space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
space
space
22 กุมภาพันธ์ 2564
space
space
space

เลือกสี เลือกเบาะ เลือกล้อ
การเลือกนู่น นี่ นั่น จิปาถะสำหรับ Tesla ก็ไม่ยากเมื่อเทียบกับ Porsche เนื่องจากสองคนไปคนละแนวทาง  ตอนแอบเลือก Porsche ก็ตกใจนิดนึงว่าเค้าตามใจลูกค้าซะขนาดนี้ คือเลือกได้แทบจะทุกกระเบียด (แน่นอน ราคาก็บวก บวก ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ) แต่ละอัน คลิ๊กทีแทบตกใจ  ค่อนข้างจะมั่นใจได้ว่าไม่น่าจะมี Porsche สองคันไหนเหมือนกันไปหมดซะทุกอย่าง 

แต่สำหรับ Tesla ความที่เค้าไม่ได้ต้องการเป็น high end luxurious car เค้าก็ไม่ได้ตามใจลูกค้าขนาดนั้น options ปรับแต่งก็มีให้เลือกไม่เยอะ  หลังจากเราตัดสินใจได้ว่าจะเอารุ่นไหน Standard range plus, Long range หรือ Long range performance เค้าก็จะให้เราเลือกได้อยู่ไม่กี่อย่างเช่น

การเลือกสีรถภายนอกก็ถือว่ามี options มากกว่าตอนซื้อสโนว์ (Mercedes C350e) ซึ่งมีให้เลือกแค่ ขาว ดำ เงิน แค่นี้  ของเทสล่ามีให้เลือก ขาว ดำ เทา น้ำเงิน แดง สีขาวให้ฟรี สีอื่น ๆ ต้องจ่ายเพิ่มอีก 1000 USD ในเมกา หรือ 1000 GBP ในฝั่งอังกฤษ ยกเว้นสีแดงจะโดนเพิ่ม 2000 USD/GBP  ซึ่งก็ไม่ค่อยแฟร์เพราะตอนนี้เงินปอนด์แข็งกว่า ให้คิด 1000 หน่วยเหมือนกัน 1000 GBP จะแพงกว่า 1000 USD อยู่ประมาณ 1 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม เกรย์ส่วนใหญ่ในเมืองไทยจะเหมาเป็น 5 หมื่นบาท ซึ่งตรงนี้ถ้ามีการต่อรองเค้าก็มักจะแถมให้ได้ แต่คงได้รายการเดียว ถ้าขอสีแดงนี่คงจะโดนเพิ่มอีก 1 แสนบาท เค้าคงไม่ยอมแถมฟรีแน่นอน รายงานการศึกษาพบว่าตำรวจทางหลวงฝรั่งชอบดักจับรถสีแดง รถสีแดงมักจะมีนัยสำคัญต่อการเป็นรถซิ่ง การที่เทสล่าขอ 2000 USD/GBP สำหรับสีแดงก็คงไม่มีเหตุผลอะไรมากนอกเหนือไปจากความต้องการอยากให้สีแดงเป็นสีพิเศษ มันเป็นสีพื้นของบริษัทเค้าด้วย บ่งบอกถึงความเร็ว ความร้อนแรง  บังเอิญมิเคยอยากได้อะไรสีแดง ๆ เท่าไหร่ ยกเว้นเวลาทำงาน อยากเห็นเลือดเป็นสีแดงไม่อยากได้เลือดดำ

ขนาดมีสีให้เลือกไม่เยอะ คนขับเราก็ยังคิดไม่ตก ตอนแรกเราก็อยากได้สีเทา เพราะได้ยินมาว่า paint job ของ Tesla ห่วยแตก กะว่าเอาสีเทามา สามารถไป vinyl wrap ได้หลายเฉดสีเทาอย่างที่อยากได้โดยไม่ต้องแจ้งขนส่ง คนขับเราตอนแรกอยากได้สีน้ำเงิน แล้วก็เปลี่ยนใจ หลังจากที่เราค้นคว้าเพิ่มเติม ก็พบว่าตอนแรกเมื่อปี 2017/2018 ทางเทสล่าเคยให้สีดำเป็นสีมาตรฐาน แล้วสีขาวกลายเป็นสีที่ต้องจ่ายเพิ่ม 2000 USD ตอนหลังอยู่ดี ๆ ก็มาเปลี่ยนว่าให้สีขาวเป็นสีฟรี แล้วสีอื่นๆ ต้องจ่ายเพิ่ม จังหวะนี้ถึงกับมีคนออกมาบ่น ว่าตรูเพิ่งจะจ่าย 2000 เพิ่มสีขาวไปทำไมทำยังงี้...

อ่านใจไม่ออก แต่เดาว่าเนื่องจากสีดำเป็นสีที่มีรอยได้ง่าย รอยขนแมว รอยสารพัด คาดว่าเนื่องจากคุณภาพการผลิตห่วยอยู่เดิมละ บังเอิญว่าสีดำเองก็เป็นสียอดนิยมอยู่แล้วด้วย ให้ฟรี ก็เข้าทางคนก็สั่งเยอะ พอตอนรับรถ ก็เห็นรอยเต็มไปหมด ก็อาจจะเป็นปัญหาว่าเกิดการปฏิเสธการรับรถหรือมีการแจ้งเคลมเยอะมาก  เดาว่าสุดท้ายเทสล่าถึงบางอ้อ เลยตัดสินใจให้ขาว (ซึ่งมองเห็นรอยได้ยากกว่า แต่จะเห็น panel gap ชัดเจนกว่า) กลายเป็นสีฟรีไป  เป็นความจริงอยู่อย่างว่ารถสีขาวที่เมกาไม่ค่อยได้รับความนิยม อันนี้เห็นชัดว่าสีขาวมักจะเป็นสีฟรี แล้วก็ไม่ค่อยมีคนเลือก เวลาไปเช่ารถ Avis, Hertz, Budget, etc มักจะมีแต่รถสีขาวเพราะเป็นสีที่ขายไม่ออก ส่วนประเทศไทยนี่ตรงกันข้ามเลย มองไปรอบๆ สิ รถสีขาวเพียบ ยอดนิยม

ปรากฎว่าความดีของสีขาวของเทสล่าคือ 1) เป็น multicoat (แดงก็ multicoat แต่ถ้าเลือกแดงโดนอีก 2000 GBP หรือ 1 แสน)  2) เป็น Pearl white ชื่อเต็ม ๆ เค้าคือ Pearl White Multi-Coat หรือสำหรับคนไทยคือขาวมุก  ซึ่งเป็น option ที่ปกติคนไทยต้องจ่ายเพิ่ม  เออดี นะ สีนึงที่ฝรั่งเค้าไม่นิยม ได้ฟรียังไม่เอา สำหรับพี่ไทย (ถ้าเป็นรถยี่ห้ออื่น) ต้องจ่ายเพิ่มโดยเฉพาะ ขาวมุก จ่ายเพิ่มเยอะเลย

เนื่องจากน้องสโนว์เราเป็นสีขาวอยู่แล้ว ดูแลรักษาก็ชินซะละ ยอมรับว่ามันเลอะง่ายโดยเฉพาะยางมะตอยกระเด็นจากพื้นขึ้นมา แต่ความที่ชินกับมันละก็เลยเฉยซะ สีขาวก็เป็นสีจืด ๆ ที่ไม่เตะตา ไม่ขวางตาผู้คน ดูเรียบโร้ย เรียบร้อยมาก  สุดท้ายเราสองคนก็เอาวะ สีขาวนี่แหละ  ข่าวดีก็คือระยะหลัง ๆ มีคนชมว่างาน paint job เค้าดีขึ้นเยอะ  เด้วเราคอยระวังเรื่อง panel gap นี่แหละเพราะมันเห็นชัดในรถสีขาว

สำหรับคนที่เลือก SR+ หรือ LR ก็จะได้ option ให้เลือกล้อเพิ่ม ถ้าไม่เลือกก็จะได้ ล้อ 18 นิ้วที่มี aerowheel cap ติดมา เพื่อเพิ่มความประหยัด ได้ระยะทางเพิ่มขึ้น ถ้าใครไม่ชอบใจ คิดว่าไม่สวย สามารถแกะ aerowheel cap ออกได้ ข้างในก็จะเป็น alloy wheel หน้าตาเฉิ่ม ๆ (ซึ่งบางคนก็บอกว่าสวยดี) เป็นเรื่องของความชอบ ถ้าอยากเปลี่ยนล้อ ก็จะเลือกได้เฉพาะ 19" sport wheels ซึ่งเป็นล้ออลูมิเนียมสีขาว ๆ  โดนเรียกเก็บเพิ่มอีก 1,450 GBP ซึ่งตรงนี้ถ้าขอเกรย์ฟรีให้แล้วไม่ได้เลือกสีรถอื่น เค้าก็อาจจะยอมนะ ต้องต่อรองดี ๆ

ถ้าเลือกล้อใหญ่ขึ้น ก็ต้องทำใจว่า range หรือประสิทธิภาพจะลดลงเนื่องจากสองเหตุผล 1) ล้อใหญ่ ยิ่งใหญ่ยิ่งทำให้เปลืองพลังงานกว่าล้อเล็ก  2) ล้อ 19 นิ้วไม่มี aerowheel cap   อีกปัญหานึงคือพอล้อใหญ่ ความนุ่มนวลในการขับขี่ก็จะหายไปเนื่องจากมีแก้มยางที่เล็กลง อันนี้จะเห็นชัดมากในรถที่ใช้ล้อแบบ run flat tires เป็นต้นว่ารถสโนว์ของเรา (Mercedes C350e) บังเอิญว่าสโนว์ใช้ช่วงล่างแบบถุงลม ก็เลยทำให้ความแข็งที่มากับยาง run flat แบบ 19 นิ้วไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ ถ้าเป็นช่วงล่างสปริงก็อาจจะพอรู้สึกได้

บังเอิญของเราเลือก Performance ก็เลยไม่มี option ล้อให้เลือก เค้าบังคับให้เอา 20" Uberturbine wheels ซึ่งอันนี้ก็หลากหลายความเห็น บางคนก็บอกว่าสวยดี มันเป็นสีดำ ล้อใหญ่ 20" แต่บางคนก็ว่าน่าเกลียด  ส่วนของเราไม่ได้รังเกียจความงามหรือความไม่งามของมันแต่กำลังรังเกียจความใหญ่ 20" และการเป็นล้อ aluminium cast เค้า  เดิมที่เคยเขียนไว้ว่าคุณ จ. แห่ง W บอกว่ามีลูกค้าอยากได้ถ้าเราไม่เอา สามารถเปลี่ยนออกขายต่อได้ทันที

เราก็ไปเล็ง ๆ ล้อ forged aluminium ไว้แล้วแต่ยังไม่ได้สั่งซื้อ รถก็ยังไม่ได้ จะรีบสั่งไปทำไม ปัญหาอีกอย่างของ 2021 Tesla model 3 คือเจ้าอุปกรณ์ TPMS (Tyre Pressure Monitoring System) มันใช้รุ่นเดียวกับของ model Y ซึ่งเป็น bluetooth ไม่ใช่ 433 Mhz RF เหมือนแต่เดิม ซึ่งเจ้า TPMS เนี่ยมันมากับล้อกะยาง  ยังไม่มี aftermarket bluetooth TPMS สำหรับ Tesla model 3 ขายตะหาก  ใครอยากได้ต้องสั่งซื้อกับเทสล่าโดยตรง อันละ 100USD และต้องแจ้ง VIN number (ยังไม่ทราบเลย) 

ดังนั้นตามที่คุณ จ. ว่า หากมีคนอยากได้ล้อกะยาง Uberturbine ของเราจริง ก็จะต้องมีกระบวนการแงะเอา TPMS ที่มากะล้อกะยางออกมา แล้วเอามาติดกับล้อและยางใหม่ของเรา แล้วคนซื้อเค้าก็ต้องไปหา TPMS ของเค้าใส่เข้าไปเอง ซึ่งถ้าของเค้าเป็น Model 3 รุ่นก่อนหน้านี้ ก็สามารถหาซื้อ 433 Mhz RF TPMS ได้มีขายเยอะแยะบนอีเบย์  แต่ถ้ารถเค้าเป็น 2021 Model 3 เหมือนกันอันนี้จะยุ่งพอควร เพราะตอนนี้ยังไม่มี aftermarket bluetooth Tesla Model 3/Y compatible TPMS ขาย ต้องซื้อผ่าน Tesla โดยตรงอันละ 100 USD และเค้าถามหา VIN number ด้วย ซึ่งเรายังไม่มี (ก็ยังไม่ได้รถอะ)

สรุปว่า เรื่องยาง เรื่องล้อ ชั่งหัวมันไปก่อน เด้วค่อยว่ากัน ถ้าต้องใช้ Uberturbine wheel จริง มันก็โอเคมัง รอจนขับตก pothole ล้อบุบแล้วเด้วค่อยว่ากันเรื่องเปลี่ยนล้อเปลี่ยนยางก็ได้ นอกจากคนอยากได้ uberturbine เค้าอยากได้ล้อเราจริง ๆ เด้วต้องนัดหมายตกลงเรื่องเปลี่ยนล้อ เปลี่ยนยาง งัดแงะ TPMS

ตัวเลือกอีกอันที่คนไทยคงไม่สนก็คือ Tow hitch อันนี้โดนเรียกอีก 1,300 GBP เผื่อใครอยากจะเพื่อไปลากของลากรถอะไร  เราไม่สนก็เลยไม่เอา อีกอย่างมีคนถ่ายให้ดูแล้วว่าตรงที่กันชนด้านหลังของ Model 3 มีช่องเปิด เข้าใจว่าไว้สำหรับติดอุปกรณ์ลากนี่แหละ  ทางเทสล่าขู่ไว้ว่าถ้าไม่เลือกตอนสั่งผลิตนี้ จะติดตั้งตอนหลังไม่ได้นะ (ไม่สนอะ)

อันต่อไปที่เค้าจะให้เลือกก็คือ white interior อันนี้โดนอีก 1000 GBP จะได้เบาะขาว แบบ ขาวจั๊วะเลย ไม่ใช่ขาวครีม แล้วก็ตรงคอนโซลด้านหน้าที่เป็นเคยเป็นลายไม้ก็จะเปลี่ยนเป็น (เดาว่าพลาสติก) สีขาว ซึ่งก็จะทำให้ภายในดูสว่างและกว้างขึ้นเยอะ  มักจะมี utuber ออกมาชื่นชมยินดีกับรถตัวเองที่เป็นเบาะขาว แต่เนื่องจากเราสองคนมีโซฟาที่วางอยู่ห้องรับแขกเป็นสีขาว แล้วเราสองคนทราบกันดีว่าเวลาขัดถูทีมันสาหัสขนาดไหน   คือถ้ารู้จักการวางเฉย อุเบกขา ก็จะไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าได้เริ่มมองเห็นรอยและเริ่มขัดมันเข้าแล้ว รับรองว่าจะต้องกล่าวคำว่าชาตินี้ กรูจะไม่ซื้ออะไรเป็นเบาะสีขาวอีก  สรุปว่า white interior ตกไป ขี้เกียจขัด ได้มาก็ต้องวิตกจริตกันสุด ๆ สวยจริง แต่ดูแลลำบาก นอกจากทำตาบอดซะ

เดิมทีของทางฝั่งอังกฤษนี่จะมีให้เลือก FSD (Full Self-Driving Capability) ราคาประมาณ 7500 GBP (ทางฝั่งเมกา 10000 USD) หรือไงเนี่ย  ซึ่งอันนี้ไม่ควรจะเลือกไป เพราะเป็นเรื่องของ software ล้วน ๆ และสามารถมาซื้อเพิ่มทีหลังได้ ถ้าอยากได้   ตอนนี้ option มันถูกแบ่งกลายเป็น Enhanced autopilot ให้เลือกราคา GBP 3,400 และ FSD ต่างหากอีก ราคา 6,800 GBP  จริง ๆ แยกๆ ออกไปก็ดี เข้าใจว่าทางเทสล่าคงรู้ตัวว่ากว่าจะทำ FSD ได้จริง ๆ ในประเทศอื่นคงยาก แค่ในเมกาเอง เอาให้เกิดซะก่อนเถอะ (เค้าคงจะทำได้หลังจากติดตามดูผลการทดสอบเบต้า) แต่คงจะผ่านกฎและระเบียบของรัฐต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องยาก หรือต้องมีแนวร่วมจากบริษัทอื่น ๆ ให้มีแรงกดดันมากพอ  ยิ่งถ้าจะพูดถึงว่าจะเวิ๊คในประเทศไทยนี่ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้   ก็เลยคงเอามาขายแยกซะเลย คงขาย FSD ไม่ค่อยออกในประเทศอื่นๆ นอกเมกา อย่างน้อยก็ยังขาย Enhanced autopilot ได้ ราคาประมาณ 1.4 แสน ก็ดีกว่าจ่าย 2 แสน แต่ก็ใช้ได้แค่ 1.4 แสน   สิ่งที่คนอยากได้แต่เค้ายังไม่ทำให้ก็คือการทำให้การซื้อ FSD เป็นสิทธิ์ตามตัวไม่ใช่ตามรถ  หมายความว่าถ้าเราจ่ายค่า FSD ต่อไปเราเปลี่ยนรถ สามารถโอนฟังก์ชั่นนี้ไปยังรถเทสล่าใหม่ของเราได้  เพราะตลาดกลางที่ประเมินราคารถมือสอง เค้าไม่เห็นเพิ่มมูลค่าให้สำหรับรถเทสล่าที่มี FSD เท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะมันยังใช้งานไม่ได้จริง (ยังเป็นเบต้าอยู่เลยที่เมกา ไหน จะต้องผ่านเรื่องกฎหมายรองรับอีก อีกนานเลย)  ล่าสุดได้ข่าวว่าทางอีลอน มัสก์ออกมาคอนเฟิร์มว่าจะมี option การซื้อ FSD เป็นแบบ subscription คือจ่ายรายเดือน ลูกค้าจะได้ไม่ต้องกังวลเวลาขายรถทิ้ง แต่ถ้าคิดค่าใช้จ่ายในระยะยาว มันก็น่าจะแพงกว่าจ่ายตูมเดียวจบ 

หมดแล้วคับ เลือกรถเทสล่า ตัวเลือกมีน้อย ไม่ต้องคิดมาก  สิ่งที่ไม่มีให้เลือกบนเว็บไซต์ก็คือ acceleration boost สำหรับคนที่ซื้อรุ่น dual motor long range ไป สามารถจ่าย $2000 เพื่อทำให้รถตัวเองเร็วขึ้นได้ (ด้วย software ล้วน ๆ)ซึ่งทาง tesla เคลมไว้ว่าจะทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นจาก 4.4 วินาที (0-60 mph) เป็น 3.9 วินาที ซึ่งมีคนซื้อไปและทดสอบแล้วว่าได้เร็วกว่านั้นอีก (3.72 วินาที) แต่เค้าก็กันท่าไว้ไม่ให้เร็วเท่า Performance ไม่อย่างนั้น PF ก็คงขายไม่ออก

ไว้เด้วเขียนเรื่องล้ออีกบล็อกนึงละกันนะคับ


Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 14 มกราคม 2565 23:15:08 น. 0 comments
Counter : 1276 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

gollygui
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]






space
space
[Add gollygui's blog to your web]
space
space
space
space
space