- กลบท กลมกลืนกลอน -
-๐ ยามห่าง ๐-
๑. หนาวน้ำค้างพร่างพรมประพรมพร่าง
โสมสว่างแสงส่องดาวส่องแสง
ฟ้าระยับแยงยิบระยิบแยง
เปิดม่านแห่งคืนค่ำยามค่ำคืน
๒. หนาวในอกเหน็บหนาวช่างหนาวเหน็บ
หนาวเกินเก็บขืนขัดสิ้นขัดขืน
ความคิดถึงกลืนกล้ำสุดกล้ำกลืน
สุดจะฝืนใจข่มเหลือข่มใจ
๓. ยามรักห่างร้างอกโอ้อกร้าง
สุดเอ่ยอ้างไขคำสิ้นคำไข
ห่วงที่รักไกลห่างเมื่อห่างไกล
เป็นไฉนนวลเจ้านะเจ้านวล
๔. ยิ่งมองเดือนเคลื่อนคล้อยดาวคล้อยเคลื่อน
ยิ่งมองเหมือนหวนให้ใจให้หวน
ยิ่งมองเมฆรวนเรลับเรรวน
ยิ่งมองครวญคิดครุ่นใจครุ่นคิด
๕. ใครจะกล่อมกอดเกี้ยวเคยเกี้ยวกอด
ใครจะพลอดจิตโฉมนะโฉมจิต
ใครจะชมชิดเชยมั่นเชยชิด
ใครจะรักตรึงติดมั่นติดตรึง
๖. หนาวอกเอ๋ยป่วนใจยิ่งใจป่วน
หนาวอกทวนถึงคิดยิ่งคิดถึง
หนาวอกรักรึงรัดยิ่งรัดรึง
หนาวอกซึ้งทรวงมั่น.. รักมั่นทรวง ๚ะ๛
:
.
- Black Sword -
(มยุรธุชบูรพา)
ขอบคุณภาพต้นแบบจาก Internet
๐----------------------๐
โดย หลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ผู้คิดประดิษฐ์กลบทนี้
จากตำรากลบท ศิริวิบุลกิตติ์ หน้า ๙๘ ลำดับที่ ๗๑
นกบินมาราร่อนแล้วร่อนรา
บ่รู้ว่าสมรนาฎพระนาฎสมร
อยู่แห่งใดจรแจ้งไม่แจ้งจร
สกุณร่อนราปีกแล้วปีกรา
จะแจจะจอแจ้วจำเสียงจำแจ้ว
เหมือนเสียงแก้วหาพี่ตามพี่หา
พระน้องเอ๋ยมาเถิดขวัญเถิดมา
ครองพาราไชยเรืองให้เรืองไชย
ท้าวเร่งรัดพลรีบให้รีบพล
ข้ามไพรสณฑ์ใสเสียงฟังเสียงใส
เรไรร้องไพรก้องศัพท์ก้องไพร
วังเวงใจคิดหวนให้หวนคิด
โอ้ป่านฉะนี้ไฉนรักยอดรักไฉน
หลายปีไกลสนิทแนบเคยแนบสนิท
พระร่ำพลางจิตรหวนให้หวนจิตร
พระทรงฤทธิ์บุตรราชพระราชบุตร
คิดถึงพระทรงเกล้าปิ่นเกล้าปิ่น
กันแสงทรงสุดครวญคร่ำครวญสุด
พระเร่งพลรุดรีบรัดรีบรุด
พระทัยสุดสงสารถึงมารดา ฯ
๑-----------------------๑