มาถึงแล้ว สำหรับไฮไลท์ที่เราไม่ได้เตรียมใจรับมันมาก่อน
เบรคดิไอซ์การละลายน้ำแข็ง ให้พฤติกรรมของทุกคนหล่อหลอม รวมเป็นสบายๆ ต่อกัน
บ้านเมืองเรา ก็อาจมีเล่นกิจกรรมพวกลมเพลมพัด ถามชื่อ ตอบคำถามเพื่อนที่เราไม่รู้จัก โน่น นี่นั่น
ที่นี่ ทีมอื่นเป็นไง ตอนนี้ยังไม่รู้แต่ทีมเรา เล่นเกมส์ โทรศัพท์
โอ๊ะ!ที่นี่ก็มีเกมส์โทรศัพท์เหมือนกันรึเนี่ยะ
ก็ให้แต่ละคนนั่งล้อมวงกันโดยมีคนหนึ่งเป็นคนทาย จำไม่ได้ว่าเลือกวิธีไหน แต่มีผู้โชคดี นั่งกลางวง
เราเอามือจับที่ข้อศอกของคนข้างๆแล้วให้กระดิกนิ้ว โดยไม่ให้คนกลางวงจับได้ว่า เรากระดิกตอนไหน และนิ้วไหนหากจับได้ คนกลางวงจะเรียก แล้วเราจะโดนทำโทษพร้อมกับไปนั่งกลางวงแทน
ที่บอกว่าคนนั่งกลางวงโชคดีนั้นคือเธอเป็นคนแรก ที่ได้นั่งกลางวง ลดโอกาสการถูกทำโทษไปแล้วหนึ่งตา
ฉันก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นโชคดีที่มลังเมลืองอะไรนักหนา...จนกว่าจะถึงช่วงทำโทษ
สารภาพเลยว่าช่วงเวลาที่ดาร์กและช็อคที่สุดในชีวิตการเป็นติ่งเกาหลี อยู่ที่วันนี้เลย
เคยน้ำลายฟูมปากไหม...
แม้จะเป็นคำเปรียบเปรยแต่ก็ใกล้เคียงสุดๆ ไปเลยสำหรับความรู้สึกที่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น
เล่นไปสักพัก ก็มีคนโดนสอย กล่าวคือเล่นเกมส์แพ้ เพราะดันสะเออะโทรศัพท์แรง ไม่เนียนจนคนตรงกลางจับได้
เราชาวไทยเห็นกลุ่มคนเกาหลีขยับตัวเข้าไปเราก็ขยับตาม
แล้วเขาก็ให้คนที่แพ้ก้มตัวลงเหมือนนั่งคุกเข่าแล้วพับตัวไปกอดเข่า ท่าประมาณนั้น
ทีนี้ ทั้งวงก็เงื้อมือ.......มีแบบว่า...เป่าที่มือ เผื่อวิชากรงเล็บกระดูกขาวจะพวยพุ่งขึ้นมาฝ่ามือพิชิตมังกรจะร้อนได้ที่...ทุกคนแบบว่า ง้างสุดแรงเกิด...สุดแรงเกิดจริงๆนะ...แล้วก็ ฟาด ตู้ม!!!!!!! ลงไปพร้อมกันที่หลังของเหยื่อ เอ้ย...เพื่อนคนนั้น
จะเรียกว่าฟาดป้าบ...มันไม่ใช่เสียงที่แท้จริง
คือมันดังมากแล้วมันก็โหดมาก แล้วมันก็ช็อคมาก
คนไทยมองหน้ากันเหวอ...นี่มันคือที่ไหนคุกใต้ดินรึเปล่าพวกเรามาทำอะไรกันที่นี่...คนไทยบางคนในกลุ่มที่ก็พยายามหลิ่วตาตาม...ก็ได้แต่แปะมือเบาๆลงบนหลังเพื่อนคนนั้น
ใครจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่อิฉันน้ำลายฟูมปากพะย่ะค่ะ
เฮ้ย นี่มันทำไมโหดร้ายกันขนาดนี้
มารู้ทีหลังว่าเกาหลีจริงจังทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่การทำโทษ
โหดเหี้ยมทารุณกันไปไหมของเราอย่างมาก ก็ดีดมะเหงกเบาๆ ดีดหูเบาๆ แค่เนี๊ยะ พอเป็นพิธี
เกาหลีบอก มันจะไปสนุกอะไร
จะว่างั้นมันก็...อาจมีส่วนที่ว่าลุ้นกันได้จริงจัง
แต่เกมส์นี้นั้นขอปวารณาเลยว่า ไม่ขอแพ้เป็นอันขาด
พวกเราคนไทย กลั้นใจเล่นแบบ...เมื่อไรจะผ่านช่วงเวลา break the life นี้ไปซะทีนะ เครียดจะแย่แล้ว
เพื่อนเกาหลีในวงก็ทยอยโดนฟาดกันในกระบวนท่าต่างๆยิ่งเล่น ยิ่ง break the ice ทำให้คนรอบวงยิ่งสรรหาท่าทางสุดหฤโหดมา บางคนแบบว่ายืนฟาดกันเลยทีเดียว
นี่พวกแก รู้ไหมว่า เมืองไทยบอกว่าใครตีหลังเพื่อน แม่เธอมีโรคภัยนะรู้ป่ะ
ได้แต่นึกออกในภายหลังและคงจะพูดออกไปไม่ทันหรอก เพราะมันช็อคซีเนม่าเกินบรรยาย
แล้วมันอาจยังช็อคกับความโหดของการลงโทษไม่พอ
เมื่อมีคนแบกศพ=_= เอ้ย แบกดักแด้ คือ คนที่คลุมโปงในผ้าห่มสีขาว มาจากห้องอื่นแล้วมาเทลงในห้องของเรา
พร้อมพูดโช้งเช้งอะไรสักอย่างแปลให้เสร็จเลยก็คือว่า จะมารุมสกรัมทำโทษร่วมกันในห้องของเรา
ทุกคนดูพร้อมพรักสมัครสมานในการทำโทษนี้มาก
ซึ่ง....ตามสไตล์ของเกาหลีที่เราพอจับทางได้คือ...เหนือฟ้ายังมีฟ้า
เศร้าแล้วมีเศร้าอีก...และในกรณีนี้...โหดแล้วยังมีโหดได้อีก
ฉันนี่จินตนาการไม่ออกเลยทีเดียวในชีวิตนี้ไม่เคยพบไม่เคยเห็นจะบอกให้
และไม่ขอบใจนะที่ทำให้ได้เห็นในคราวนี้
เชื่อว่าคนเกาหลีเกินล้านคนคิดว่ามันไม่ได้โหดอะไร มันธรรมด๊าธรรมดามาก
แต่การที่คนรุมทั้งฝ่ามือ ฝ่าเท้ารุมยำเพื่อนที่เล่นเกมส์แพ้เป็นดักแด้ในผ้าห่มนี่มัน....อารมณ์ไหน
คนไทยกองรวมกันมุมหนึ่งของห้องโดยมิได้นัดหมายมองหน้า อ้าปาก บ้างหน้าซีด บ้างบอก ทำไมมันโหดยังงี้
ยำไปซักพักไม่รู้เอาหลักเกณฑ์ไหนมาบอกว่าควรพอได้แล้ว
แต่พอคลี่ออกมา...แม่จ้าว....เพื่อนดักแด้นั่นเป็นผู้หญิงนะคะ!!!
เขาเล่นสนุกอย่างนี้กับเด็กผู้หญิงสนุกบ้านใครไม่ทราบ! โหดร้ายมากกกกกกกกเจ้าข้าเอ๊ย
แต่ฉันก็คงไม่สำเหนียกว่าความหฤโหดนี้มันมีในยีนส์คนเกาหลีไม่น้อย และก็ไม่มีวันรู้ด้วยว่า ยีนส์นี้มีมาแต่หนไหน จนกว่าจะได้ประสบพบเจอด้วยตัวเอง (อ่านต่อตอนเข้าทำงาน)