|
กลบท เทพชุมนุม..-๐ เสน่ห์นาง ๐-
- กลบท เทพชุมนุม - -๐ เสน่ห์นาง๐-
๑. ดรุณีโสภาอ่าอะเคื้อ ลออเหลือเลอศรีโสภีใส ประเล่ห์ล้ำร่ำชู้มาชูใจ ทำไฉนคลอเจ้ามาเคล้าอิง
๒. ผ่องสะอางร่างองค์อนงค์น้อง พลางเมียงมองเริงหลงซึ่งทรงหญิง เพียงเยื้องย่างปรางปรุงจรุงจริง ทั้งรางชางอย่างยิ่งพร่างพริ้งพรรณ
๓. แสนสะคราญครั่นครวญรัญจวนแสน เหมือนป่านแม้นอรอินทร์ปิ่นสวรรค์ กุสุมาลย์ผ่านฟ้อนอ้อนจำนรรจ์ จนเกินสรรเสริญสิ้นกวินท์ความ
๔. โฉมแฉล้มแก้มอิ่มยามยิ้มแย้ม กุสุมแซมหอมชมภิรมย์หวาม นมปทุมพุ่มพร้อมกลมกล่อมตาม ละม่อมงามพรมพริ้มยามยิ้มโปรย
๕. สำรวยฉุยฉายเอยรำเพยสวย เชยฉลวยกรุยกรายรำบายโผย หมายเขนยเกยก่ายฤทัยโดย ชม้ายโรยนัยน์เรื่อยอ่อยเอื่อยคราว
๖. เคียวแนวคิ้วริ้วเรียวเอวเพรียวพลิ้ว เอวเรียวกิ่วแล้วเรียวพราวเพรียวสาว เรียวเรียวนิ้วพลิ้วเพรียวเรียวเรียวยาว แพรวผิวขาวราวแก้วแพร้วพราวตา
๗. เสน่ห์ไหนใดเล่าเท่ายาหยี อุระพี่พร่ำเพ้อละเมอหา สตรีใดไหนล้ำมินำพา เสมอมาแต่เจ้าเร้ารำพึง
๘. หวังเคียงข้างนางน้องประคองหวัง ห้วงภวังค์ยิ่งหลงพะวงถึง หลงเชลงเพลงพร้องเพ่งตรองตรึง เพียงครั้งหนึ่งมุ่งหวัง.. เคียงข้างกาย ๚ะ๛
Black Sword (มยุรธุชบูรพา)
ขอบคุณภาพต้นแบบจาก Internet ๐-----------------๐ กลบท เทพชุมนุม ข้อบัญญัติ : บังคับพิเศษเพิ่มจากกลอนทั่วไปคือ - แต่ละบท "บังคับให้ใช้ตัวสะกดเพียงมาตราเดียวกันตลอดทั้งบท" ยกเว้นคำสุดท้ายของบท ที่เป็นคำส่ง ให้ใช้เป็นมาตราเดียวกับที่จะใช้ในบทต่อไป - อนุโลม : บทใดที่ไม่ใช่มาตรา ก.กา ให้ใช้ "คำมูล" ที่เป็น ลหุแท้ และ สระ อำ แทรกได้ เช่น กระสัน รำพึง (ที่เป็น "ลหุลอย" และ "คำโดด" เช่น จะ มิ เพราะ ทำ น้ำ จำใช้ไม่ได้) * ในสำนวนนี้.. บท ๑ และ ๗ ใช้แม่ก. กา / บท ๒ และ ๘ แม่ กง / บท ๓ แม่ กน / บท ๔ แม่กม / บท ๕ แม่ เกย / บท ๖ แม่ เกอว อ้างอิง : รูปแบบบังคับ กลบทเทพชุมนุม นี้ มีปรากฏที่มาจากตำรากลบท "ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ" โดยบรมครูขุนธนสิทธิ์ เป็นผู้เริ่มประดิษฐ์ขึ้นมา ,และจากตำรา "กลบทสุภาษิต" โดย รองอำมาตย์เอกหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)
Create Date : 28 มีนาคม 2557 |
Last Update : 28 มีนาคม 2557 9:59:37 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1903 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: หากรักไม่ได้ ไยต้องมาพบพาน IP: 115.67.70.7 วันที่: 20 เมษายน 2557 เวลา:19:05:50 น. |
|
|
|
โดย: มยุรธุชบูรพา IP: 115.67.37.248 วันที่: 17 พฤษภาคม 2557 เวลา:18:06:21 น. |
|
|
|
โดย: มยุรธุชบูรพา IP: 119.46.232.242 วันที่: 27 พฤษภาคม 2557 เวลา:10:17:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ที่ประดิษฐ์รจนา โดยบรมครู ขุนธนสิทธิ์ : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ
จากตำรากลบท : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ หน้า ๕๗๐ / ๒๕๑๐
๐-----------------------๐
นิราไกลไร้หน้าพงาเหงา
มาว้าเหว่เอกาอุราเรา
มีแต่เศร้าเปล่าใจให้รันจวญ
แสนร้อนนอนเถื่อนเปนเรือนถิ่น
รื่นรื่นกลิ่นคันธมาลย์ร่านรนหวน
ฉุนฉุนชื่นคืนถวิลเหมือนกลิ่นนวล
กลครั่นครวญป่วนปั่นกระสันภักตร์
นึกนึกตรึกโศกวิโยคยาก
ทุกข์จากมากหมกอกจักหัก
อีกโรครุกขุกยากอกพรากรัก
โศกสลักหนักอกวิตกนุช
สุดสวาทนาฎขนิษฐสถิตย์เขตร์
อนาถเนตรโอษฐภาษฤขาดหยุด
หมดสวาทนาฎสลดกำสรดทรุด
คิดประดุจเด็ดปลิดชีวิตลับ
.. ฯลฯ ..........
๐----------------------๐
"กลบท เทพชุมนุม"
จากกวีนิพนธ์ กลบทสุภาษิต โดยบรมครูหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)
หวานเพลิน เกินการ จนหวานสิ้น
ฉุนชื่นลิ้น กลิ่นกลั่น ล้วนสรรค์ผล
เพียรปั้นป้อน ข้อนคั้น ขึ้นปันปน.
จวนเจียนจน ยลยวน เช่นชวน(พะวง)
พึงกริ่งตรอง จองแจ้ง แสร้งสิ่งยั้ง
เฟื่องฟุ้งฟัง พลั้งแพลง คลังแคลงหลง
ปางปอง จองแจ้ง แห่งจริงจง
ง่วงโงงงง ปลงเปลื้อง เครื่องลัง(เล)
ปะทะที่ ทีน่า ระอาท้อ
มิใช่ข้อ ส่อแต่ จะแส่เส
ไฉนหนอ ต่อจะรู้ สิปรูเปร
ถ้าคะเน ดูในที น่ามี(ภัย) ฯ