ปลดนักการเมืองคนนี้ออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ผู้ตายยังเคยพูดเปรยกับผู้ใกล้ชิดว่า หากตนเองเป็นอะไรไปก็มีสาเหตุเรื่องนี้อย่างแน่นอน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวพยานผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนขยายผล กระทั่งพอรู้เบาะแสมือปืนและผู้จ้างวานแล้ว โดยจะนำหลักฐานไปขออนุญาตศาลเพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป


            นายธวัชชัย จันทราช อายุ 53 ปี นายก องค์การบริหารส่วนตำบลปากพลี สามีของผู้ตายกล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องขึ้น ไม่น่าจะมาทำกับผู้หญิงแบบนี้ เท่าที่อยู่กินกับผู้ตายมาหลายสิบปีรู้นิสัยดีว่าไม่ใช่เป็นคนที่ชอบหาเรื่อง แม้ว่าจะมีนิสัยกล้า ไม่กลัวใคร ที่ผ่านมาผู้ตายมีเรื่องหึงหวงกับนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง เพราะเข้าใจว่าตนเองไปมีความสัมพันธ์กับนักการเมืองคนดังกล่าว โดยตนเองก็รับรู้มาว่าผู้ตายได้เคยมีปากเสียงทะเลาะกันกับคนผู้นี้มาหลายครั้ง ซึ่งตนเองคิดว่าผู้ตายรู้ตัวเหมือนกันว่าจะถูกปองร้าย เพราะได้บอกกับตนเองหลายครั้งว่าหากผู้ตายมีอันเป็นอะไรไปก็ขอให้มุ่งไปที่คนคนนี้เป็นหลัก เพราะเป็นคนเดียวที่มีปัญหากัน


            ด้านพล.ต.ต.อุฬาร อเนกบุณย์ ผบก.ภ.จว. นครนายก เปิดเผยว่า ขณะนี้แนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุ่งประเด็นไปในเรื่องชู้สาวเป็นหลัก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสสำคัญที่เป็นประจักษ์พยานพบเห็นมือปืนขณะกำลังก่อเหตุ ซึ่งเราได้นำตัวมาสอบสวน พร้อมสเกตช์ภาพคนร้าย และกำลังจะขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับมือปืนต่อไป ทั้งนี้ คาดว่ามือปืนน่าจะเป็นมือปืนรับจ้างหรือมืออาชีพ โดยดูจากพฤติกรรมการก่อเหตุที่อุกอาจ ส่วนเรื่องของผู้บงการนั้นเจ้าหน้าที่ก็กำลังติดตามเชื่อมโยงประเด็นต่างๆ เพื่อจะสาวไปถึงผู้จ้างวานให้ได้ต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าคงจะได้ตัวทั้งคนร้ายและผู้จ้างวานในอีกไม่นานนี้


            ต่อมาร.ต.ท.สุทธินันท์สอบสวนนางฉวีวรรณ เอี่ยมสะอาด อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.4 ต.ปากพลี ซึ่งเปิดร้านค้าอาหารตามสั่งอยู่ทางเข้าที่เกิดเหตุ ให้การว่า ขณะที่ตนเองเปิดร้านขายของอยู่ เวลาประมาณ 07.30 น. ได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด จึงวิ่งออกมาดูพบร่างนางชุมพิศ ซึ่งรู้จักกันดี นอนฟุบคาพวงมาลัยรถที่ใช้ขับไปทำงานที่สำนักงานเป็นประจำ ในสภาพเลือดไหลนองพื้น จึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาโบกรถให้กับนักเรียนที่โรงเรียนปากพลีวิทยาคารที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ส่วนคนร้ายตนเองตกใจไม่ทันสังเกตว่าขับรถอะไรมาก่อเหตุ และไม่เห็นคนร้ายที่ก่อเหตุยิงนาง ชุมพิศ


            จากการสอบถามพยานรายหนึ่งระบุว่า เห็นผู้ก่อเหตุขี่จักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีดำ คนขับสวมหมวกกันน็อก ส่วนคนซ้อนท้ายสวมหมวกไหมพรมปิดหน้าตามประกบมา จนเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจึงลงมือยิงนางชุมพิศ ขณะชะลอรถเลี้ยวเพื่อเข้าสำนักงาน เมื่อก่อเหตุแล้วได้ขี่รถหนีไปทางตัวอำเภอปากพลีอย่างรวดเร็ว


            ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพื่อนร่วมงานที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอปากพลี เจ้าหน้าที่ในสำนักงานต่างชี้แจงว่า ผู้ตายเป็นคนนิสัยดี อัธยาศัยดี ไม่เคยมีเรื่องกับใครในสำนักงาน ส่วนเรื่องส่วนตัวผู้ตายไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง


            ทางด้านนายชิดและนางวิเชียร คนซื่อ บิดามารดาของนางชุมพิศ ร้องไห้เป็นลมหมดสติ เมื่อทราบว่าบุตรสาวเสียชีวิต ส่วนสาเหตุของการถูกสังหารครั้งนี้ทั้งสองเผยว่า ไม่ทราบสาเหตุ เพราะบุตรสาวไม่เคยเล่าให้ฟัง
ข้อมูลจากข่าวสด




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2553
1 comments
Last Update : 10 มิถุนายน 2553 0:57:18 น.
Counter : 2577 Pageviews.

 

ตำรวจอยู่ใต้ผู้มีอิทธิพล ไม่กล้าจับคนผิดมาลงโทษ

 

โดย: แอนนี่ IP: 125.27.121.35 28 กันยายน 2553 13:53:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.