|
กลบท เทพชุมนุม..-๐ ไฟ-ในกมล ๐-

- กลบท เทพชุมนุม - -๐ ไฟ-ในกมล ๐-
๑. เมื่อเตโช ลุเข้าเร้าโทสะ ฤดีจะคุไหม้ให้ถลำ สู่วิถีบีฑาบ้ากระทำ และจะช้ำเพราะไฟ ที่ไหม้จินต์
๒. สั่นสะท้าน มานกมลร่านรนร้อน เหมือนฟืนฟอนโชนหวั่นหุนหันสิ้น ฟั่นเฟือนขุ่นครุ่นขื่น แค้น-กลืนกิน ล้วนเต้นดิ้นจนพล่าน กูณฑ์ผลาญลง
๓. ดั่ง..นั่งกลาง หว่างเพลิงระเริงแสง เพลิงพลุ่งแรงเคืองคลั่งจึงพลั้งหลง ทั้งร่างพองหมองยิ่ง เกรงกริ่งคง- ยิ่งเร่งส่งแรงคลั่ง ร้างออมชอม
๔. ธรรมประโลม ฉมชุ่มชอุ่มร่วม เพิ่มเติมสรวมเอมอิ่มพริ้มถนอม ความนิยมโหมเหี้ยมท่ามเกรียมกรอม พนมน้อมเตรียมห้าม ยามโกรธา
๕. เมื่อใดที่มีไฟมาไหม้อยู่ ฤดีรู้สติดำริหา ประเล่ห์น้ำฉ่ำใสในอุรา และจะพาไฟนี้ ให้คลี่คลาย ๚ะ๛
มยุรธุชบูรพา (Black Sword)
ขอบคุณภาพจาก Internet ๐-----------------๐
กลบท เทพชุมนุม
ข้อบัญญัติ : บัญญัติพิเศษเพิ่มจากกลอนทั่วไป คือ
..- แต่ละบท "บังคับให้ใช้ตัวสะกดเพียงมาตราเดียวกันตลอดทั้งบท" ยกเว้นคำสุดท้ายของบท ที่ต้องส่งต่อยังบทต่อไป ให้ใช้เป็นมาตราเดียวกับที่จะใช้ในบทต่อไป
..- อนุโลม : บทใดที่ไม่ใช่มาตรา ก.กา ให้ใช้คำที่เป็น รัสสระ (สระเสียงสั้นที่ไม่มีตัวสะกด) และ สระ อำ ที่เป็น "คำมูล" แทรกได้ เช่น กระสัน รำพึง (ที่เป็น "คำโดด" เช่น จะ มิ เพราะ ทำ น้ำ จำ ใช้ไม่ได้)
* ในสำนวนนี้ บท ๑ และบท ๕ ใช้แม่ ก.กา / บท ๒ แม่ กน / บท ๓ แม่ กง / บท ๔ แม่ กม
** อ้างอิง : รูปแบบบังคับ กลบทเทพชุมนุม นี้ มีปรากฏที่มาเฉพาะจากตำรากลบท "ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ" โดยบรมครูขุนธนสิทธิ์ คิดค้นขึ้นมา ,และจากตำรา "กลบทสุภาษิต" โดย รองอำมาตย์เอกหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)"
Create Date : 13 มกราคม 2557 |
Last Update : 13 มกราคม 2557 16:14:37 น. |
|
12 comments
|
Counter : 1510 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: bayesian วันที่: 15 มกราคม 2557 เวลา:21:02:42 น. |
|
|
|
โดย: สุนันยา วันที่: 15 มกราคม 2557 เวลา:23:06:47 น. |
|
|
|
โดย: มยุรธุชบูรพา IP: 1.47.16.160 วันที่: 2 พฤษภาคม 2557 เวลา:20:01:49 น. |
|
|
|
โดย: มยุรธุชบูรพา IP: 115.67.37.248 วันที่: 17 พฤษภาคม 2557 เวลา:18:09:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
"กลบทเทพชุมนุม"
โดยบรมครู ขุนธนสิทธิ์ : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ
๐ .
นิราไกล ไร้หน้า พงาเหงา
มาว้าเหว่ เอกา อุราเรา
มีแต่เศร้า เปล่าใจ ให้(รัญจวน)
๐ แสนร้อน นอนเถื่อน เป็นเรือนถิ่น
รื่นรื่นกลิ่น คันธมาลย์ ร่านรนหวน
ฉุนฉุนชื่น คืนถวิล เหมือนกลิ่นนวล
กลครั่นครวญ ป่วนปั่น กระสัน(พักตร์)
๐----------------------๐
"กลบทเทพชุมนุม"
จากกลบทสุภาษิต โดยบรมครูหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)
๐ หวานเพลิน เดินการ จนหวานสิ้น
ฉุนชื่นลิ้น กลิ่นกลั่น ล้วนสรรค์ผล
เพียรปั้นป้อน ข้อนคั้น ขึ้นปันปน.
จวนเจียนจน ยลยวน เช่นชวน(พะวง)
๐ พึงกริ่งตรอง จองแจ้ง แสร้งสิ่งยั้ง
เฟื่องฟุ้งฟัง พลั้งแพลง คลังแคลงหลง
ปางปอง จองแจ้ง แห่งจริงจง
ง่วงโงงงง ปลงเปลื้อง เครื่องลัง(เล)
๐ ปะทะที่ ทีน่า ระอาท้อ
มิใช่ข้อ ส่อแต่ จะแส่เส
ไฉนหนอ ต่อจะรู้ สิปรูเปร
ถ้าคะเน ดูในที น่ามี(ภัย)
๐----------------------๐
"กลบทเทพชุมนุม"
โดย รศ. วันเนาว์ ยูเด็น (จากตำรารวมกลบท "รอยทราย") (รางวัลชมเชยหนังสือดีเด่นประเภทกวีนิพนธ์ปี ๒๕๓๕ คำนิยมโดยศิลปินแห่งชาติ อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
๐ คูณตะเคียน เทียนทัน จันทร์กระถิน
อินทนิล นุ่นขนัน อัญชันป่าน
ลำดวนโดน โคนตะบัน บอนจั่นจาน
สนเสี้ยนลาน ทานตะวัน อินลั่น(ทม)
๐ ท่อมกระทุ่ม กุ่มสุกรม ยมหอมโหม
เคี่ยมเข็มโขม แขมคราม คลุ้มขามขม
พะยอมเนียม เทียมโสม โฉมตูมกลม
ปาล์มชะเอม ชะอม ส้มนม(ควาย)
๐ คำฝอยฝ้าย หวายรำเพย เตยบ๊วยอ้อย
ตะมอยข่อย เอาะลาย เขยตายขลาย
กระชายคุย ปุยคล้าย กุยช่ายกราย
กล้วยกำจาย กระต่อย กลอยกรวย(กวาว)