เมษายน 2557

 
 
2
4
5
6
7
8
10
11
14
15
16
18
19
20
22
23
25
26
27
29
30
 
 
All Blog
25>>>ชาติเสือพันธุ์มังกร...ปราณธร

ชาติเสือพันธุ์มังกร...ปราณธร...
นอกจากชื่อเรื่องจะน่าสนใจแล้ว สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการออกเล่มนี้กับบ้านหลังใหม่ของปราณธร ทำให้อยากรู้ อยากติดตามค่ะว่า...อะไรจะเกิดขึ้นได้บ้างในหนังสือเล่มนี้


...ต่อสู้เยี่ยงเสือร้าย เพื่อยิ่งใหญ่ดุจมังกร...

ทรงวาด หรือในชื่อจีนคือลิ้มบุ่นโฮ่ว ได้รับการอบรมเลี้ยงดู ให้การศึกษาจากครอบครัวนายทหารใหญ่ โดยการรับเขาเป็นบุตรบุญธรรม...ชีิวิตเกือบจะมีเส้นทางเดินที่สวยงาม...ถ้าเพียงในวันหนึ่งเขาจะไม่โดนไล่ออกจากโรงเรียนนายร้อยทั้งที่เรียนอยู่ปีสุดท้ายแล้ว...ทรงวาดออกจากบ้านพ่อบุญธรรมกลับมาอยู่ที่เยาวราชบ้านเดิม...ที่นั้นมีอาเจ็กลิ้มเม่งฮง อาซิ่ม อาโกว และบรรดาน้องสาวน้องชาย...ทรงวาดหวังเพียงจะได้ทำมาหากินมีอาชีพสุจริตเลี้ยงตัว...แต่เขาก็ได้แต่เก็บความขมขื่นเอาไว้ เมื่อพบว่าธุรกิจของครอบครัวคือ...โรงน้ำชาหกห้อง...เขาจะทำอย่างไรให้ตัวเองไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว...

ทรงวาดรับข้อเสนอของพี่อ้าย(พี่บุญธรรม)ที่ดำรงยศเป็นทหาร ลงทุนในกิจการค้าข้าว โดยมีข้อแลกเปลี่ยนสำหรับนายทหารที่ต้องการมีอำนาจทางการเมืองโดยมีแหล่งเงินทุนที่แน่นหนาพอ...เขาเริ่มมองหาทำเล และลูกน้องคู่ใจ จนได้พบกับทิเหล็ง หนุ่มลากรถที่พยายามหาเงินเลี้ยงดูอาม๊า น้องชายและน้องสาว ทิเหล็งยกกายถวายใจให้กับตั่วเฮียลิ้มบุ่นโฮ่วของเขาแบบชนิดที่ไปไหนไปกัน ตายแทนกันได้...ขนาดทรงวาดบอกถึงอันตรายที่เขาจะได้รับจากการทำงานให้กับทรงวาด ทิเหล็งก็ไม่กลัว...
"อั้วจะไม่เริ่มการค้าเล็กๆแล้วอาเหล็ง อั้วอาจจะรอเวลาได้ แต่...คนอื่นไม่รออั้ว"
"เมื่อวานอั้วมีทางเลือกของตัวเอง แต่วันนี้ทางเดินของอั้วถูกถากลงเหลือครึ่งหนึ่ง ทางเดินที่เหลือมันเลยแคบ อั้วต้องเดินให้ตรง ไม่อย่างนั้นจะร่วงลงเหว"
"อั้วให้ลื่อตัดสินใจอีกที อาเหล็ง เรื่องของอั้วไม่ใช่แค่เรื่องเหยียบหัวแม่เท้า"
"อั้วตัดสินใจแล้วครับ ตั่วเฮียมีบุญคุณท่วมหัว อั้วรู้ว่าเวลาที่อั้วไม่อยู่ ตั่วเฮียเคยไปเยี่ยมอาม้ากับน้องๆอั้ว อาม้าไอเพราะอากาศเย็น ตั่วเฮียก็ซื้อยาไปให้กิน น้องๆอั้วก็มีขนมกิน ถ้าตั่วเฮียจะเมตตาอั้ว ก็ขอให้อั้วได้อยู่กับตั่วเฮียต่อเถอะ อั้วอยากทำงานกับตั่วเฮีย"...ทรงวาดใช้ใจซื้อใจ...เขารับเอาอาม้าและน้องๆของทิเหล็งคือก๊กไช้ และซิ่วลั้งมาดูแล ส่งเสียให้เด็กๆทั้งสองคนได้เรียนหนังสือ

เตียงจู...เด็กสาวกำพร้าที่ต้องแอบหลบอาศัยในศาลเจ้า...เธอเป็นคนจีนที่เกิดในแผ่นดินไทย มีสัญชาติไทย แต่...เหตุการณ์บางอย่างทำให้เตียงจูต้องกลายเป็นคนต่างด้าวและกำพร้า จากบ้านที่ค่อนข้างมีฐานะกลายเป็นเด็กเร่ร่อน...ทรงวาดรับอุปการะเตียงจูอีกคน...เขาฝันที่จะให้เด็กฉลาดอย่างเตียงจูเติบโตมาเป็นหงส์...ความฉลาด ความร่าเริง ช่างพูดคุย หยอกเย้าคนโน้นคนนี้ ทำให้บ้านของลิ้มบุ่นโฮ่วไม่เคยเหงา ทุกคนเป็นคนในครอบครัว...

ทรงวาดพยายามทำกิจการของตนให้เจริญก้าวหน้า เด็กๆในปกครองก็เติบโตมีแววเฉลียวฉลาดกันทุกคน ดูเหมือนอะไรก็น่าจะอยู่ตัวและพอดีแล้ว...แต่เหตุการณ์ร้ายๆก็เิริ่มเกิดขึ้น ลิ้มเฮ้งเตี๋ยงลูกพี่ลูกน้องของเขาถูกจับในข้อหาฆ่าคนตาย เสือที่พยายามซ่อนเขี้ยวเล็บก้มหน้าก้มตาทำมาหากิน ก็ถูกโยงเข้าสู่ขั้วอำนาจที่แย่งชิงกันเองของบรรดาเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลาย...เพื่อแลกกับอิสระภาพของน้องชาย ทรงวาดต้องร้องขอให้พี่อ้ายช่วยเหลือ และการช่วยเหลือครั้งนี้ก็ต้องแลกกับบางสิ่งบางอย่างที่เขาลำบากใจ...

การถูกลอบทำร้ายบ่อยๆทำให้ทรงวาดเริ่มเป็นกังวลในความปลอดภัยของคนในปกครอง...มือที่พยายามจะไม่เปื้อนเลือดก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้...เมื่อต้องกางปีกปกป้องบุคคลอันเป็นที่รัก แม้ตัวเองจะต้องเจ็บปวด เสืออย่างเขาก็ต้องทำ
"จับไอ้คนนั้นมาให้อั้วเป็นๆ"..."ส่วนคนอื่นถ้าทำได้ อั้วต้องการถามมันตอนยังมีชีวิตอยู่ว่าใครเป็นคนจ้างพวกมัน แต่ถ้าทำไม่ได้อั้วไม่ถือสาหาความถ้ามันจะเป็นอะไรไป"


ท่ามกลางความกดดันจากวิกฤติทางการเมือง (เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปีพ.ศ.2506 ถึงพ.ศ.2517) ช่วงนั้นมีเหตุการณ์สำคัญๆหลายอย่างค่ะ และวิกฤติที่ว่าทำให้พี่อ้ายก็เริ่มกดดันเสือของเขามากขึ้น ทางด้านอาเจ็กก็เรียกร้องให้เขาทำนู่นนี่นั่นให้...สิ่งเดียวที่พอจะช่วยชุบหัวใจที่แห้งแล้งมีรอยยิ้มขึ้นมาก็คือเตียงจู...คือฉากหวานๆนี่แทบจะไม่มีมาให้เห็นหรอกนะคะ...ก็เรื่องมันเครียดนะ เครียดมากด้วย มีมาแค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว...
"เป็นบ้านลื่อตลอดไปใช่ไหม"
"ใช่สิ"..."จะให้อั้วไปไหนได้ไกลเล่า ถึงไล่อั้วก็ไม่ไปหรอกน่า"
"แล้วถ้าเรียนจบล่ะ ใจคอจะอยู่ห้องนี้ไปจนแก่ตายรึ"
"เฮียโฮ่วจะเลิกเลี้ยงอั้ว ให้อั้วไปหาเลี้ยงตัวเองใช่ไหม"
"เปล่า ก็บางทีอั้วอาจพิจารณาให้ลื่อย้ายที่อยู่ใหม่"
"จะให้อั้วไปอยู่ไหนเล่า"
"ไม่ไกลหรอก"..."แค่อาจจะย้ายห้องนอนไปห้องตรงข้าม"...........อ๊างงงง อ่านมาสามร้อยกว่าหน้า มาฟินสุดๆตรงนี้เองค่ะ Smiley


เรื่องราวยิ่งเข้มข้นมากขึ้น เมื่อลิ้มเม่งฮงเกลียดขี้หน้าเตียงจูอย่างหนัก ไม่ยอมให้หลานชายแต่งงานกับเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเตียงจูเด็ดขาด (คนอ่านเกลียดเม่งฮงมากๆเลยค่ะ) ถึงขนาดทำร้ายร่างกายเตียงจู เรื่องราวยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเมื่อเตียงจูคิดว่าตนเองไม่มีความสำคัญพอที่จะทำให้เฮียโฮ่วลุกขึ้นมาปกป้อง...ทั้งที่จริงแล้วทรงวาดกำลังปกป้องเตียงจูจากเขี้ยวเล็บของอาเจ็กอยู่เหมือนกัน...เตียงจูเข้าร่วมกับนักศึกษาในการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาฯ ด้วย เวลาห่างกันไม่นานอาเจ็กของเขาก็ถูกตำรวจฆ่าตาย หนำซ้ำพี่อ้ายของเขายังบังคับให้เขากักตุนข้าวสารไว้ไม่ให้ปล่อยขายให้กับประชาชน แม้แต่คนมีเงินก็ยังหาซื้อไม่ได้...ทรงวาดถูกรุมล้อมด้วยปัญหาสารพัน เขาจะเป็นเสือได้ยังไง หากปกป้องคนรักไม่ได้ และยังไม่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตัวเองอีก...ทรงวาดมาถึงจุดแตกหักกับผู้มีพระคุณล้นหัว เพราะคำว่ากตัญญูกลายเป็นโซ่ล่ามเขาไว้ให้ทำแต่เรื่องที่เขาไม่อยากทำ...


อ่านจบ...เรื่องนี้ชื่อตัวละครไม่เป็นปัญหา เพราะพอจะคุ้นเคยกับการอ่านนิยายจีนและชอบดูหนังจีนสมัยเด็กๆมาบ้าง ...แต่...อ่านไปต้องร้องอื้อหือเลยค่ะ คือโดยปกติแล้วก็เป็นแฟนนิยายของปราณธรอยู่ค่ะ ตามอ่านมาหลายเรื่อง...เรื่องนี้ทำเอาเราอ่านแล้วน้ำตาตกใน...เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ...ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การขีดเส้นแบ่งสิทธิต่างๆ ทำให้มองเห็นได้ว่าตัวละครรู้สึกอัดอั้น ทุกข์ ท้อเพียงใด การถูกกีดกัน การดูถูกเหยียดหยาม ไม่มีปากมีเสียง เพียงเพราะว่าไม่ได้ถือสัญชาติไทย...คือสมัยนั้น คนจีนโพ้นทะเลที่หอบเสื่อผืนหมอนใบมาพึ่งพิงแผ่นดินไทย คงลำบากไม่น้อยเลยนะคะ การสื่อสารคนละภาษา ก็ทำให้มีปัญหาได้เหมือนกัน แล้วถ้ามาเจอกับคนที่จ้องจำทำร้าย ทำลายคนด้วยกันเอง เจ้าหน้าที่รัฐที่คอยแต่จะเอารัดเอาเปรียบ...อ่านแล้วความดันพาลจะขึ้นเอา Smiley
ขนลุกตอนที่ก๊กไช้จะไปเผาสำนักงานเขตเพื่อให้รายชื่อในทะเบียนคนต่างด้าวของเขาหายไป เพื่อที่จะได้ไปแจ้งว่าตัวเองเป็นคนไทย...แล้วบังเิอิญเจอกับหน่วยลาดตระเวนที่ผ่านมาพอดี
"เอาละ ผมพูดจนปากฉีกถึงรูหู พวกคุณก็คงไม่เชื่อว่าเราไม่ได้รังเกียจคุณกันทุกคน แต่มีคนไทยคนหนึ่งที่ผมแน่ใจ ว่าไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยว ที่จะคิดรังเกียจหรืออยากเอาเปรียบพวกคุณ ท่านรักพวกคุณจริงๆ เมื่อเย็น...ท่านเพิ่งจะบอกกับเราเองว่า ที่นี่ไม่มีลูกไทย ลูกแขก หรือลูกจีน มีแต่คนไทยเหมือนกันหมด และพวกเราก็เชื่อ"...จริงๆมียาวกว่านี้อีกค่ะ...แต่อ่านแค่นี้ก็ขนลุกแล้วล่ะ เหตุการณ์ที่พระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสกับอธิบดีกรมตำรวจ ตามที่คนเขียนอ้างอิงมา...

ในเรื่องยังมีเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์หลายเรื่องเลยค่ะ...ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เตียงจูต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ความรักของเฮ้งเตี๋ยงกับลี่บ๊วยสาวงามอันดับหนึ่งของโรงน้ำชาหกห้อง ตอนนี้อ่านแล้วน้ำตาซึมๆเลยค่ะ อีกตอนที่แม้จะเป็นคำพูดสั้นๆ แต่ก็กระแทกเข้ากลางใจได้เลย...ก็คือตอนที่แม่ของทิเหล็งแอบขายข้าวให้กับประชาชน โดยการขัดคำสั่งของพี่อ้ายของทรงวาดที่ต้องการให้หยุดขายข้าวแล้วกักตุนของไว้ให้ได้มากที่สุด..
"อาเถ้าแก่เสือ...อั้วรู้ว่าลื่อจะต้องโกรธ แต่ขณะที่เรามีข้าวกินเหลือเฟือ มีข้าวเหลือเป็นโกดัง คนอื่นเขาไม่มีจะกิน...ลื่อรู้ไหม ข้าวมันจะติดคอ!"

ต่อไปนี้ ทรงวาด หรือลิ้มบุ่นโฮ่ว หรือเถ้าแก่เสือก็ตาม จะกลายเป็นหนึ่งในพระเอกที่น่าจดจำค่ะ คือเมื่อเทียบกับพระเอกคนอื่นๆที่ผ่านของปราณธรแบบที่เนื้อหาหนักๆ อย่าง Zobie Prine สีหราชเป็นพระเอกที่น่าสงสารเขาเลวเพราะการเลี้ยงดู หรือคารมจากเสน่หาตราใจก็เลวแบบ...จริงๆมีทางให้เลือกนะ แต่่เขากลับเลือกทางนั้นเอง แต่สำหรับเฮียโฮ่ว...เขาไม่อยากเลว ไม่อยากมือเปื้อนเลือด แต่เหตุการณ์ที่บีบบังคับ มันเลยทำให้บางสิ่งที่เขาทำดูยิ่งใหญ่และน่าจดจำค่ะ (แม้จะนอยด์เล็กๆตอนที่เฮียโฮ่วต้องฆ่าคนก็เถอะนะ)

เตียงจู...เด็กสาวแสนฉลาด กลายเป็นสีสันที่ทำให้เรื่องนี้ลดทอนความเครียดลงไปได้บ้างค่ะ เ่อ่อ...แต่แหม...เรื่องนี้พระเอกเลี้ยงต้อยเหรอคะ เลี้ยงนางเอกมาตั้งแต่อายุ 12 แน่ะ

ตัวละครอื่นๆในเรื่องที่น่าสนใจ และอยากด้นให้เป็นพระเอกกะเค้าบ้างก็คือนายตำรวจหนุ่มรณชิต คงจะเป็นพระเอกสีเทาๆ แม้จะมีอาชีพอันทรงเกียรติ แต่การกระทำบางอย่างก็...เข้าใจค่ะว่าความจำเป็นมันบังคับ อืมมม ถ้าเขียนให้รณชิตเป็นพระเอกขึ้นมาจริงๆ คนอ่านก็ยกสองมือเขียร์ค่ะ อยากอ่านว่าจะออกมาแนวไหน
ส่วนอีกคนก็ก๊กไช้ เด็กหนุ่มในอุปการะของเฮียโฮ่ว เรื่องนี้น่าสงสารอยู่ไม่น้อย เพราะแอบหลงรักว่าที่เจ้าสาวของตั่วเฮีย เมื่อไม่มีทางสมหวัง...ก็อยากให้ก๊กไช้มีนางเอกของตัวเองสักคนค่ะ Smiley

สรุปแล้วเรื่องนี้...กลายเป็นเรื่องที่เราชอบที่สุด่ของปราณธรเลยค่ะ (นับจนถึงเรื่องนี้นะ ฮา) มีครบทุกรส ทั้งอารมณ์ความสุขที่มาเพียงแป๊บๆ ก็มีทุกข์ตามมาอีกแล้ว เป็นวัฏจักร เป็นวงเวียนชีวิตกันเลย...ให้อารมณ์หวานอมขมกลืนดีค่ะ ชอบๆๆๆ เอ่อ...คนอ่านไม่ได้ซาดิสต์อะไร แต่เห็นฝีมือเขียนที่จัดเต็มมาขนาดนี้แล้ว อดคิดไม่ได้ว่า...เรื่องต่อๆไป คงมีให้ได้ตามอ่านแน่ๆค่ะ







Create Date : 09 เมษายน 2557
Last Update : 12 เมษายน 2557 20:00:08 น.
Counter : 6792 Pageviews.

15 comments
  
อ่านรีวิวคร่าวๆ นะครับ เรื่องนี้อยู่ในคิวรออ่านพอดี
โดย: อุ้มสม วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:21:42:33 น.
  
เรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของปราณธรสำหรับเราเลยค่ะ
พล๊อต สำนวน การดำเนินเรื่อง ตัวละคร ต่างจากเรื่องก่อนๆ
และทำได้ดีเกินกว่าที่เราคาดเอาไว้มาก

ดีใจที่ได้เห็นพัฒนาการของนักเขียนที่เราติดตาม
และจากนี้ไป มาตรฐานงานของปราณธรสำหรับเราจะเปลี่ยนไปจากเดิม
ไม่ใช่แค่นักเขียนรุ่นใหม่อีกแล้ว
โดย: ฟ้าใส ในเงาจันทร์ วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:22:16:33 น.
  
ไม่กล้าอ่านรีวิวเยอะ คิดว่าต้องชอบเหมือนกันแน่ๆค่ะ ดีใจที่คุณปราณธรย้ายบ้าน คิดเหมือนกันว่านักเขียนคนนี้มีดีจริงๆค่ะ คนอ่านก็ได้เสพงานเลิศๆนะคะ
โดย: Sab Zab' วันที่: 9 เมษายน 2557 เวลา:23:50:38 น.
  
อ่านรีวิวแล้วพาลให้นึกถึงลอดลายมังกรค่ะ งานของปราณธรยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ อ่านรีวิวบวกกับคอมเม้นท์ด้านบนแล้ว...เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องแรก
โดย: ชบาหลอด วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:0:13:53 น.
  
เห็นรีวิวหลายบ้านก็ชักอยากอ่านขึ้นมาทันทีเลยค่ะ
โดย: polyj วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:7:28:07 น.
  
เล่มนี้ตอนแรกๆ สองจิตสองใจ

แต่พอรู้ว่า พระเอกเลี้ยงต้อยด้วย

มันใช่เลยค่ะ 555

แต่ต้องมาสอยนอกงาน ทรัพย์จางซะก่อน
โดย: คอเล่า วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:7:43:41 น.
  
เห็นปกแล้วสะดุดตาก่อนเพื่อนเลยครับ
ยิ่งได้อ่านรีวิวแล้ว น่าอ่านมากเลยครับ
โดย: สามปอยหลวง วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:8:24:30 น.
  
อยากอ่านมากมาย แต่... ช่วงนี้หวานเย็นบริหารเวลาไม่ค่อยลงตัวอะค่ะ
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:10:19:03 น.
  
อยากอ่าน ...รอลงตัวกว่านี้ก่อน
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:18:57:54 น.
  
แอบสนใจอยู่นะคะ ว่าเมื่อปราณธรย้ายค่ายแล้ว
ผลงานจะเปลี่ยนไปยังไง
โดย: Serverlus วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:20:31:12 น.
  
อ่านเรื่องนี้จบแล้วเหมือนกันค่ะ ขนลุกในฉากเดียวกันเลยแต่เราร้องไห้ด้วย ฮี่ๆ
อยากให้รณชิตกับก๊กไช้มีเรื่องเป็นของตัวเองด้วยเหมือนกันค่ะ
โดย: PoyRati วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:20:41:13 น.
  
แอบสนใจเล่มนี้อยู่ค่ะ
เนื้อเรื่องเข้มข้นสะใจ
แต่เราคงอ่านแบบ Ebook ค่ะ
รอก่อน ๆๆ อยู่ในคิวเรียบร้อยแล้ว
โดย: Pdจิงกุเบล วันที่: 11 เมษายน 2557 เวลา:9:40:54 น.
  
คุณอุ้มสม...อ่านเร็วๆนะคะ รอรีวิวค่ะ

คุณฟ้าใสฯ...จขบ.อ่านแล้วทึ่งค่ะ เป็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดเลยค่ะ อาจจะเพราะชื่อสำนักพิมพ์ทำให้กล้าเล่นอะไรได้มากขึ้นด้วยมั้งคะ

คุณSab Zab'...คิดเหมือนกันค่ะ

คุณชบาหลอด...คุณpolyj...เชียร์ให้อ่านค่ะ

คุณคอเล่า...

คุณสามปอยหลวง...เชียร์ให้หาอ่านค่ะ

คุณหวานเย็นฯ...คุณพุดน้ำบุศย์...รีบเคลียร์คิวอ่านไวๆนะคะ

คุณServerlus...ส่วนตัวแล้วได้เห็นการโตขึ้นค่ะ กล้าเล่นและมีอะไรที่แปลกใหม่ไปจากค่ายเดิม...

คุณPoyRati...ต้องรีบเชียร์ให้คนเขียนปั้นสองคนนี้ดูค่ะ

คุณPdจิงกุเบล...
โดย: Aneem วันที่: 12 เมษายน 2557 เวลา:10:28:30 น.
  
โหยยน่าสนใจมั๊กกก
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 21 เมษายน 2557 เวลา:22:58:02 น.
  
อ่านของคุณปราณธรมาหลายเรื่องเหมือนกันค่ะ
เพิ่งอ่านเรื่องนี้จบเลย เห็นด้วยกับคุณ Aneemหลายประการ ต้องบอกว่าเรื่องนี้มีแง่มุมที่น่าสนใจและลึกซึ้งหลายเรื่อง ชอบเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่น ตัวละครเป็นที่น่าจดจำ คงน่าเสียดายถ้าไม่มีภาคต่อค่ะ
โดย: jochawandit IP: 157.7.52.183 วันที่: 6 กรกฎาคม 2558 เวลา:9:38:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aneem
Location :
สระบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



ปีนี้+++ตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามซื้อหนังสือให้น้อยลง...แต่จะอ่านของเก่าที่ดองอยู่ให้มากขึ้น...จำทำได้มั้ยนะ!!!