My first trip to Lord Buddha's Place Day 4 ; 31 Jan 2019 Ramabhar stupa มกุฏพันธนเจดีย์
หลังจากออกจากมหาปรินิพพานสถูปและวิหาร เดินทางต่อมาอีกเล็กน้อย มายังตำแหน่งที่ถวายพระเพลิงสรีระสังขารของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชุดอินเดียส่าหรีจากเมืองไทยได้ใส่ในวันนี้ อากาศประมาณ 10 องศาเซลเซียสไม่มีแดด แต่ไม่หนาว เพราะมีชุด heattech ขายาวแขนยาวสีขาวอยู่ด้านใน กระโปรงเป็นยางยืดใส่ได้ทุกคน มีผ้าชิ้นยาวใหญ่ไว้พันร่างกายท่อนบน สวมใส่ง่ายมาก วันที่ไปซื้อมีเหลืออยู่ตัวเดียวสีเดียว
ด้านหน้าทางเข้าของโบราณสถานทางพุทธศาสนา แทบทุกแห่ง มีดอกไม้ พวงมาลัย ขายเต็ม ราคาไม่แพง ประมาณอย่างละ 50 บาท อยากซื้อหมดสวยทั้งนั้น กราบนมัสการทุกสถานที่ที่ได้ไป ได้มาพบเห็นอีกครั้งระลึกถึงพระพุทธองค์ แม้สรีระสังขารพระองค์จากไปแล้ว แต่พระองค์ไม่ได้จากไปไหน พระองค์อยู่ในทุกแห่งหน มกุฏพันธนเจดีย์ เป็นสถูปโบราณที่ถูกสร้างขึ้นตรง สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของ พระพุทธเจ้า มกุฏพันธนเจดีย์ ได้ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัย พระเจ้าอโศกมหาราช บริเวณด้านตะวันออกของ เมืองกุสินารา หรือปัจจุบันคือ 'ตำบลกาเซีย' รัฐอุตตรประเทศ ตรงบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระพุทธ สรีระของพระพุทธเจ้าใน วันอัฏฐมีบูชา เดิมทีบริเวณมกุฏพันธนเจดีย์เป็นเชิงตะกอนไม้จันทร์หอมเพื่อใช้สำหรับถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ต่อมาพระเจ้าอโศกมหาราชจึงทรงสั่งให้สร้างพระสถูปครอบบริเวณนั้นลง แต่สมัยต่อมาเมืองกุสิรานาถูกรุนรานและพระสถูปองค์นี้ถูกทำลายลงเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง ภายหลังได้มีการค้นพบเป็นซากพระสถูปขนาดใหญ่ดังที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งต่อมารัฐบาลอินเดียได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมพระสถูปองค์นี้ไว้อย่างดี ถ้าวัดรอบฐานของพระสถูปองค์นี้มีความยาวทั้งหมด 46.14 เมตร ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลาง 37.18 เมตร
วันอัฏฐมีบูชา คือวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (หลังเสด็จดับขันธปรินิพพานได้ 8 วัน) ถือเป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง ตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือนวิสาขะ (เดือน 6 ของไทย)
พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพมีขึ้นในวันที่ 8 หลังจากพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จปรินิพพานใต้ต้นสาละในราตรี 15 ค่ำ เดือน 6 โดยพวกเจ้ามัลลกษัตริย์จัดบูชาด้วยของหอม ดอกไม้ และเครื่องดนตรีทุกชนิด ที่มีอยู่ใน เมืองกุสินาราตลอด 7 วัน แล้วให้เจ้ามัลละระดับหัวหน้า 8 คน สรงเกล้า นุ่งห่มผ้าใหม่ อัญเชิญพระสรีระไปทางทิศตะวันออก ของพระนคร เพื่อถวาย พระเพลิง
พวกเจ้ามัลละถามถึงวิธีปฏิบัติพระสรีระกับพระอานนท์เถระ แล้วทำตามคำของพระเถระนั้นคือ ห่อพระสรีระด้วยผ้าใหม่แล้วซับด้วยสำลี แล้วใช้ผ้าใหม่ห่อทับอีก ทำเช่นนี้จนหมดผ้า 500 คู่ แล้วเชิญลงในรางเหล็กที่เติมด้วยน้ำมัน แล้วทำจิตกาธานด้วยดอกไม้จันทน์ และของหอมทุกชนิด
จากนั้นอัญเชิญ พวกเจ้ามัลละระดับหัวหน้า 4 คน สระสรงเกล้า และนุ่งห่มผ้าใหม่ พยายามจุดไฟที่เชิงตะกอน แต่ก็ไม่อาจให้ไฟติดได้ จึงสอบถามสาเหตุ พระอนุรุทธะ พระเถระ แจ้งว่า "เพราะเทวดามีความประสงค์ให้รอพระมหากัสสปะ และภิกษุหมู่ใหญ่ 500 รูป ผู้กำลังเดินทางมาเพื่อถวายบังคมพระบาทเสียก่อน ไฟก็จะลุกไหม้" ก็เทวดา เหล่านั้น เคยเป็นโยมอุปัฏฐากของพระเถระ และพระสาวกผู้ใหญ่มาก่อน จึงไม่ยินดีที่ไม่เห็นพระมหากัสสปะอยู่ในพิธี และเมื่อภิกษุหมู่ 500 รูปโดยมีพระมหากัสสปะเป็นประธานเดินทางมาพร้อมกัน ณ ที่ถวายพระเพลิงแล้ว ไฟจึงลุกโชนขึ้นเองโดยไม่ต้องมีใครจุด
Create Date : 16 พฤษภาคม 2562 |
|
13 comments |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2562 22:17:02 น. |
Counter : 1353 Pageviews. |
|
|
|
มีโอกาสได้ไปเดินซื้อในตลาดแถวพุทธคยา
ราคาไม่แพงเลย ลายสวยด้วย
แต่ของผู้ชายจะเรียบๆ หนักไปทางสีขาว
ส่าหรีของผู้หยิงจะสวยงามกว่า
ผมเห็นคณะคนไทยซือ้กันเยอะมากครับ
แต่จากที่อ่านในบล้อก
ดูเหมือนคุณเย็นจะซื้อเตรียมมาจากเมืองไทยเลยใช่ไหมครับ
ผมอ่านประวัติหลวงพ่อแล้วก็ทึ่งครับ
ท่านเล่าเรื่อง และมีคำสอนดีดีมากมายจริงๆ
แต่เล่มนี้พิเศษหน่อย
เพราะจัดทำโดยลูกศิษย์ของหลวงพ่อ
รายละเอียดจึงมีเยอะมาก
ทั้งในคำสอนของหลวงพ่อเอง
และในมุมมองของลูกศิษย์ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยครับ