space
space
space
<<
เมษายน 2565
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
space
space
21 เมษายน 2565
space
space
space

SIM card in Tesla model 3 เจอแล้วอยู่ตรงนี้
อยู่ดี ๆ เมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว นับได้ประมาณไม่ถึง 8 เดือนดีหลังจากใส่ SIM อันใหม่ของค่ายที่หุ้นแพงที่สุด ที่มีลูกค้าเยอะที่สุด ได้รับเรตติ้งว่าสัญญาณดีสุด ก็เกิดเหตุอาเพท คือน้องโบลต์ไม่สามารถหาคลื่น LTE ได้ ด้วยความงง เพราะตอนซื้อซิมมาก็โฆษณาว่าเป็นซิมรายปี จ่ายเงินไปเกือบ 2K นี่ใช้ได้แค่ยังไม่ถึง 8 เดือน ใยถึงดับ

คนขับรถเราก็โทรไปถามคุณ ก. ที่วสุธา ก็ได้รับคำตอบว่า อ๋อ ต้องใส่ซิมใหม่แล้วก็จะหายค่ะ  เอ  แล้วซิมเก่าทำไงอะ จ่ายค่าบริการ 1 ปี ใช้ได้ 8 เดือน เราก็สงสัยเป็นที่สุด เราค่อนข้างมั่นใจว่าซิมของ อออ. คงยังน่าจะไม่เจ๊ง แต่ทำไมเทสล่าไม่ยอมอ่าน ช่วงนี้ก็แอบซึมซาบอารมณ์ของการไม่ใช้ซิมว่าเป็นไง ก็ลองต่อผ่าน wifi ดู มันก็โอเค ยกเว้นเวลาน้องโบลต์ไปอยู่ที่ที่ไม่มีสัญญาณ wifi ที่เค้ารู้จัก เช่น ไม่ได้จอดที่บ้าน ไม่มีโทรฯ ของเราหรือของคนขับเราที่เค้าสามารถต่อ hot spot ได้ ก็เกือบ ๆ จะไม่เดือดร้อน ถ้าไม่ได้ใช้ TeslaFi หรือ ไม่ได้อยากใช้ tesla app เชื่อมต่อ สั่งงาน หรือดูว่าตอนนี้อยู่ตรงไหน ฯลฯ  สรุปว่าในที่สุด ทนไม่ได้  ก็เลยต้องพยายามใส่ซิมใหม่เข้าไป

ครั้นจะให้ขับรถไปตั้งเกือบ 20 กม. ไปวสุธาไปเปลี่ยนซิม ก็เกิดอาการเซ็ง อีกอย่างเราก็ยังสงสัยว่าทำไมซิม อออ. เราถึงดับ ไม่อยู่ในอารมณ์จะไปถอยซิมรายปีมาใหม่ แต่ยอมแงะเอาซิมที่อยู่ใน ipad เราซึ่งเป็น ซิมของดีแตกซึ่งเป็นซิมเสริมแพ็จเกจเดียวกับรายเดือนของโทรฯ ที่เราใช้งานอยู่ ช่ายฮะ เราใช้ดีแตก แต่ คนขับรถเราเค้า loyal to AIS แต่เราก็ถือหุ้น ADVANC นะ อ้อ จริง ๆ ถือมันหมดทุกค่ายเลย รวมทั้ง INTUCH ด้วย ฮี่ ๆ

ตอนนู้นจำได้ว่าตอนที่ขับไปวสุธาให้เค้าเปลี่ยนซิมให้ (เดิมทีเราใช้ซิมเสริมของ AIS ที่อยู่ในแพ็จเกจเดียวกับโทรฯ ของคนขับรถเรา แล้วมีปัญหาว่าเค้าไม่มีเบอร์ให้ SMS เข้าไปปลุก ก็เลยไปถอยซิมรายปีซึ่งมีเบอร์ตะหากของตัวเอง จะได้เอาไว้ส่ง SMS เข้าไปปลุกรถได้) ตอนนู้นทางวสุธาเค้าให้น้องผู้หญิงท่านหนึ่ง ตัวเล็ก ๆ มาทำให้ น้องเค้ามาด้วยแหนบ 1 อัน กับโทรฯ มือถือของเค้าเพื่อใช้เป็นไฟฉาย แล้วก็แกะแผงล่างใต้คอนโซลด้านผู้โดยสาร แล้วก็ทำการเปลี่ยนซิมให้เราใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ไม่ต้อง power off ไม่ต้องถอดแบตอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น เร็วจนดูไม่ทัน ดูไปก็ไม่เห็น เพราะน้องเค้ามุดลงไป

รอบนี้เราก็เลยเกิดฮึดขึ้นมาว่าถ้าน้องเค้าทำได้ เราก็น่าจะทำได้น่า

ก็เลยมุดลงไปดูบ้าง ถอดแผงพลาสติกด้านล่างไม่ยากมาก เพราะเค้าถูกยึดอยู่ด้วยหมุดพลาสติก 3 ตัว (model 3 รุ่นเก่าเคยมีหมุดยึดมากกว่านี้) แต่ไส้ไก่ในหมุด มันอาจจะหลุดออกมาจากตัวหมุด grommet ถ้าหลุดออกมากันหมด ก็จะมีทั้งหมด 6 ชิ้นส่วน อย่าให้หายเชียว แผงหลุดออกมาง่ายแต่มีสายไฟอีกสองคู่ สายลำโพง tweeter อันนึง สาย footwell LED light อีกอัน สายลำโพงเราถอดออกได้ง่าย แต่สายไฟ LED เราดึงไม่ออก (ออกอารมณ์ไม่กล้าดึงมากกว่า) ก็เลยไปหาไขควงปากแบนอันเล็กมากดเงี่ยงล็อกเค้าลงนิดนึงแล้วมันก็ออกมาได้โดยง่าย (ตอนที่น้องที่วสุธาทำตอนนู้น เค้าไม่ได้ถอดสายออกด้วยซ้ำ ปล่อยแผงห้อยต่องแต่งอยู่ แล้วมุดเข้าไปทำ ชำนาญขนาดนั้น)

ที่ไม่เจียมสังขารก็คือสายตา อายุอานามปาไปเข้าปูนนี้ ระยะที่มองเห็นได้ชัดมีจำกัด บังเอิญว่าวันที่มุดลงไปถอดใส่ contact lenses อยู่ สำหรับเราถ้าใส่ contact lenses จะมองไกลชัด ถ้าใส่แว่นอ่านหนังสือลงไปจะมองใกล้ชัด แต่ถ้าอยากชัดแจ่มเวลาทำงานละเอียด ๆ ต้องใส่แว่นอ่านหนังสือลงไปอีกอันนึง เป็นสองอัน หรือดีที่สุดก็คือ ไปถอด contact lenses ออก แล้วมองด้วยตาเปล่า อันนี้คือมองใกล้ชัดสุด แต่พอจะมองไกลขึ้นมา ก็ต้องหยิบแว่นสายตาขึ้นมาใส่ แว่นสายตาไม่ใช่แว่นอ่านหนังสือ แว่นสายตาในที่นี้คือแว่นที่เป็น bifocal lenses ความลำบากของชีวิต สรุปว่าวันแรกใส่ contact lenses อยู่ ทำงานไม่ได้ หาระยะชัดไม่เจอ ไม่ได้เอาแว่นอ่านหนังสืออันที่สองลงไป มุมและท่าที่ทำงานก็อึดอัด คับแคบ ก็เลยต้องรออีกวัน

มองไม่เห็นจากมุมล่างว่าซิมอยู่ตรงไหน แต่เอากระจกที่ทันตแพทย์ใช้ส่องดูฟันผุ ส่องดู (ไม่ได้ถ่ายรูปตอนนี้มา แต่มีรูปคนอื่น ด้านหลังที่เค้าถอดซิมออกแล้ว) ก็เห็นสันขอบพลาสติกสีขาวที่เราคิดว่าเป็นซิมการ์ด แต่เค้ามีเงี่ยงล็อคอยู่ เราก็เอาปลายแหนบเราเขี่ยเงี่ยงล็อคให้เค้าขยับออกไป แต่ซิมมันไม่ถูกดันออกมาอยู่ดี ต้องเอาแหนบคีบออกมาดื้อ ๆ (ลองส่องกระจกดูแล้วเอาแหนบคีบออกมาเลย ตอนคีบ มันจะส่องกระจกไม่ถนัด เพราะไม่มีมือ ต้องใช้ความรู้สึกบวกจินตนาการแล้วคีบออกมา) เย้ เย้ ดีใจ ได้ซิม AIS ออกมาแระ ตามคาด เราก็ลองเอาซิมรายปี AIS มาลองใส่ใน iPad ปรากฎลื่นปรี๊ดเน็ตมา ใช้งานได้ปกติ แอบเร็วกว่าซิมดีแตกของเราซะอีก  ก็เลยต้องทำการแลกตัวกัน เนื่องจากซิมที่ใส่ในรถเป็นซิมแบบขนาดปกติ ปกติแบบโบราณเลย macroSIM น่ะ แต่ซิมใน ipad เป็น nanoSIM ก็แลกที่ใส่ลงไปใน  สะ-ล็อต (คำต้องห้ามของ bloggang นี้) macroSIM ของ AIS แล้วก็เอาสก๊อตเทปปะด้านหลังไว้กันหลุด แล้วก็มุดเข้าไปเสียบอีกรอบ เวลาเสียบต้องเอาสันแหนบดันซิมเข้าไปให้สุด มันจะได้ยินเสียงล็อก คลิ๊ก เบา ๆ

voila เย้ เวิ้ค ตามที่คุณเกดบอกเดี้ยะ ก็ตามนั้นแต่เราก็ยังติดใจ สงสัยว่ามันจะเกี่ยวข้องกับ software update รึเปล่าว่าทำไมมันจะต้องมาเปลี่ยนกันทุก ๆ 8 เดือนเชียวเหรอ  ก็เลยแอบลองให้คนขับเราเค้าถามคุณใจ๋ เค้าก็ยืนยันเหมือนคุณเกด ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของชาววสุธา

เราก็เลยแอบไปขุดดูบนเน็ต ก็พบว่ามีพวกชาวยุโรปบางท่านที่อิมพอร์ตรถจากเมกาเข้าไปในยุโรป แล้วก็พยายามหาวิธี disable eSIM หรือทำให้ซิมธรรมดาเวิ้คแบบเรา  ของคนอื่นเค้าท่าทางจะลำบากกว่าเราเยอะ มีการแกะแผงวงจรออกมาทำนู่นนี่ สำหรับรถเรา เราไม่พบว่ามีร่องรอยการแกะ เราไม่คิดว่าทางวสุธาแกะอะไรออกมา คิดว่าคงมีการเสียบสายอะไรสักอย่างเพื่อเชื่อมต่อกับ laptop แล้วส่งคำสั่งเค้าสั่งให้ disable eSim (ที่เค้าบอกว่าต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญตปท.มาทำเสียค่าจ้าง $1000 อะ) ก็ไม่แน่ใจว่าอันนี้มันเป็นสาเหตุที่ทำให้มันเวิ้คแค่ 8 เดือน รึเปล่า

อย่างไรก้อตาม ต่อให้เรารู้แล้วว่าซิมมันอยู่ตรงไหน รู้ว่าแกะเปลี่ยนใส่ใหม่อย่างไร เราก็ไม่อยู่ในอารมณ์จะมุดเข้าไปทำเยี่ยงนี้ทุก ๆ 7-8 เดือน เราก็เลยแอบไปค้นหาอุปกรณ์ที่เป็นสายพ่วงให้ต่อออกมา กะว่าจะได้เปลี่ยนซิมได้ง่าย ๆ หน่อย เด้วถ้ามาถึงแล้วทำสำเร็จจะมาอัพเดตให้ฟังนะคับ ตอนนี้ของยังไม่มา ต้องส่งมาจาก ตปท. ซึ่งกำลังมีการล็อกดาวน์อยู่ (เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน)


อันนี้ภาพเดิมที่เคยโพสต์ไป น้องเค้าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เค้ามุดเค้าไปแบบนี้ ของเรานอนหงาย ขาพาดบนบนหน้าเลย หันข้าง ๆ ทำไม่ถนัด เราไม่เคยมุดมาก่อน


อันนี้เป็นภาพจากฟอรั่มใน teslaowneronline.com ที่เราไปเจอ เค้าก๊อปภาพให้ดูจาก service manual ของ Model 3  รุ่นเก่าซึ่งยังใช้ hardware 2.5 อยู่ ของรุ่นใหม่หน้าตาอาจจะไม่เหมือนทีเดียวแต่ก็ใกล้เคียง ที่ว่าซิมมันจะคว่ำหน้าอยู่  (ในรูปเหมือนหงาย) แต่ของจริง เนื่องจากตัว MCU เค้าติดอยู่ในลักษณะแนวดิ่ง หันออก เวลาเรานอนลงไปนอนหงาย เราต้องเห็นด้านที่เป็น contact เค้าจะมีเงี่ยงล็อคไว้ที่ต้องผลักไปด้านข้าง ๆ เพื่อให้ซิมเค้าถดออกมานิดนึง แต่จะไม่เด้งออกมา ต้องเอาแหนบคีบออกมา ตอนใส่ก็ต้องหาอะไรดันเข้าไปจนล็อกคลิ๊ก
 


อุปกรณ์ที่จำเป็น (สำหรับเรา) ทีนี้ถ้ารู้แล้วว่าช่องใส่ซิมอยู่ตรงไหน ก็ไม่ต้องเอากระจกไปส่องแล้วล่ะ อย่างน้องผู้หญิงที่วสุธา เค้าก็มากะโทรฯ(ใช้เป็นไฟฉาย) กะแหนบคีบ เราแก่แล้ว ขอไฟฉายดี ๆ หน่อย ไฟจากโทรฯ มันสว่างไม่พอ


อันนี้เป็นภาพถ่าย เราคิดว่าน่าจะเป็นกล่องคอมพิวเตอร์ของรถเลย ไม่พบว่ามีร่องรอยการแกะ (ดูจากปากกาเขียว ๆ ที่ขีดมาร์กที่สกรูอยู่ที่เดิม) ตรงส่วนที่เป็นซิมสลอท อยู่ถัดไปด้านขวามือ (ดูรูปข้างล่าง) ถ้าใครไม่เคยคีบมาก่อน ลองเอากระจกทันตแพทย์ส่องดูแล้วจะเห็น สันขาว ๆ ของ ซิมการ์ด


ส่วนที่เป็นช่องใส่ซิมอยู่ด้านซ้ายมือ อันนี้เป็นภาพถ่ายที่ถ่ายจากตรงที่นั่งผู้โดยสารจากมุมล่างขึ้นมา แต่ยังไม่ได้มุด จะเห็นว่าซิมจะหันด้านที่มี contact ออกมาในลักษณะนี้ ด้านบนมีปล่องลมเป่าแอร์อยู่


ระวังเวลากดเอาซิมออก ต้องจำไว้ว่าให้เวิ้คที่สล็อทด้านซ้ายมือ อย่าได้ไปยุ่งกับด้านขวามือ (อันนั้นเป็น Micro SD card) ภาพจากมุมนี้ก็มองจากที่นั่งผู้โดยสาร ยังไม่ได้ก้มหัวลงไปมองจากด้านล่าง ก็สังเกตว่าซิมเค้าจะหันด้านเป็น contact ออกมา


พอมุดเอาหัวเข้าไปข้างล่างก็จะเห็นภาพมุมนี้ ก็คือเราอยู่ต่ำกว่ากล่องคอมพ์แล้วมองขึ้นบน ซิมก็ยังหันด้าน contact ออกจากผนังอยู่ดี (หันไปที่นั่งผู้โดยสาร) ปกติเค้าจะไม่ยื่นมาขนาดนี้ อันนี้คือเอาปากคีบหนีบออกมาเกือบครึ่งทางแล้ ก็มักจะมองเห็นได้แค่ประมาณนี้ ไม่สามารถยื่นหัวไปไกลกว่านี้ได้เพราะติดผนังแล้ว ในช่องใส่ซิมด้านซ้ายมือจะมีเงี่ยงสีดำ ๆ เป็นตัวล็อกซิมเวลาดันเข้าไปจนสุด (ดูรูปข้างล่าง) มันจะมีเสียงคลิ๊กเบา ๆ เงี่ยงนี้มองเห็นไม่ถนัดด้วยตาเปล่าจากด้านล่างเพราะหัวยื่นเข้าไปได้ไม่ถึง ต้องเอากระจกส่องแล้วจะเห็น (ฉายไฟฉายด้วย)น้องตัวเล็ก ๆ หัวเล็ก ๆ เค้าอาจจะพอเห็นด้วยตาเปล่า แต่หัวขนาดเรามองไม่เห็น ต้องเอากระจกส่อง


รูปนี้ไม่ใช่ของเรา ไป plagiarize เค้ามา (ฮี่ ๆ) แต่เค้าถ่ายมาชัดดี ตามที่เราจะอธิบายว่ามันมีเงี่ยงที่ต้องผลักไปข้างซ้ายก่อนที่เราจะหนีบซิมออกมาได้ เข้าใจว่าเวลาใส่ซิมใหม่แล้วมันลงล็อค ดังคลิ๊ก เงี่ยงนี้น่าจะเขยิบออกมาทางขวาเอง อันนี้เป็นหน้าตาเราจะเห็นเวลาจะมองจากด้านล่าง นอนหงายมุดเข้าไปแล้วเงยหน้าขึ้น


พยายามจะถ่ายฉลากแปะบนตัวคอมพ์เค้า โห แหลกไฟ 12V ตั้ง 10A -120W เลยนะเนี่ย น่าจะเป็นตัว autopilot computer เลยล่ะ เค้ามีท่อ liquid cooling เข้ามาด้วยนะ (ดูจากห้องเครื่องด้านนอก) น่าถ้าใช้ Apple chip คงจะไม่ต้อง liquid cooling ประหยัดกว่านี้


หน้าตาซิมที่เอาออกมา มีรอยโดนคีบตรงปลายเล็กน้อย พอแกะเอา nanosim มาใส่ใน ipad ก้อเวิ้คดีอยู่ สรุปว่าตอนนี้เลยแลกซิมกัน เอาซิมดีแตกจาก ipad ไปใส่ในรถแทน ใช้งานได้ปกติ แต่ไม่สามารถส่ง SMS ไปปลุกเค้าได้ เนื่องจากซิมดีแตกของเราเป็นแพ็คเกจเดียวกับเบอร์โทรฯ ปัจจุบันของเรา ไม่มีเบอร์โทรแยกตะหาก

เวลาคีบซิม ดูว่าถูกสล็อท ใช้สล็อททางซ้ายมือ (ก่อนก้มมองจากด้านล่าง) ถ้าก้มมองจากด้านล่างแล้วกลายเป็นสล็อททางขวามือของเรา หรือพูดง่าย ๆ คือสล็อทที่อยู่ชิดประตูรถ เพราะถ้าไปยุ่งกับอีกสล็อทนึง อาจจะได้ Micro SD card หลุดออกมาแทนแล้วเราก็จะมีอีกบล็อกนึงเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นถ้า microSD card หลุดออกมา(จากอีกสล็อทนึงที่อยู่ไปทางด้าน center console) เด้วเล่าให้ฟังอีกบล็อกนึง


Create Date : 21 เมษายน 2565
Last Update : 19 พฤษภาคม 2565 12:04:09 น. 0 comments
Counter : 4127 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

gollygui
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]






space
space
[Add gollygui's blog to your web]
space
space
space
space
space